PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : พิจารณาการให้



Butsaya
01-07-2009, 07:10 AM
การให้มีหลายแบบแต่ละอย่างก็ที่กระทำในขณะนั้นก็ต่างวาระความรู้สึกของตัวเอง บ้างเราก็เต็มใจให้ แต่บางทีเราก็ไม่ได้ตั้งใจให้ แต่เราโดนหักคอซึ่งตัวเราเองยังไม่ทันตั้งใจคิดไว้เลย มีกรณีหนึ่ง เราให้เขานำเงินเราไปลงทุน แต่เขากลับนำเงินเราไปทำอะไรไม่รู้แล้วไม่ยอมคืน แล้วมาบอกเราว่าเขาเดือนร้อน แล้วเอาเงินก้อนนี้เราไปใช้โดยที่เราไม่ได้อนุญาติ ได้แต่ส่งข้อความมาให้ว่าจะคืนให้เมื่อเขาพร้อม เหตุนี้เมื่อไหร่ที่เราคิดถึงเรื่องนี้เราก็ไม่สบายใจทุกข์นี้ เราควรคิดอย่างไงค่ะ ให้มันเป็นกุศล หรือว่าหนี้ก้อนนี้เรายกให้เขาไปเลยอะค่ะ

D E V
01-07-2009, 01:38 PM
การให้ที่เป็นทานบารมี คือ ให้เพื่อประโยชน์แก่ผู้รับอย่างแท้จริง
โดยไม่หวังผลตอบแทน แม้แต่หวังว่าเค้าจะต้องชื่นชม ยกย่อง รักใคร่ สนิทสนม
ขณะใดที่เต็มใจให้ ให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ขัดเกลาความตระหนี่ออกจากจิตใจ คือการสั่งสมทานบารมี

บางครั้งเราก็ไม่เต็มใจให้...อาจจะยังไม่พร้อมที่จะให้
แต่ก็จำเป็นต้องให้ อาจด้วยความเกรงใจ หรือตัดความรำคาญ
หรือโดนหักคออย่างที่คุณบุษยากล่าวไว้
หรือให้โดยหวังผลตอบแทนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
การให้นั้นจึงไม่ใช่ทานบารมี
เป็นการให้ที่ไม่ประกอบด้วยกุศลจิต
หรืออาจเป็นกุศลจิตเพียงเล็กน้อย
เป็นกุศลที่มีอกุศลเป็นบริวาร
คือมีอกุศลเกิดร่วมหรือแทรกคั่น จึงเป็นกุศลที่มีกำลังอ่อน

ส่วนการที่เราให้เค้ายืมเงิน
แสดงว่าขณะนั้นเค้ากำลังเดือดร้อน
และเราก็มีจิตเมตตา กรุณา ที่จะสงเคราะห์ช่วยเหลือ
โดยให้ยืม...แต่มิได้ให้เลย
แต่ก็อาจมีเหตุบางประการที่ทำให้เมื่อถึงกำหนด
เค้ายังไม่สามารถหาเงินมาชดใช้คืนได้
ซึ่งถ้าเราไม่เดือดร้อนที่ต้องใช้เงินก้อนนั้น
ก็ควรผ่อนผันให้เวลาเค้าไปอีกซักระยะ
หรือถ้าคิดว่าเงินจำนวนนั้นไม่มากเกินไปนักสำหรับเรา
หากยกให้เค้าแล้วเราไม่เดือดร้อนอะไรนัก...ก็อาจยกให้เค้าไป
คิดเสียว่าช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดือดร้อนลำบากมากกว่าเราน่ะคับ

มีเพื่อนในห้องสทนาธรรมท่านนึง
ก็มีญาติมายืมเงินจำนวนหนึ่ง
ซึ่งเพื่อนท่านนี้ก็มีเงินเก็บไม่มากนัก
แต่ท่านยอมที่จะสละเงินเก็บส่วนนึง
เพื่อช่วยเหลือญาติ...โดยไม่คิดว่าจะได้เงินคืน
คือถ้าได้คืนก็ดี...ไม่ได้คืนก็ไม่เป็นไร
ซึ่งต้องขออนุโมทนากับเพื่อนผู้เสียสละท่านนี้เป็นอย่างยิ่งอ่ะคับ
(ถ้าเพื่อนผู้เสียสละท่านนั้นได้เข้ามาอ่าน ก็คงรู้ว่าได้ยกเรื่องของท่านมาเป็นอุทาหรณ์ อิอิ)

