PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : นั่งแบบไหนเป็นสมถะ นั่งแบบไหนเป็นวิปัสสนา



iamwis
06-17-2009, 09:38 AM
มีวิธีนั่งหรือกำหนดแตกต่างกันอย่างไรครับ? แล้วผลที่ได้เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรด้วยครับ?

D E V
06-17-2009, 02:24 PM
อ่ะคับ ขอกล่าวอย่างย่อๆ
เพื่อให้พอเห็นภาพรวมก่อนละกันนะคับ

สมถกรรมฐาน
หมายถึงการเจริญความสงบของจิต
คือสงบระงับจากกิเลสไว้ได้ในขณะนั้น

ในชีวิตประจำวัน
ขณะใดที่เป็นกุศลจิต
ขณะนั้นก็ชื่อว่าสงบจากกิเลส
แต่กุศลจิตที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันนั้น
ก็แสนสั้นและไม่ตั้งมั่นคงอยู่นาน
มีอกุศลจิตเกิดแทรกสลับสืบต่อกันไปอย่างรวดเร็ว
ความสงบจากกิเลสชั่วขณะที่เป็นกุศลจิตจึงไม่ปรากฏให้รู้ได้ชัด

ส่วนเวลาที่นั่งสมาธิ เจริญสมถกรรมฐาน
ขณะนั้นมีการจดจ้องอยู่กับอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งที่ใช้เป็นกรรมฐาน
เช่น ลมหายใจ ฯลฯ หรือบางคนก็ใช้คำบริกรรม พุทโธ ฯลฯ เป็นต้น
สมาธิเริ่มจรดอยู่กับอารมณ์เดียวนั้นโดยไม่ใส่ใจอารมณ์อื่น
จนสมาธิตั้งมั่นขึ้นเรื่อยๆ อยู่กับอารมณ์นั้นเพียงอารมณ์เดียวจนแนบแน่นมั่นคง
ไม่มีอารมณ์อื่นเกิดขึ้นรับรู้แทรกคั่นอารมณ์ที่เป็นกรรมฐานเลย
ขณะนั้นจึงสงบระงับจากกิเลส เพราะปิดกั้นอารมณ์อันเป็นนิวรณ์ไว้ได้ด้วย

จิตที่มั่นคงแนบแน่นอยู่กับอารมณ์กรรมฐานสืบต่อกันไปเรื่อยๆ นี้เอง
เราจึงรู้สึกถึงความสงบระงับได้ชัดเจน
ต่างจากกุศลจิตที่เกิดขึ้นและผ่านไปอย่างรวดเร็วในชีวิตประจำวันน่ะคับ

การเจริญสมถกรรมฐานนี้ จึงจำเป็นต้องอาศัยสัปปายะ
อันเกื้อกูลให้จิตตั้งมั่นคงในอารมณ์กรรมฐานได้ง่าย
เช่น สถานที่ที่ไม่อึกทึกวุ่นวาย ฯลฯ เป็นต้น




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

D E V
06-17-2009, 02:56 PM
วิปัสสนากรรมฐาน
คือการอบรมเจริญปัญญาจนประจักษ์ในสภาพธรรมทั้งหลายตามความเป็นจริง
เป็นการเจริญสติปัฏฐาน มีสติสัมปชัญญะ ระลึกรู้ถูก รู้ตรง รู้ชัด รู้ทั่ว
ในสภาพธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นปรากฏเป็นปัจจุบันขณะ

สภาพธรรมทั้งหลายซึ่งเป็นของจริงแท้ให้สติปัฏฐานระลึกรู้
ก็ได้แก่ รูปธาตุต่างๆ และนามธาตุต่างๆ (รูป จิตและเจตสิก)
หรือที่เรียกว่า รูปกับนาม
หรือจะจำแนกออกเป็น กาย เวทนา จิต ธรรม ก็ได้
หรือจะจำแนกออกเป็นขันธ์ 5 ก็ได้เช่นกัน
จะจำแนกโดยนัยยะไหน ก็ประมวลลงที่รูปธาตุต่างๆ และ นามธาตุต่างๆ ทั้งสิ้นน่ะคับ

