กระดุมเม็ดกลาง...ที่ยังคงหลงทางอยู่ร่ำไป

กระทู้: กระดุมเม็ดกลาง...ที่ยังคงหลงทางอยู่ร่ำไป

ป้ายกำกับ: ไม่มี
  1. nakamol said:

    กระดุมเม็ดกลาง...ที่ยังคงหลงทางอยู่ร่ำไป

    "ถ้าติดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อ ๆ ไปก็ผิดหมด" (พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว)

    รู้สึกว่าตัวเองเป็นไปตามสำนวนนี้ค่ะ
    เป็นกระดุมเม็ดกลาง
    ที่คล้ายกับถูกบังคับให้เป็นไปตามกระดุมเม็ดแรกที่ติดแบบผิดๆ เอาไว้
    แต่ด้วยบุญกุศลอันน้อยนิดที่พอจะมี
    จึงคิดว่า..ไม่อยากให้กระดุมเม็ดท้ายๆ ต้องถูกติดแบบผิดๆไปด้วย
    โดยยอมหยุดความผิดนั้นไว้ที่ตนเอง

    ไม่ต้องการถ่ายทอดความผิดพลาดจากกระดุมเม็ดแรก ไปสู่กระดุมเม็ดสุดท้าย

    กระดุมเม็ดกลาง...คงได้แต่คิด
    เพราะกระดุมเม็ดแรกช่างติดแน่นเสียเหลือเกิน





     
  2. Yosita said:

    Re: กระดุมเม็ดกลาง...ที่ยังคงหลงทางอยู่ร่ำไป

    อ๋อ............เข้าใจแล้วค่ะ
    ไม่ต้องทำตามอย่างเค้า ให้จบที่เรา และเริ่มใหม่ที่เราใช่มั้ยค่ะ
     
  3. Yosita said:

    Re: กระดุมเม็ดกลาง...ที่ยังคงหลงทางอยู่ร่ำไป

    แล้วตัวหนูเปรียบเหมือนกระดุมเม็ดท้ายๆใช่ม่ะค่ะ
     
  4. nakamol said:

    Re: กระดุมเม็ดกลาง...ที่ยังคงหลงทางอยู่ร่ำไป

    สวัสดีค่ะ น้อง Yosita

    อ้างอิง โพสต์ต้นฉบับโดยคุณ Yosita
    อ๋อ............เข้าใจแล้วค่ะ
    ไม่ต้องทำตามอย่างเค้า ให้จบที่เรา และเริ่มใหม่ที่เราใช่มั้ยค่ะ
    ใช่แล้วค่ะ
    แต่ใครจะเป็นคนที่กลับไปแก้ไขกระดุมเม็ดแรกๆ ให้กลับมาติดได้อย่างถูกต้อง
    เพื่อที่กระดุมเม็ดต่อๆ ไปจะได้ติดเรียงกันใหม่ได้อย่างสวยงามนะคะ

    อ้างอิง โพสต์ต้นฉบับโดยคุณ Yosita
    แล้วตัวหนูเปรียบเหมือนกระดุมเม็ดท้ายๆใช่ม่ะค่ะ
    ที่ nakamol บอกว่าตัวเองเหมือนกระดุมเม็ดกกลาง
    เพราะว่า nakamol อยู่ในฐานะที่เป็นทั้งลูกและแม่น่ะค่ะ

    สิ่งอันใดก็แล้วแต่ ที่กระดุมเม็ดแรกถูกติดผิดๆ มา
    กระดุมเม็ดกลางจะไม่ยอมให้การติดที่ผิดนั้นได้ถ่ายทอดไปสู่กระดุมเม็ดท้ายๆ
    ทีนี้กระดุมเม็ดแรกช่างติดแน่นเหลือเกิน
    กระดุมเม็ดกลางเลยนั่งกลุ้มอยู่เรื่อยมาและไม่รู้ว่าจะแก้ไขได้เมื่อไหร่

