PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : ความรู้สึกไม่ชอบภายในใจ



Butsaya
01-14-2009, 10:05 AM
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Word_Negative/1.gif สงสัยตัวเองอะค่ะ เคยมัยค่ะ อยู่ ๆ เราก็ไม่ชอบใครบางคนโดยที่ไม่มีเหตุผล แล้วไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวด้วย แต่คนที่เราไม่ชอบเขาก็ไม่รู้ตัวว่าเราไม่ชอบ แต่เขาก็เข้ามาวุ่นวายกับเราอยู่นั่นล่ะ แบบนี้ยิ่งเขามาเข้าใกล้ยิ่งมีความรู้สึกขัดเคืองในใจ และเกิดอกุศลตลอดเวลา ก็เลยหันกลับมาว่า ทำมัยเราถึงมีความรู้สึกแบบนี้กับเขาอยู่ได้ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวว่าเราไม่ชอบเขาเอามาก ๆ แต่เราไม่ได้แสดงออกอะไร เพียงแต่หลบเลี่ยงแต่ก็ม่ะพ้นซะที ทำให้จิตใจเราคุ้นมั่ว จะทำไงดีค่ะ แล้วทำมัยถึงเกิดความรู้สึกนึกคิดแบบนี้ เป็นเวรเป็นกรรมกะเขามาหรือเปล่าค่ะถ้าเป็นแบบนี้ อะค่ะ

http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Word_Negative/6.gif

D E V
01-14-2009, 10:46 AM
บางครั้งเพียงแรกเห็น
ก็รู้สึกถูกอัธยาศัย...แต่บางครั้งก็รู้สึกไม่ถูกอัธยาศัย
เพราะแต่ละคนมีการสั่งมาต่างกัน ทำให้มีอัธยาศัยต่างกัน

ส่วนหนึ่งเคยกระทำกุศลร่วมกันมาในอดีต
หรือกระทำอกุศลร่วมกันมาในอดีต
เมื่อได้ผันมาประสบกัน (แม้แต่ละคนจะอยู่ในสภาพสมมุติบุคคลใหม่ที่ต่างจากอดีต)
แต่สิ่งที่ได้กระทำร่วมกันมาก็เป็นปัจจัย
ให้โน้มไปที่จะกระทำต่อกันดังที่เคยสั่งสมกระทำต่อกันมา

ส่วนหนึ่งคือการกระทำร่วมกันในปัจจุบัน
แม้ว่าอดีตจะกระทำอกุศลกรรมต่อกันมา
ทำให้โน้มไปที่จะการกระทำอกุศลต่อกันอีก
แต่หากปัจจุบันมีการอภัยต่อกัน เว้นการถือโกรธขุ่นเคืองต่อกัน
ก็สามารถที่จะเริ่มกระทำกุศลต่อกันอันเป็นการสั่งสมใหม่
แทนที่จะสั่งสมความขุ่นเคืองกระทำอกุศลต่อๆ กันไปอีก
หรือหากเคยกระทำกุศลช่วยเหลือเกื้อกูลกันมา
ก็ควรกระทำกุศลนั้นสั่งสมเกื้อกูลกันต่อไป
เพื่อเจริญยิ่งในกัลยาณมิตร
ตราบเท่าที่ยังเวียนว่ายในสังสารวัฏอ่ะคับ



http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/25.gif เดฟ

Butsaya
01-14-2009, 12:29 PM
ถึงแม้ว่าจะผ่านมา หลายภพ หลายชาติ นานมาก ๆ
ก็ยังคงจำความรู้สึกในอดีตส่งผลมาในปัจจุบันหรอค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ นอกจากวิธีที่เราทำกรรมดีร่วมกันแล้ว
มีวิธีไหนอีกมัยอะค่ะ เพราะการที่จะให้ทำกรรมดีร่วมกันนี้มันทำได้ แต่จิตมันจะไม่ไปด้วยกันกะการกระทำอะดิค่ะ http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Word_Greetings/1.gif

D E V
01-14-2009, 01:29 PM
เนิ่นนานในสังสารวัฏ
ที่ต่างก็สั่งสมกุศล-อกุศลต่างๆ
จนคุ้นชินเป็นอุปนิสัยของแต่ละคน

สิ่งใดที่ดี ก็ควรสั่งสมเจริญให้ยิ่งๆ ขึ้น
ส่วนสิ่งใดที่ไม่ดี หากไม่ค่อยๆ ลด ละ เลิกสิ่งนั้น
แล้วหันมาสั่งสมสิ่งที่ดีๆ แทน
ก็ไม่มีทางที่จะเริ่มสั่งสมใหม่ได้เลยคับ
ก็ยังคุ้นชินกับสิ่งเดิมๆ ที่ไม่ดีอย่างนั้นตลอดไปอ่ะคับ

ดังนั้น วิธีทั้งหลายแหล่ที่เรามักจะถามกันเสมอๆ
ว่าทำยังไงจึงจะยังงั้น...ทำยังไงจึงจะยังงี้
พยายามจะเสาะแสวงหาวิธีการต่างๆ นาๆ
เพื่ออยากจะให้ได้ผลมากๆ เร็วๆ ทันตาเห็น
แต่ก็อาจได้ผลเพียงชั่วครั้งชั่วคราวประเดี๋ยวประด๋าว
แล้วก็ต้องเสาะแสวงหาวิธีใหม่กันอีกต่อไปตลอดชีวิตไม่จบสิ้น
เพราะไม่ว่าวิธีใดๆ ก็ตาม...ก็ไร้ผล
ถ้าเราไม่แก้ที่กาย วาจา ใจ ของเราเอง
มีความเพียรที่จะประพฤติปฏิบัติอันเป็นไปในกุศลบ่อยๆ เนืองๆ
ไม่ใช่ทำแบบนิดๆ หน่อยๆ หรือคอยจะเกี่ยงนั้น เกี่ยงนี่
แต่หวังจะรับผลมากๆ...เหตุจึงไม่สมควรแก่ผล...ใช่มั้ยคับ



http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/1.gif เดฟ

Butsaya
01-14-2009, 01:57 PM
อะค่ะ ก็เป็นจิงอย่างที่พี่ว่า เพราะเราติดทางโลกแยะ คือชอบความสำเร็จรูป แบบไวไว มาม่าอะค่ะ อิอิ....
ยุคสมัยเปลี่ยนไป อะไร ๆ ที่เข้ามาให้เรียนรู้มันก็จะออกแนวนั้น ๆ ด้วย ตามสังคมธรรมชาติในยุคสมัยปัจจุบันอะค่ะ
ขนาดแต่ก่อนเราทำบุญต้องไปวัด แต่เดียวนี้ยังไม่ต้องเลยอะค่ะ สามารถคลิกผ่านจอคอมพิวเตอร์ก็สามารถทำบุญได้แล้วอะค่ะ
วิธีปฏิบัติ แนวคิด ต่างไปอะค่ะ มันไม่ค่อยละเอียดและปราณีตเหมือนยุคแรกๆ ความหยาบมีมากขึ้น
การทำอะไรก็เลยกายเป็นฉาบฉวย ใจเร็วด่วนได้ ไปซะงั้น
มันเลยทำให้ความปราณีตในจิตลดน้อยลง แต่ก็จะพยายามต่อไปค่ะ ต่อให้มากแค่ไหน ก็ขอให้จิตใจเราไปให้ถึงก็แล้วกันนะคะ อิอิ

http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Word_Positive/3.gif