PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : โลกธรรม 8 ประการ



DAO
01-23-2009, 05:46 PM
1. เกิดมาเป็นคน ทุกตัวทุกตน ไม่พ้นจลา
ยังไม่สำเร็จ ลุเลสราคา กิเลสพันห้า ตัณหาร้อยแปด

2. ย่อมมีหวั่นไหว วนเวียนเปลี่ยนไป จิตใจวอกแวก
ด้วยโลกธรรม ประจำมีแปด เป็นเครื่องติดแฝด เราท่านทั้งหลาย

3. ความดีมียศ ร่ำรวยสวยสด มีกฏถึงกาย
กิริยาพาที ถือคดีมากมาย เหิมฮึกนึกฝ่าย แต่รายทางดี

4. วางท่าวางทาง ทำเป็นข้อกาง อวดอ้างพาที
เห็นเขาต่ำกว่า พูดจาข่มขี่ ถือยศศักดิ์ศรี อวดดีร่ำไป

5. ถึงคราวเคราะห์โฉด เป็นแต่คำโจทย์ เรื่องยังเหลวไหล
ว่าจะต้องพัก หรือยักย้ายไป แต่เท่านี้ไซร้ ยังไม่แน่นอน

6. ยังแสดงกิริยา ยังเปลี่ยนสีหน้า ผิดกว่าแต่ก่อน
ดูเหงาดูหงิม เยื้อนยิ้มสุนทร ไม่แหวแง่งอน เหมือนก่อนเคยมา

7. มันเป็นอย่างไร อันความดีใจ เสียใจนี้หนา
จึงทำให้คน เล่นกลตีหน้า จริตกิริยา ยังท่าเปลี่ยนที

8. เห็นจะเป็นสิ่ง ความรู้ไม่จริง ตามสิ่งเป็นมี
แห่งธรรมดา โลกาเรานี้ ว่ามันเป็นที่ วนเวียนเปลี่ยนไป

9. ได้รับความสุข บัดเดี๋ยวกลับทุกข์ ไม่สุขหัวใจ
เดี๋ยวได้รับยศ เดี๋ยวยศปลดไป บางทีก็ได้ ลาภใหญ่มากมา

10. บางทีลาภหาย เรื่องมันกลับกลาย ไม่ได้ลาภา
บางทีเขาชม นิยมเรานา เดี๋ยวกลับนินทา ว่าร้ายไม่ดี

11. นี่แหละอย่าหวัง เรื่องอนิจจัง ยั่งยืนไม่มี
เกิดมาเป็นคน ยากจนเศรษฐี ไพร่หรือผู้ดี เรานี้เหมือนกัน

12. บรรดาบัณฑิต พิจารณ์พินิจ ทุกสิ่งทุกอัน
เห็นจริงเห็นแจ้ง ในสิ่งนั้นนั้น ว่าเป็นโลกธรรม ไม่เที่ยงถาวร



.............................................

ที่มา :: โลกธรรม 8 ประการ
โดย พระครูสมุห์สนิท วัดเทพศิรินทร์
ปัจจุบันคือ พระเทพสังวรญาณ
วัดศีลขันธาราม อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง



ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.baanmaha.com/forums/showthread.php?t=23783<!-- / message -->

ทั่นยาย
01-23-2009, 11:12 PM
สวัสดีค่ะป้าดาวขา

โลกธรรมแปดประการยอดเยี่ยมมากค่ะ ให้ทั้งความรู้ สติปัญญา
และจุดประกายให้นึกคิดอะไรดีดีได้อีกมากมายเชียวค่ะ อย่างเช่น
บทโลกธรรมแปดนี้ทำให้ทั่นยายนึกถึงบทปลงสังขารค่ะ

บทปลงสังขาร

สังขารร่างกายต้องตายเป็นผี อยู่ในโลกนี้ไม่มีแก่นสาร
ทรัพย์สินเงินทองเป็นของสาธารณ์ ไม่ใช่ของท่านลูกหลานต้องลา

อย่ามัวประมาทโอกาสยังมี อย่าหลงโลกีย์จะมีปัญหา
โลกนี้แท้จริงเป็นสิ่งมายา เป็นสิ่งลวงตาใช่ว่าจีรัง

สังขารร่างกายอยู่ไม่กี่ปี ก็ตายเป็นผีไม่มีความหวัง
เกิดแก่เจ็บตายร่างกายผุพัง ทุกวันเดินทางสู่ยังกองฟอน

จะห้ามไม่ฟังจะรั้งไม่อยู่ เป็นสิ่งสมมติตามพุทธะสอน
อำนาจใดๆอย่าไปวิงวอน ให้ช่วยเราตอนที่วันสิ้นใจ

สังขารเรานี้เป็นสิ่งที่สังเวช มันเป็นสาเหตุสังเกตเอาไว้
เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวปวดร้าวอาลัย หิวอิ่มเกินไปก็อยู่ไม่นาน

หนาวก็จะตายร้อนไปก็จะแย่ ลำบากแท้ๆนี่แลสังขาร
ต้องกินต้องถ่ายทนไปทุกวัน ดูน่าสงสารคิดกันให้ดี

สังขารร่างกายทั่วไปเน่าเหม็น มีของกากเดนมองเห็นทุกที
ไหลเข้าไหลออกย้อยยอกมากมี ล้วนเป็นสิ่งที่มีอยู่ทั่วกัน

น้ำเลือดน้ำหนองล้วนของปฏิกูล ไหลมาเป็นมูลพอกพูนหลายชั้น
ข้างนอกเน่าเหม็นมองเห็นทุกวัน อีกข้างในนั้นล้วนขั้นไม่งาม

สังขารร่างกายไม่ใช่ตัวตน เกิดมาเป็นคนไม่พ้นโดนห้าม
ต้องนอนเปลือยกายให้ไฟลุกลาม เมื่อเจ้าโดนหามสู่เชิงตะกอน

ผู้ดีเข็ญใจก็ตายเหมือนกัน อย่าหลงสังขารปลงกันไว้ก่อน
ลูกหลานหญิงชายส่งได้แน่นอน ก็แค่กองฟอนแล้วย้อนกลับมา

สังขารร่างกายล้วนตายเป็นศพ ถูกแผ่นดินกลบอยู่ในป่าช้า
หมู่หนอนชอนไชตามไต่กายา เป็นเหยื่อนกกาหมูหมาในดง

กระดูกเกลื่อนกลาดเรี่ยราดทั่วไป เอ็นเล็กเอ็นใหญ่ไร้จุดประสงค์
ต้องถูกทอดทิ้งนอนกลิ้งในดง เป็นป่ารกพงเฝ้าดงกันดาร

กระทำให้แจ้งเจาะแทงตลอด ให้จิตนี้ปลอดหลุดลอดสังขาร
หยุดความกระหายมุ่งไปนิพพาน ไม่หลงสังขารทั่วกันด้วยเถิด

จะได้หยุดเกิดมันไม่ประเสริฐ ตราบใดยังเกิดอยู่ในสงสาร
รีบภาวนาเพื่อละอัตตา ข้ามพ้นมายาทั่วหน้ากันเทอญฯ

อะหัง วันทามิ สัพพะโส
อะหัง วันทามิ นิพพานะปัจจะโยโหตุ