PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : อย่างนี้ถือเป็นปัญญาหรือไม่?



iamwis
02-18-2009, 02:31 PM
1.เมื่อเราเกิดความทุกข์ เราไม่ได้แก้ไขอะไรเลย เพียงแต่ปล่อยให้เวลาเป็นตัวรักษา แล้วนานเข้าความทุกข์ก็หายไปเอง แต่กระนั้น เมื่อเกิดความทุกข์แบบเดียวกันครั้งใหม่ ก็ไม่ได้ทำอะไรเลยแบบเดิมเพียงแต่ใช้เวลาน้อยลงไปเท่านั้นเอง การที่ใช้เวลาน้อยลงกว่าครั้งที่แล้วแบบนี้ เรียกว่าเรามีปัญญาเพิ่มขึ้นหรือไม่?

2.การวางเฉยภายนอกไม่อยากรับรู้เรื่องใดๆ เพื่อให้ไม่เกิดทุกข์ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้คนอื่นทุกข์เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็น รู้สึกว่าเราเป็นคนเห็นแก่ตัว และเสียใจกับเราบ้าง การกระทำแบบนี้ถือเป็นปัญญาหรือไม่

ไม่รู้ว่าถามรู้เรื่องหรือเปล่านะครับ ก็ยังงงกับคำถามตัวเองเหมือนกัน รบกวนอาจารย์เดฟ ช่วยไขข้อข้องใจด้วย

D E V
02-18-2009, 03:43 PM
อ่ะคับ การที่เราจะรู้ได้ว่า
อย่างนี้เป็นปัญญาหรือไม่...อย่างนั้นเป็นปัญญาหรือไม่
ก็ต้องเข้าใจคำว่า ปัญญา ก่อนใช่มั้ยคับ

คำว่า ปัญญา ที่เราใช้กันทั่วๆ ไป มักจะหมายถึง...
อย่างเช่น เด็กนักเรียนเรียนเก่งสอบได้คะแนนดี เราก็บอกว่าฉลาด มีปัญญา
หรือ นักประดิษฐ์ที่คิดค้นสิ่งใหม่ๆ เพื่อตอบสนองในทางโลก เราก็บอกว่าฉลาด ไอคิวดี มีปัญญา
หรือใครที่เป็นนักคิด นักวางแผน คิดหาลู่ทางเพื่อที่จะดำเนินไปได้สำเร็จตามวัตถุประสงค์
หรือแก้ไขปัญาต่างๆ ในทางโลกได้เป็นอย่างดี เราก็เรียกว่าเป็นผู้มีปัญญา ฯลฯ เป็นต้น

หากแต่ปัญญาในทางธรรม หมายถึง ความหยั่งรู้ ความรู้ทั่ว ความประจักษ์ชัด
ความรู้แจ้งในสภาพธรรมทั้งหลายตรงตามความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้นๆ

ดังนั้น ปัญญาจะไม่เกิดกับอกุศลจิตเลย
แต่จะเกิดกับกุศลจิตเท่านั้น...และเฉพาะกุศลจิตบางประเภทด้วย
ไม่ได้เกิดกับกุศลจิตทุกประเภทน่ะคับ
(ปัญญาในที่นี้ เป็นสภาพธรรมอย่างนึงที่เกิดร่วมกับจิต ชื่อว่า ปัญญาเจตสิก)




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

D E V
02-18-2009, 03:45 PM
พอเราเข้าใจคำว่าปัญญาแล้ว (ในทางธรรม)
ทีนี้เราก็รู้ได้ล่ะว่าขณะนั้นเป็นปัญญาหรือไม่


กรณีที่ 1 ตามที่คุณ iamwis ยกตัวอย่างมา
ขณะนั้น ปัญญารู้อะไร?
เช่น รู้หรือไม่ว่าทุกข์นั้นก็เป็นเพียงสภาพที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย
และไม่มีอะไรที่ตั้งมั่นคงอยู่เที่ยง ย่อมแปรเปลี่ยนสลายไป
แม้ทุกข์นั้นเกิดขึ้น...ก็ไม่หวั่นไหว...ไม่ยึดถือเอาทุกข์นั้นไว้เป็นของตน ฯลฯ เป็นต้น
แม้ความเข้าใจถูก เห็นถูกอย่างนี้ ก็ชื่อว่าปัญญา (ในขั้นจินตามยปัญญา)
คือความเห็นถูก เข้าใจถูกในขั้นไตร่ตรองพิจารณาโดยเรื่องราว

แต่ถ้าไม่รู้สภาพความจริงอะไรเลย
เพียงแต่เวลาที่ผ่านไปเนิ่นนานนั้น
เป็นเครื่องเจือจางความทุกข์ให้จางหายด้วยความความเคยชิน
แล้วเมื่อเหตุการณ์ครั้งใหม่เกิดขึ้น...ก็ชินชา
เสมือนคนอกหักซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อกหักครั้งแรก ก็แทบจะเป็นจะตาย
พอผ่านไปซักระยะก็เริ่มทำใจได้
พอเจอคนใหม่ก็กระดี้กระด้า
พออกหักอีกก็เลยเริ่มจะงั้นๆ ละ...หักอีกเดี๋ยวก็รักอีกได้ อิอิ
ถ้าอย่างนี้ก็ไม่ใช่ปัญญา...ใช่มั้ยคับ




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

D E V
02-18-2009, 04:35 PM
กรณีที่ 2
การที่ไม่อยากรับรู้เรื่องใดๆ เพื่อไม่ให้เกิดทุกข์
กับการที่หากเลี่ยงไม่ได้...ถ้าจำเป็นต้องรู้เรื่อง
แต่ก็ไม่ทุกข์ร้อนหวั่นไหวไปกับเรื่องนั้น...วางใจเป็นกลางได้
เพราะรู้ว่าทุกข์ทั้งหลายย่อมเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่มีใครบังคับ สั่ง หรือห้ามได้
ไม่มีใครที่จะสุขอยู่ได้ตลอดไป
แม้สุขนั้นเองก็ไม่เที่ยงคงทน...ไม่มีใครที่ไม่ทุกข์

หากแต่โดยสถานการณ์
เมื่อทุกข์นั้นเกิดขึ้น...เกิดเพราะเหตุใด
หากปรับปรุงแก้ไขได้ ก็ปรับปรุงแก้ไขไปให้ดีที่สุดเท่าที่สามารถจะกระทำได้
ซึ่งเมื่อทำดีที่สุดแล้ว...ผลเป็นอย่างไร...สำเร็จหรือล้มเหลว
ก็เข้าใจและยอมรับความจริงในผลนั้นได้

การไม่อยากรับรู้อะไร
กับการที่หากจำเป็นต้องรู้
แต่ก็รู้ตามสภาพความเป็นจริงของสรรพสิ่งทั้งหลาย
อย่างไหนน่าจะเป็นปัญญาอ่ะคับ

หากมีเวลา ลองดูเพิ่มเติมนะคับ
ทุกข์ 10 ประการ (มี 3 หน้า)
http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=2226&KW=%B9%D4%BE%D1%B7%B8%B7%D8%A1%A2%EC (http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=2226&KW=%B9%D4%BE%D1%B7%B8%B7%D8%A1%A2%EC)




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

iamwis
02-19-2009, 12:05 AM
สาธุครับ อ.เดฟ
ปล.ตอนนี้ดึกแล้วเวลาน้อยเดี๋ยวกลับมาอ่านพรุ่งนี้ครับ