PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : ธรรมะคือการทำหน้าที่



kate
02-04-2009, 03:34 PM
อยากทราบความหมายของ "ธรรมะคือการทำหน้าที่" ว่าคิดอย่างไรกับประโยคนี้

DAO
02-04-2009, 04:40 PM
ธรรมะคือหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติ อาจจะยังมีความสงสัยอยู่ว่าหน้าที่ตามกฎธรรมชาติเป็นอย่างไร หน้าที่คือการกระทำที่ถูกต้อง อาจจะยังสงสัยต่ออีกว่าถูกต้องอย่างไร ก็ถูกต้องแก่ความเป็นมนุษย์ แล้วแก่ความเป็นมนุษย์อย่างไร ก็แก่ความเป็นมนุษย์ทุกขั้นทุกตอน แล้วมันทุกขั้นทุกตอนอย่างไรล่ะ ก็ทุกขั้นทุกตอนแห่งวิวัฒนาการของตนๆนั่นอย่างไรล่ะ ถ้าเราเข้าใจธรรมะได้อย่างนี้ จะสำเร็จประโยชน์มากกว่าที่ว่าธรรมะคือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ขอให้ช่วยจำกันเอาไว้ว่า ธรรมะคือหน้าที่ หน้าที่คือการกระทำที่ถูกต้องแก่ความเป็นมนุษย์ทุกขั้นทุกตอนแห่งวิวัฒนาการของตนๆ
ธรรมะคือผลของหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติ ก็เป็นผลที่ได้รับจากการทำหน้าที่ เป็นครูเป็นอาจารย์ ก็ทำหน้าที่ของครูของอาจารย์ให้ถูกต้อง ก็จะได้ผลออกมาดีถูกต้องคือได้ลูกศิษย์ที่ดีมีคุณธรรม มีคุณภาพ เป็นเจ้าหน้าที่การเงินก็ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง เป็นชาวนาชาวสวนก็ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง เป็นหมอแพทย์ และอื่นๆ ก็ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง เมื่อทำหน้าที่อย่างถูกต้องแล้ว ก็จะไม่มีการคดโกงเลย เพราะว่ามันไม่ได้มีหน้าที่คดโกง มีหน้าที่ในการทำผลงานออกมาให้ดีให้ถูกต้องที่สุด นี่แหละผลของการทำหน้าที่ให้ถูกต้อง ก็จะได้ผลที่ถูกต้องเป็นที่หน้าพอใจอย่างที่สุด


ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.geocities.com/wisuttipom/article/article2.html

kate
02-06-2009, 12:56 PM
ไอ้การงานมันจะเป็นเหมือนการฝีมือไปเป็นศิลปะวัตถุเป็นงานฝีมือไปแล้วเราก็สนุกถ้าการงานเป็นของหนักต้องทนทำเพราะความจำเป็นแล้วก็ต้องเป็นทุกข์เปลี่ยนให้มันเป็นงานฝีมือซะทำด้วยจิตใจที่ปราณีตด้วยร่างกายที่เหมาะสมมันก็ทำได้อย่างน่าดูรู้สึกเป็นสุขแล้วชีวิตนี้มันก็เป็นสุขได้ในตัวการงานนั่นเองบางคนเขาไม่ยอมเชื่อแล้วก็ไม่ยอมทดลองด้วยจะทำการงานให้เป็นสุขแต่เราก็ได้เห็นอยู่บ่อยๆเราเองก็เคยผ่านถ้าจิตใจของเรามันว่างจากความยึดถือเรื่องการงานมันสนุกแม้จะเหงื่อไหลใครย้อยอยู่มันก็สนุกเหมือนกับเราไปทำงานบางอย่างไปช่วยเพื่อนไปอะไรมันเกี่ยวกับเรื่องตัวเองมันก็สนุกอย่างว่าไปช่วยกันขนดินจิตใจก็ไม่ได้คิดนึกอะไรหมดนอกจากจะขนดินมันก็ขนดินสนุก


