PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : อานิสงของศิล



*8q*
11-24-2008, 04:04 PM
http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/151/151/images/sunny/IMG_3670.jpg

มาชวน รักษาอุโบสถศีล กันเถอะค่ะ"
ลูกไม้




ชาวพุทธทั้งหลาย คงรู้จัก คำว่า "ศีล5" กันดีแล้ว
วันนี้ เรามา รู้จัก "ศีล8" กันเถอะค่ะ

มีคนมากมาย ตั้งใจรักษาศีล 5
ซึ่ง ผลกุศล ในการ ตั้งใจรักษาศีล 5 นั้น
มีมากมายเป็นอเนกอนันต์แก่ตนค่ะ




การรักษาศีล ทำให้เกิดการ สำรวม กาย วาจา ใจ คิดดี ทำดี พูดดี
ไปที่ไหน ก็จะเป็นที่รัก นับถือ ทั้งในหมู่ สัตว์ คน และเทพเทวดาค่ะ




ศีล 5 มี
1. เว้นจากการฆ่าสัตว์
2. เว้นจากการลักทรัพย์ คือไม่ถือเอาสิ่งของที่เขาไม่ได้ให้
3. ไม่ประพฤติผิดกาม
4. เว้นจากการพูดปด
5. เว้นจากการดื่มสุราเมรัยและของมึนเมาเสียสติ



ศีล 8 เพิ่มมาอีก 3 ข้อค่ะ

6. เว้นจากการดื่มกินอาหารในเวลาหลังเที่ยงไปแล้วจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น

7. เว้นจากการดูละครฟ้อนรำขับร้องประโคมดนตรี
ลูบไล้ของหอม เครื่องย้อมเครื่องทา เครื่องประดับตกแต่งต่างๆ

8. เว้นจากการนั่ง-นอนเครื่องปูลาด อันสูงใหญ่





อุโบสถศีล คืออะไร



อุโบสถศีล คือการรักษา ศีล8
เป็นเวลา ตั้งแต่ เช้าวันพระ ไปจนสิ้นเวลา ของเช้าวันถัดมาค่ะ




วิธีการรักษาอุโบสถศีล
เมื่อวันพระเวียนมาถึง ให้ทำความตั้งใจว่า
วันนี้เราจะรักษาอุโบสถศีล เป็นเวลาสิ้นวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง
คือตั้งแต่เช้าวันพระจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น

เจตนาละเว้นจากความชั่วทางกายวาจานั้นแลคือตัวศีล




รักษา อุโบสถศีล แล้วได้อะไร




พระพุทธองค์ตรัสว่า
"ดูกร ภิกษุทั้งหลาย
อุโบสถศีลประกอบด้วยองค์แปด
ที่บุคคลสมาทานรักษาแล้วย่อมมีผลยิ่งใหญ่
มีอานิสงส์มหาศาล มีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งนัก
มีผลอานิสงส์แผ่ไพศาลมาก"




มีศาสนาพุทธนี่ละค่ะ ที่ สอนอยู่เสมอว่า
ให้เราละชั่ว มาทำความดี เพื่อรักษาตนเอง





อุโบสถศีลเริ่มยังไง



เจตนาวิรัติ คือ

เพียงแต่มีเจตนา เว้นจากข้อห้ามที่ใจเท่านั้น
ก็เป็นศีลแล้ว ไม่ต้องใช้เสียงก็ได้

คือแค่ คิดตั้งใจก็พอแล้ว หรืออยากให้เป็นทางการหน่อย ก็นั่งสวด ในห้องพระ
ต่อหน้าพระพุทธรูปก็ได้ค่ะ สวดก่อนนอน ก็ยังได้ค่ะ




สมาทานวิรัติ ดังนี้

เจตนาหัง ภิกขะเว สีลังวันทามิ
สาธุ สาธุ สาธุ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระอริยสงฆ์
ตั้งแต่เวลานี้ไป ข้าฯ จะตั้งใจรักษาอุโบสถศีล
อันประกอบไปด้วยองค์แปดประการ คือ



1. ปานาติปาตา เวรมณี
ข้าฯ จะเว้นจากการฆ่าสัตว์ คือไมทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป
เป็นการลดการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน



2. อทินนาทานา เวรมณี
ข้าฯ จะเว้นจากการลักทรัพย์
คือไม่ถือเอาสิ่งของที่เขาไม่ได้ให้
เป็นการลดการเบียดเบียน ทรัพย์สินของผู้อื่น