    อยากที่จะหยุดความผิดพลาดเหล่านั้นไว้ที่ตนเองน่ะค่ะ
    ไม่ส่งต่อทั้งเวรและกรรมใดๆ ให้ลูกให้หลาน

     
  5. *8q* said:

    Re: กระดุมเม็ดกลาง...ที่ยังคงหลงทางอยู่ร่ำไป

    กรรมที่ทำ กรรมนั้นเป็นของใคร

    บุษบง ขอเรียนถามเรื่องที่เคยฟังมาว่า ในเรือที่จะล่ม จะต้องย้ายมาอยู่ในเรือเล็ก ซึ่งถ้า

    คนเกินมาคนหนึ่ง เรือเล็กนั้นก็ไม่สามารถนำคนกลับไปสู่ฝั่งได้ ก็มีการจับฉลากกัน ก็

    กลายเป็นภรรยาของกัปตันเรือที่จะต้องกระโดดน้ำไป เพื่อให้เรือไปสู่ฝั่งได้ สามีทนไม่

    ได้ที่จะเห็นภรรยาทุรนทุราย ก็มีการถ่วงน้ำเพื่อให้ตายเร็วขึ้น และมีกล่าวต่อไปว่า

    ผู้หญิงคนนั้นได้รับกรรมนั้นเพราะเคยถ่วงคอสุนัขไว้ ทีนี้ดิฉันก็คิดว่า กรรมที่ผู้หญิงได้

    รับเพราะเคยถ่วงคอสุนัขไว้ ส่วนสามีที่ทำกับภรรยา จะเป็นการเริ่มวิบากต่อไป ใช่ไหม

    คะ หรือจะเป็นอย่างไร

    สุ. อันนี้ไม่ต้องไปถึงคู่นั้นนะคะ คู่นั้นแสนนานมาแล้ว สามี ภรรยา สุนัข เป็นเรื่อง

    ราวเยอะแยะใหญ่โต กรรมที่ทำแล้วเป็นของใคร กรรมที่แต่ละคนทำ เป็นของใคร

    บุษบง เป็นของแต่ละคนที่ทำขณะนั้น

    สุ. เป็นของตัวเองใช่ไหมคะ เท่านี้พอไหมคะ หมายความว่าผู้ใดทำกรรมใดแล้ว

    อกุศลจิตเกิด อกุศลกรรมได้สำเร็จลงไปแล้ว มีเหตุเกิดแล้ว ผลต้องมี ถ้าเราปลูกต้น

    มะม่วง ทิ้งไว้ก็ต้องเจริญเติบโตและมีผล เพราะฉะนั้นกรรมที่ได้ทำแล้วก็เป็นเหตุที่จะทำ

    ให้เกิดผล เมื่อไรก็ได้ ชาติไหนก็ได้ แต่ให้ทราบว่า เราทำเอง

    นี่เป็นเหตุที่ทุกคนจะไม่หวังพึ่งคนอื่น จะมีความมั่นคงในเรื่องของกรรม จะเป็น

    ผู้มีเหตุมีผล ไม่เชื่อง่ายๆ ไม่ต้องไปไหว้ใคร หรือทำอะไรใคร เพื่อให้เขาช่วยให้เราพ้น

    จากกรรมที่เราทำแล้ว ซึ่งเป็นไปไม่ได้ คือ อกุศลกรรมเป็นเหตุให้เกิดอกุศลวิบาก คือ

    ผลของอกุศล ถ้าเป็นกุศลกรรมก็เป็นเหตุให้เกิดกุศลวิบาก คือผลของกุศล แล้วเราจะ

    เห็นพระมหากรุณาคุณที่ทำให้เราเข้าใจถูก ไม่ไปโทษคนอื่น ไม่ได้ไปคิดว่า คนนั้นทำ

    ให้เรา คำพูดนี้จะไม่มีเลย หรือทำไมถึงต้องเกิดกับเรา ใช่ไหมคะ ก็เพราะต้องเกิดกับเรา

    เพราะเราทำมาแล้ว ได้ทำกรรมไว้แล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งนั้นก็ต้องเกิด ไม่ว่าชีวิตของเรา

