เข้าสู่ระบบ

แสดงเวอร์ชันเต็ม : การโกหกจิตใจตัวเอง จะรับกรรมหรือป่าวครับ



monster
10-08-2009, 08:24 PM
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/19.gif หวัดดีครับ ผมเป็นสมาชิกใหม่ อ่ะครับ
แค่อยากรู้ว่า ถ้าการที่เราโกหกตัวเอง หรือ ปิดปังความรู้สึกที่ดีๆๆ กับคนอื่น ผลจะเป็นอย่างไร และจะได้รับกรรมเช่นไรบ้างครับ

D E V
10-09-2009, 07:38 AM
สวัสดีคับ คุณ monster
วัดเกาะวาลุการามยินดีต้อนรับคับ...ตามสบายนะคับ


************************************

การโกหกตัวเอง หมายถึง การไม่ยอมรับความจริงในตัวเอง
เช่น ปฏิเสธความรู้สึกที่เกิดขึ้น (ทั้งๆ ที่เป็นความรู้สึกเช่นนั้น) ฯลฯ เป็นต้น
อย่างนี้ ไม่ใช่การผิดศีลมุสาฯ น่ะคับ
หรือการที่ไม่เปิดเผยความรู้สึกดีๆ ต่อคนอื่น
เช่น แอบชอบใครซักคนแต่เขินอายไม่กล้าแสดงออก
อย่างนี้ก็ไม่ได้ผิดศีลอ่ะคับ
หากแต่เป็นอกุศลจิต...ยังไม่ถึงขั้นเป็นบาปที่ล่วงอกุศลกรรมบถ
ดังนั้น จึงยังไม่เป็นปัจจัยที่จะให้ผลเป็นวิบาก
แต่อกุศลจิตที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ก็สั่งสมทำให้มีอัธยาศัยอย่างนั้น
ทำให้โน้มไปที่จะรู้สึกนึกคิดหรือกระทำอย่างนั้นติดตัวไปน่ะคับ

แต่ถ้ามีการกล่าวคำไม่จริง
หรือแสดงกิริยาอาการให้เข้าใจผิดไปจากความจริง
อย่างนั้นจึงจะเป็นการผิดศีล เป็นอกุศลกรรม เป็นบาป
และเป็นปัจจัยที่จะให้ผลเป็นวิบาก
ซึ่งทั้งนี้ กำลังของอกุศลกรรมที่จะให้ผลเป็นวิบากนั้นจะมากหรือน้อย
ก็ขึ้นกับกระทำไปด้วยเจตนาร้ายแค่ไหน เกิดโทษเสียหายตามมาแค่ไหน ฯลฯ เป็นต้น

ลองดูตามลิงค์ที่ให้นี้
ความเห็นที่ 3 เกี่ยวกับมุสาวาทนะคับ
http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=3091&KW=%C1%D8%CA%D2%C7%D2%B7 (http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=3091&KW=%C1%D8%CA%D2%C7%D2%B7)

และสำหรับผลของการกระทำอกุศลกรรม (บาป)
หากครบองค์อกุศลกรรมบถก็มีกำลังถึงขั้นให้ผลนำเกิดในอบายได้
หรือถ้าไม่ให้ผลนำเกิด ก็ตามให้ผลหลังจากเกิดได้

ถ้าไม่ครบองค์อกุศลกรรมบถ
ก็ให้ผลหลังจากเกิดแล้วมีชีวิตอยู่ แต่ไม่มีกำลังให้ผลนำเกิดน่ะคับ

และอันนี้คือตัวอย่างบางส่วนพอเป็นแนวทาง
ของผลอันได้แก่วิบากที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดแล้วมีชีวิตอยู่นะคับ
http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=867&KW=%E0%BA%D7%E8%CD&PN=2 (http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=867&KW=%E0%BA%D7%E8%CD&PN=2)





http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

Butsaya
10-14-2009, 01:25 PM
ขออนุโมทนาสาธุกับคำถามของคุณmonster
และคำตอบของพี่เดฟ ด้วยนะค่ะ
อิอิ... ขอถามต่ออีกสักหน่อยแล้วกันนะค่ะ http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Happy/7.gif
อย่าหาว่างั้นงี้โง้นเลยนะค่ะ เพราะอ่าน ๆ แล้วก็อยากรู้อะค่ะ
แล้วการคิดแบบนั้นเรียกได้ว่าไปทำให้เกิดสร้างภพ
ได้เปล่าอะค่ะ เพราะเกิดการคิดนึกแล้วอะค่ะ

D E V
10-14-2009, 02:57 PM
สวัสดีคับ คุณบุษ

อื่มมม...ประเด็นเรื่องสร้างภพ นี่คุ้นๆ นะคับ

เพื่อความเข้าใจความหมายที่ตรงกัน
ต้องขอถามความเข้าใจของคุณบุษก่อนนะคับ
คำว่า...สร้างภพ...ในความเข้าใจของคุณบุษ
หมายความว่าอย่างไรคับ?