การช่วยเหลือผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งดีที่ควรกระทำ
แต่ก็ต้องดูกำลังของตนเอง ไม่ทำให้ตนเองและครอบครัวเดือดร้อน
ช่วยเท่าที่สามารถจะช่วยได้ตามกำลังน่ะคับ

ดังนี้แล้ว หากมีการช่วยหลือครั้งต่อไป
ก็ลองดูนะคับว่า เราสามารถช่วยได้แค่ไหน
เช่น ถ้าเพื่อนมายืมเงิน 200 บาท
ถ้าเราให้ยืม 200 บาท อาจทำให้เราลำบากเดือดร้อนได้
ก็ดูว่าแค่ไหนที่เราไม่เดือดร้อน เช่น อาจจะให้ซัก 100 บาท
แล้วบอกเพื่อนว่า เราไม่มีพอที่จะให้ยืม 200 บาทนะ
เพราะเราเองก็มีความจำเป็นต้องใช้เงินนั้นเช่นกัน
แต่เราสามารถที่จะให้ไปเลย 100 บาท โดยไม่ต้องมาใช้คืนน่ะคับ




http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/103.gif เดฟ

ทั่นยาย
01-07-2009, 05:19 PM
การให้มีแบบเต็มใจให้กับ ไม่เต็มใจให้ หากเต็มใจให้ก้อเท่าไหร่เท่ากัน
แต่หากไม่เต็มใจให้นี่ บาทเดียวก็ไม่อยากให้นะ จริงมั้ยคะแต่ส่วนมาก
การยืมนี่จะเป็นการให้ด้วยความไม่เต็มใจเสียส่วนใหญ่ค่ะ
เหมือนการใส่ซองผ้าป่าแหล่ะ ส่วนใหญ่ใส่กันแบบไม่ศรัทธาแต่เกรงใจ
เพราะเป็นซองผ้าป่าของเจ้านาย ขืนไม่ใส่สิมีหวังตายแน่ๆ
ดังนั้นเวลาไปทำงานที่ไหนบอกไปเล้ยว่าเป็นอิสลามกินหมูได้แต่ห้ามใส่ซอง อิ อิ

อืม..การให้แบบนี้มิได้ให้ด้วยความเต็มใจ บริสุทธิ์ใจ เรียกว่าให้โดยตกกระไดพลอยกระโจน
คือจำใจให้ ผู้ให้ก้อไม่สบายใจ รู้สึกเสียดายเงินที่ให้ไป เพราะมิได้เกิดศรัทธาที่จะให้
แต่ผู้รับสบายกระเป๋าเพราะได้เงินเค้าไปแล้วไม่ต้องคืน

ก้ออย่างที่คุณ DEV บอกนั่นหล่ะค่ะ หากเงินไม่มากก้อปล่อยเค้าไป แต่หากเป็นเงินก้อนโต
พอสมควรก้อให้เค้าผ่อนคืนมาเรื่อยๆ แบบตอดเอาคืนทีละนิดจนกว่าจะหมดค่ะ
เพราะคนแบบนี้ไม่สมควรได้อะไรไปแบบง่ายๆนักหรอกเดี๋ยวเคยตัวค่ะ
หากเห็นว่าทวงไม่ไหวจริงๆค่อยปล่อยไปค่ะ

แต่ที่คุณ DEV บอกว่าให้ไปแค่ 100 บาทแล้วไม่ต้องคืน ทั่นยายขอนุญาติแย้งนิ๊ดนะคะ
ที่จริงขั้นแรกบอกให้ยืมไปก่อน แต่ทำใจซะว่าหากไม่ได้คืนก้อไม่เป็นไร หากเค้าเอามาคืน
ให้ก็ดีไป แต่หากเค้าไม่คืนให้ก้อไม่เดือนร้อนใจ เพราะทำใจไว้แล้ว ใช่มั้ยคะ
ดีกว่าบอกยกให้เลยแต่แรกค่ะ เดี๋ยวทั่นได้ใจมายืมบ่อยๆล่ะแย่เลยอ่ะค่ะ จริงป่าว

