เข้าสู่ระบบ

แสดงเวอร์ชันเต็ม : บัญญัติกับปรมัต



Butsaya
12-24-2009, 08:45 AM
;) อืม...ขอสอบถามนิดนะค่ะ :D
ในชีวิตประจำวันเราเห็นบัญญัติและเรียนรู้บัญญัติตลอดเวลา
และบันทึกสิ่งเหล่านี้ลงในสัญญาของเราทุกคน ใช่ปะค่ะ
ส่วนปรมัติคือความเป็นจริงที่เราไม่ต้องเรียนรู้แต่มีอยู่แล้ว
ในสัญญาแต่เรากลับมองไม่เห็นหรือว่าเห็นแต่กลายเป็น
มองไม่เห็นไปซะแล้ว แต่ทุกวันนี้ที่เราเจริญวิปัสสนา
ก็เพื่อละบัญญัติทำให้แจ่มแจ้งในปรมัตใช่ปะค่ะ เช่น
แบบว่าแม้ธาตุ 4 นี่ ถ้ามองเป็นปรมัตก็ต้องเป็นแค่
เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหว เห็น กระทบ อะไรแบบนี้ใช่ปะค่ะ
อิอิ... ถ้าบุษเข้าใจผิดช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ แหะๆๆๆ

D E V
12-24-2009, 01:52 PM
ในชีวิตประจำวันเราเห็นบัญญัติและเรียนรู้บัญญัติตลอดเวลา
และบันทึกสิ่งเหล่านี้ลงในสัญญาของเราทุกคน ใช่ปะค่ะ

ใช่คับ



ส่วนปรมัติคือความเป็นจริงที่เราไม่ต้องเรียนรู้แต่มีอยู่แล้ว
ในสัญญาแต่เรากลับมองไม่เห็นหรือว่าเห็นแต่กลายเป็น
มองไม่เห็นไปซะแล้ว

ปรมัตถ์ คือ สภาพธรรมที่เป็นของจริงซึ่งปรากฏอยู่ทุกขณะ
สัญญาทำหน้าที่ทรงจำไว้หมดทั้งปรมัตถ์และบัญญัติ
แต่เมื่อไม่มีการอบรมศึกษาเรียนรู้ทำความเข้าใจในสภาพธรรมของจริงที่ปรากฏ
ตามที่พระพุทธองค์ทรงแสดงจากการตรัสรู้
ว่าเป็นแต่เพียงรูปธาตุต่างๆ นามธาตุต่างๆ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตนของเรา
ก็เห็นผิดยึดมั่นในสภาพรูปนามทั้งหลายที่ประชุมกันและเกิดดับสืบต่ออย่างรวดเร็ว
ว่าเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตนของเรา
แม้สภาพธรรมของจริงนั้นปรากฏอยู่ทุกขณะ ก็จดจำไว้ด้วยอัตตสัญญา



แต่ทุกวันนี้ที่เราเจริญวิปัสสนา
ก็เพื่อละบัญญัติทำให้แจ่มแจ้งในปรมัตใช่ปะค่ะ

เพื่อให้ประจักษ์ในความจริงของปรมัตถธรรม
อันเป็นสภาพธรรมที่เป็นของจริงซึ่งปรากฏอยู่ทุกขณะ
ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ
ได้แก่ รูป จิต เจตสิก (และนิพพาน ซึ่งเว้นไว้ไม่กล่าวถึง)
หรือ รูปธาตุต่างๆ นามธาตุต่างๆ นั่นเอง
หรือ จะเรียกว่า รูปธรรม นามธรรม หรือ รูป นาม ก็ได้
หรือจะจำแนกออกเป็นขันธ์ 5 ก็ได้
เมื่อประจักษ์ชัดในสภาพธรรมอันเป็นของจริง ไม่ใช่โดยแค่ชื่อหรือเรื่องราวของสภาพธรรม
ก็รู้เท่าทันในขณะที่มีปรมัตถ์เป็นอารมณ์ ต่างกับขณะที่มีบัญญัติเป็นอารมณ์
แยกปรมัตถธรรมออกจากบัญญัติธรรมที่ปิดบังสภาพความเป็นจริงไว้
เมื่อปัญญาเจริญขึ้นจนประจักษ์แจ้งในสภาพธรรมที่เป็นจริง
จึงค่อยๆ ละคลายความเห็นผิดยึดมั่นในรูปธาตุนามธาตุทั้งหลาย ว่าเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตนของเรา
จนกว่าปัญญาจะเต็มพร้อมบริบูรณ์จนดับกิเลสทั้งหลายสิ้นซากไปตามลำดับ



