PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : น้ำ-จิต



*8q*
01-12-2009, 03:16 PM
ธรรมชาติของจิตและนํ้า
(พิจารณาเพื่อให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนขึ้น)


จิตนั้นเปรียบประดุจดั่งนํ้า อันไร้รูปร่าง และแปรปรวนไปตามภาชนะ จิตนั้นก็ไร้ตัวตนแปรปรวนไปตามสิ่งแวดล้อม(อายตนะภายนอก)ที่กระทบสัมผัส(ผัสสะ),

นํ้าประกอบด้วยปัจจัยต่างๆมาประชุมรวมกันชั่วระยะหนึ่ง จิตก็ประกอบด้วยเหตุปัจจัยอันมากหลายมาประชุมกัน ดังเช่น เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แม้กระทั่งกาย ฯลฯ.,

นํ้ามีคุณสมบัติไหลลงสู่ที่ตํ่าเพราะแรงดึงดูดโลก จิตก็มีคุณสมบัติเหมือนดั่งนํ้าที่ย่อมไหลลงสู่ฝ่ายที่ตํ่ากว่าคือตามแรงดึงดูดของความเคยชิน(สังขารในปฏิจจสมุปบาท)หรือกิเลสตัณหาแลอุปาทานที่ได้สั่งสมไว้นั่นเอง

ถ้าเราต้องการนํ้าให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้น ย่อมต้องออกแรงพยายามฉันใด จิตก็ย่อมต้องการความเพียรพยายามปฏิบัติฉันนั้น,

การ ยกระดับนํ้าโดยใช้ภาชนะหรืออุปกรณ์ที่ถูกต้องย่อมยกระดับนํ้าได้รวดเร็วฉัน ใด จิตก็ย่อมต้องการการปฏิบัติอันถูกต้องจึงยกระดับจิตให้สูงขึ้นเร็วฉันนั้น,

ธรรมชาติของนํ้าเดือดพล่านเพราะไฟฉันใด, ธรรมชาติของจิตย่อมเดือดพล่านเพราะไฟของกิเลสตัณหาอุปาทานฉันนั้น

นํ้าบริสุทธ์คือนํ้าที่ไม่มีสิ่งเจือปน, จิตบริสุทธ์ก็คือจิตเดิมแท้ที่ไม่เจือด้วยกิเลสตัณหาอุปาทานนั่นเอง หรือจิตเดิมแท้นั่นแหละคือจิตพุทธะ อันมีอยู่แล้วในทุกผู้คน เพียงแต่ถูกบดบังหรือครอบงําด้วยกิเลสตัณหาอุปาทาน

ทุกข์ของขันธ์๕ทางกายและใจ(เวทนา) นั้นเป็นสภาวะธรรมยังคงมีอยู่ แต่ไม่มี"อุปาทานทุกข์"
จริงๆแล้วที่มนุษย์ทั้งหลายเป็นทุกข์กันอยู่ทุกขณะก็คือ"อุปาทานทุกข์"นี้นั่นเอง แต่ไม่รู้จึงจําแนกไม่ออก
http://board.agalico.com/showthread.php?t=25980

ขอบคุนแล้วนะ