PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : พุทธภาษิตเกี่ยวกับความโกรธ



*8q*
12-03-2008, 03:47 PM
ฆ่าความโกรธได้ นอนเป็นสุข
ฆ่าความโกรธได้ ไม่เศร้าโศก
คนมักโกรธ ย่อมมีผิวพรรณเศร้าหมอง
คนมักโกรธฉวยประโยชน์ได้แล้ว กลับไพล่ทำในทางที่จะเสียประโยชน์
ผู้ถูกความโกรธครอบงำ ย่อมเดินเข้าหาความเสื่อมทรัพย์
ญาติมิตรและสหาย ย่อมหนีไกลคนมักโกรธ
โกรธเข้าแล้ว ไม่รู้อรรถ
โกรธเข้าแล้ว ไม่เห็นธรรม
คนโกรธจะผลาญสิ่งใด สิ่งนั้นทำยากเหมือนทำง่าย
ภายหลัง พอหายโกรธแล้ว ต้องเดือดร้อนใจเหมือนถูกไฟเผา
ถูกความโกรธครอบงำแล้ว ไม่เหลืออะไรให้เป็นที่พึ่งได้เลย
คนโกรธฆ่าได้แม้แต่มารดาตน
เกิดความโกรธแล้ว ก็กลายเป็นผู้เสื่อม
อย่าลุอำนาจความโกรธ
คนโกรธแล้วย่อมพูดมาก
เกิดโทสะแล้ว ถ้อยคำก็หยาบคาย
พึงชนะคนโกรธด้วยความไม่โกรธ
ชนะตนนั่นแหละ ดีกว่า
คฤหัสถ์ชาวบ้านเกียจคร้าน...ไม่ดี บรรพชิตไม่สำรวม....ไม่ดี ผู้ครองแผ่นดินไม่ใคร่ครวญก่อนทำ....ไม่ดี บัณฑิตมักโกรธ.....ไม่ดี
คนใดชอบนอน ชอบมั่วสุม ไม่เอางาน เกียจคร้าน เอาแต่โกรธ งุ่นง่าน นั่นคือปากทางของความเสื่อม
คนที่ไม่รู้จักประโยชน์ตนว่า อะไรควรทำวันนี้ อะไรควรทำพรุ่งนี้ ใครตักเตือนก็โกรธ เย่อหยิ่งถือดีว่าฉันเก่ง ฉันดี คนอย่างนี้ เป็นที่ชอบใจของกาฬกิณี
ความโกรธไม่ดีเลย
ความโกรธเป็นดังสนิมศัสตราในโลก
ความโกรธก่อความพินาศ
ความโกรธทำให้ใจพลุ่งพล่าน
คนโกรธไม่รู้ทันว่า ความโกรธนั้นเป็นภัยที่เกิดขึ้นในตัวเอง
เมื่อใดความโกรธครอบงำคน เมื่อนั้นมีแต่ความมือมน
จากน้อยกลายเป็นมาก ความโกรธเพิ่มทวี ก็เนื่องจากความไม่อดทน
ความโกรธเป็นอารมณ์ของคนด้อยปัญญา
โทสะมีความโกรธเป็นสมุฎฐาน
เคราะห์ใดไม่มีเท่าโทสะ
กาลีใดไม่มีเท่าโทสะ
ปราชญ์ย่อมแนะนำสิ่งที่ควรแนะนำ ไม่ควรทำสิ่งที่ไม่ใช่ธุระ การแนะนำดีเป็นความดีของปราชญ์ ปราชญ์ถูกว่ากล่าวโดยชอบก็ไม่โกรธ ปราชญ์ย่อมรู้วินัย การสมาคมกับปราชญ์จึงเป็นการดี
ผู้ใดรู้ว่าคนอื่นโกรธแล้ว มีสติ ระงับได้ ผู้นั้นชื่อว่าบำเพ็ญประโยชน์แก่คนถึง ๒ คน คือ แก่ตนเอง และแก่คนอื่นนั้น
http://www.wichai.net/dhamma/main.htm