การปิดวาจา [แบบเอกสาร] - วัดเกาะวาลุการาม จ.ลำปาง

แสดงเวอร์ชันเต็ม : การปิดวาจา

Butsaya

01-29-2009, 11:21 PM

http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/42.gif
อยากทราบว่า การที่เราปฏิบัติโดยการปิดวาจาทำเพื่อให้ได้อะไรอะค่ะ
และทำเพื่ออะไร เพราะเคยได้ยินคนที่ปฏิบัติธรรมเคยมีคนฝึกแบบนี้ด้วยอะค่ะ

http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Happy/23.gif

D E V

01-30-2009, 09:46 AM

เวลาที่ไปสำนักปฏิบัติธรรมซึ่งอยู่รวมกันเป็นหมู่คณะ
ก็มักจะมีระเบียบข้อนึงคือ งดเว้นการพูด (โดยไม่จำเป็น)
ก็เพื่อให้ผู้ที่ฝึกฝนอบรม รู้จักสำรวมวาจา
ไม่ซัดส่ายไปกับการพูดฟุ้งเฟ้อเพ้อเจ้อ
จะได้มีจิตใจจอจ่ออยู่กับการปฏิบัติอย่างเต็มที่
ได้เห็นสภาพกาย-ใจของตนเองชัดเจนยิ่งขึ้น
เพราะถ้ามัวแต่พูดคุยกัน ก็จะแล่นไหลไปตามความคิด คำพูด
จิตใจไม่สงบระงับ และอาจเป็นการทำลายสมาธิของผู้อื่นได้

ที่สำคัญคือ ไม่ใช่ว่าไม่พูดก็จริง
แต่ว่าคิดฟุ้งซ่านระเบิดเถิดเทิงอยู่ในใจอ่ะนะคับ
เพราะคำพูดก็มาจากความคิด
ความคิดที่สำรวมระวัง ก็ช่วยระงับวาจาให้สงบ

http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

D E V

01-30-2009, 09:48 AM

สำหรับการปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวันตามปรกติ
ซึ่งต้องปฏิบัติภารกิจต่างๆ มีการพบปะติดต่อผู้คนมากมาย
การสำรวมระวังในคำพูด ก็คือ ไม่พูดคำเท็จ ไม่พูดคำด่าทอหยาบคาย
ไม่พูดคำส่อเสียดให้แตกแยก ไม่พูดคำเพ้อเจ้ออันหาสาระมิได้
ซึ่งก็คือการไม่กระทำวจีทุจริตกรรมในอกุศลกรรมบถนั่นเองคับ

ส่วนคำใดที่เป็นคำจริง เป็นประโยชน์ เป็นคำสุภาพน่าฟัง เหมาะกับกาลเทศะ
ก็เป็นคำที่พึงกล่าวเมื่อควรกล่าว...อันเป็นปิยวาจา
รู้ว่าพูดในสิ่งที่ควรพูด และไม่พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด

http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

D E V

01-30-2009, 09:54 AM

ดูกรราชกุมาร
ตถาคตก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ย่อมรู้วาจาที่ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
และวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น
ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น

อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
และวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น
ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น

อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง วาจาที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น
ในข้อนั้น ตถาคตย่อมรู้กาลที่จะพยากรณ์วาจานั้น

ตถาคตย่อมรู้วาจาที่ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น
ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น

ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น
ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น

อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์
และวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น
ในข้อนั้น ตถาคตย่อมรู้กาลที่จะพยากรณ์วาจานั้น

