StromyNight
12-21-2008, 06:21 PM
ก้อนหิน หาดทราย และสายน้ำ
.....
1.คนบางคนเปรียบเหมือนรอยจารึกบนก้อนหิน
2.คนบางคนเปรียบเหมือนรอยขีดบนหาดทราย
3.คนบางคนเปรียบเหมือนรอยขีดบนสายน้ำ
เมื่อเธอโกรธใครสักคนหนึ่งไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เธอไม่ยอมสลัดความโกรธนั้นออกไปจากใจเสียที แต่กลับยินดีปล่อยให้ความโกรธซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรเลยนั้นฟักตัวอยู่ในความทรงจำส่วนลึกของเธออย่างนานแสนนานไม่รู้จบสิ้น
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานสักเพียงไรก็ตาม เธอก็ยังคงทะนุถนอมความโกรธของตัวเองต่อไปเสมือนหนึ่งมันเป็นลูกในไส้ของตัวเอง หรือบางทีนอกจากจะทะนุถนอมแล้ว ยังคอยเติมเชื้อไฟแห่งความโกรธด้วยการคิดถึงเหตุแห่งความโกรธนั้นซ้ำอีกวันหรือคืนละหลายๆครั้ง คนบางคนเลวร้ายยิ่งกว่านั้น เพราะชอบกอดความโกรธไว้กับตัวจนกระทั่งถึงนาทีสุดท้ายของชีวิตก็วางไม่ลง ปลงไม่เป็น และด้วยความโกรธที่เธอหอบหิ้วมันไปกับตัวจนวางวายทำลายขันธ์นั่นเอง เกิดในภพหน้าเธอจึงมีหน้าตาที่ไม่เป็นที่ชื่นชมของใครต่อใคร มีจิตใจที่ไม่ต่างกับบัวแล้งน้ำ ถ้อยคำของเธอก็ไม่รื่นหูชวนสดับตรับฟัง
คนที่โกรธใครแล้วลืมไม่ลง นี่แหละคือคนประเภทรอยขีดบนก้อนหิน
เมื่อเธอโกรธใครสักคนหนึ่งจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เธอไม่ยอมปล่อยให้ความโกรธทำร้ายตัวเองได้ถนัดถนี่นานวันนัก แต่พยายามที่จะใช้สติปัญญาสืบสาวหาสาเหตุแห่งความโกรธ แล้วในที่สุดสติปัญญาของเธอก็อยู่เหนืออารมณ์โกรธ สามารถขจัดความโกรธออกไปได้ภายในเวลาอันสั้น เหมือนกับเราเอาไม้ขีดเขียนไปบนหาดทราย ทิ้งไว้สักพักหนึ่ง คลื่นก็สาดซัดมาลบรอยขีดนั้นหายไป เหลือแต่ผืนทรายที่ว่างเปล่าเหมือนเดิม
คนที่โกรธใครแล้วไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองตกเป็นทาสของความโกรธนานๆ นี่แหละคือคนประเภทรอยขีดบนหาดทราย
เมื่อเธอโกรธใครสักคนหนึ่งจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เธอมีสติรู้เท่าทันความโกรธของตัวเองว่ามันเป็นเพียง อารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งไม่มีตัวตนอยู่จริง พอรู้ทันแล้วเธอก็ปล่อยวางมันลงได้อย่างฉับพลันทันทีเหมือนเมื่อเราเอาไม้ขีดลงไปบนสายน้ำ แล้วรอยขีดนั้นไม่คงอยู่ แต่ถูกสายน้ำกลืนหายไปภายในเวลาชั่วพริบตา
คนที่โกรธใครแล้วมีสติสามารถปล่อยวางความโกรธได้อย่างฉับพลัน นี่แหละคือคนประเภทรอยขีดบนสายน้ำ
คนประเภทนี้เองคือคนที่มีความสุขที่สุดในโลก เพราะเขาจะไม่ต้องทนทุกข์ตรมขมไหม้ในหัวอก เพราะถูกอสรพิษคือความโกรธมันคอยฉกกัดเอาทุกคืนทุกวัน
ครูขอถามว่า เธอเป็นคนประเภทไหน ก้อนหิน หาดทราย หรือสายน้ำ
อย่าลืมตอบครูตามความเป็นจริง
จากหนังสือธรรมะหลับสบาย http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/wink.gif
.....