    จะได้สุขหรือทุกข์ ได้ลาภหรือเสื่อมลาภ ได้ยศหรือเสื่อมยศ สรรเสริญหรือนินทา สุข

    หรือทุกข์ ไม่ใช่เพราะคนอื่นทำ แต่เป็นกรรมของเราเองที่ได้ทำแล้ว

    อย่างนี้ก็สบายใจ ใช่ไหมคะ ไม่ไปโกรธคนอื่น ไม่มีศัตรู เพราะว่าไม่มีใครทำให้

    นอกจากกรรมของเราจริงๆ


    http://www.dhammahome.com/front/audio/show.php?id=8147
    ก่อนเกิดใครเป็นเรา<br />เมื่อเกิดแล้วเราเป็นใคร<br /><br />สิ่งที่ทำอยู่คือกรรมใหม่<br />ผลที่ได้รับคือกรรมเก่า<br /><br />ฟังในสิ่งที่ไม่ได้ยิน<br />มองในสิ่งที่ไม่เห็น<br />ทำในสื่งที่ไม่มี
     
  6. nakamol said:

    Re: กระดุมเม็ดกลาง...ที่ยังคงหลงทางอยู่ร่ำไป

    "กรรมที่ทำแล้วเป็นของใคร กรรมที่แต่ละคนทำ เป็นของใคร"

    เป็นของตัวเราเอง แน่นอน 100 % เลยค่ะ
    กระดุมเม็ดกลางเลยเลือกที่จะหยุดที่ตัวเอง...ไม่โทษใคร
    ไม่ถ่ายทอดความผิดพลาดไปสู่ลุกหลานที่เปรียบเหมือนกระดุมเม็ดท้ายๆ

    แต่ว่า...ยังค้างคาที่เม็ดแรกยังคงติดไม่ตรง

    เสื้อสวยๆ ตัวนั้น เลยดูประหลาดๆ ไม่น่ามอง
    เพราะกระดุมติดแบบผิดแถวน่ะค่ะ

    *ตาม link ไปฟังการสนทนามาแล้วนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะคุณ*8q*
    ทำให้ระลึกถึงอาจารย์ท่านหนึ่งในเว็บนี้ ท่านมักจะส่งมอบ link ดีๆ มาให้ศึกษาเพิ่มเติมเสมอๆ

    ขอบพระคุณค่ะ
     
  7. Admax said:

    Re: กระดุมเม็ดกลาง...ที่ยังคงหลงทางอยู่ร่ำไป

    อ้างอิง โพสต์ต้นฉบับโดยคุณ nakamol
    "ถ้าติดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อ ๆ ไปก็ผิดหมด"
    รู้สึกว่าตัวเองเป็นไปตามสำนวนนี้ค่ะ
    เป็นกระดุมเม็ดกลาง
    ที่คล้ายกับถูกบังคับให้เป็นไปตามกระดุมเม็ดแรกที่ติดแบบผิดๆ เอาไว้
    แต่ด้วยบุญกุศลอันน้อยนิดที่พอจะมี
    จึงคิดว่า..ไม่อยากให้กระดุมเม็ดท้ายๆ ต้องถูกติดแบบผิดๆไปด้วย
    โดยยอมหยุดความผิดนั้นไว้ที่ตนเอง

    ไม่ต้องการถ่ายทอดความผิดพลาดจากกระดุมเม็ดแรก ไปสู่กระดุมเม็ดสุดท้าย

    กระดุมเม็ดกลาง...คงได้แต่คิด
    เพราะกระดุมเม็ดแรกช่างติดแน่นเสียเหลือเกิน

    ที่คุณคิดว่าคุณเป็นแบบนั้นก้อไม่ผิด เป็นความรู้สึกที่คุณมีต่อความแนวคิดนี้ของท่าน..แล้วน้อมมองย้อนดูตนเอง


