PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : เที่ยวประเทศอินเดีย 20 - 26 กุมภาพันธ์ 2552



tanwakom
01-15-2009, 07:26 AM
http://www.watkoh.com/data/sangve4/img/sangve.jpg


รายการแสวงบุญในดินแดนพุทธภูมิระยะเวลา 7 วัน 6 คืน
วันที่ 20 - 26 กุมภาพันธ์ 2552

นำเสนอโดย หจก.สังคม ทัวร์
583 ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีฯ 80000


รายการโดยย่อ
สุวรรณภูมิ- คยา- พาราณสี- ลุมพินี(เนปาล)- กุสินารา –เวสาลี
นาลันทา –ราชคฤห์ - คยา - สุวรรณภูมิ



1) วันศุกร์ ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 ( แรม 11 ค่ำ เดือน 3) กรุงเทพฯ-คยา
04.00 น. ถึงสนามบิน พร้อมเช็คอินที่เคาน์เตอร์ เซ็คอิน ชั้น 4 ประตู 10 แถว W 1-5 โดย สายการบินดรุกแอร์ KB 123
05.40 น. เครื่องออกจากสุวรรณภูมิ สู่สนามบินคยา ทานอาหารเช้าบนเครื่องบิน
08.25 น. ถึง สนามบินคยา เช็คเอาท์ขึ้นสู่รถไปที่พัก พักที่โรงแรมตัชทาร์ภาร์(TAJDARBHAR)ทำธุระส่วนตัวเล็กน้อยขึ้นรถไปชมอนุสรณ์สถานบ้านนางสุชาดาผู้ถวายข้าวมธุปายาสมื้อก่อนตรัสรู้พร้อมทั้งแวะชมสถานที่ลอยถาดอธิษฐาน
11.00 น. กลับที่พักเพื่อฉันภัตตาหารเพล และพักผ่อนตามอัธยาศัย
14.00 น. ไปชมวัดนานาชาติมี
2
1) วัดภูฐาน เป็นวัดที่สวยงามมาก ศิลปะฝาผนังเป็นภาพปั้นนูน แสดงพุทธ ประวัติ ตั้งแต่พระมารดาทรงสุบินว่า มีพระยาช้างเผือกนำดอกบัวมาและเข้าสู่ พระครรภ์ของพระนาง จนกระทั้งพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพาน
2) วันทิเบต อีกวัดหนึ่งที่มีภาพฝาผนังสวยงามแต่เป็นภาพวาดเกี่ยวกับพระพุทธประวัติ ไม่เป็นภาพนูน
3) วัดญี่ปุ่น ไปชมพระพุทธรูปใหญ่ที่สุดที่คยา
4) วัดไทยพุทธคยา ซึ่งเป็นวัดที่เริ่มสร้างมาแต่ปี พ.ศ. 2500 มีอุโบสถเด่นสง่าจำลองรูปแบบจากวัดเบญจมฯ กรุงเทพฯ ภาพภายในอุโบสถเป็นภาพประวัติพระมหาชนกทรงบำเพ็ญวิริยบารมีพร้อมทั้งภาพสังเวชนียสถานทั้ง 4 ตำบล ซึ่งสามารถดูแบบมายาเทวีวิหารของเก่าได้ที่นี่ คณะของเราจะร่วมบุญกุศลตามสมควรแก่กำลังศรัทธา เพื่อช่วยกิจสงฆ์ที่นี่โดยการทอดผ้าป่า แต่จะทอดผ้าป่าหลังจากอาหารเย็นแล้ว
ได้เวลาพอสมควรนำคณะไปสู่บริเวณตรัสรู้ ณ บริเวณนี้ มีสิ่งต่างๆ น่าศึกษาเรียนรู้ดูชมและกราบไหว้ บูชา ดั้งนี้
ก) องค์พระมหาโพธิ์เจดีย์
ข) ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ค)พระแท่นวัชรอาสน์ บัลลังก์หญ้าคาที่ทรงอธิฐานประทับนั่งก่อนตรัสรู้และ ทรงเสวยวิมุตติสุขในสัปดาห์แรก.
ง) อนิมิสสเจดีย์ อนุสรณ์สถานที่พระพุทธองค์ทรงเสวยวิมุตติสุขตลอด 7 วัน ในสัปดาห์ที่ 2 โดยประทับยืนทอดพระเนตรต้นพระศรีมหาโพธิ์และไม่กระพริบพระเนตร
