PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : กรณีของผมคือตายแล้วตกโลกันต์นรกเลยใช่ไหมครับ อ.เดฟ ?



sisima
12-12-2008, 02:07 PM
ผมยังมีเรื่องทุกข์ภายในใจอีกเรื่องที่ยังไม่เคยปรึกษา

ง่ายๆสั้นๆเลยนะครับ

ผมตบหัวพ่อผมเอง

เรื่องมันเกิดขึ้นสมัยเด็ก ตอนที่พ่อผมพาผม (น่าจะ 7 - 8 ขวบ) ไปที่ทำงาน แล้วพ่อก็พาผมไปดินร้านอาหาร

สั่งของกินอย่างหรู ตอนนั้นเกิดปวดท้อง ผมถามพ่อว่าเป็นอะไร

พ่อผมพูดเล่นตามประสาพ่อลูก

ตอนนั้นผมเดินไปอยู่ข้างพ่อ พ่อถาม ทำไมหละ ? ก็... (ประโยคหลังผมจำไม่ได้)

ตอนนั้นแหละ มือซ้ายผมตบหัวพ่อจังๆเลย

ไม่แรงมาก แต่ก็บอกไม่ได้ว่าตอนนั้นทำไปเพระความโมโหรึเปล่า

พอทำเสร็จ ความสำนึกของบาปก็มาทันที

หลังจากนี้ปลายปีต่อมา ผมได้เข้าห้องสมุด และพบกับคำว่า กรรมหนัก 4 ประการ

ข้อ 1 เลยคือ การทุบตีทำร้านบิดามารดา

ผู้ที่กระทำกรรมหนัก จะต้องตกลงสู่โลกันต์นรก ไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีกถาวร


กรณีของผมคือ ตกโลกันต์นรกอย่างเดียวแน่นอนใช่ไหมครับ อ.เดฟ

แม้ว่าเหตุการณ์นั้นพ่อผมจะไม่คิดมาก เพราะผมยังเด็กและยังไม่รู้เรื่อง แต่รู้แต่ว่าทำไปก็เลียนแบบการ์ตูนในทีวี

แต่ อ.เดฟก็มาตอบหลายๆกระทู้แล้วว่า ไม่ว่าคนๆนั้นจะทำบาปด้วยเจตนาก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี เด็กก็ตาม ผูใหญกตาม รู้ตัวก็ดี ไม่รู้ตัวก็ดี ยังไงซะ บาปก็ต้องเกิด

และภาพนี้กลับมาหลอกหลอนผมทุกครั้ง

ดังที่นรกจะตัดสินคนบาป สิ่งความผิดทั่จะย่อนกลับมาทำโทษในนรกก็คือจิตใจเราเอง เพราะบาปจะถูกบันทึกในจิตใจของเราเอง

แน่นอนว่า ปัจจุบ้นผมก็ยังรักพ่อ และยังหวงพ่ออยู่

ผมได้คิดแต่ว่า ก่อนตาย ต้องพยายามเก็บเงินให้ได้มากที่สุด แล้วก็จะลงทุนสร้างวัดด้วยตนเอง

ไม่ใช่หนีจากบาป แต่อย่างน้อย ก็พยายามสร้างความดีเพื่อให้มากกว่าผลบาปที่ทำไว้

เพราะบุญที่เราจะได้ ยิ่งเราลงทุนมาก ลงแรงมาก ผลบุญก็จะมากตามไปด้วย (ผมเข้าใจแบบนี้นะ)

และนี่ก็เป็นบาปเพียงอย่างเดียวที่ผมจำได้ขึ้นใจและไม่มีวันลืม

จำเรื่องกระทู้อายุสั้นที่ผมเคยมาถาม อ. เดฟได้ไหมครับ

ผมมานั่งคิดหลายครั้งแล้ว ที่ผมมีสิทธิอายุสั้น ก็คือผลบาปนี้แหละ สัตว์นรกอย่างผมจะได้ลงนรกไวๆ

แต่เพื่อมามั่นใจ ผมมาถาม อ.เดฟ อีกคร้งดีกว่า

กรณีของผม ยังไงก็ต้องลงนรกอยู่แล้วแน่อนใช่ไหมครับ

D E V
12-12-2008, 05:55 PM
อนันตริยกรรม หมายถึงกรรมหนัก
ซึ่งต้องรับผลของกรรมนั้นแน่นอนไม่มีกรรมอื่นใดแทรกคั่นได้ คือ...
1. มาตุฆาต...ฆ่ามารดา
2. ปิตุฆาต...ฆ่าบิดา
3. อรหันตฆาต...ฆ่าพระอรหันต์
4. โลหิตุปบาท...ทำร้ายพระพุทธเจ้าถึงขั้นทำให้ห้อพระโลหิตขึ้นไป
5. สังฆเภท...ทำสงฆ์ให้แตกแยก

อนันตริยกรรมนี้ ตัดทางสวรรค์ ตัดทางบรรลุมรรคผล
เพราะมีเอวจีนรกเป็นที่ไป ต้องรับผลของอนันตริยกรรมนี้เนิ่นนาน
แต่ก็ยังมีวันหมดวาระการให้ผล
ซึ่งหากหมดวาระให้ผลเมื่อไหร่
ก็สามารถที่จะเจริญมรรคผลต่อได้น่ะคับ

**************************************************

ส่วนที่กล่าวว่า...

