PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : หลักกรรมสำหรับคนสมัยใหม่



*8q*
10-26-2008, 12:24 PM
พระธรรมปิฎก ( ป.อ.ปยุตฺโต )



การบรรยายในวันนี้ ท่านกำหนดให้พูดเรื่องกรรม เรื่องกรรม เป็นหลักธรรมที่สำคัญมากใน พระพุทธศาสนานอกจากสำคัญแล้ว ก็เป็นหัวข้อ ที่มีคนมักมีความสงสัยเข้าใจกันไม่ชัดเจนใน หลายแง่ หลายอย่าง บางครั้ง ก็ ทำให้นักเผยแผ่พระพุทธศาสนาประสบความยากลำบากใน การที่จะชี้แจง อธิบาย หรือ ตอบปัญหา ไขข้อสงสัย แนวการอธิบาย เรื่องกรรมการ อธิบาย เรื่องกรรมนั้น โดยทั่วไปมักจะพูดกันเป็น ๒ แนว แนวที่ได้ยินกันมากคือ

แนวที่พูดอย่างกว้างๆเป็นช่วงยาวๆ เช่นพูดว่า คนนี้ เมื่อสมัยก่อนเคยหักขาไก่ไว้ แล้วต่อมาอีก ๒๐ ถึง ๓๐ปี โดนรถชนขาหัก ก็ บอกว่า เป็นกรรมที่ไปหักขาไก่ไว้ หรือ คราวหนึ่ง หลายสิบปีแล้วไปเผาป่า ทำให้สัตว์ตาย ต่อมา อีกนานทีเดียว อาจจะแก่เฒ่า แล้วมีเหตุการณ์เป็นอุบัติภัยเกิดขึ้น ไฟไหม้บ้าน แล้วถูกไฟ คลอกตาย นี้เป็นการอธิบาย เล่าเรื่อง หรือ บรรยายเกี่ยวกับกรรมแบบหนึ่ง ซึ่ง มักจะได้ยิน กันบ่อยๆการอธิบายแนวนี้มีความโลดโผน น่าตื่นเต้นน่าสนใจ บางทีก็อ่านสนุก เป็นเครื่องจูง ใจคนได้ประเภทหนึ่ง แต่ คนอีกพวกหนึ่งก็มองไปว่า ไม่เห็นเหตุผลชัดเจน การไปหักขาไก่ไว้ กับ การมาเกิดอุบัติเหตุรถชน ในเวลา ต่อมาภายหลังหลายสิบปีนั้น มีเหตุผลเชื่อมโยงกันอย่างไร ผู้ที่เล่าก็ไม่อธิบายชี้แจงให้เห็นทำให้เขาเกิดความสงสัย คนที่หนักในเรื่องเหตุผล เมื่อไม่ สามารถชี้แจง เหตุปัจจัย เชื่อมโยงให้เขามองเห็นชัดเจน เขาก็ไม่ยอมเชื่อยิ่งสมัยนี้เป็นสมัยที่ ถือว่าวิทยาศาสตร์เจริญ คนต้องพูดจากันให้มีเหตุผล อธิบายให้เห็นจริงเห็นจังได้ว่าเรื่องโน้น กับเรื่องนี้สัมพันธ์กันอย่างไร เมื่อเราไม่ชี้แจงเหตุผล เชื่อมโยงให้เขาเห็นเขาก็ไม่ยอมเชื่อ ก็เป็น ปัญหาเกิดขึ้น และ เราก็ชอบอธิบายกัน ในแง่นี้ด้วย เพราะฉะนั้น จึงไม่สามารถน้อมใจ คนจำนวนมิใช่น้อย ที่ถือตนว่าเป็นคนมีเหตุผลหรือ เป็นผู้ มีลักษณะจิตใจ หรือ มีท่าทีแบบวิทยาศาสตร์

การอธิบายแบบที่ ๒ ก็คืออธิบายในแง่ของเหตุ ปัจจัยที่เชื่อมโยงให้เห็นชัด ซึ่งกลายเป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้ง เป็นเรื่องที่ยากอยู่จะต้องอาศัยการ พินิจพิจารณาและ การศึกษาหลักวิชามาก การอธิบาย ในแนวแยกแยะเหตุผลนี้บางทีเป็นเรื่อง ที่หาถ้อยคำมาพูด ให้มองเห็นชัดเจน ได้ยาก จึงเป็นวิธีที่ไม่ค่อยมีผู้ใช้หรือเราไม่ค่อยมีเวลาที่ จะอธิบาย เพราะคนส่วนใหญ่จะมาพบกันในที่ประชุมเพียงชั่วเวลา ชั่วโมง ๒ ชั่วโมง ซึ่งจะพูด กันได้ก็แต่ เรื่องในขั้นตัว อย่างหยาบๆ มองช่วงไกลๆเท่านั้น สำหรับเรื่องที่จะพูดกัน ในวันนี้ คิดว่า เราควรจะมาหาทาง พิจารณาในแง่วิเคราะห์ หรือ แยกแยะความเป็นเหตุ เป็นผลเท่าที่ จะเป็นไปได้ ขอให้ลองมาพิจารณาดูกันว่า จะอธิบายได้อย่างไรโปรดติดตามต่อ.....


http://www.dhammathai.org/store/karma/view.php?No=1