’ จ) รัตนจงกรมเจดีย์ ด้านทิศเหนือขององค์พระมหาเจดีย์มีรัตนจงกรมเจดีย์ อนุสรณ์ พระพุทธองค์ทรงเสวยวิมุติสุขในสัปดาห์ที่ 3 โดยเสด็จจงกรมที่นี่
ช) สระมุจจลินทร์จำลอง ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของพระเจดีย์ (สระมุจจลินทร์จริง อยู่ ห่างจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ไปทางทิศใต้ประมาณ 2 กม. และต้นเกตุก็อยู่ทางทิศใต้ห่างไปอีก ประมาณ 1 กม. คณะของเราไม่นำไป)
คณะนำกล่าวบูชาองค์พระเจดีย์ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ตลอดจนไหว้พระ สมาธิ ภาวนาอธิฐานจิต ฟังปรารภธรรม พอสมควรแก่เวลา ลุกขึ้นทำประทักษิณ รอบองค์พระมหาเจดีย์และพระศรีมหาโพธิ์ 3 รอบ ได้เวลาสมควรกลับที่พัก พระฉันน้ำปานะ ฆราวาสทานอาหารเย็น เสร็จแล้วพร้อมกันที่โรงอุโบสถวัดไทยพุทธคยาเพื่อถวายผ้าป่า อนุโมทนาบุญเรียบร้อยแล้วจะกลับไปพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือจะไปช็อปปิ้งบริเวณย่านการค้าข้างโพธิมณฑลซึ่งสามารถไปเองได้โดยสะดวกก็ได้ตามอัธยาศัย
3
2) วันเสาร์ ที่ 21 มีนาคม 2552 (แรม 12 ค่ำ เดือน 3) คยา – พาราณสี
06.00 น. หลังจากภัตตาหารเช้าแล้วเดินทางต่อไปแคว้นกาสีเมืองพาราณสี มุ่งสู่ป่อิสิปต- นมฤคทายวันหรือที่เรียกว่า สารนาถ ในปัจจุบัน
14.00 น. คณะถึงสารนาถ เข้าพักที่ วัดไทยสารนาถ ซึ่งอยู่ใกล้กับสถูปมากที่สุดกล่าวคือใกล้ป่าอิสิฯ ณ เมืองนี้มีสิ่งน่าดูชมและนมัสการหลายอย่าง เช่น
1) เจาคัณทีสถูป สถานที่พระพุทธองค์พบกับปัญจวัคคีย์ครั้งแรกก่อนจะทรง แสดงปฐมเทศนา
2) พิพิธภัณฑ์สารนาถ เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาปางปฐมเทศนา ที่สวยที่สุดในโลก
3) นิวมูลคันธกุฏี วิหารที่ชาวศรีลังกาสร้างไว้รูปทรงภายนอกคล้ายๆพระมหา เจดีย์พุทธคยา ภายในวิหาร โถงประดิษฐานพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาที่สร้างขึ้นใหม่สวยงามอีกองค์หนึ่งเช่นกัน
4) โพธิ์ลังกา บริเวณโพธิ์ลังกานี้มีสิ่งสำคัญ คือ
4.1) ระฆังยักษ์ ซึ่งชาวทิเบตสร้างไว้
4.2)พระธัมมจักกัปวัตตนสูตรที่จารึกไว้ในหินอ่อน ซึ่งถูกจารึกไว้ในอักษรชาติ ต่างๆ เช่น อักษรไทย จีน ญี่ปุ่น พม่า ศรีลังกา เป็นต้น.
4.3) พระพุทธรูปของพระพุทธเจ้า 28 องค์
4.4) พระพุทธรูปพระพุทธเจ้ากำลังแสดงพระธรรมแก่พระปัญจวัคคีย์
5) รูปเหมือนของอนาคาริกธัมมปาล บุรุษผู้กู้พระพุทธศาสนาในอินเดีย ทำให้เรา ชาวพุทธได้กราบไหว้สังเวชนัยสถานได้อีกในเวลานี้
6) วัดไทยสารนาถ เป็นวัดไทยที่มีห้องพักที่สะอาด ห้องน้ำภายในห้องพักมีน้ำร้อนน้ำเย็นให้อาบ คณะเราเข้าดูอุโบสถที่สวยงาม ทั้งพระประธานศิลาใน โบสถ์และนอกโบสถ์ พร้อมทั้งพระพุทธรูปยืนที่กำลังสร้างอยู่ในขณะนี้ด้วย และเราก็พักกันที่นี่