แต่ อ.เดฟก็มาตอบหลายๆกระทู้แล้วว่า ไม่ว่าคนๆนั้นจะทำบาปด้วยเจตนาก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี เด็กก็ตาม ผูใหญกตาม รู้ตัวก็ดี ไม่รู้ตัวก็ดี ยังไงซะ บาปก็ต้องเกิด


คือ อันนี้ต้องแยกเป็นกรณีๆ ไปอ่ะนะคับ
ว่าอย่างไรคือเจตนา...อย่างไรคือไม่เจตนา
คงไม่ได้เหมารวมหมด
ต้องยกตัวอย่างเป็นกรณีๆ ไปจึงจะเห็นชัดอ่ะคับ
ทั้งนี้ เพราะส่วนใหญ่เราจะเข้าใจคำว่า เจตนาหรือไม่เจตนา คลาดเคลื่อนกันอยู่อ่ะคับ

สำหรับเด็ก ที่กระทำในสิ่งที่เป็นบาป
ก็ย่อมต้องเป็นอกุศลกรรมไม่มีข้อยกเว้น
ไม่ว่าจะเด็กทำ หรือ ผู้ใหญ่ทำ

แต่ทั้งนี้ เจตนาในขณะนั้นเป็นอย่างไร?
การกระทำด้วยเจตนาอ่อน เจตนาที่ไม่ชัดเจน
เจตนาที่ไม่ได้หวังให้เกิดผลอย่างนั้นจริงจัง
ก็ย่อมให้ผลต่างกันกับเจตนาที่มีกำลังมาก
หรือเจตนาที่มุ่งให้เกิดผลเช่นนั้นอย่างยิ่งอ่ะคับ

กรณีของคุณ sisima ตอนเด็กๆ
วัย 7-8 ขวบ ก็ยังไม่เดียงสานัก
เจตนาในขณะนั้นไม่ชัดเจน
ไม่ได้มุ่งหวังผลของการกระทำอย่างแรงกล้า
และก็ไม่ใช่อนันตริยกรรมแต่อย่างใดด้วย
แต่เป็นกตัตตากรรม คือกรรมสักว่าทำ
กรรมที่ทำด้วยเจตนาอ่อน ไม่ชัดเจน
ไม่ได้มุ่งหวังผลนั้นอย่างจริงจัง

ดังนั้น เลิกกังวลเรื่องอนันตริยกรรมเถอะนะคับ
เพราะการที่ย้ำคิดจนภาพนั้นวนเวียนอยู่ในใจตลอด
ขณะนั้นเองที่เป็นอกุศลจิตที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ทับถมเข้าไปอีก
แต่ควรหันมาดูแลท่าน กระทำแต่สิ่งดีๆ ให้กับท่าน
ภาพที่ควรปรากฏในใจคือภาพความดีที่ได้กระทำให้กับท่าน
เพราะทุกครั้งที่ภาพความดีปรากฏ
ก็เป็นกุศลจิตที่เกิดขึ้น อิ่มเอม ปีติ
แทนที่จะเป็นอกุศลจิตที่ขุ่นมัว เศร้าหมองอ่ะคับ

คงทราบดีอยู่แล้วใช่มั้ยคับ
ว่าจิตสุดท้ายก่อนตายหากเป็นอกุศลจิต
ไม่ว่าจะเป็นโลภมูลจิต โทสมูลจิต โมหมูลจิต...ก็มีทุคคติเป็นที่ไป
แต่หากจิตสุดท้ายก่อนตายเป็นกุศลจิต...ก็นำสู่สุคติอ่ะคับ

แต่ทั้งนี้ ไม่ใช่ว่าจะไปรอก่อนตายแล้วค่อยทำจิตให้เป็นกุศล
เพราะหากในทุกๆ วันมีแต่อกุศลจิต
ก็ไม่มีปัจจัยที่จะให้กุศลจิตมีกำลังเกิดได้ในขณะใกล้ตายเลย
เนื่องจากมีแต่ปัจจัยสั่งสมให้อกุศลจิตเกิดอยู่ตลอดน่ะคับ

ในชีวิตประจำวัน
เราสั่งสมสิ่งใด กุศลจิต หรือ อกุศลจิต
กระทำสิ่งใด กุศลกรรม หรือ อกุศลกรรม
เหล่านี้นี่เองที่เป็นการสั่งสมตามเหตุปัจจัยของเราเองอ่ะคับ


8) เดฟ

sisima
12-12-2008, 05:59 PM
ยอมรับเหมือนกันว่าทุกวันนี้ก็ไม่อยากทำอะไรที่มันผิดบาปไปมากกว่านี้แล้ว

ขอบคุณ อ.เดฟมากครับ