    แตในมุมมองความคิดผมมันแตกต่างนิดนึงอะครับ ในสิ่งที่คุณเปรียบเทียบตัวคุณกับประโยคนี้คือว่า..
    - ถึงจะบอกว่ากรรมใครกรรมมัน ไม่โทษใคร สุดท้ายก้อโทษให้กระดุมเม็ดแรกว่านำทางมาผิด แล้วยกตนเองขึ้นเป็นเม็ดกลาง เพื่อที่จะพ้นจากผิดที่จะทำให้ต่อยอดออกไป
    - ที่ยังโทษให้กระดุมเม็ดแรก ก้อแสดงว่ายังไม่ยอมรับการกระทำของตน ที่กระทำตามที่เชื่อและศรัทธาตามที่ถูกปลูกฝังมา เมื่อตนเองรู้ว่าผิดแก้ที่ตนเองแล้วตั้งใจทำให้มันถูกก้อพอ แต่การชี้ว่ากระดุมเม็ดแรกผิด ตนเองจึงได้ผิดตามก้อเหมือนรู้ว่าตนคล้อยตามมาผิดทางแล้ว กลับโยนความผิดนั้นให้กระดุมเม็ดแรกที่ตนเองหวังพึ่งพามาตั้งแต่ต้นเพื่อต่อยอดให้ตนเอง
    - ที่กระดุมเม็ดกลางยังโยนให้กระดุมเม็ดแรกผิด..เพราะกระดุมเม็ดกลางนั้นหวังพึ่งพากระดุมเม็ดแรกก่อนเพื่อส่งทุกอย่างมาที่ตนเอง..กระดุมเม็ดกลางไม่ได้พึ่งพาตนเองเลยกลับรอแต่พึ่งพากระดุมเม็ดแรก ดังนั้นการจะเป็นกระดุมเม็ดกลางที่ดีได้ ควรคิดพิจารณารู้จักแยกแยะ ถูก-ผิด ด้วยสติรู้จุดผิดพลาดที่ตนได้เดินตามมาผิดๆแล้วแก้ที่ตนก่อน
    ไม่ต้องหวังพึ่งพากระดุมเม็ดแรกให้เขาจะชี้ทางให้เดินเพื่อที่จะสร้างเส้นทางชีวิตของตนเองที่ดีที่ถูกต้องให้ตนเอง ยิ่งถ้าบอกว่าเป็นกระดุมเม็ดกลางเป็นกระดุมที่จะต่อยอดไปจนถึงเม็ดสุดท้ายแล้ว ก็ยิ่งควรที่จะใช้สติคิดพิจารณารู้จักแยกแยะ ถูก-ผิด ให้มากในการกระทำใดๆ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ดี ที่เป็นจริง ที่ถูกต้องนั้นๆไว้ชี้บอกกระดุมเม็ดถัดจากตนเหล่านั้นได้ยืนอยู่ในจุดที่ถูกต้อง และ ดีงาม

    - ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน อย่าหวังพึ่งพาคนอื่น
    แล้วทั้งๆที่ตนเองหวังความช่วยเหลือ เชื่อ-ศรัทธา และ รอการชี้แนวทางจากคนอื่นโดยไม่พึ่งพากำลังและสติปัญญาของตนเองแล้วจะโทษใคร ตนเอง หรือ คนที่ตนเองหวังจะพึ่งพาเขา

    ** ในความคิดผมนั้น.... นี่คือสิ่งที่พี่ 8q อยากให้คุณดูและเข้าใจ**

    - ในความเป็นจริงบางครั้งคนเราส่วนมากที่ติดกระดุมผิด มันไม่ใช่เพราะติดเม็ดแรกบนสุด เพราะถ้าติดเม็ดแรกบนสุดก่อนเราจะเห็นขอบปกเสื้อที่ตรงกันและติดได้ถูกต้องที่สุด แต่ส่วนมากคนเรามักจับเอาช่วงกลางเสื้อมาประกบกันแล้วติดกระดุมช่วงกลางก่อน จึงทำให้ไม่รู้จุดเริ่มต้นว่ามันตรงกัน หรือ ถูกต้องหรือไม่