7) ธัมเมกขสถูป พระสถูปสำคัญอนุสรณ์สถานที่ทรงแสดงปฐมเทศนา
8) ธัมมราชิกสถูป พระสถูปเป็นอนุสรณ์สถานที่ทรงแสดงอนัตตลักขนสูตร
9) ปัญจายตนเจดีย์ สถานที่พระยสะพบพระพุทธองค์ครั้งแรก
10) มูลคันธกุฏี สถานที่พระพุทธองค์ประทับขณะเสด็จอยู่ป่าอิสิฯ
11) เสาศิลาจารึกพระเจ้าอโศก
12) ซากอาคารกุฏิพระสงฆ์
13) สวนกวาง
4
คณะของเราจะเข้าชมและนมัสการสิ่งต่างๆเหล่านี้ตามสมควรแก่เวลาที่มี พร้อมทั้งสวดพระธัมมจักกัปปวัตตนสูตร สมาธิภาวนา เวียนเทียนรอบองค์ธัมเมกขสถูป จบแล้วกลับที่พัก ทานน้ำปานะ อาหารเย็นตามแต่กรณี สำหรับผู้ประสงค์ซื้อผ้ากาสีก็สามารถหาซื้อได้จากร้านค้าหน้าวัดนั่นเอง ก่อนจะพักผ่อนตามอัธยาศัย พวกเราร่วมปัจจัยสมทบทุนทอดผ้าป่าที่นี่ด้วย
3) วันอาทิตย์ ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2552 ( แรม 13 ค่ำ เดือน 3) พาราณสี – ลุมพินีวัน
05.00น. เดินทางไปลงเรือล่องแม่น้ำคงคา เพื่อชมวัฒนธรรมประเพณีชาวอินดู เช่น วิธีการอาบน้ำล้างบาป วิธีการล้างบาป การเผาศพข้างแม่น้ำ อาคารท่าน้ำต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้นโดยพระราชา มหากษัตริย์ และพราหมณ์มหาศาลของแต่ละแคว้นที่สร้างไว้ ได้เวลาพอสมควรกลับที่พักทานอาหารเช้า
8.30น. เดินทางต่อไปประเทศเนปาลโดยผ่านด่านโสโนลีฝั่งอินเดีย หรือด่านไพราวาฝั่งเนปาล เพื่อไปนมัสการสถานที่ประสูติที่ลุมพินีวัน ณ ที่นี้มีสิ่งสำคัญ น่าดูชม ดั้งนี้
4.1) มายาเทวีวิหาร
4.2) รอยฝ่าพระบาทพระกุมาร
4.3) เสาศิลาจารึก พระเจ้าอโศก
4.4) สระโบกขรณี
คณะของเราทานอาหารเที่ยงระหว่างทาง และจะถึงลุมพินิวันประมาณ 18.30 น. ตรงไปชมวัดไทยลุมพินี ซึ่งเป็นไทยวัดเดียวในประเทศเนปาลในขณะนี้และก็เป็นวัดที่สวยงามอีกวัดหนึ่ง แล้วเข้าอุโบสถ ชมความงามทั้งภายในและภายนอกอุโบสถ และแล้วร่วมกันถวายผ้าป่าช่วยเหลือกิจสงฆ์ที่นี้ด้วย เสร็จพิธีแล้วไปพักที่โรงแรมนิวคริสตัล อาหารเย็นที่โรงแรม
4) วันจันทร์ ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 (แรม 14 ค่ำ เดือน 3) ลุมพินีวัน – กุสินารา
06.00 น. หลังอาหารเช้าแล้ว ขึ้นรถไปนมัสการสถานที่ต่างๆที่ลุมพินีวัน คณะของเราประกอบพิธีโดยการไหว้พระ สมาธิภาวนา กล่าวคำบูชา ทำประทักษิณได้เวลาพอสมควรขึ้นรถเดินทางต่อไปเมืองกุสินารา โดยทานอาหารเที่ยงที่วัดไทย 960
12.00 น. รีบออกเดินทางไปกุสินารา
17.30 น. คณะถึงเมืองกุสินารา เข้านมัสการพระพุทธรูปปางปรินิพพาน พระเจดีย์อนุสรณ์สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน เป็นต้น ได้เวลา เข้าสู่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ทานอาหารเย็น และพักที่นี่
