DAO
02-27-2009, 02:08 PM
http://larndham.net/pictures/praajan/Cha/Cha_01.jpg
หลวงพ่อชา สุภัทโธ
วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
http://img364.imageshack.us/img364/3831/08pk8.png
อมตะธรรมเพื่อการดำเนินชีวิตที่มีความสุข สงบ และร่มเย็นค่ะ
http://img364.imageshack.us/img364/3831/08pk8.png
เรากำหนดลมหายใจเข้าออกอย่างเดียว
เราปล่อยลมให้เป็นธรรมชาติ
อย่าไปบังคับลมให้มันยาว อย่าไปบังคับลมให้มันสั้น
ปล่อยสภาพลมให้พอดี แล้วดูลมหายใจเข้าออก
เมื่อปล่อยอารมณ์ได้ เสียงอะไรก็ไม่ได้ยิน
ถ้าจิตเราวุ่นวายกับสิ่งต่างๆ ไม่ยอมรวมเข้ามา
ก็ต้องสูดลมเข้าไปให้มากที่สุด
จนกว่าจะไม่มีที่เก็บ แล้วก็ปล่อยลมออกไปให้มากที่สุด
จนกว่าลมจะหมดในท้องสัก ๓ ครั้ง
. . . ถ้าเรามีสติอย่างนี้ . . .
อย่างวันนี้ เข้าสมาธิสัก ๓๐ นาที หรือ ๑ ชั่วโมง
. . . จิตใจของเรา . . .
จะมีความเยือกเย็นไปตั้งหลายวัน แล้วจิตจะสะอาด
เห็นอะไรจะรับพิจารณาทั้งนั้น นี่เรียกว่าผลเกิดจากสมาธิ
. . . สมาธิมีหน้าที่ทำให้สงบ . . .
เมื่อจิตเราสงบแล้ว จะมีการสังวร สำรวมด้วยปัญญา
เมื่อสำรวมเข้า ละเอียดเข้า มันจะเป็นกำลังช่วยศีลให้บริสุทธิ์ขึ้นมาก
แล้วสมาธิก็จะเกิดขึ้นมาก เมื่อสมาธิเต็มที่ก็จะเกิดปัญญา
http://img364.imageshack.us/img364/3831/08pk8.png
นำมาฝากค่ะ หลวงปู่ชา ท่านกล่าวไว้ว่า
" โลกนี้มีความเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยไป จะอยู่ที่โน่นก็เปลี่ยนแปลง อยู่ที่นี่หรือที่ไหนก็เปลี่ยนแปลงเพราะพวกเราทั้งหลายอยู่ได้ด้วย การเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง เราก็อยู่ไม่ได้ หายใจ ออกมาแล้วก็เปลี่ยนเป็นหายใจเข้า แล้วก็หายใจออก ไม่เช่นนั้น ก็อยู่ไม่ได้ ออกไปหมดก็อยู่ไม่ได้ ลมเข้ามาแล้วไม่ออกก็อยู่ไม่ได้ เราทั้งหลายอยู่ในโลกนี้ก็เป็นของโลก มันเป็นของๆ โลก ไม่ควร ทำความน้อยใจ ไม่ควรทำความเสียใจใดๆ เราต้องเป็นผู้มีจิตใจ เข้มแข็ง จะตกไปอยู่ที่ไหนก็สร้างแต่คุณงามความดี
แม้หมดชีวิต ก็อย่าทิ้งคุณงามความดี "
" คนตาดีเมื่อพบดวงไฟก็มองเห็นแสงสว่าง ส่วนคนตาบอดนั้น ถึงจะนั่งเฝ้าดวงไฟก็มองไม่เห็นอะไร "
ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sayings&month=12-2008&date=19&group=1&gblog=180
หลวงพ่อชา สุภัทโธ
วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
http://img364.imageshack.us/img364/3831/08pk8.png
อมตะธรรมเพื่อการดำเนินชีวิตที่มีความสุข สงบ และร่มเย็นค่ะ
http://img364.imageshack.us/img364/3831/08pk8.png
เรากำหนดลมหายใจเข้าออกอย่างเดียว
เราปล่อยลมให้เป็นธรรมชาติ
อย่าไปบังคับลมให้มันยาว อย่าไปบังคับลมให้มันสั้น
ปล่อยสภาพลมให้พอดี แล้วดูลมหายใจเข้าออก
เมื่อปล่อยอารมณ์ได้ เสียงอะไรก็ไม่ได้ยิน
ถ้าจิตเราวุ่นวายกับสิ่งต่างๆ ไม่ยอมรวมเข้ามา
ก็ต้องสูดลมเข้าไปให้มากที่สุด
จนกว่าจะไม่มีที่เก็บ แล้วก็ปล่อยลมออกไปให้มากที่สุด
จนกว่าลมจะหมดในท้องสัก ๓ ครั้ง
. . . ถ้าเรามีสติอย่างนี้ . . .
อย่างวันนี้ เข้าสมาธิสัก ๓๐ นาที หรือ ๑ ชั่วโมง
. . . จิตใจของเรา . . .
จะมีความเยือกเย็นไปตั้งหลายวัน แล้วจิตจะสะอาด
เห็นอะไรจะรับพิจารณาทั้งนั้น นี่เรียกว่าผลเกิดจากสมาธิ
. . . สมาธิมีหน้าที่ทำให้สงบ . . .
เมื่อจิตเราสงบแล้ว จะมีการสังวร สำรวมด้วยปัญญา
เมื่อสำรวมเข้า ละเอียดเข้า มันจะเป็นกำลังช่วยศีลให้บริสุทธิ์ขึ้นมาก
แล้วสมาธิก็จะเกิดขึ้นมาก เมื่อสมาธิเต็มที่ก็จะเกิดปัญญา
http://img364.imageshack.us/img364/3831/08pk8.png
นำมาฝากค่ะ หลวงปู่ชา ท่านกล่าวไว้ว่า
" โลกนี้มีความเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยไป จะอยู่ที่โน่นก็เปลี่ยนแปลง อยู่ที่นี่หรือที่ไหนก็เปลี่ยนแปลงเพราะพวกเราทั้งหลายอยู่ได้ด้วย การเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง เราก็อยู่ไม่ได้ หายใจ ออกมาแล้วก็เปลี่ยนเป็นหายใจเข้า แล้วก็หายใจออก ไม่เช่นนั้น ก็อยู่ไม่ได้ ออกไปหมดก็อยู่ไม่ได้ ลมเข้ามาแล้วไม่ออกก็อยู่ไม่ได้ เราทั้งหลายอยู่ในโลกนี้ก็เป็นของโลก มันเป็นของๆ โลก ไม่ควร ทำความน้อยใจ ไม่ควรทำความเสียใจใดๆ เราต้องเป็นผู้มีจิตใจ เข้มแข็ง จะตกไปอยู่ที่ไหนก็สร้างแต่คุณงามความดี
แม้หมดชีวิต ก็อย่าทิ้งคุณงามความดี "
" คนตาดีเมื่อพบดวงไฟก็มองเห็นแสงสว่าง ส่วนคนตาบอดนั้น ถึงจะนั่งเฝ้าดวงไฟก็มองไม่เห็นอะไร "
ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sayings&month=12-2008&date=19&group=1&gblog=180