คือ การที่เราสงสัย
โดยพยายามโยงเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้
มาผูกให้เกิดผลกับเรื่องนี้เรื่องนั้น
ก่อนที่จะทำอย่างนั้นได้
ต้องเริ่มด้วยความเข้าใจในแต่ละเรื่องให้ถี่ถ้วนถูกต้องก่อนน่ะคับ




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

Butsaya
10-14-2009, 03:22 PM
ค่ะ คนเราเกิดมาหลายชาติ หลายภพ
แบบนี้อะค่ะ เพราะกรรม เพราะกิเลส
ทำให้เราเกิดภพใช่ปะค่ะ ฉะนั้นการ
ที่เรานึกคิดนี่ก็ถือว่าเป็นการทำให้เกิด
หรือสร้างภพชาติได้เปล่าอะค่ะ (พี่งงมัยค่ะ)
อิอิ... บุษนี่ก็อธิบายไม่ค่อยถูกเลยเนาะ
อยากรู้แต่อธิบายคำถามไม่ถูก http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/40.gif

D E V
10-14-2009, 05:06 PM
อ่ะคับ อ้างอิงจากกระทู้ตามลิงค์นี้
http://www.watkoh.com/board/index.php?topic=2434.0

หากได้ทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วน
ก็จะกระจ่างและไม่สงสัยเลยน่ะคับ
เพราะคำตอบนั้นก็อยู่ในไตรวัฏฏ์ อันได้แก่วงวน 3 วง
ดังที่ได้อธิบายไว้แล้วอ่ะคับ ซึ่งนั่นก็ย่นย่อลงมากแล้ว
เป็นการสรุปแบบสั้นๆ ให้เข้าใจง่าย
ไม่ได้กล่าวไปถึงปฏิจจสมุปบาทแบบแยกย่อย 12 องค์ ซึ่งละเอียดกว่า

ที่ว่าเข้าใจ...เลยไม่รู้ว่าเข้าใจว่าอย่างไรอ่ะคับ

ไตรวัฏฏ์ หรือ วัฏฏะ 3
ได้แก่วงวน 3 ส่วนที่หมุนสืบเนื่องกันไป เป็นเหตุปัจจัยแก่กัน คือ

1. กิเลสวัฏฏ์
2. กัมมวัฏฏ์
3. วิปากวัฏฏ์

เมื่อมีกิเลส ก็เป็นเหตุให้มีการกระทำอันเป็นกรรม
เมื่อมีการกระทำอันเป็นกรรม ก็ย่อมมีผลคือวิบาก
เมื่อรับผลคือวิบากแล้ว ยังมีกิเลสอยู่ ก็มีการกระทำกรรมอีก
หมุนวนเวียนไปเช่นนี้เรื่อยๆ ทุกภพทุกชาติในสังสารวัฏคับ


พระอรหันต์ก็มีนึกคิด พูด กระทำต่างๆ
แต่ไม่มีกิเลสแล้ว จึงไม่มีกุศลจิต อกุศลจิต
ไม่มีการนึกคิด พูด กระทำ อันเป็นกุศลกรรมหรืออกุศลกรรมอีก
ก็ไม่มีเหตุให้เกิดวิบากอันเป็นผล

ที่คุณบุษสงสัยว่า การนึกคิดเช่นนั้นจะเป็นการสร้างภพหรือไม่
ก็เป็นการตั้งสมมติฐานขึ้นเอง
โดยการจับเอาจุดๆ หนึ่งมาเชื่อมโยง
เข้ากับเรื่องราวอันยิ่งใหญ่กว้างขวางที่สืบเนื่องในสังสารวัฏ