สติปัฏฐานซึ่งระลึกรู้รูปนามที่ปรากฏตรงตามความเป็นจริงนี้เอง เมื่อเจริญขึ้นจนสมบูรณ์พร้อม
จึงเกิดวิปัสสนาญาณคือปัญญาที่ประจักษ์แจ้งในสภาพธรรมทั้งหลายถูกตรงตามความเป็นจริง
ว่าไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล เป็นแต่เพียงรูปธาตุต่างๆ นามธาตุต่างๆ
ที่ไม่ตั้งอยู่เที่ยง เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะสั้นๆ แล้วก็แตกดับทำลายไปอย่างรวดเร็ว
ประจักษ์ถึงความเกิดดับสืบต่อกันไปที่ปิดบังไตรลักษณ์ไว้
ทำให้หลงยึดมั่นสภาพที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์
ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร หรือมีใครเป็นเจ้าของ
เห็นโทษภัยและหน่ายคลายความยึดมั่นในสภาพธรรมทั้งหลาย
วิปัสสนาญาณที่ค่อยๆ เจริญขึ้นไปเป็นลำดับนี้เอง
ที่เมื่อสมบูรณ์พร้อมก็มีกำลังประหารกิเลสดับสิ้นเป็นสมุจเฉทไปตามลำดับ

การเจริญสติปัฏฐานจนกว่าจะเจริญขึ้นสมบูรณ์พร้อม
เกิดวิปัสสนาญาณที่ประจักษ์แจ้งแทงตลอดในสภาพธรรมทั้งหลายนี้
ไม่มีข้อจำกัดเรื่องสถานที่หรือเวลา
ไม่ว่าสภาพธรรมนั้นจะปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน เดิน หรือทำอะไร
สติปัฏฐานที่คมกล้า มีกำลัง ก็เกิดขึ้นระลึกรู้ได้ถูกตรงตามความเป็นจริง ทีละขณะๆ ไป

ที่สำคัญคือ การเจริญสติปัฏฐาน/วิปัสสนากรรมฐานนั้น
ต้องเข้าใจ รูป-นาม ซึ่งเป็นพื้นฐานให้ถูกต้อง
หากไม่เข้าใจรูปนามซะแล้ว ก็เจริญสติปัฏฐาน/วิปัสสนากรรมฐาน ไม่ได้
เพราะจะกลายเป็นอย่างที่เค้าเรียกๆ กันว่า...วิปัสสนึก...ไปหมดเลยน่ะคับ



http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

D E V
06-17-2009, 03:08 PM
อ่ะคับ เพียงแค่นี้ก่อนละกันนะคับ
เพราะรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสมถกรรมฐาน หรือ สติปัฏฐาน/วิปัสสนากรรมฐาน
ก็มีอีกมากมายที่ต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจให้ถูกต้องและประพฤติปฏิบัติไปทีละเล็กละน้อยอ่ะคับ
ยังไงก็ลองทำความเข้าใจเพิ่มเติมดูนะคับ

สำหรับอันนี้ เป็นบางส่วนที่เคยกล่าวถึงไว้
มีรายละเอียดตัวอย่างบางอันพอให้ได้พิจารณานะคับ
อาจจะยาวหน่อย ไว้หากมีเวลาว่างๆ สบายๆ ค่อยดูก็ได้คับ


สมาธิ สติ สัมปชัญญะ
http://www.watkoh.com/board/index.php?topic=1905.0


สติยังด้อย (มี 2 หน้า)
http://www.watkoh.com/board/index.php?topic=1560.0




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

iamwis
06-19-2009, 01:35 PM
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ อ.เดฟ มากครับ

jittasangwalo
08-20-2009, 11:07 AM
ขอนุญาติตอบแบบย่อ(ย่อจิงๆ)
จิตที่สงบนิ่ง เป็นสมถะ
จิตที่ถอนจากความนิ่งเพื่อมาพิจารณาธรรม เป็นวิปัสสณา
*ส่วนจะนั่งยืนเดินนอนแบบใหนไม่สำคัญ*