    ถ้าพูดผิดอย่างไรหรือทำให้ไม่พอใจก้อขออภัยมันเป็นแค่ความคิดเห็น
    ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
    ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
    รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
    การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ
     
  8. nakamol said:

    Re: กระดุมเม็ดกลาง...ที่ยังคงหลงทางอยู่ร่ำไป

    ถ้าพูดผิดอย่างไรหรือทำให้ไม่พอใจก้อขออภัยมันเป็นแค่ความคิดเห็น
    ด้วยความเคารพและขอน้อมรับทุกความคิดเห็นค่ะ
    (แตกต่าง ไม่แตกแยก)

    ไม่ต้องการถ่ายทอดความผิดพลาดจากกระดุมเม็ดแรก ไปสู่กระดุมเม็ดสุดท้าย
    เป็นความสะเพร่าของ nakamol เอง ที่อาจจะเขียนกระชับเกินไป ซึ่งตามเจตนาแล้วมุ่งที่จะหมายถึง

    กระดุมเม็ดแรก = พ่อ,แม่

    กระดุมเม็ดกลางๆ = ตัว nakamol เอง

    กระดุมเม็ดท้ายๆ = คือลูกๆ หลาน ของ nakamol

    และที่กล่าวว่า "ไม่ต้องการถ่ายทอดความผิดพลาดจากกระดุมเม็ดแรก ไปสู่กระดุมเม็ดสุดท้าย"

    คือ อะไรที่รุ่นพ่อรุ่นแม่ได้ทำผิดพลาดเอาไว้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลและความจำเป็นใดๆ ก็ตาม
    กระดุมเม็ดกลางอย่าง nakamo จะไม่เอามาถ่ายทอดให้กระดุมเม็ดท้ายๆ อย่างเช่นลูกๆ หลานๆ
    ทั้งที่ตนเองได้รับความเสียใจ ความเจ็บแค้น คุ้นเคือง ที่ผู้ใหญ่สอนและส่งต่อสิ่งเหล่านั้นมาให้

    โดยเลือกหยุดเอาไว้ที่ตนเองค่ะ
     
  9. nakamol said:

    Re: กระดุมเม็ดกลาง...ที่ยังคงหลงทางอยู่ร่ำไป

    - ถึงจะบอกว่ากรรมใครกรรมมัน ไม่โทษใคร สุดท้ายก้อโทษให้กระดุมเม็ดแรกว่านำทางมาผิด แล้วยกตนเองขึ้นเป็นเม็ดกลาง เพื่อที่จะพ้นจากผิดที่จะทำให้ต่อยอดออกไป
    ด้วยความเคาพอีกครั้งค่ะ

    ไม่เคยเพ่งโทษว่าใครผิดนะคะ
    เพราะพิจารณาแล้วว่า ที่พ่อแม่ท่านเป็นมาอย่างนั้น
    เนื่องจากท่านก็เคยเป็นกระดุมเม็ดกลางมาก่อนเช่นกัน
    เพียงแต่ท่าน ไม่เลือกที่จะหยุดการส่งต่อแบบผิดๆ นั้น

    ที่ยังโทษให้กระดุมเม็ดแรก ก้อแสดงว่ายังไม่ยอมรับการกระทำของตน ที่กระทำตามที่เชื่อและศรัทธาตามที่ถูกปลูกฝังมา เมื่อตนเองรู้ว่าผิดแก้ที่ตนเองแล้วตั้งใจทำให้มันถูกก้อพอ แต่การชี้ว่ากระดุมเม็ดแรกผิด ตนเองจึงได้ผิดตามก้อเหมือนรู้ว่าตนคล้อยตามมาผิดทางแล้ว กลับโยนความผิดนั้นให้กระดุมเม็ดแรกที่ตนเองหวังพึ่งพามาตั้งแต่ต้นเพื่อต่อยอดให้ตนเอง
    เรื่องกรรมเป็นของใครก็ของคนนั้น สิ่งนี้เป็นเรื่องจริงแท้และแน่นอนที่สุดค่ะ

    จึงได้แต่พยายามจะแก้ไขเหตุการณ์ปัจจุบันให้ดีที่สุด
    โดยมีพื้นฐานของอดีตที่ผิดพลาด
    (แต่ไม่เพ่งโทษจริงๆ ค่ะ ว่าใคร ? ทำไมถึงผิด?)