เช่น แบบว่าแม้ธาตุ 4 นี่ ถ้ามองเป็นปรมัตก็ต้องเป็นแค่
เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหว เห็น กระทบ อะไรแบบนี้ใช่ปะค่ะ

รูปธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุลม ธาตุน้ำ
เป็นสภาพของรูปธาตุที่มีจริง เป็นของจริงที่ปรากฏอยู่ทุกขณะ
มีลักษณะของรูปธาตุนั้นๆ ให้เรียนรู้พิสูจน์จากของจริง

เย็นร้อน เป็นลักษณะของธาตุไฟ
ปรากฏที่กายให้รับรู้ได้ในขณะนี้ ไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน เดิน กระทบสัมผัส

อ่อนแข็ง เป็นลักษณะของธาตุดิน
ปรากฏที่กายให้รับรู้ได้ในขณะนี้ ไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน เดิน กระทบสัมผัส

ตึงไหว เป็นลักษณะของธาตุลม
ปรากฏที่กายให้รับรู้ได้ในขณะนี้ ไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน เดิน กระทบสัมผัส

(เว้นธาตุน้ำไว้ก่อน เพราะธาตุน้ำรู้ได้ทางมโนทวารอย่างเดียว ไม่รู้ทางกายทวาร)

ส่วนขณะที่เห็นทางตา
ไม่ได้มีลักษณะของรูปธาตุทั้ง 4 ปรากฏ
แต่มีรูปธาตุอีกชนิดหนึ่ง (วัณณรูป)
คือ สี ปรากฏทางจักขุทวาร



8) เดฟ

Butsaya
12-24-2009, 03:15 PM
อืม .... สัญญา กับ อัตตสัญญา ใช่อันเดียวกันมัยอะค่ะ

D E V
12-24-2009, 03:57 PM
สัญญา ความทรงจำ

อัตตสัญญา ความทรงจำว่าเป็นตัวตน



8) เดฟ

*8q*
12-24-2009, 05:48 PM
http://www.watkoh.com/board/richedit/upload/2k6d106bc66c.gif




สาธุครับ ;D

Butsaya
12-24-2009, 06:10 PM
(เว้นธาตุน้ำไว้ก่อน เพราะธาตุน้ำรู้ได้ทางมโนทวารอย่างเดียว ไม่รู้ทางกายทวาร)


อิอิ.... พี่เดฟค่ะ :D
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วนะค่ะ พี่เดฟช่วยอธิบายต่อให้เลยได้มัยอะค่ะ
(ไม่งั้นมันจะค้าง ๆ คา ๆ ในความรู้สึกอะคะเดี๋ยวธาตุจะม่ะครบอะค่ะ) อิอิ .... ::)

อิอิ.... บุษขอทำตามพี่แปดคิวด้วยคนนะค่ะ เอิ๊กๆๆๆๆ

http://www.watkoh.com/board/richedit/upload/2k6d106bc66c.gif

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ พี่เดฟ :D

piangfan
12-25-2009, 09:09 PM
สวัสดีค่ะ อาจารย์เดฟ พี่แปดคิว พี่บุษ และญาติธรรมทุกท่านค่ะ
สาธุค่ะ ทุกท่านค่ะ ขอบคุณค่ะ

อันนี้สีมือพี่บุษค่ะนำมาฝากค่ะ

: * ˛ •˚ • 。 ° • 。 • ˚ ˚ ˛ ˚
˛ 。° 。 ° 。˚ ˛ • ˚ ˚ ˛
*★Merry★* 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ • •
。★Christ★ 。* 。° 。 ° ˛
˚˛ * _Π_____*。*˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •˛
•˚ */______/~\。˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •˛
• ˚ | 田田 |門| ˚ ˛ ˚ ˛ •


http://www.watkoh.com/board/richedit/upload/2k6d106bc66c.gif