ก้อแค่คุยให้คุณขำๆ จะได้ไม่เครียดน่ะค่ะ แต่หากเครียดมากขึ้นก้อ
โกยเถอะโยม.....http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/21.gif

D E V
01-07-2009, 06:22 PM
อ่ะคับ ก็คงขึ้นอยู่กับเจตนาในขณะนั้นน่ะคับ

การที่เค้ายืม 200 เราบอกให้ยืมแค่ 100
เค้าต้องดิ้นรนหาจากที่อื่นให้ได้อีก 100
จึงจะครบ 200 ตามความจำเป็นที่เค้าต้องใช้

ถ้าขณะนั้นเรามีจิตเมตตา กรุณา ต่อเค้าอย่างเต็มที่
การที่เราบอกให้เค้ารู้ว่ายกให้เลย 100
ก็เท่ากับช่วยแบ่งเบาภาระเค้า และให้เค้าได้วางใจ สบายใจ
ให้เค้าได้รู้ว่าไม่ต้องห่วงกังวลกับการเป็นหนี้เราในส่วนนี้
เพราะเราตั้งใจช่วยเหลือจริงๆ

ทั้งนี้ทั้งนั้น จึงขึ้นกับเจตนาของเราเป็นสำคัญน่ะคับ
ว่าจะวางใจไว้ว่าได้คืนก็ดี ไม่ได้คืนก็ไม่เป็นไร
หรือตั้งใจว่าจะยกให้อย่างอย่างแท้จริงอ่ะคับ

ความต่างกันของการวางใจทั้งสองนั้นคือ
เมื่อตั้งใจยกให้โดยบริสุทธิ์ใจ และบอกกล่าวความตั้งใจจริงให้เค้ารู้
ก็เป็นทานบารมี อีกทั้งมีการกล่าววาจาแท้จริงตรงกับเจตนาที่ต้องการยกให้
ซึ่งก็เป็นสัจจวาจาน่ะคับ



http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/36.gif เดฟ

Butsaya
01-07-2009, 06:30 PM
ขอบคุณพี่เดฟ กะ ทั่นยายนะคะ ที่ช่วยตอบกระทู้นี้นะคะ http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/23.gif เงินที่ให้ไปไม่ใช่น้อยอะค่ะ มันแยะพอสมควรค่ะ แล้วเท่านั้นไม่พอมันกลับมาทำความเดือนร้อนให้เราอีก คือกลายเป็นเราให้เขาไปแล้วกลายเป็นเราเดือนร้อนแทนเขา เขาก็สบายไป อีกอย่างเราก็ติดต่อเขาไม่ได้เลย ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตนะคะ ว่าการให้แล้วไม่คิดก่อน ไม่ตรองเอาไว้ก่อน คนที่ต้องทุกข์หรือเดือนร้อนจะเป็นตัวเราเองนี่ล่ะค่ะที่โดนสิ่งนี้ลงโทษเต็ม ๆ อยากถามต่อว่า แล้วพี่ที่เขาเอาเงินเราไปนี้ เขาทำบาปแค่ไหนอะค่ะ หรือว่าเขาต้องโดนกรรมด้านไหนถ้าเขาทำกับคนที่บริสุทธิใจจิง เพราะการให้ในตอนแรกนี้ คนให้ไม่มีเจตนาให้เขา แต่ให้เอาไปทำประโยชน์ แต่เขากลับไม่ได้เอาไปทำประโยชน์ในส่วนที่เราตกลงกันไว้ แล้วไม่บอกกล่าวด้วยนะคะ

* แล้วสัจจวาจาแบบนี้ เราตั้งจิตอธิฐานขอพรได้มัยค่ะ พี่เดฟ http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/26.gif

ทั่นยาย
01-07-2009, 09:19 PM
อนุโมทนาในกุศลจิตของคุณ DEV ผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์นั้นอย่าว่าแต่โยน
หินลงไปเลยแม้แต่โดยด้วยพายุกระหน่ำจิตนั้นก็ใสกระจ่างไม่มีขุ่นเคืองฉะนี้แล
เพราะท่านคิดในทางบวกตลอด จึงนิรทุกข์อยู่เสมอ สาธุ

