PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : เบื่อหน่ายจัง



Butsaya
02-11-2009, 01:38 PM
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Word_Commands/3.gif http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Love/6.gif
อืม คนเราพอเจออะไรมาก ๆ ก็รู้สึกเบื่อ ๆ หน่าย ๆ นะค่ะ ความเบื่อหน่ายแบบนี้แสดงว่าเราใกล้จะบรรลุได้อะยังอะค่ะ หรือมันคนละความรู้สึกกันอะค่ะ

D E V
02-11-2009, 02:38 PM
อิอิ งี้คนทั้งโลกก็คงใกล้จะบรรลุแล้วอ่ะจิคับ
บรรลุอะไรคับ...บรรลุแก่โทสะอ่ะป่าว อิอิ

การที่รู้สึกเบื่อหน่าย เซื่องซึม เซ็ง หดหู่ ท้อแท้
แบบนี้เรียกว่า ถีนะ (มีมิทธะเกิดคู่กันไปด้วยเสมอ)
ซึ่งเมื่อเกิดกับความขุ่นเคืองใจ ไม่เป็นไปดังใจ ก็เกิดร่วมกับโทสมูลจิต
ไม่ใช่ลักษณะของ นิพพิทา อันเป็นวิปัสสนาญาณ
ซึ่งเกิดขึ้นประจักษ์ในความจิงของรูปนามหรือขันธ์ 5 อันเป็นกองทุกข์
จึงหน่ายคลาย...ละออกจากกองทุกข์ทั้งหลายน่ะคับ




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

Butsaya
02-11-2009, 03:34 PM
อันนี้ที่เราตัวเราเองก็บังคับบัญชาไม่ได้ใช่ปะค่ะ แล้วถึงเวลามันก็หายได้เองใช่มัยค่ะ
หรือว่าเราต้องทำอะไร หรือว่ามองแบบไหนเพื่อให้อาการแบบนี้จางคลาย อะค่ะ

D E V
02-11-2009, 04:21 PM
ขณะใดที่รู้สึกเบื่อ...ก็คือเบื่อ
แต่เราทุกคนก็ไม่ได้มีความรู้สึกเบื่ออยู่ตลอดเวลา...ตลอดชีวิต...ใช่มั้ยคับ

ความรู้สึกเบื่อนั้นเกิดขึ้นชั่วระยะเวลานึง (จะนานแค่ไหนก็แล้วแต่)
แล้วก็ต้องมีความรู้สึกอื่นๆ เช่น มีความรื่นรมย์ในสิ่งที่พึงพอใจ เกิดขึ้นสลับกันไป
แล้วเวลาที่มีความเพลิดเพลินใจเกิดขึ้น
เคยนึกอยากให้ความเพลิดเพลินนั้นหายไป
เหมือนอย่างที่อยากให้ความรู้สึกเบื่อหายไปมั้ยคับ

ดังนั้น ไม่ว่าจะความรู้สึกเบื่อ หรือความรู้สึกเพลิดเพลินใจ
ก็ล้วนเป็นเพียงสภาพความรู้สึกนึกคิดที่เกิดขึ้นเป็นไป...เดี๋ยวเบื่อ...เดี๋ยวอยาก
ซึ่งถ้าเราเป็นแต่เพียงผู้ดู ผู้รู้ อย่างมีสติ
ไม่ไปย้ำคิดย้ำทำ ไม่ไปยึดมั่นมันไว้
ก็จะเห็นความเบื่อหรือความอยากนั้น
สุดท้ายก็คลายจางเปลี่ยนแปลงไปเป็นความรู้สึกอื่นๆ ต่อไป

ที่สำคัญ ต้องรู้ว่าขณะที่เบื่อหรืออยากนั้น เป็นอกุศลจิตนะคับ
เราอยากที่จะให้ความเบื่อหายไป
เพื่อที่จะไปติดข้องเพลิดเพลินพอใจในอีกสิ่งหนึ่งหรือเปล่า?
แม้แต่ความ...อยาก...ที่จะไม่ให้เกิดความเบื่อก็เช่นกันอ่ะคับ

ลองดูเพิ่มเติมนะคับ....