3. อพรหมจริยา เวรมณี
ข้าฯ จะเว้นจากการประพฤติอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์
คือ ไม่เสพเมถุนล่วงมรรคใดมรรคหนึ่ง
(ถ้าไม่แตะต้องกายเพศตรงข้าม
และไม่จับของต่อมือกันจะช่วยให้การฝึกสติสัมปชัญญะดียิ่งขึ้น)



4. มุสาวาทา เวรมณี
ข้าฯ จะเว้นจากการพูดปด คือ พูดไม่ตรงกับความจริง



5. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวรมณี
ข้าฯ จะเว้นจากการดื่มสุราเมรัยของมึนเมาเสียสติ
อันเป็นเหตุของความประมาทมัวเมา



6. วิกาลโภชนา เวรมณี
ข้าฯ จะเว้นจากการดื่มกินอาหารในเวลาหลังเที่ยงไปแล้ว
จนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น
เป็นการลดราคะกำหนัด และลดความง่วงเหงาหาวนอน



7. นัจจคีตวา ทิตตะวิสูกะทัสสะนะ มาลาคันธวิเลปานะ
ธารณะ มัณฑะนะ วิภูสะนัฏฐานา เวรมณี
ข้าฯ จะเว้นจากการดูละครฟ้อนรำขับร้องประโคมดนตรี
ทัดทรงดอกไม้ลูบไล้ของหอม เครื่องย้อมเครื่องทา
เครื่องประดับตกแต่งต่างๆ อันปลุกเร้าราคะ กำหนัดให้กำเริบ




8. อุจจา สะยะนะ มะหาสะยะนา เวรมณี
ข้าฯ จะเว้นจากการนั่งนอนเครื่องปูลาด อันสูงใหญ่
ภายในยัดด้วยนุ่นหรือสำลี และวิจิตรงดงามต่างๆ
เป็นการลดการสัมผัสอันอ่อนนุ่มน่าหลงไหล
อดความติดอกติดใจสิ่งสวยงาม มีกิริยาอันสำรวมระวังอยู่เสมอ



ข้าฯ สมาทานวิรัติ ซึ่งอุโบสถศีล
อันประกอบด้วยองค์แปดประการนี้
เพื่อจะรักษาไว้ให้ดีมิให้ขาด มิให้ทำลาย
สิ้นวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ณ เพลาวันนี้ ขอกุศลส่วนนี้
จงเป็นอุปนิสัยเป็นปัจจัยแก่พระนิพพาน
ในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเทอญ สาธุ




เมื่อวิรัติศีลแล้ว พึงรักษา กาย วาจา เว้นการกระทำ
ตามที่ได้ตั้งสัตย์ปฏิญาณไว้จนสิ้น กำหนดเวลา

พยายามรักษากาย วาจา มั่นอยู่ในศีล
อย่าให้ศีลข้อใดข้อหนึ่งขาด หรือทะลุด่างพร้อยมัวหมอง

ถ้ากระทำบ่อยๆ และต่อเนื่องยาวนาน
ศีลจะอบรมจิตใจให้ตั้งมั่นเป็นสมาธิ

สมาธิจะอบรมปัญญาให้แก่กล้า
สามารถรู้ธรรมเห็นธรรม
บรรลุมรรคผลนิพพานได้..



............................



อานิสงค์ของการรักษาอุโบสถศีล (จากพระไตรปิฎก)



พระเอกุโปสถิกาภิกษุณี พระอรหันต์เจ้า

ได้กล่าวคาถาเหล่านี้
ด้วยประการฉะนี้

(ถ้าเห็นว่ายาว อ่านแค่ตัวมีเส้นใต้ เป็นเรื่องย่อค่ะ)


ว่าด้วยผลแห่งการ ตั้งใจ รักษาอุโบสถศีลใน 1 ชาตินั้น


ในพระนครพันธุมดี มีพระบรมกษัตริย์ทรงพระนามว่าพันธุมา
ในวันเพ็ญ ท้าวเธอทรงรักษาอุโบสถศีล

สมัยนั้น ดิฉันเป็นนางกุมภทาสีในพระนครพันธุมดีนั้น
เห็นเสนาพร้อมด้วยพระมหากษัตริย์จึงคิดอย่างนี้ในครั้งนั้นว่า
แม้พระมหากษัตริย์ก็ยังทรงละราชกิจมารักษาอุโบสถศีล
กรรมนั้นต้องมีผลแน่นอน หมู่มหาชนจึงพากันเบิกบานใจ

