เข้าสู่ระบบ

แสดงเวอร์ชันเต็ม : ฬายมุฏฐิชาดกว่าด้วยโลภมาก



*8q*
02-22-2009, 11:24 AM
ว่าด้วยโลภมาก

พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหารทรงปรารภพระเจ้ากรุงโกศล ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้

ความพิสดารมีอยู่ว่า สมัยหนึ่ง ในฤดูฝนหนึ่ง ทางชายแดนของพระเจ้ากรุงโกศลเกิดกบฏ พวกนักรบที่อยู่ ณ ชายแดนนั้น ได้ทำการสู้รบถึงสองสามครั้ง ก็ไม่สามารถเอาชนะข้าศึกได้ จึงส่งข่าวทูลถวายพระราชาให้ทรงทราบ พระราชาเสด็จออกในฤดูฝนอันไม่ควรแก่เวลา จึงทรงจัดตั้งค่ายใกล้พระวิหารเชตวัน ทรงดำริว่า เราออกเดินทางในเวลาอันไม่สมควร ซอกเขาและลำธารเป็นต้น เต็มไปด้วยน้ำ ทางเดินลำบาก เราจักเข้าเฝ้าพระศาสดา พระองค์จักตรัสถามเราว่า มหาบพิตรจะเสด็จไปไหน ครั้นแล้วเราจักกราบทูลเรื่องราวให้ทรงทราบ พระศาสดาจะทรงอนุเคราะห์เรา เฉพาะประโยชน์ในภายหน้าเท่านั้นก็หามิได้ แม้ประโยชน์ในปัจจุบันก็ทรงอนุเคราะห์เหมือนกัน เพราะฉะนั้นหากเราไปจะไม่เจริญ พระองค์ก็จักตรัสเล่า มหาบพิตรยังไม่ถึงเวลาเสด็จ หากจักมีความเจริญ พระองค์ก็จักทรงนิ่ง
พระราชาจึงเสด็จเข้าพระวิหารเชตวัน แล้วถวายบังคมพระศาสดา ประทับนั่ง ณ ส่วนข้างหนึ่ง พระศาสดาตรัสปฏิสันถารว่า เชิญเถิดมหาบพิตร พระองค์เสด็จมาจากไหนแต่ยังวัน กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ หม่อมฉันจะออกไปปราบขบถชายแดน มาที่นี้ด้วยคิดว่า จักถวายบังคมพระองค์แล้วจะไป พระศาสดาตรัสว่า มหาบพิตร แม้แต่ก่อนพระราชาทั้งหลาย เมื่อจะยกทัพไปครั้นได้ฟังคำของบัณฑิตแล้ว ก็ไม่เสด็จไปสู่กองทัพในเวลาอันไม่สมควร ครั้นพระราชาทูลอาราธนาจึงทรงนำเรื่องในอดีตมาตรัสเล่า

ในอดีตกาลครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์เป็นอำมาตย์สำเร็จราชกิจทั่วไปเป็นธรรมานุสาสก (สอนธรรม) ของพระองค์ ครั้งนั้นทางชานแดนของพระองค์เกิดกบฏ ทหารที่ชายแดนส่งสาส์นให้ทรงทราบ พระราชาเสด็จออกในฤดูฝน ตั้งพักค่าย ณ พระอุทยาน พระโพธิสัตว์ได้อยู่ใกล้ที่ประทับพระราชา ขณะพวกทหารนำถั่วดำอาหารม้ามาใส่ในราง บรรดาลิงในพระราชอุทยาน มีลิงตัวหนึ่งลงจากต้นไม้ ฉวยเอาถั่วดำจากรางนั้นใส่ปากจนเต็มแล้วยังคว้าติดมือไปอีก กระโดดขึ้นไปนั่งบนต้นไม้เริ่มจะกิน เมื่อมันจะกินถั่วดำเม็ดหนึ่งหลุดจากมือตกลงไปบนดิน มันจึงทิ้งถั่วดำทั้งหมดทั้งที่อยู่ในปาก และที่มือลงจากต้นไม้มองหาถั่วดำนั้น ครั้นไม่เห็นมันจึงกลับขึ้นต้นไม้ใหม่นั่งเศร้าโศกเสียใจ หน้าซึมอยู่บนกิ่งไม้ เหมือนแพ้คดีไปสักพันคดี
พระราชาทอดพระเนตรเห็นกิริยาของลิงจึงตรัสเรียกพระโพธิสัตว์แล้วตรัสเรียกว่า ดูซิ ท่านอาจารย์ ลิงมันทำอะไรนั่น พระโพธิสัตว์กราบทูลว่า ขอเดชะข้าแต่มหาราช ผู้โง่เขลาไร้ปัญญา ไม่มองถึงของมาก มองแต่ของน้อย ย่อมกระทำเช่นนี้แหละพระพุทธเจ้าข้า
ครั้นพระโพธิสัตว์กราบทูลอย่างนี้แล้ว จึงเข้าไปยังที่นั้นกราบทูลปราศรัยกับพระราชาว่า ข้าแต่มหาราช พวกเราก็ดี ชนเหล่าอื่นทีถูกความโลภครอบงำก็ดี ทั้งหมดนั้นย่อมเสื่อมจากของมากเพราะของน้อย ด้วยว่าบัดนี้พวกเราจะเดินทางไปในฤดูฝนอันมิใช่กาลสมควร ย่อมเสื่อมจากประโยชน์มาก เพราะเหตุประโยชน์เล็กน้อย
เหมือนลิงตัวนี้แสวงหาถั่วเมล็ดเดียว เสื่อมแล้วจากถั่วเป็นอันมาก เพราะถั่วเมล็ดเดียวนั้น ฉันใด แม้พวกเราในบัดนี้ก็ฉันนั้น กำลังจะไปที่อันเต็มไปด้วยซอกเขาและลำธารเป็นต้น โดยมิใช่กาลแสวงหาประโยชน์เล็กน้อย แต่จักเสื่อมจากพาหนะช้าง พาหนะม้าเป็นต้นมากมายและหมู่นักรบ เพราะฉะนั้นไม่ควรไปในเวลาอันมิใช่กาล
พระราชาสดับถ้อยคำของพระโพธิสัตว์นั้นแล้วเสด็จกลับจากที่นั้น เข้าสู่พระนครพาราณสีทันที พวกโจรได้ข่าวว่า พระราชาเสด็จออกจากพระนคร โดยพระประสงค์จะปราบปรามพวกโจร จึงพากันออกจากชายแดน
แม้ในปัจจุบัน พวกโจรได้ยินข่าวว่า พระราชากรุงโกศลเสด็จออก จึงพากันหนีไป พระราชาสดับพระธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว เสด็จลุกจากที่ประทับถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า กระทำประทักษิณ เสด็จกลับกรุงสาวัตถี
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดง แล้วทรงประชุมชาดกว่า พระราชาในครั้งนั้นได้เป็นอานนท์ในครั้งนี้ ส่วนอำมาตย์บัณฑิต คือเราตถาคตนี้แล
จบ ฬายมุฏฐิชาดก



http://board.agalico.com/showthread.php?t=27324<!-- / message -->