แต่ถ้าเห็นเป็นงานต่ำต้อยเป็นงานชั้นเลวไม่สมแก่เรามันก็ไม่สนุกแล้วก็เป็นทุกข์เนี่ยจะเป็นจะมีปัญหาที่ไม่มีใครพยายามลองดูจึงหาความสุขในการงานผมอยากจะพูดอย่างดูถูกดูหมิ่นไปสักอย่างหนึ่งว่าไอ้คนทั้งหลายในโลกมันกำลังทนทุกข์เพราะการงานทั้งนั้นเพราะว่ามันไม่อยากทำงานโดยเนื้อแท้มันไม่อยากจะทำงานแต่มันต้องการจะได้เงินเดือนมันก็ทนทำงานมันก็ต้องทนทำงานเพื่อจะได้เงินเดือนเมื่อเป็นอย่างนี้การงานต้องเป็นของหนักและก็ทำให้เกิดความทนทุกข์เราต้องฝืนใจทำเราอยากหยุดเราอยากจะไปเที่ยวเล่นทำไมไม่สนุกในการงานถ้าอยากจะหยุดถึงเวลาหยุดรอเงินเดือนออกแล้วก็จะไปหัวหกก้นขวิดให้เป็นสุขกันถึงที่ไปสุขกันตอนโน้นไปสุขตอนที่บ้าในอบายมุขได้เงินเดือนไปบ้าในอบายมุขก็เป็นสุขเมื่อทำงานอยู่ยังไม่ถึงเงินเดือนออกอยู่แต่ละวันๆไม่สุขไม่มีความสุขฝืนใจทำคือไม่อยากทำนั่นเอง

แต่มันต้องทำเพราะต้องการเงินเดือนมันจะเป็นอย่างนี้กันทั้งโลกเว้นแต่คนที่มีธรรมมะแล้วสนุกในการงานเขาก็มองเห็นว่าการทำงานนั่นแหละคือการปฎิบัติธรรมคือการทำหน้าที่ของมนุษย์คือการปฎิบัติธรรมถ้ามองเห็นอย่างนั้นเขาก็พอใจยินดีว่ามันเป็นการปฎิบัติธรรมและก็สนุกในการทำการงานคือการปฎิบัติธรรมเราไปคิดให้ดีมองให้เห็นว่าไอ้สิ่งที่เรียกว่าชีวิตมีชีวิตมันอยู่นิ่งไม่ได้คนก็ดีสัตว์เดรัชฉานก็ดีมันมีชีวิตมันมีกำลังมันอยู่นิ่งไม่ได้ร่างกายต้องเคลื่อนไหวจิตมันก็ต้องเคลื่อนไหวมันอยู่นิ่งไม่ได้เขาต้องใช้ความเคลื่อนไหวให้เป็นประโยชน์ทั้งทางกายและทางจิตก็ใช้ให้เป็นประโยชน์ก็คือทำหน้าที่ที่มนุษย์จะต้องทำหรือที่สิ่งมีชีวิตจะต้องทำถ้าเป็นสัตว์ก็ไม่ต้องการอะไรมากนอกจากการหากินก็ใช้การเคลื่อนไหวในการหากินหรือสืบพันธุ์ตามเรื่องตามราวของมันแต่ถ้ามนุษย์มันยังไปไกลกว่านั้นใช้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วยหรือในประโยชน์ที่มันสูงๆขึ้นไปในทางจิตใจด้วยท่านก็พยายามใช้กำลังกายกำลังจิตให้ทำหน้าที่ดีที่สุดของมนุษย์แล้วรู้สึกพอใจเป็นสุขสนุกสนานอยู่ในการกระทำเช่นนั้นนี่เรียกว่าทำงานด้วยจิตว่างหือว่าทำงานอย่างพระอริยเจ้าท่านทำไม่ได้หวังเงินเดือนไม่ได้หวังประโยชน์เป็นวัตถุตอบแทนแต่ทำไปโดยเห็นประจักษ์อยู่ว่าไอ้ชีวิตมันต้องเคลื่อนไหวตามธรรมชาติมันเป็นก็ถือโอกาสใช้มันเคลื่อนไหวนั้นให้เป็นประโยชน์นี้ประโยชน์คืออะไรประโยชน์ก็คือสิ่งที่จะทำ
จากคำสอน "ท่านพุทธทาส" ประมวลเรื่องที่เป็นประโยชน์สำหรับฆราวาส