(สมัยนั้น ท่านเป็นคนรับใช้ค่ะ
เมื่อเห็นเจ้านาย พากัน รักษา อุโบสถศีล
จึงคิดว่าเป็นของดี ด้วยศรัทธา จึงทำตาม)


ดิฉันพิจารณาเห็นทุคติและความเป็นคนยากไร้โดยแยบคาย
ทำให้จิตใจร่าเริงแล้ว รักษาอุโบสถศีล
ดิฉันรักษาอุโบสถศีลในพระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เพราะกรรมที่ทำไว้ดีแล้วนั้น ดิฉันได้ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
วิมานที่บุญกรรมสร้างให้ดิฉันอย่างสวยงามในดาวดึงส์นั้น
สูงโยชน์หนึ่ง ประกอบด้วยเรือนยอดมีที่นั่งใหญ่โต ประดับแล้วอย่างดี
นางอัปสรแสนนางต่างบำรุงบำเรอดิฉันอยู่ทุกเมื่อ

(ด้วยผลที่ท่าน เห็นความดีในการรักษา อุโบสถศีล อย่างดีงาม
ส่งให้ท่านได้ไปเกิดใน สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
มีวิมานใหญ่โต และ นางฟ้ามาคอยรับใช้มากมาย)


ดิฉันงามเกินนางเทพอัปสรอื่นๆ ในกาลทั้งปวง
ดิฉันได้เป็นพระอัครมเหสีของท้าวสักรินทเทวราช ๖๔ พระองค์
ได้เป็นพระอัครมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิ ๖๓ พระองค์
ดิฉันเป็นผู้มีผิวพรรณปานดังทองคำ ท่องเที่ยวอยู่ในภพทั้งหลาย
ดิฉันเป็นผู้ประเสริฐในที่ทุกสถาน นี้เป็นผลแห่งอุโบสถศีล


(เมื่อไปเกิดที่ใด
ท่านก็จะเป็นผู้ประเสริฐในที่ทุกสถานทุกภพทุกชาติ
คือ ไปเกิดบนสวรรค์ ก็งามที่สุด
มาเกิดในโลกมนุษย์ก็เป็นพระอัครมเหสี)

ดิฉันย่อมได้ยานช้าง ยานม้า และยานรถ
แม้ทุกอย่าง มากมาย
นี้เป็นผลแห่งอุโบสถศีล
ภาชนะสำเร็จด้วยทองเงินแก้วผลึกและแก้วปทุมราช

ดิฉันได้ทุกอย่าง ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์
ผ้าเปลือกไม้ ผ้าฝ้ายและผ้าที่มี ราคาสูงๆ

ดิฉันก็ได้ทุกสิ่ง ข้าว น้ำ ของเคี้ยว ผ้า เสนาสนะ
ดิฉันได้ทุกอย่าง นี้เป็นผลแห่งอุโบสถศีล
เครื่องหอมชนิดดี ดอกไม้ จุรณ์สำหรับลูบไล้

ดิฉันก็ได้ทุกประการ นี้เป็นผลแห่งอุโบสถศีล
เรือนยอด ปราสาท มณฑป เรือนโล้นและถ้ำ
ดิฉันก็ได้ถ้วนทุกสิ่ง นี้เป็นผลแห่งอุโบสถศีล

(ของกิน ของใช้ ปัจจัย4 (สมัยนี้ มี 5-6 รถ + มือถือ)
ไม่เคยขาดแคลน ซ้ำยังมีมากมายและเป็นของปราณีต)


พอดิฉันอายุได้ ๗ ขวบก็ได้ออกบวชเป็นบรรพชิต
ได้บรรลุอรหัตเมื่อยังไม่ทันจะถึงครึ่งเดือน
ดิฉันมีอาสวะสิ้นไปหมดแล้ว

บัดนี้ภพใหม่ไม่มีอีก ในกัปที่ ๙๑ แต่กัปนี้
ดิฉันได้ทำกรรมใดในกาลนั้น ด้วยกรรมนั้น
ดิฉันไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งอุโบสถศีล


ทุกอย่างเป็นผลบุญ
ที่เกิดขึ้นจากการรักษาอุโบสถศีลในวันพระของท่าน

ตลอดเวลา 91กัปป์ นางมิได้ไปเกิดในทุคติภูมิเลย
( 1 กัป มี นับเป็น ล้าน คูณด้วยล้านชาติ)

คือเกิดใน โลก มนุษย์ และ ชั้นฟ้าเท่านั้น
ไม่เคย ต้อง ตกนรก หรือเกิดเป็นผี หรือ สัตว์เลย
..............................

http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=24807