1.คนบางคนเปรียบเหมือนรอยจารึกบนก้อนหิน
2.คนบางคนเปรียบเหมือนรอยขีดบนหาดทราย
3.คนบางคนเปรียบเหมือนรอยขีดบนสายน้ำ
เมื่อเธอโกรธใครสักคนหนึ่งไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เธอไม่ยอมสลัดความโกรธนั้นออกไปจากใจเสียที แต่กลับยินดีปล่อยให้ความโกรธซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรเลยนั้นฟักตัวอยู่ในความทรงจำส่วนลึกของเธออย่างนานแสนนานไม่รู้จบสิ้น
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานสักเพียงไรก็ตาม เธอก็ยังคงทะนุถนอมความโกรธของตัวเองต่อไปเสมือนหนึ่งมันเป็นลูกในไส้ของตัวเอง หรือบางทีนอกจากจะทะนุถนอมแล้ว ยังคอยเติมเชื้อไฟแห่งความโกรธด้วยการคิดถึงเหตุแห่งความโกรธนั้นซ้ำอีกวันหรือคืนละหลายๆครั้ง คนบางคนเลวร้ายยิ่งกว่านั้น เพราะชอบกอดความโกรธไว้กับตัวจนกระทั่งถึงนาทีสุดท้ายของชีวิตก็วางไม่ลง ปลงไม่เป็น และด้วยความโกรธที่เธอหอบหิ้วมันไปกับตัวจนวางวายทำลายขันธ์นั่นเอง เกิดในภพหน้าเธอจึงมีหน้าตาที่ไม่เป็นที่ชื่นชมของใครต่อใคร มีจิตใจที่ไม่ต่างกับบัวแล้งน้ำ ถ้อยคำของเธอก็ไม่รื่นหูชวนสดับตรับฟัง
คนที่โกรธใครแล้วลืมไม่ลง นี่แหละคือคนประเภทรอยขีดบนก้อนหิน
เมื่อเธอโกรธใครสักคนหนึ่งจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เธอไม่ยอมปล่อยให้ความโกรธทำร้ายตัวเองได้ถนัดถนี่นานวันนัก แต่พยายามที่จะใช้สติปัญญาสืบสาวหาสาเหตุแห่งความโกรธ แล้วในที่สุดสติปัญญาของเธอก็อยู่เหนืออารมณ์โกรธ สามารถขจัดความโกรธออกไปได้ภายในเวลาอันสั้น เหมือนกับเราเอาไม้ขีดเขียนไปบนหาดทราย ทิ้งไว้สักพักหนึ่ง คลื่นก็สาดซัดมาลบรอยขีดนั้นหายไป เหลือแต่ผืนทรายที่ว่างเปล่าเหมือนเดิม
คนที่โกรธใครแล้วไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองตกเป็นทาสของความโกรธนานๆ นี่แหละคือคนประเภทรอยขีดบนหาดทราย
เมื่อเธอโกรธใครสักคนหนึ่งจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เธอมีสติรู้เท่าทันความโกรธของตัวเองว่ามันเป็นเพียง อารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งไม่มีตัวตนอยู่จริง พอรู้ทันแล้วเธอก็ปล่อยวางมันลงได้อย่างฉับพลันทันทีเหมือนเมื่อเราเอาไม้ขีดลงไปบนสายน้ำ แล้วรอยขีดนั้นไม่คงอยู่ แต่ถูกสายน้ำกลืนหายไปภายในเวลาชั่วพริบตา
คนที่โกรธใครแล้วมีสติสามารถปล่อยวางความโกรธได้อย่างฉับพลัน นี่แหละคือคนประเภทรอยขีดบนสายน้ำ
คนประเภทนี้เองคือคนที่มีความสุขที่สุดในโลก เพราะเขาจะไม่ต้องทนทุกข์ตรมขมไหม้ในหัวอก เพราะถูกอสรพิษคือความโกรธมันคอยฉกกัดเอาทุกคืนทุกวัน
ครูขอถามว่า เธอเป็นคนประเภทไหน ก้อนหิน หาดทราย หรือสายน้ำ
อย่าลืมตอบครูตามความเป็นจริง
จากหนังสือธรรมะหลับสบาย http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/wink.gif