แนะนำด้วย
http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=3332&KW=%E0%BA%D7%E8%CD

เบื่อ (มีหลายหน้า)
http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=867&KW=%E0%BA%D7%E8%CD




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

DodE
02-11-2009, 07:15 PM
เบื่อจัง..ยังเบื่อเหลือทนแล้ว
ไม่แคล้ว..ติดบ่วงกิเลสา
ไม่รู้...โมหะหล่ะบังตา
เบื่อมา..ไม่หายวายทุกข์ทน

กลางๆ..กลางดงคงจะเหมือน
ไม่เคลื่อน..คลายไปจากไพรสณฑ์
กิเลส..เหตุมีที่ทุกข์ทน
ใช่ว่า..จะพ้นจากพงไพร

เอาน่ะ..ดูไปให้ต่อเนื่อง
รู้เรื่อง..รู้ทันพลันแจ่มใส
จากจร..นอนเนืองแนบหทัย
เป็นไป..เปลี่ยนแปลงรู้แจ้งเอง

คุณบุษ ปฏิบัติในรูปแบบดูนะครับ สวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิ
ทำสมถะ จิตใจเค้าจะได้มีกำลังครับ
อ่านๆ ดูจิตคุณบุษ เค้าไม่ค่อยตั่งมั่นครับ

เจริญในธรรม

Butsaya
02-11-2009, 11:12 PM
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Word_Commands/1.gif
ขอบคุณค่ะ พี่เดฟ คุณโดด ที่ให้คำแนะนำ เดี๋ยวบุษยา จะเริ่มใหม่อะค่ะ
จะพยายามทำดู พักนี้รู้สึกแย่ แต่ก็จะสู้ ๆ อะค่ะ ได้คุยกับพี่เดฟในห้องสนทนาธรรม
พี่เดฟแนะนำให้ไปลองศึกษา สติปัฏฐาน (http://javascript:na_open_window('win',)ดูอะค่ะ มีการให้การบ้านด้วยอะค่ะ อิอิ .....

Butsaya
02-12-2009, 07:57 AM
สติปัฏฐาน ( สร ธาตุ (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8) + ติ ปัจจัย (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2) + ป อุปสัคค์ (http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B9%8C&action=edit&redlink=1) + ฐา ธาตุ (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8) ) แปลว่า สติที่ตั้งมั่น, การหมั่นระลึก, การหมั่นคิดโดยแยบคาย.
สติปัฏฐาน จึงหมายถึง การหมั่นคิดเป็นกุศลอย่างฉลาดตามแบบที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ในธรรมะ 4 คือ กาย เวทนา จิต ธรรม
ซึ่งมีชื่อเรียก ดังนี้

กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน (http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8F%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99&action=edit&redlink=1) - การหมั่นคิดใคร่ครวญโดยเน้นที่เรื่องรูปธรรม (http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1&action=edit&redlink=1)อย่างละเอียด.
เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน (http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8F%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99&action=edit&redlink=1) - การหมั่นคิดใคร่ครวญโดยเน้นที่เรื่องนามธรรม (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1)ในส่วนความรู้สึกจากสัมผัส (http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%AA&action=edit&redlink=1)อย่างละเอียด.
จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน (http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8F%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99&action=edit&redlink=1) - การหมั่นคิดใคร่ครวญโดยเน้นที่เรื่องนามธรรม (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1)ในส่วนของการรับรู้อย่างละเอียด.
ธรรมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน (http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8F%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99&action=edit&redlink=1) - การหมั่นคิดใคร่ครวญโดยเน้นทุกเรื่องทั้งรูปธรรม (http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1&action=edit&redlink=1)และนามธรรม (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1)ทั้งแบบเน้นเฉพาะทางและแบบกว้างขวางอย่างละเอียด.


ใช่แบบนี้มัยอะค่ะ พี่เดฟ อิอิ http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Word_Positive/3.gif
พี่เดฟมีอะไรเพิ่มเติมมัยอะค่ะ
อืมมม... แต่สงสัยอะค่ะ ระหว่าง สติปัฏฐาน กับ มหาสติปัฏฐาน จัง ว่าต่างกันอย่างไรอะค่ะ

D E V
02-12-2009, 10:40 AM
สติปัฏฐาน คือการที่สติระลึกได้ในฐานอันได้แก่อารมณ์อันเป็นที่ตั้งของสติ

ในการฝึกอบรมขั้นต้นอาจอาศัยการนึกคิด
เพื่อประคองให้น้อมไปสู่ความตั้งมั่นในสิ่งที่กำลังรู้หรือพิจารณาอยู่
แต่เมื่อสติปัฏฐานเจริญยิ่งขึ้นๆๆๆ
ก็จะทราบความต่างกันของการที่สติระลึกรู้...ว่าต่างกันกับการนึกเอาคิดเอา

