เข้าสู่ระบบ

แสดงเวอร์ชันเต็ม : พระธรรมเทศนา โดยหลวงปู่สาม อจิญฺจโน



**wan**
11-05-2008, 04:50 PM
http://www.kusol.com/apra/prapict250md/%CA%D2%C1_%CD%A1%D4%AD%A8%E2%B9250.jpg

พระธรรมเทศนา โดยหลวงปู่สาม อจิญฺจโน
(วัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์)

ที่มา http://se-ed.net/philosophy/libra/index.shtml

ธรรมะของจริงก็อยู่กับบุคคลทุกคน เว้นไว้แต่ไม่ทำ ถ้าทำต้องมีทุกคน เพราะธรรมเป็นของจริง ต้องทำจริงจึงจะเห็นธรรมของจริง การกระทำก็ทำจิตใจให้สงบ ใจจะสงบได้ ก็ต้องอาศัยการพยายามทำจิตใจให้มันดี ทำจิตใจให้พอใจในใจ เพราะธรรมเป็นของละเอียดลึกซึ้ง ของจริงมันมีทุก ๆ คน ธรรมะแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ก็มีอยู่ในทุกคน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็มีอยู่ทุกคน แต่เราทำไมถึงไม่ถึงพระพุทธ ไม่ถึงพระธรรม ไม่ถึงพระสงฆ์ ต้องอาศัยการกระทำ ฝึกหัดดัดแปลงจิตให้มันดี ให้มันสงบให้เป็นสมาธิ จิตใจจะเป็นสมาธิก็ต้องอาศัยการพยายามมีสติกำหนดจิตใจให้มันอยู่ ความรู้ความเห็นทุกอย่างนั้นมันอยู่ในโลก ธรรมะของจิตนั้นมันต้องพยายามทำใจให้มันอยู่ ให้มันอยู่จนพรากจากอารมณ์ภายนอก ความคิดความนึกทุกอย่างไม่ต้องคำนึง จนต้องอยู่เป็นอันเดียว พอรู้สึกอยู่อย่างเดียว สติความระลึกสัมปชัญญะ ความรู้ตัวก็ต้องรู้อยู่กับที่นั้น ถ้าใจมันละเอียดไป มันต้องอยู่รู้กับที่ ถ้าจิตใจมันละเอียดไปแล้วมันก็แน่วแน่เป็นหนึ่ง

เพราะฉะนั้นเราต้องพยายาม การภาวนาก็เป็นบุญเป็นกุศลมากมาย ถ้าทำได้ทุก ๆ วัน ทำได้เสมอไป ก็เป็นกุศลทุกวัน ให้คิดดู ความแก่ ความเจ็บ ความตาย จะมาถึงวันไหนเราก็ไม่รู้ ไม่ว่าแต่คนเฒ่าคนแก่ คนหนุ่มก็ตาย ได้ฝึกหัดทำทุกวัน ๆ มันตายไปก็ยังได้ขึ้นสวรรค์ การกระทำจิตใจนี้เป็นของดี เป็นยอดของทาน ฝึกหัดอริยทรัพย์ภายในนั่นเป็นอริยะ ฝึกหัดดัดแปลงจิตใจให้มันดีมันบริสุทธิ์หมดมลทิน