    แค่รู้ว่ามีที่มาอย่างนี้นะ

    ที่กระดุมเม็ดกลางยังโยนให้กระดุมเม็ดแรกผิด..เพราะกระดุมเม็ดกลางนั้นหวังพึ่งพากระดุมเม็ดแรกก่อนเพื่อส่งทุกอย่างมาที่ตนเอง..กระดุมเม็ดกลางไม่ได้พึ่งพาตนเองเลยกลับรอแต่พึ่งพากระดุมเม็ดแรก ดังนั้นการจะเป็นกระดุมเม็ดกลางที่ดีได้ ควรคิดพิจารณารู้จักแยกแยะ ถูก-ผิด ด้วยสติรู้จุดผิดพลาดที่ตนได้เดินตามมาผิดๆแล้วแก้ที่ตนก่อน
    หยุด! สิ่งนี้ไงคะ ที่กำลังปฏิบัติอยู่
    ทั้งๆ ที่กระดุมเม็ดแรกยังไม่หยุดเสียด้วยซ้ำไปค่ะ


    - ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน อย่าหวังพึ่งพาคนอื่น
    แล้วทั้งๆที่ตนเองหวังความช่วยเหลือ เชื่อ-ศรัทธา และ รอการชี้แนวทางจากคนอื่นโดยไม่พึ่งพากำลังและสติปัญญาของตนเองแล้วจะโทษใคร ตนเอง หรือ คนที่ตนเองหวังจะพึ่งพาเขา
    รอการชี้แนวทางจากคนอื่น

    อย่างไรคะ ? ตรงนี้ไม่ค่อยเข้าใจจริงๆ ค่ะ
    nakamol ทำอย่างนั้นจริงๆ หรือคะ?

    .....

    ขอบคุณคุณ Admax จากใจจริง ที่กรุณาสละเวลาให้คำชี้แนะนะคะ

    ด้วยความเคารพค่ะ
     
  10. *8q* said:

    Re: กระดุมเม็ดกลาง...ที่ยังคงหลงทางอยู่ร่ำไป

    กระดุมหมายเอาบุคคลการติดกระดุมหมายเอาคำสอนการที่เราติดกระดุมผิดก็เหมือนการที่เราฟังคำสอนมาผิดๆ
    แต่พอเรารู้และเข้าใจว่ามันผิดเราก็เลิกติดกระดุมหรือเชื่อฟังคำสอนนั้นๆแล้วก็หันมาศึกษาหรือฟังคำสอนใหม่ที่ถุก
    (คำสอนเก่าก็ปล่อยให้ลบเลือนไป)แต่ถ้าเราเป็นผู้สอนต่อเราก็คงต้องเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่เสียถ้าหากกระดุมที่ติดผิดแล้วมันแก้ไขอะไรไม่ได้
    ก็คงเหมือนกรรมที่เราทำไว้แล้วนอกเสียจากเราหันมาทำกรรมใหม่ที่ดีกว่าเก่านั้นก็คือติดกระดุมให้ตัวเองและคนอื่น(สอน)พร้อมกับเสื้อตัวใหม่

    หรือทำกรรมใหม่นั้นเอง



    ยังไงก็เอาใจช่วยครับติดดีๆ


    งานนี้แย่งซีนจารย์เดฟอิอิ
    ก่อนเกิดใครเป็นเรา<br />เมื่อเกิดแล้วเราเป็นใคร<br /><br />สิ่งที่ทำอยู่คือกรรมใหม่<br />ผลที่ได้รับคือกรรมเก่า<br /><br />ฟังในสิ่งที่ไม่ได้ยิน<br />มองในสิ่งที่ไม่เห็น<br />ทำในสื่งที่ไม่มี