PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : ตามดู ตามรู้



iamwis
09-22-2009, 10:09 AM
การตามดู ตามรู้ ทำอย่างไร อยากให้อาจารย์เดฟอธิบายให้ความกระจ่างด้วยครับ

- การตามดูคือต้องให้อารมณ์เกิดขึ้นก่อน ถึงจะรู้ หรือว่า รู้ ก่อนที่อารมณ์ จะเกิด ??
- การตามรู้คือรู้เฉยๆ โดยไม่ใส่ความคิดให้กับมัน หรือว่า รู้แล้วสอนมันด้วยว่ามันไม่เ่ที่ยงเป็นอนิจจัง ??

ถามงงหรือเปล่าครับ คือสงสัยอ่ะครับ รบกวนเพื่อนธรรมไขข้อข้องใจด้วยครับ

D E V
09-23-2009, 01:14 PM
อ่ะคับ จะใช้คำว่า ตามดู หรือ ตามรู้
หรือจะใช้คำเรียกอื่นๆ ก็ได้อ่ะคับ
จึงไม่อยากให้ติดที่พยัญชนะหรือคำเรียก
เพราะอาจทำให้เข้าใจว่ามีตัวตนที่สั่งบังคับได้
แล้วเดี๋ยวจะกลายเป็นว่ามีอัตตาตัวตนที่พยายามไปบังคับจดจ้องไม่ให้คลาด
หากแต่ให้เข้าใจในลักษณะอาการตามความเป็นจริง
คือ สติสัมปชัญญะ เกิดขึ้นระลึกรู้เท่าทัน
ในสภาพที่กำลังปรากฏในขณะนั้น...เป็นปัจจุบันขณะ
ไม่ใช่ไปย้อนนึกถึงในสิ่งที่ผ่านไปแล้วเมื่อเช้านี้ หรือเมื่อสักครู่นี้
หรือจะไประลึกในสิ่งที่ยังไม่ปรากฏเกิดขึ้น...ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้

เช่น ความหงุดหงิดเกิดขึ้นในขณะนี้
สติสัมปชัญญะระลึกรู้ได้ในอาการหงุดหงิดซึ่งเกิดขึ้นแล้ว...ปรากฏให้รู้ในขณะนี้
จึงรู้ชัดในลักษณะนั้นว่าเป็นสภาพจิตใจที่ขุ่นมัว
ซึ่งเป็นอกุศลธรรม (อกุศลจิต) หาใช่ความเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล

การที่สติสัปชัญญะเกิดขึ้นระลึกรู้เช่นนี้
ไม่ใช่ด้วยการนึกคิดเป็นคำเรียก หรือเป็นเรื่องราวต่างๆ เชื่อมโยงกัน
ไม่จำเป็นต้องใส่ชื่อว่า นี่หงุดหงิด นี่อกุศลจิต นี่นามธรรมหรือนามธาตุ
หรือนี่ไม่ใช่ตัวตน นี่อนิจจัง หรือนี่อย่างนั้นอย่างนี้ ฯลฯ

หากแต่ความเข้าใจถูกอันเป็นปัญญาที่สั่งสมเจริญขึ้นนั้นเอง
ที่รู้ชัดในลักษณะอาการนั้นๆ ตามความเป็นจริง
ซึ่งปรากฏให้รู้อย่างเร็วและสั้นมาก
แต่ลักษณะอาการนั้นอาจจะยังเกิดสืบต่อเนื่องกันไปอยู่
สติสัมปชัญญะก็สามารถระลึกรู้ในสภาพนั้นได้
จนกว่าลักษณะอาการนั้นจะเปลี่ยนไป
ก็ระลึกรู้ได้ในสภาพที่เปลี่ยนไป
มีลักษณะอาการอื่นๆ ปรากฏให้ระลึกรู้แทน

ที่ว่า...อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา...นี้จึงไวมากเลยน่ะคับ
แปรเปลี่ยนไปอยู่ทุกขณะอย่างรวดเร็ว
จะปรากฏให้รู้ชัดจริงๆ ก็โดยลักษณะอาการของสภาพนั้นจริงๆ
โดยไม่ใช่ด้วยการคิดหรือเรียกชื่อใดๆ เลยน่ะคับ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นธรรมชาติของจิตที่คิด
ก็เป็นธรรมดาที่อาจจะมีความคิดเกิดขึ้นแทรกสลับในขณะนั้น
คือ มักจะมีการนึกเป็นชื่อ เป็นคำเรียก สลับกันไปกับการระลึกรู้ลักษณะอาการที่ปรากฏ
ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องไปบังคับว่าอย่าคิดหรือห้ามคิดน่ะคับ
แต่สามารถจะรู้ความต่างกัน
ของการระลึกรู้ลักษณะอาการที่ปรากฏ
กับความคิดเป็นชื่อ เป็นคำเรียก
หรือนึกคิดเป็นเรื่องราวต่างๆ ที่เชื่อมโยงกันเป็นเหตุการณ์
ซึ่งเกิดแทรกสลับต่อเนื่องกันไปในขณะนั้น
จะเห็นความต่างกันของขณะที่รู้...คือรู้ในลักษณะอาการที่ปรากฏซึ่งเป็นของจริง
กับคิด...คือความคิดอันเป็นเรื่องของการสมมติขึ้น
เพื่อเรียกออกมาเป็นคำ หรือเป็นความหมายต่างๆ




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

iamwis
09-23-2009, 02:51 PM
กระจ่างทุกคำถามจริงๆ สาธุ http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cheesy.gif