21.00 น. เข้าสู่โรงอุโบสถประกอบพิธีถวายผ้าป่าช่วยเหลือกิจสงฆ์ที่นี่อีกวัดหนึ่ง เสร็จแล้วอธิษฐานบุญเผื่อแผ่เพื่อคนที่รัก คนที่บ้าน ทั้งคนที่ล่วงลับไปแล้วด้วยให้มีความผาสุกทั่วกัน
5
5) วันอังคาร ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2552 ( ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 4) กุสินารา – เวสาลี – ปัตนะ
06.00 น. ทานอาหารเช้า
06.30 น.ไปนมัสการ มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระศพของพระพุทธองค์
07.30 น. ออกเดินทางไปเมืองเวสาลี ทานอาหารเที่ยงระหว่างทาง
15.00 น. คณะของเราถึงเมืองเวสาลี เข้านมัสการพระเจดีย์ที่กูฏาคารศาลาป่ามหาวัน ซึ่งพระเจ้าอโศกได้สร้างขึ้นเพื่อรวบรวมพระบรมสารีริกธาตุมาไว้ด้วยกัน และที่นี่ มีเสาศิลาจารึกพระเจ้าอโศกที่สมบูรณ์ที่สุดต้นหนึ่งให้เราได้ดูชมด้วย หลังจากสักการะเวียนเทียนรอบพระเจดีย์แล้วเดินทางต่อไปไหว้พระเจดีย์เก่าแก่ที่เรียกว่า ปาวาลเจดีย์ ซึ่งกล่าวว่าเป็นที่เก็บพระสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าในอดีต ได้เวลาพอสมควร คณะเดินทางต่อไป เพื่อเข้าพักที่โรงแรมที่ปัตนะ ทานอาหารเย็นแล้วพักผ่อนตามอัธยาศัย
6) วันพุธ ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2552 ( ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 4) ปัตนะ – นาลันทา-ราชคฤห์ – คยา
06.00 น. หลังอาหารเช้าแล้ว เดินทางต่อไปเมืองนาลันทาเข้านมัสการพระพุทธเจ้าองค์ดำ และเข้าชมโบราณสถานมหาวิทยาลัยนาลันทา ซึ่งแม้ปรากฏแค่ซากปรักหักพังก็ยังแสดงร่องรอยแห่งความยิ่งใหญ่ในอดีตให้เราเห็นอย่างเด่นชัด ได้เวลาพอสมควรเดินทางต่อไปเมืองราชคฤห์ เข้าทานอาหารเที่ยงที่วัดไทยนาลันทา เสร็จแล้วรวบรวมปัจจัยส่งเสริมกิจสงฆ์ที่นี่ตามกำลังศรัทธา
12.00 น.หลังอาหารเที่ยงแล้ว คณะเดินทางไปศึกษาเรียนรู้ดูชมวัดเวฬุวัน อันเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนาซึ่งพระเจ้าพิมพิสารถวายให้เป็นพุทธบูชา และ ณ ที่นี่ พระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ เป็นต้นกำเนิดวันมาฆบูชา นำไหว้พระ กล่าวคำบูชาและทำประทักษิณจบแล้ว เดินทางต่อไปชม ตโปทาธาร บ่อน้ำร้อนที่แบ่งชั้นคนอาบน้ำเป็นชั้นวรรณะด้วย และต่อไปชมคุกพระเจ้าพิมพิสาร โรงพยาบาลหมอชีวก และสิ่งสำคัญ ณ บัดนี้ คณะของเราจะขึ้นภูเขาคิชฌกูฏเพื่อศึกษาเรียนรู้ดูชม และสักการะพระคันธกุฏิของพระพุทธองค์ ถ้ำพระมหาโมคคัลลาน ถ้ำพระสารีบุตร กุฏิพระอานนท์ เป็นต้น ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับมาพักที่พุทธคยาอีกครั้งหนึ่ง โดยพักที่โรงแรมเดิม เพื่อรอขึ้นเครื่องกลับไทย และจะให้โอกาสแก่ผู้ศรัทธาได้กราบองค์พระเจดีย์ และสถานที่ตรัสรู้อีกครั้งหนึ่งในยามค่ำคืน เพื่อเติมบารมีของตนๆ ให้ยิ่งขึ้น คณะทานอาหารเย็นที่โรงแรม