สรุปว่าเคสนี้ไม่ใช่การขอยืมเงิน แต่เป็นการโกงกันซึ่งๆหน้าซะงั้น ใช่มั้ยคะ
ทั่นยายเคยโดนเคสแบบนี้แหล่ะเงินที่เรากำลังจะใช้มีคนมาเอาไปใช้ก่อน
พอถามว่าจะคืนให้เมื่อใด คำตอบคือมีแล้วจะคืนให้เองไม่ต้องมาทวงหรอก
ทำไงล่ะทีนี้ต้องมานั่งคิดว่าจะไปหาเงินจำนวนนี้มาจากไหนดี เพราะจำเป็น
ต้องใช้ด่วนด้วยสิ สภาวะจิตแบบนี้คงจะทำใจให้เป็นกุศลจิตได้ยากเพราะ
ไม่ใช่ความผิดของเราแต่ไหงต้องมารับกรรมแบบนี้ด้วยล่ะ พอพูดถึงกรรม
ก้อสะดุจกึก เออจริงด้วยสิหรือเราเคยไปทำกรรมอะไรกับเค้ามาก่อนหนอ
เคยไปโกงเค้ามาก่อนรึป่าวหนอ หรือเคยไปทำอะไรให้เค้าเดือนร้อนมาก่อน
หรือเปล่าหนอ พอคิดได้เช่นนี้จิตที่ร้อนรนเริ่มเย็นลง แต่ยังไม่ดับสนิทเสียทีเดียว
แล้วเริ่มทำใจยอมรับสภาวะแห่งทุกข์ที่เราคิดว่าราไม่ได้ก่อนั้น แต่ที่จริงแล้ว
ใครจะบอกได้ว่าโยงใยแห่งกรรมนั้นใครเป็นผู้เริ่มต้น....และจะจบลงเมื่อใด

งานนี้คุณต้องเข้มแข็งนะคะ อย่าท้อแท้ อย่าเครียด อย่าใช้อารมร์แก้ปัญหา
พยายามคิดหาทางออกเพื่อแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด ปัญหาจะได้ไม่บานปลายค่ะ
พยายามหาทางหมุนเงินมาให้ได้ส่วนหนึ่งก่อน จากทรัพย์ที่มีอยู่
หรือจากญาติพี่น้องก้อตาม แล้วค่อยทำงานใช้หนี้กรรมต่อไปค่ะ
อีกนิดค่ะแนะนำให้คุณทำบุญหยอดตู้ในวัดบ่อยๆ หรือให้เงินขอทานบ่อยๆค่ะ
จะ10-20 บาท แล้วแต่ศรัทธาค่ะ มุมมองทางโลกเป็นการแก้เคล็ดขัดยอก
เอ้ย แก้เคล็คที่คุณจะต้องเสียทรัพย์ตะหาก มุมมองทางธรรมเป็นการต่อยอด
บุกุศลไปเรื่อยๆ ผลบุญจะคุ้มครองคุณเอง ให้คุณมีแต่ความสุขความเจริญค่ะ

แนะนำตามที่พระท่านเคยแนะนำมาค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ปัญหาจบลงด้วยดี
ให้เค้าเอาเงินมาคืนโดยเร็วค่ะ

D E V
01-08-2009, 11:03 AM
อ่ะคับ ก็คงเป็นบทเรียน เป็นประสบการณ์หนึ่งในชีวิต
เป็นเครื่องเตือนให้ระมัดระวังยิ่งขึ้นในครั้งต่อๆ ไปอ่ะคับ

คงเคยได้ยินใช่มั้ยคับที่ว่า ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ไม่โกง
คืออยากได้ก็ให้ไปฟ้องเอา
เพราะไม่ได้ตั้งใจจะโกง แต่ยังไม่มีให้จริง ๆ
(ส่วนคนที่ตั้งใจโกงก็มีอยู่เยอะเช่นกันอ่ะนะคับ)

ดังนั้น เรามิอาจรู้ใจเค้าได้...เค้าอาจจะตั้งใจโกง
หรืออาจตั้งใจจะใช้คืนจริงๆ แต่ตอนนี้กำลังลำบาก
ก็เลยไม่รู้จะเอาที่ไหนมาคืนให้
อย่างน้อยเค้าก็ยังมีแก่ใจแมสเสจมาให้เราได้ทราบ
ถ้าวันไหนเค้ามี...เค้าก็อาจจะกระทำตามที่พูดไว้ (เมื่อไหร่ไม่รู้)
ก็ให้วางใจไว้ก่อนว่าคงไม่ได้คืนน่ะคับ (แต่ถ้าได้คืนก็ดีไป)