คัดความมาบางส่วนจาก
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๓
พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๕
มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
อภัยราชกุมารสูตร

http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

iamwis

01-30-2009, 11:04 AM

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

Butsaya

01-30-2009, 01:06 PM

http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Angry/4.gif
อืมมมมม!!!!
แล้วอย่างถ้าเราเกิดพูดตลกขบขัน แต่คนฟังชอบใจประโยชน์ก็คือสนุกสนานไม่เครียดแบบนี้อะค่ะ ก็ถือว่าคำพูดเราเป็นประโยชน์ม่ะค่ะ หรือว่าตรงนี้ทางธรรมคิดอีกแนวหนึ่งว่าเป็น เพ้อเจ้อ อะค่ะ กับ การพูดปลอบใจคนที่ทุก แต่เป็นเรื่องจิง แต่คนที่กะลังทุกข์ไม่รับความจิง ก็ฟังม่ะได้อีก แบบนี้จัดเป็นแนวไหนอะค่ะ

http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Happy/7.gif

D E V

01-30-2009, 02:40 PM

ขณะที่เครียดก็เป็นอกุศลจิต (โทสมูลจิต)
ขณะที่หลงใหลเพลิดเพลินก็เป็นอกุศลจิต (โลภมูลจิต)

ดังนั้น ประโยชน์แบบทางโลก
อาจจะหมายถึง สนุกสาน เพลิดเพลิน บันเทิงเริงใจ
ช่วยให้ลืมเรื่องเคร่งเครียดกังวลได้ชั่วขณะ

หากแต่ประโยชน์ในความหมายทางธรรม
หมายถึงละคลายวางอกุศลจิตทั้งหลาย
เกิดกุศลจิตที่ผ่องใส...สงบจากอกุศล
ไม่ใช่แค่เพียงละจากอกุศลจิตอย่างนึง
แล้วก็เกิดอกุศลจิตอีกอย่างนึงขึ้นมาแทนน่ะคับ

แต่...ทั้งนี้ทั้งนั้น
เราทุกคนที่ยังมีกิเลส
ก็ย่อมเป็นธรรมดาที่ยังมีความยินดีพอใจ
ในความสนุกสนานบันเทิง เพลิดเพลิน รื่นเริงใจ
คือรังเกียจ ไม่อยากได้อกุศลอย่างนึงคือ โทสะ
เพราะโทสะมีลักษณะขุ่นข้องเคืองใจ
แต่ชื่นชอบและไขว่คว้าอกุศลอีกอย่างนึงคือ โลภะ
เพราะโลภะมีลักษณะติดข้องพอใจ

ดังนี้แล้ว
จึงเป็นไปตามธรรมดาของสัตว์โลก
ทั้งเราและเค้า และทุกๆ คน ที่ยังเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ
ก็ยังมีการพูดจาสรวลเสเฮฮา แซวเล่น หยอกล้อ
สร้างความบันเทิงเริงรมย์ให้แก่กันและกัน
หรือยามมีเรื่องทุกข์ร้อน เคร่งเครียด
ก็ช่วยกันปลอบประโลมให้ผ่อนคลายสบายใจ

กระนั้นก็ตาม
ก็ควรที่จะได้ทราบตามความเป็นจริง
ว่าคำพูดที่เรากล่าวออกไปนั้น
เกื้อกูลแก่ประโยชน์แบบทางโลก
เพียงเพื่อผ่อนคลายจากโทสะ
แล้วไปติดในความสบายใจด้วยโลภะ
หรือเกื้อกูลแก่การละวางคลายในอกุศลจิตทั้งหลาย
ไม่ว่าจะโทสมูลจิต โลภมูลจิต โมหมูลจิต
อุปถัมภ์ให้เกิดกุศลจิตอันเป็นไปเพื่อความเจริญในธรรมอย่างแท้จริงหรือไม่อ่ะคับ

http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

D E V

01-30-2009, 02:42 PM

ส่วนการพูดคำจริงแล้วคนฟังรับไม่ได้
ก็ขึ้นอยู่กับว่า....