ฐานอันเป็นที่ตั้งของสติให้ระลึก
ท่านทรงจำแนกไว้เป็น 4 หมวดใหญ่ คือ กาย เวทนา จิต ธรรม
ซึ่งประมวลลงที่ รูปกับนาม...ไม่พ้นไปจากรูปกับนามเลย
ซึ่งหากมีความเข้าใจในรูปกับนามเป็นพื้นฐาน
ก็จะไม่ติดขัดใดๆ ไม่ว่าหมวดไหนๆ อ่ะคับ




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

D E V
02-12-2009, 10:42 AM
หมวดใหญ่ทั้ง 4 ในแต่ละหมวดนั้น
ก็ยังจำแนกออกเป็นหมวดย่อยๆ อีกมากมาย
ในบางหมวดนั้นเบื้องต้นเป็นไปเพื่อสมถะ
คือให้เกิดความสงบตั้งมั่นของจิต...ไม่ซัดส่ายฟุ้งไป
และเมื่อสติสัมปชัญญะเจริญขึ้นๆๆๆ
จึงระลึกรู้ได้ในสภาวะของสภาพธรรมที่แท้จริง อันได้แก่ รูป จิต เจตสิก
แทนการนึกคิดอันเป็นเรื่องราวซึ่งเป็นสมมุติบัญญัติ

แต่ไม่ใช่ว่าพยายามจะไปห้ามไม่ให้นึก ไม่ให้คิด อ่ะนะคับ
เพราะเป็นธรรมดา ธรรมชาติของจิตย่อมนึกคิด
แต่ขณะนั้นจะรู้ความต่างกันของจิตที่กำลังนึกคิดเป็นเรื่องราวความหมายต่างๆ
กับจิตที่ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะที่กำลังระลึกรู้ตัวสภาวธรรมจริงๆ ที่กำลังปรากฏ




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

D E V
02-12-2009, 10:46 AM
ขอยกตัวอย่างคร่าวๆ
อิริยาปถบรรพ ซึ่งเป็นหมวดย่อยของหมวดกาย

อิริยาปถบรรพ คือ การที่มีสติระลึกรู้อยู่ในอิริยาบถที่กำลัง นั่ง นอน ยืน เดิน
แต่ว่าการที่มีอิริยาบถนั่ง นอน ยืน เดิน อยู่นั้น
เพราะสัญญาความจำยังจดจำไว้เป็นกลุ่มก้อน (ฆนสัญญา)
คือมีความทรงจำในรูปธาตุต่างๆ ที่ประชุมรวมกัน
จดจำไว้เป็นรูปทรงสัณฐาน...เป็นกายทั้งกาย
เมื่อกายทั้งกายไหวไป จึงเกิดความหมายเป็นอิริยาบถต่างๆ

แต่เมื่อสติสัมปชัญญะเจริญขึ้นๆๆ
จนประจักษ์ในสภาพของรูปธาตุแต่ละรูปธาตุ
จึงไถ่ถอนฆนสัญญาที่เคยทรงจำกายทั้งกายเป็นกลุ่มก้อน
เหลือแต่ลักษณะของรูปธาตุที่กำลังปรากฏ
ซึ่งแตกแยกย่อยออกเป็นแต่ละรูปธาตุให้ระลึกรู้
เช่น เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหว
จึงหมดไปซึ่งความเป็นอิริยบถที่เคยเป็นเรายืน เราเดิน เรานอน เรานั่ง
นำไปสู่การไถ่ถอนความยึดมั่นกายทั้งกายไว้ว่าเป็นตน...เป็นเรา
ไม่เหลือความเป็นตนที่จะยึดมั่นไว้ได้
เพราะประจักษ์ชัดในความเป็นรูปธาตุ
ซึ่งแต่ละรูปธาตุนั้นเกิดขึ้นเพียงสั้นๆ ทีละขณะๆ
และแตกดับทำลาย...เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