7) วันพฤหัสบดี ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2552 ( ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 4) คยา – กรุงเทพฯ
05.00 น. นำคณะไปกราบไหว้ สักการะ และกล่าวคำบูชาทำประทักษิณเวียนรอบพระเจดีย์และต้นพระศรีมหาโพธิ์ พร้อมทั้งกราบขอพรพระพุทธเมตตาอีกคำรบหนึ่งให้จุใจ(ตามสมัครใจ) ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับไปทานอาหารเช้า และเตรียมตัวขึ้นรถเพื่อไปสนามบิน พร้อมเช็คอิน
09.30 น. เครื่อง KB122 ออกจาสนามบินคยา
14.00 น. เครื่องถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เช็คเอาท์ กลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพทุกๆท่าน
********************************************************************************************
6
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. เตรียมเพื่อเป็นผู้เดินทาง
Passport หรือหนังสือเดินทาง
เอกสารสำเนาทะเบียนบ้าน 1 ชุด เขียนเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ด้วย
เอกสารสำเนาบัตรประชาชนหรือ(พระ)สำเนาสุทธิสงฆ์ 1 ชุด
ภาพถ่าย 2 นิ้ว เพื่อทำวีซ่า 4 ภาพ
2. เตรียมเมื่อยามจะเดินทาง (นำไปเมื่อเดินทาง)
ยาประจำตัวและติด ยาพาราเซทตามอนไปบ้าง
3. การจอง สามารถจองทางโทรศัพท์ได้ เก็บมัดจำ เมื่อจอง 6,000 บาท โดยโอนผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาบางกอกน้อย เลขที่ 119-0-481 893 ชื่อนายสังคม แชเชือน ส่วนที่เหลือโอนก่อนเดินทาง 15 วัน
4. การเดินทางตามรายการนี้ คิดค่าบริการและค่าใช้จ่าย ท่านละ 36,000 บาท (สามหมื่นหกพัน) ราคานี้รวม ค่าอาหาร ยานพาหนะ ที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ค่าเข้าชม ค่าวีซ่าเข้าประเทศ และค่าประกันอุบัติเหตุในวงเงิน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้าน)/ท่านไว้แล้ว แต่ยังไม่รวมค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
5. ราคานี้อาจเปลี่ยนแปลงได้หากค่าตั๋วเครื่องบินเพิ่มขึ้นหรือลดลง
6. รายการอาจจะเปลี่ยนแปลงได้บ้างตามความเหมาะสมของเวลาและสถานการณ์
7. ช่วงนี้อากาศยังหนาวอยู่ ฉะนั้นควรเตรียมชุดหนาวไปด้วย และควรมีชุดขาวอย่างน้อย 1 ชุด


ติดต่อโดยตรงได้ที่ ดร.สังคม แชเชือน

โทร. 081-895-2009 , 086-909-2109

คุณปัทมา อรโสภณ 081-311-4412,081-805-1705

tanwakom
01-19-2009, 07:55 PM
ท่องเที่ยว อินเดีย 9 วัน / วันที่ 13 – 21 มีนาคม 2552

ดูรายละเอียดที่นี่ http://www.watkoh.com/board/index.php?topic=1425.0 (http://www.watkoh.com/board/index.php?topic=1425.0)