ผู้พูด...พูดอย่างไร
จริง ตรง โผงผาง เป็นขวานผ่าซาก
ก็อาจทำให้ผู้ฟังรู้สึก ก้าวร้าว หยาบกระด้าง (ซึ่งเราๆ ก็อาจจะมีเผลอไผลพูดแบบนั้นไปบ้าง)
หากแต่ ปิยวาจา คือกล่าวคำจริงด้วยวาจาไพเราะ
หมายถึงสุภาพอ่อนโยน ให้เกียรติผู้ฟัง
คำใดพูดแล้วเป็นผลเสียก็ไม่จำเป็นต้องพูด
ปิดวาจาไว้ก็ได้ใช่มั้ยคับ (ซึ่งเราๆ ก็อาจเผลอไผลลืมปิดกันอยู่บ่อยๆ อิอิ)

ผู้ฟัง...ฟังอย่างไร
ฟัง พิจารณา ไตร่ตรอง ตามเหตุตามผลอันควร
หรือตามเหตุตามผลของฉัน
คำจริงบางคำ...อาจจะถูกต้อง แต่ไม่ถูกใจ
คำลวงบางคำ...อาจจะถูกใจ แต่ไม่ถูกต้อง
แล้วผู้ฟัง...ต้องการฟังแบบไหน?
เราเลือกที่จะได้ยินแต่คำจริง
ที่ถูกต้องด้วย...ถูกใจฉันด้วย
ตลอดเวลาก็คงไม่ได้...ใช่มั้ยคับ

http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

Butsaya

01-30-2009, 05:25 PM

http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Other/3.gif
การฝึกปฏิบัติการปิดวาจา มีข้อควรทำได้อย่างไรอะค่ะ เพราะเราอยู่ทางโลก
หรือคงจะทำไม่ได้แน่ ๆ เลย ต้องไปหาสถานที่ในการฝึกปฏิบัติด้านนี้
จะดีกว่าหรือเปล่าอะค่ะ เอ.... แล้วเวลาเราอยู่ทางโลกเราควรจะทำได้
ในบางเวลา เป็นเวลา ๆ ไปอะค่ะ เช่นเวลาเราอยู่คนเดียวอย่างงี้จะเรียกว่า
ฝึกปฏิบัติได้เปล่าค่ะ หรือว่าบุษเข้าใจผิดอะค่ะ

http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Other/1.gif

D E V

01-30-2009, 06:46 PM

ลองอ่านที่ตอบไปข้างต้นอีกรอบจิคับ

คือไม่ใช่ไม่ให้พูดอะไรเลย
แต่ให้พิจารณาไตร่ตรองก่อนที่จะพูดอ่ะคับ
ว่าสิ่งใดควรพูด สิ่งใดไม่ควรพูด
พูดแล้วเป็นประโยชน์เกื้อกูล
หรือพูดแล้วเกิดผลเสียหายตามมาน่ะคับ

วิธีฝึก...ฝึกอย่างไร?
ฝึกที่ใจ ให้ไตร่ตรองถี่ถ้วนก่อนพูด...มีสติระลึกได้บ่อยๆ เนืองๆ
ฝึกที่ปาก ให้ลดความไวลงหน่อย
ระมัดระวังไม่ให้ปากล้ำหน้า...ไปเกินความคิดที่ไตร่ตรองดีแล้วน่ะคับ

หมั่นฝึกฝนไปเช่นนี้เรื่อยๆ จนคุ้นชิน
กับการคิดไตร่ตรองก่อนพูด
ก็จะค่อยๆ ลดอาการพูดก่อนคิดไตร่ตรองลงทีละน้อยๆ...ตามกำลังของแต่ละบุคคลอ่ะคับ

ลองอ่านกระทู้ตามลิงค์ที่ให้ประกอบกันนะคับ
http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=3999&KW=%BB%D2%A1

http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

Butsaya

01-30-2009, 07:40 PM

http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Sad/1.gif อืมม... ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่เดฟ แจ่ม กระจ่างค่ะ
มัยพี่ตอบได้ทุกอย่างเลยอะค่ะ
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Teasing/16.gif