สงใส

[tewada]

เคยใด้ยินมาว่าจิตของเราแค่ชั่วลัดนิ้วมือเกิดดับแสนโกศครั้ง แล้วพวกที่ใด้ญานจิตจะต่องบังคับให้จิตที่เกิดดับแสนโกศครังมาเกิดดับในอารมเดียวหรือไม่
หรือจะต่องเป้นแบบไหนอธิบายด้วยนะ

[D E V]

.
สวัสดีครับ คุณ tewada

จิตนั้นเกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็วมาก
ตามที่เข้าใจนั้นใช่แล้วครับ
และในชีวิตประจำวัน
จิตที่เกิดดับสืบต่อกันนั้นก็รับอารมณ์ต่างๆ มากมาย
ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ
สลับกันไปทุกๆ ทางอย่างรวดเร็วประมาณมิได้

แต่ขณะที่เป็นฌานจิตเกิดดับสืบต่อกันนั้น
จะรับรู้อยู่เพียงอารมณ์เดียวที่เป็นกรรมฐาน
ไม่ซัดส่ายเปลี่ยนไปรับอารมณ์อื่น
ซึ่งไม่ใช่ใครจะไปสั่งบังคับได้ตามใจ
หากแต่เพราะกำลังของจิตที่อบรมมาดีแล้ว
สมาธิจึงตั้งมั่น แนบแน่น อยู่กับอารมณ์เดียว
จึงปิดกั้นกิเลสนิวรณ์ต่างๆ ไม่ให้แทรกเข้ามาได้...ชั่วขณะที่เป็นฌานจิต
ต่อเมื่อสมาธิเริ่มคลายจากการตั้งมั่นในอารมณ์เดียวอันเป็นกรรมฐาน
ก็จะเริ่มรับรู้อารมณ์อื่น มีอารมณ์อื่นแทรกสลับ

การที่ฌานจิตจะเกิดขึ้นนั้น...ไม่ง่าย
ผู้ที่เพิ่งมีฌานจิตเกิดเป็นครั้งแรก
ฌานจิตเกิดเพียงขณะเดียว
และผู้ที่ไม่คล่องแคล่วชำนาญ
ฌานจิตอาจจะเกิดเพียงไม่กี่ขณะ
ดังนั้น อาจเป็นการเข้าใจไปเองว่าเป็นฌานจิต
เนื่องจากขณะนั้นสมาธิยังมีกำลังอยู่ (แต่ไม่แนบแน่นพอ)
จึงทำให้โดยมากมักจะเข้าใจผิดไปว่าได้ฌานขั้นนี้ขั้นนั้นแล้วน่ะครับ



:cool: เดฟ

[tewada]

ประมานนั้นเลยท่าน ตอนนี้สมาธิที่แนบแน่นทำใด้3ไม่เกิน5วินาทีแล้วหลุดจากนั้นก้เกิดอีก3ไม่เกิน5วิแล้วหลุดเป้นแบบนี้ไปเรื่อยๆๆๆ

[tewada]

1 คุณสมบัตรของผู้ที่จะสามารถจะใด้ฌานสมาบัตรต่างๆในชาตนี้จะต่องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง
2 ผู้ที่จะฝึกฌานจะต่องมีการเตรียมตัวอะไรไหม เช่นอาหารการกินเสื้อผ้าหน้าผมเป้นต้น
3 รยะเวลาในการฝึกต่อวันจะต่อนใช้เวลาเท่าไร่ ตอนนี้เราฝึกพักกลางวันชั้วโมงหนึ่งก่อนน่อนอีกประมานชัวโมงหนึ่ง

[D E V]

1 คุณสมบัตรของผู้ที่จะสามารถจะใด้ฌานสมาบัตรต่างๆในชาตนี้จะต่องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง

ต้องเป็นผู้ที่เกิดมาพร้อมด้วย เหตุ 3
คือ อโลภเหตุ, อโทสเหตุ, อโมหเหตุ
หมายความว่า ปฏิสนธิจิตของผู้นั้น
จะต้องประกอบด้วย อโลภเจตสิก, อโทสเจตสิก, ปัญญาเจตสิก
เป็น "ติเหตุกบุคคล"
เมื่อได้มีการฝึกฝนอบรมจนพร้อมบริบูรณ์
ฌานจิตจึงจะสามารถเกิดได้ครับ
(แต่จะเกิดหรือไม่ก็อีกเรื่องนึงนะครับ)




2 ผู้ที่จะฝึกฌานจะต่องมีการเตรียมตัวอะไรไหม เช่นอาหารการกินเสื้อผ้าหน้าผมเป้นต้น

ขอกล่าวโดยสรุปรวมอย่างย่อๆ นะครับ
ขั้นแรกเลย ควรเป็นผู้ที่มีความเข้าใจอย่างถูกต้องในการเจริญสมถกรรมฐานน่ะครับ
ประพฤติตนอยู่ในศีล และควรเป็นผู้ที่...
- มีขันติ อดทนต่อความยากลำบากและทุกขเวทนา อดทนต่อกิเลสต่างๆ ที่คอยเย้ายวน
- มีความตั้งใจจริงอย่างแน่วแน่
- มีอินทรีย์เสมอกัน ปัญญาและสัทธา, วิริยะและสมาธิ, สติ

นอกจากนี้แล้ว เมื่อจะเจริญสมถกรรมฐาน
ก็ควรละความกังวลในเรื่องต่างๆ เช่น ที่อยู่, ครอบครัว, ญาติมิตร, หมู่คณะ,
ลาภสักการะ, การงาน, การเรียน, การเดินทาง, ความเจ็บป่วย เป็นต้นน่ะครับ

และหากมีสิ่งต่างๆ อันสบาย เ่หมาะสม ก็ช่วยเกื้อกูลยิ่งขึ้น
เช่น ความสบาย เหมาะสม ของสถานที่, การสัญจร, การสนทนา,
บุคคล, อาหาร, อากาศ, อิริยาบถ เป็นต้น

สำหรับเสื้อผ้า สะดวกสีไหนก็ไม่เกี่ยง เอาที่ใส่สบายไม่รุ่มร่ามหรือคับแน่น
หน้าตา เนื้อตัว ก็อาบน้ำทุกวัน อย่าหมักดอง
ผมเผ้า เอาทรงที่ดูแลง่าย ไม่ต้องประดิดประดอยมากน่ะครับ




3 รยะเวลาในการฝึกต่อวันจะต่อนใช้เวลาเท่าไร่ ตอนนี้เราฝึกพักกลางวันชั้วโมงหนึ่งก่อนน่อนอีกประมานชัวโมงหนึ่ง

เรื่องเวลาในการฝึกฝนแต่ละวันนั้น
อาจจะเริ่มจากน้อยๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น
ซึ่งจะน้อยจะมากแค่ไหน
ก็คงต้องตามแต่ละท่านสะดวกน่ะครับ




:cool: เดฟ

[Admax]

สาธุ

[Punmono037]

สาธุ