หากแต่ควรทำความเข้าใจก่อนว่า
ผู้ที่ยังไม่หมดสิ้นกิเลส ย่อมมีการนึกคิด พูด กระทำ
ด้วยกุศลจิตบ้าง อกุศลจิตบ้าง
และมีกำลังถึงขั้นเป็นกุศลกรรมบ้าง อกุศลกรรมบ้าง
การนึกคิด พูด กระทำ อันเป็นกุศลกรรมบ้าง อกุศลกรรมบ้างนี้เอง
เป็นปัจจัยให้เกิดวิบาก ต้องมีการเกิด (แก่ เจ็บ ตาย)
เมื่อมีการเกิดก็ย่อมต้องมีการเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส สัมผัส และนึกคิด
เมื่อนึกคิด ก็ย่อมนึกคิดด้วยกุศลจิตบ้าง อกุศลจิตบ้าง
และก็มีกำลังถึงขั้นเป็นกุศลกรรมบ้าง อกุศลกรรมบ้าง
แล้วก็ทำให้เกิดผลคือวิบากอีก

ดังนั้น ทุกอย่างจึงสัมพันธ์กันเป็นสาย
ซึ่งต้องทำความเข้าใจโดยตลอด
ไม่ใช่จับเอาเฉพาะจุดใดจุดหนึ่งมาเชื่อมโยงแล้วก็สรุปเป็นคำตอบน่ะคับ
เพราะมิเช่นนั้นแล้ว เราก็จะมีข้อสงสัยเป็นจุดๆ โดยตั้งสมมติฐานขึ้นเอง
แต่ไม่อาจประมวลความสัมพันธ์ทั้งหมดได้เลยอ่ะคับ

ยังไงก็ลองค่อยๆ ทำความเข้าใจไปทีละเล็กละน้อยนะคับ
และคำตอบนี้ ไม่ใช่คำตอบสำเร็จรูป
แต่เป็นการตอบเพื่อเป็นแนวทางเพื่อให้เข้าใจในการพิจารณา
เหมือนสอนให้จับปลากินได้ด้วยตนเอง
แต่ไม่ได้เอาปลามายกให้เฉยๆ พอกินหมดแล้วก็หมดไปน่ะคับ

อนุโมทนาในความเพียรนะคับ



http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

Butsaya
10-14-2009, 07:43 PM
ขอบคุณค่ะ พี่เดฟ สาธุค่ะ ....



http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/69.gif http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Word_Other/6.gif

monster
10-15-2009, 09:19 PM
กระจ่างแล้วครับ อนุโมธนา กับคำตอบครับ

อีกเรื่องครับยังไม่เก็ตเท่าที่ควรครับ
ถ้าเราปิดบังความรู้สึกที่ดีหรือ หลอกตัวเอง แล้วไม่บาปใช่ไหมครับ แล้วทำไมเราเราถึงเป็นทุกข์ในใจหล่ะครับ

D E V
10-16-2009, 08:15 AM
ที่เป็นทุกข์ใจ เพราะขณะนั้นเป็น อกุศลจิต (โทสมูลจิต)
คือจิตที่ไม่ดีงาม เกิดความรู้สึกทุกข์ใจ ขุ่นใจ ขัดใจ
ไม่อาจเป็นได้ดังใจ ไม่กล้า หวั่นกลัว อัดอั้นตันใจ
กระวนกระวายใจ ร้อนใจ น้อยใจ เศร้าซึม หดหู่ เสียใจ ฯลฯ

ความรู้สึกไม่สบายใจทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะนั้นเอง
เป็นอกุศลจิตอันเป็นไปด้วยโทสะน่ะคับ
จะเรียกว่า บาป ก็ได้ ในความหมายที่เป็นสภาพธรรมไม่ดีงาม
แต่ว่ายังไม่มีกำลังถึงขั้นเป็นบาปที่ล่วงอกุศลกรรมบถ

แต่กระนั้นก็เป็นการสั่งสมอกุศลจิตกลายเป็นอุปนิสัยที่ไม่ดีงามอ่ะนะคับ
และถ้าสั่งสมมากๆ เข้าก็อาจมีกำลังถึงขั้นกระทำบาปที่ล่วงอกุศลกรรมบถออกมาได้

สำหรับการกระทำอันเป็นบาปถึงขั้นล่วงอกุศลกรรมบถนั้นคืออย่างไร
ลองดูตามลิงค์ที่ให้นี้นะคับ
http://www.buddhism-online.org/Section07A_02.htm




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

Vipawee
10-16-2009, 10:39 PM
อนุโมทนาด้วยค่ะhttp://www.buddhakun.com/Smileys/default/smiley.gif