เพราะฉะนั้นต้องรีบทำทุก ๆ คน ทำคุณงามความดีให้มีให้เกิดขึ้นในดวงจิตดวงใจเพื่อเป็นอุปนิสัยไป ถ้ายังไม่ถึงมรรคผลนิพพาน มันก็ต้องมีอุปนิสัยติดในจิตในใจ พกแต่สิ่งที่ดีสิ่งที่ชอบไปในอนาคตกาลข้างหน้าอีกก็จะดี จะไปทุกภพทุกชาติต้องอาศัยการกระทำ ถ้าเราไม่ทำก็ไม่มีอะไร ไม่ได้อะไร ถ้าฝึกหัดไปทุกวัน ๆ จะเป็นหรือไม่เป็น ก็ทำให้เรามีศรัทธาในการภาวนา การกระทำทุก ๆ วันไป ทำให้มันนาน ๆ นั่งสักชั่วโมงสองชั่วโมง ถ้าใจมันสงบลงไปแล้ว เราจะนั่งสักสามสี่ชั่วโมงก็ไม่เป็นอะไร ไม่เจ็บไม่ปวดไม่เหน็ดไม่เหนื่อยอะไร ต้องหัดกระทำอยู่อย่างนั้นจนใจนี่มันตั้งแน่วแน่ หรือทำไปสงบไป ปีติเกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ความสุขก็เกิดขึ้น ความเข้าใจก็เกิดขึ้น ความกล้าหาญความอาจหาญมันก็มีอยู่ในใจ ต้องอาศัยการกระทำ ถ้าเราไม่ทำก็ไม่มีอะไร ไม่เป็นบุญไม่เป็นกุศลอะไร ถ้าเราทำไปต้องได้บุญได้กุศลทุกวันทุกเวลาไป ทุกคืน

เราจะนอนก็ไหว้พระ ไม่ได้อะไรก็ภาวนาไป ไหว้พระ ๓ ที ๑๐ ที พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง เป็นสรณะที่พึ่งของตน แล้วก็นั่งสมาธิไป ภาวนาไป พุทโธ พุทโธ หลับตานั่งนาน ๆ ไม่นานมากก็ ๕ นาที ๑๐ นาที ค่อยหัดไปทุกวัน ๆ ไป ดีกว่านอนเปล่า ๆ ไม่มีอะไร อยากได้คุณงามความดี สิ่งที่ดีที่ชอบก็ต้องประกอบให้เกิดขึ้นในจิตในใจ การภาวนามันเป็นยอดของทานอันเลิศ เก็บอยู่ในจิตในใจทุกภพทุกชาติไปจนได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ก็ต้องอาศัยบำเพ็ญบารมีของตนนี้แหละ บารมีของตนนี้แหละเป็นเสบียงอาหารไปข้างหน้าอีก เกิดไปชาติไหนก็เป็นคนที่มีความดีความงามอยู่ในจิตใจ เพราะเราได้ฝึกหัดดัดแปลงจิตใจของเราให้มันบริสุทธิ์กาย บริสุทธิ์วาจา บริสุทธิ์ใจ

เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้เสมอไป สมดังภาษิตท่านว่า “วิริเยน ทุกขมัจเจติ” คนผู้จะล่วงทุกข์ได้ ก็ต้องอาศัยความเพียร เพียรนอกก็ต้องทำเหมือนกัน การทำบุญ การให้ทาน หรือพวกชาวไร่ชาวนาก็ต้องอาศัยความหากเพียรมันถึงจะมีผล ทำอะไรก็ทำด้วยความเพียรพยายาม การทำจิตใจก็เหมือนกัน ต้องอาศัยความพยายาม ต้องอาศัยความเพียร เพื่อให้จิตมันอยู่ ให้มันสงบ ให้มันบริสุทธิ์ไปจึงจะได้มรรคผลเกิดขึ้นตามภูมิตามธรรม ถ้าจิตเรามันรวมพักครั้งหนึ่ง ก็ติดอยู่ในจิตในใจเสมอไป เพราะฉะนั้น เราควรพยายามในการบุญการกุศล คนทุกวันนี้ก็มีแต่เรื่อง มีแต่ความวุ่นวายมากมาย รีบทำคุณงามความดีให้มันมีขึ้นในจิตในใจ หลุดพ้นจากความไม่ดี ทำจิตใจให้มันละเอียดไป ๆ จนกว่าละเรื่องโลก โลกนี้มีแต่ความรู้ความเห็น ความเข้าใจทุกอย่างของโลก ธรรมะของจริงมีแต่หมดไป ๆ จนตั้งแน่วแน่เป็นหนึ่งอยู่ ตั้งจิตดวงเดียว ตั้งให้มันแน่วแน่อยู่นั่นอย่างทางจะไปพระนิพพาน ก็ต้องอาศัยความพยายามจนมันตั้งแน่วแน่ได้ โลกนี้มันประกอบไปด้วยความทะเยอทะยาน ถ้าทำจิตให้มันดี ให้มันสงบ ไปดียิ่งกว่าโลกนี้หลายเท่า ทำใจให้สงบครั้งหนึ่ง ๆ อย่างนี้ โอ๊ย !!! จิตใจมันมีความปลื้มในจิตในใจ ความยินดีในใจหาที่สุดไม่ได้ การพยายามทำตนของตนให้มันดีขึ้นนี่ยากเหลือเกิน สมัยนี้ทุกวันมีแต่ความเพลิดเพลินกับการดูหนังดูลิเกทั่ว ๆ ไป เดี๋ยวก็มี ๆ ประโยชน์ของตนไม่เคยคิดถึงเลย คิดถึงแต่โลก คิดถึงแต่ประโยชน์ของตนให้มาก อย่าไปคิดถึงประโยชน์ในโลกนี้ หาอยู่หากินด้วยความสุจริตพออยู่พอกิน อยู่ไปก็ทำบุญทำทาน นั่งสมาธิภาวนาของตนอันนี้สำคัญ โลกประกอบไปด้วยกองทุกข์ หมดทั้งตัวก็เป็นทุกข์ทั้งนั้น ความเกิดก็เป็นทุกข์ ความแก่ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บก็เป็นทุกข์ ความตายก็เป็นทุกข์ ทุกข์อันนี้แหละ บางคนทุกข์ยากจน จะหากินเช้าเย็นก็ยังไม่พอกิน ยากเท่าไร ทุกข์เท่าไร คนไม่มีบุญ ไม่มีวาสนา ไม่ค่อยทำบุญ คนเขาเคยทำบุญทำให้ทาน เขาก็เกิดในทรัพย์ ในสมบัติ ดูเถิดคนไม่เหมือนกัน ในโลกนี้ต่าง ๆ กัน หัวใจก็ไม่เหมือนกัน เป็นคนเหมือนกัน แต่

จิตใจไม่เหมือนกัน บางคนใจร้ายสามารถฆ่าคนตายได้ มันต่างกันอย่างนั้นแหละ แล้วการบุญการกุศลก็ไม่เชื่ออีก หัวใจมันก็โหดร้าย ต้องพยายามกระทำจิตใจให้มันสงบ จิตใจก็อ่อนน้อมต่อธรรม ต่อวินัย ต่อธรรมะคำสั่งสองของพระพุทธเจ้า ถ้าใจเรามันดีขึ้นเรื่อย ๆ ละก้อ ใจมันก็อ่อน ถ้าฝึกหัดตนให้ชำนิชำนาญ ใจก็กล้าหาญ อาจหาญกำจัดโรค กำจัดภัยได้ทุกอย่าง การภาวนาทำให้หายเหน็ดเหนื่อยไป ถ้าวันไหนไม่ได้ภาวนาก็อ่อนเพลียไป ถ้ามานั่งได้สักสองชั่วโมงอย่างนี้หายเหนื่อยสบาย การกระทำจิตใจต้องอาศัยการอบรมจิตใจของตน จนให้มีอุปนิสัยติดอยู่ในจิตใจของตนก็ดีขึ้นทุกภพทุกชาติไป แต่ยังไม่พ้นทุกข์ ดีไปทุกภพทุกชาติ ถ้าภาวนาบางคนก็ยาก ทางที่ดีก็การทำบุญให้ทานนั้นแหละ ทำให้มาก การให้ทางก็ดี มันจะได้ทรัพย์มีสมบัติเกิดเป็นเทพเทวดาก็อาศัยศรัทธา ถ้าการภาวนาทำจริง ๆ ไป ให้ได้มรรคผลนิพพานก็ต้องอาศัยทำจิตใจนี่แหละดัดแปลงจนใจเป็นสมาธิ เลยสมาธิไปจนวางภาระในโลกนี้ โลกอันนี้มันก็อยู่ที่สันดาน วางได้ทำจิตใจให้มันแน่วแน่เป็นหนึ่งนั้นจึงจะถูกหนทางพระนิพพานฯ




+++++ พิมพ์แจกเป็นธรรมทาน +++++