PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : ธรรมชาติของคนที่เป็นพวกเดียวกันย่อมคุยกันรู้เรื่อง



DAO
10-27-2008, 11:46 AM
ธรรมชาติของคนที่เป็นพวกเดียวกันย่อมคุยกันรู้เรื่อง ดีกว่าทำตนให้เป็นคนละพวก เพราะในที่สุดจะพูดกันไม่รู้เรื่อง

ปุจฉา
อยากช่วยสามี
กราบนมัสการหลวงปู่พุทธะอิสระ ดิฉันแต่งงานมาได้ปีกว่าแล้ว คบกันไม่นานก็แต่งเลย มารู้ตอนหลังว่าสามีเป็นคนที่มีราคจริตมาก หมกมุ่นอยู่ในเรื่องกาม ซึ่งลึกๆ แล้วดิฉันไม่ค่อยชอบเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่ที่แต่งงานด้วยเพราะผู้ใหญ่เห็นว่าเหมาะสม ทำให้เรามักมีปากเสียงกันเป็นประจำ แต่ส่วนใหญ่ดิฉันจะเป็นฝ่ายเงียบ ก็เลยทำให้รู้อีกว่าเขาเป็นคนมีโมหจริต โทสจริต อยู่มากๆ ด้วย ไม่ทราบว่าจะมีวิธีแก้ไขได้อย่างไรบ้างคะ เพราะดิฉันเองก็อยากจะช่วยเหลือเขาให้พบกับทางสว่างบ้าง และเราจะได้ไม่ต้องทะเลาะกันอีก

วิสัชนา
มันก็เป็นเรื่องยาก เพราะคนเราทำอย่างไรได้อย่างนั้น ไม่ง่ายกับการที่จะไปแก้อุปนิสัยของคนที่ติดมาจากอดีตชาติให้หมดไปในชาติปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่เพิ่งเกิด เพราะมันใช้เวลา สั่งสมมาเป็นร้อยๆ พันๆ ชาติ จะใช้เวลาแค่พริบตากับการกำราบ ทิ้งไปคงไม่ได้ ถ้าคุณสงสารเมตตาอยากช่วยเขาจริงๆ เบื้องต้น ต้องทำให้เขาไว้ใจคุณวางใจคุณ เชื่อใจคุณ แล้วคุณก็ใช้ความ วางใจเชื่อใจนั้นแก้ปัญหาที่มีอยู่ในตัวเขาทีละเล็กละน้อย คล้อยตามเขาบ้าง และทำให้เขาคล้อยตามเราบ้าง ค่อยๆ ชี้นำกันไป แต่ไม่ใช่บอกว่าพอ เราไม่ชอบ แต่เขาอยากได้ ก็เลยปฏิเสธ อย่างนั้นก็คุยกันคนละทาง

วิธีที่จะทำได้ดีที่สุดก็คือต้องทำให้เขารู้จักผ่อนคลาย อย่าหมกมุ่น อย่าสนใจในวิถีชีวิตที่เป็นอยู่ เหมือนกับการกำมือไว้ทั้งวันมันเมื่อย ก็บอกให้เขาหาวิธีผ่อนคลายซะบ้าง

สุดท้ายมันก็ค่อยๆ หายไปเอง แต่ต้องใช้เวลาและความอดทนค่อยๆ ดึงความเห็นผิด ความเข้าใจผิดของเขาให้ออกไป ธรรมชาติของคนที่เป็นพวกเดียวกันย่อมคุยกันรู้เรื่อง ดีกว่า ทำตนให้เป็นคนละพวกแล้วคุยกันคนละเรื่อง แล้วก็จะไม่รู้เรื่องในที่สุด

ปุจฉา
ช่วยคนโรคจิต
กราบนมัสการหลวงปู่ครับ กระผมมีข้อสงสัยอยากถามว่า คนที่เป็นโรคจิตนี่เกิดจากอะไรครับ และพระพุทธศาสนาสามารถช่วยให้คนเหล่านี้มีจิตเป็นปกติสุขได้หรือไม่ครับ ถ้าได้นี่ต้องใช้วิธีอย่างไรครับ

วิสัชนา
คนวิกลจริต เป็นโรคจิต ถือได้ว่าเกิดจากสาเหตุในการขาดสติ จิตตกเป็นทาสของอารมณ์ พระพุทธศาสนาช่วย คนเหล่านี้ได้ ถ้าศึกษาฝึกหัดให้ถูกวิธี

ปุจฉา
นับถือเทพถือองค์
ทำไมประชาชนมากมายจึงไปนับถือเทพถือองค์จนเป็นบ้ากันใหญ่โตทั้งๆที่ศาสนาเราก็มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่สำนึกกราบไหว้บูชาก็ดีอยู่แล้ว

วิสัชนา
แล้วแต่ปัญญาของแต่ละคน ผู้มีปัญญามากกว่าก็ย่อมหาที่พึ่งที่ดีกว่า แม้ที่สุดก็ไม่ต้องมีสิ่งพึ่งเลย ผู้มีปัญญาน้อยกว่า ก็ย่อมแสวงหาที่พึ่งไปต่างๆนานาสุดแต่คิดว่าจะพึ่งได้ เรื่องนี้มิใช่เพิ่งมี แม้เมื่อสองพันกว่าปีก็มีมาแล้ว


ขอขอบคุณที่มาคะ http://manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9510000096272