การที่เราต้องสูญเสียทรัพย์ไปโดยไม่ควรนี้...เป็นอกุศลวิบาก (ผล)
ถ้าเราไม่เคยกระทำอกุศลกรรมใดๆ (เหตุ)
ซึ่งเป็นปัจจัยให้ได้รับอกุศลวิบากอันสูญเสียทรัพย์ไปโดยไม่ควร
ผลนี้จะไม่เกิดแก่เราเลยน่ะคับ

ดังนั้น บางคนอาจจะโดนคนอื่นพยายามหลอกล่อฉ้อโกงอย่างไรๆ
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สำเร็จ...ไม่สูญเสียทรัพย์นั้นไป
หากแต่บางคนแม้จะระมัดระวังรอบคอบอย่างดีแล้ว
แต่ก็มีอันต้องสูญเสียทรัพย์นั้นไป...ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เช่น ไม่โดนเค้าโกง ก็อาจโดนไฟไหม้ หรือทำหล่นหายซะเอง ฯลฯ เป็นต้น

ส่วนคนที่ตั้งใจโกงผู้อื่นนั้นเป็นอีกส่วนนึง
ก็เป็นอกุศลกรรมที่ผู้นั้นกำลังกระทำ
ซึ่งเค้าย่อมต้องได้รับอกุศลวิบากเมื่อถึงวาระเช่นกันอ่ะคับ
(แต่ถ้าเราไม่มีอกุศลวิบากให้ต้องรับผลนี้...จะอย่างไรๆ เค้าก็โกงไม่ได้)

ดังนี้แล้ว หากเราระมัดระวังรอบคอบอย่างดีแล้ว
แต่ก็ยังมีอันต้องเสียทรัพย์นั้นไป...ก็ไม่ควรโกรธแค้นในเหตุนั้น
เพราะไม่ว่าจะมีใครโกงหรือไม่มีใครโกงก็ตาม
ทรัพย์นั้นก็ต้องมีอันสูญเสียไปอยู่ดีอ่ะคับ



http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/11.gif เดฟ

D E V
01-08-2009, 11:05 AM
สำหรับ สัจจะ หมายถึงความจริง
โดยนัยยะหนึ่งที่แสดงไว้ได้แก่

1. จริงใจ คือ ซื่อสัตย์
2. จริงวาจา คือ พูดคำจริง
3. จริงการ คือ กระทำจริง


สัจจวาจา ก็คือ การที่เรากล่าวคำจริง ไม่ปกปิดบิดเบือน
กระนั้นก็ต้องไม่ลืม ปิยวาจา ด้วยนะคับ
เพราะการกล่าวคำจริงนั้นไม่จำเป็นต้องแค่นแข็ง กระด้าง ก้าวร้าว
แต่สามารถกล่าวคำจริงที่นุ่มนวล สุภาพ อ่อนน้อม ได้อ่ะคับ

ส่วน สัจจบารมี หมายถึง ความซื่อสัตย์ ซี่งตรงต่อการตั้งใจเว้นสิ่งชั่ว
ซื่อสัตย์ต่อการเว้นการกระทำทุจจริตกรรมต่างๆ ทั้งทางกาย วาจา อาชีพ



อวิสํวาทนลกฺขณา สจฺจปารมี ฯ

สัจจบารมี ย่อมมีความไม่คดโกง เป็นลักษณะ







http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/11.gif เดฟ

D E V
01-08-2009, 11:11 AM
สำหรับ อธิษฐาน ไม่ได้แปลว่า การวิงวอน บนบาน ร้องขอ
อย่างที่เราๆ มักเข้าใจและใช้กันบ่อยๆ เสมอๆ
แต่อธิษฐานแปลว่า การตั้งใจมั่น มีเจตนามั่นคงแน่วแน่

การอธิษฐาน ก็คือ การที่ตั้งใจมุ่งมั่น
ตั้งเจตนาขึ้นอย่างมั่นคงแน่วแน่
ในการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จ
และมีการลงมือกระทำตามที่อธิษฐาน...จึงเป็นอธิษฐานบารมี

อาทิเช่น อธิษฐานว่า ขอให้สอบผ่าน
ก็หมายความว่ามีเจตนาแน่วแน่ที่จะสอบให้ผ่าน
และมีการลงมือกระทำตามที่อธิษฐาน เช่น ดูหนังสือ ติวเข้ม ฯลฯ เป็นต้น

อธิษฐานบารมีนี้ เป็นบารมีที่ไม่เกิดเดี่ยวๆ ตามลำพัง
แต่จะเกิดร่วมกับบารมีอื่นๆ เสมออ่ะคับ



http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/11.gif เดฟ

D E V
01-08-2009, 11:20 AM
สำหรับ พร หมายถึง คำที่แสดงถึงความปราราถนาดี
หรือ สิ่งอันประเสริฐ สิ่งที่บุคคลอำนวยให้ ประสงค์ให้ ด้วยความปรารถนาดี
หรืออีกความหมายหนึ่งคือ ประโยชน์หรือสิทธิอันอนุญาตให้ อำนวยให้ตามที่ขอ

อาทิเช่น นางวิสาขาทูลขอพร 8 ประการ จากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ลองมาดูกันนะคับว่า ท่านทูลขอพรจากพระพุทธองค์อย่างไรบ้าง


หม่อมฉันทูลขอประทานพร ๘ ประการ ต่อพระผู้มีพระภาค พระพุทธเจ้าข้า.

ภ. ตถาคตเลิกให้พรเสียแล้ว วิสาขา

วิ. หม่อมฉันทูลขอประทานพรที่สมควรและไม่มีโทษ พระพุทธเจ้าข้า

ภ. จงบอกมาเถิด วิสาขา

วิ. พระพุทธเจ้าข้า
สำหรับพระสงฆ์ หม่อมฉันปรารถนาจะถวายผ้าวัสสิกสาฎก
จะถวายภัตรเพื่อพระอาคันตุกะ
จะถวายภัตรเพื่อพระที่เตรียมจะไป
จะถวายภัตรเพื่อพระอาพาธ
จะถวายภัตรเพื่อพระที่พยาบาลพระอาพาธ
จะถวายเภสัชสำหรับพระอาพาธ
จะถวายยาคูประจำ
และสำหรับภิกษุณีสงฆ์ หม่อมฉันปรารถนาจะถวายอุทกสาฎก จนตลอดชีพ.

(คัดมาบางส่วนจาก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๕ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๕ มหาวรรค ภาค ๒ เรื่องนางวิสาขา มิคารมาตา)


เห็นมั้ยคับ ลองเปรียบเทียบพรที่นางวิสาขาทูลขอ
กับพรที่เราชอบขอกันอยู่บ่อยๆ ดูนะคับ ว่าเราขออย่างไรบ้าง อิอิ



http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/11.gif เดฟ

Butsaya
01-08-2009, 12:47 PM
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/1.gif ขอขอบคุณพี่เดฟมาก ๆ เลยนะค่ะ ที่ตอบให้ความกระจ่างอย่างละเอียด แต่มาสะดุดกระทู้สุดท้ายค่ะ ที่นางวิสาขาขอพร พระพุทธองค์ ชอบมากค่ะ จิง ๆ อ่านข้อธรรมะต่าง ๆ นี่ต้องใช้ปัญญาไปด้วยเหมือนกันนะคะ ไม่งั้นตีความไม่ออก http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/1.gif จิง ๆ ปัญหานี้ ถ้าพี่เขาไม่ส่งข้อความมา บุษยาก็จะไม่คิดอะไร ไม่ได้นึกถึง แต่พอเขาส่งมาก็อดที่จะนึกถึงไม่ได้ แต่เอาเป็นว่า จะทำตามคำแนะนำของพี่นะคะ สบายใจดี อิอิ..... http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/41.gif

Vipawee
01-09-2009, 11:32 AM
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Love/25.gif สาธุค่ะอาจารย์เดฟhttp://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Love/22.gif

http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Love/18.gif

*8q*
01-10-2009, 07:31 PM
โดนใจมากครับhttp://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cheesy.gifhttp://www.watkoh.com/board/Smileys/default/grin.gif

rain....
01-27-2009, 10:06 AM
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/41.gifสาธุ อนุโมทนามิhttp://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/63.gif

เรื่องราวดีๆเกิดขึ้นที่นี่เสมอ

ขอบคุณค่ะ

http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/79.gif













โดดเดี่ยว แต่ไม่เคยเดียวดาย