D E V
02-12-2009, 10:56 AM
ดังนี้แล้ว การเจริญสติปัฏฐาน เป็นเรื่องที่ละเอียดยิ่ง
ไม่ใช่เพียงการเข้าใจตามตัวอักษร หรือท่องจำเรื่องราวตามตำรา
แต่ต้องมีการน้อมไปสู่สภาพธรรมตามความเป็นจริงที่กำลังปรากฏ
จึงเกิดการประพฤติปฏิบัติขึ้นจริงในขณะที่สติระลึกรู้ของจริงในปัจจุบันขณะ
ซึ่งไม่พ้นไปจากรูปกับนาม

การเจริญสติปัฏฐานเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา
ค่อยๆ สั่งสมอบรมไปทีละเล็กละน้อย...ต่อเนื่อง บ่อยๆ เนืองๆ
มีความเพียร ไม่ใจร้อน และต้องอาศัยพื้นฐานความเข้าใจที่ถูกตรง ถ่องแท้ ถี่ถ้วน
ซึ่งไม่ง่ายที่จะอ่านเพียงแค่นี้แล้วจะเข้าใจได้ทั้งหมด
และไม่ง่ายที่จะให้อธิบายรายละเอียดต่างๆ ได้ครบถ้วนทั้งหมดในที่นี้

แนะนำให้คุณบุษฯ ลองศึกษาทำความเข้าใจจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ดูก่อน
แล้วหากติดขัดประการใดค่อยว่ากันไปทีละประเด็นๆ...เจาะเฉพาะประเด็นๆ ไป
หรือถ้าจะให้ดี อยากแนะนำให้เข้าหาเรียนรู้จากครูบาอาจารย์โดยตรง
เพื่อฝึกฝนอบรมให้เกิดความเข้าใจที่ถูกตรงและเกิดการประพฤติปฏิบัติควบคู่กันไป...จะยิ่งดีอ่ะคับ




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

Butsaya
02-12-2009, 11:57 AM
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Happy/9.gif อืมมมม ขอบคุณนะค่ะ พี่เดฟ ที่ต้องคอยแนะนำตลอดเวลาเลย
อะค่ะ พี่เดฟ บุษยาจะลองค่อยๆ ศึกษาไปเรื่อย ๆ แต่เวลาอ่านทำความ
เข้าใจในเรื่องธรรมนี่บุษยาจะอ่านไปได้ช้ามาก อ่านแล้ว อ่านอีก
แบบนี้อะค่ะ เพราะบางอย่างไม่แน่ใจ ว่าคิดถูกหรือเข้าใจได้ถูกแล้วหรือยัง
อะค่ะ บางอย่างถ้าอ่านแล้วติดมาก ๆ บุษยาก็จะเก็บไว้ก่อน แต่เวลาอ่าน
บางอย่างเกิดความสงสัย เอ..อย่างนั้น เอ...อย่างนี้ ติดมาก ๆ ก็จะหยุด
จนวันหนึ่งมีคนเอาเรื่องที่เราสงสัยมาคุยหรือได้ยินโดยบังเอิญก็จะแอบ ๆ ฟัง
เขาคุยกันไปอะค่ะ อิอิ..ๆๆๆ นิสัยไม่ค่อยดีเลยนะคะ แต่ไม่รู้คนอื่นจะเป็น
แบบบุษยาหรือเปล่านะค่ะ

ปล. ตอนนี้ก็เริ่มค้นแบบใช้พี่ กู๊กกู๋ แบบพี่ว่าแล้วอะค่ะ อิอิ..ๆๆ พี่เดฟ จะได้ม่ะเหนื่อยมากอะค่ะ
อิอิ....

http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Other/6.gif

dino
02-20-2009, 12:31 AM
http://www.watkoh.com/board/richedit/upload/2kdfa1b3d46d.gif อ่านๆๆ ดูแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจ คงเป็นเพราะศัพท์ที่พูดคุยกันยากเกินไปสำหรับเด็กใหม่อย่างเรามัง อิอิ
การเบื่อหน่าย คงเป็นเพราะจิตของคนนั้นเหนื่อยล้ากับสิ่งที่กำลังกระทำมัง หรือกำลังไม่พอใจในที่ทำอยู่


วิธีแก้ไข
พักผ่อน ( กาย และใจ แถมด้วย จิต) คำง่ายๆๆ สั้นๆๆ ที่ทำกันยากสำหรับคนในยุคนี้ http://www.watkoh.com/board/richedit/upload/2kb756c80f3d.gif








http://www.watkoh.com/board/richedit/upload/2k7951d016d6.gif

*8q*
02-21-2009, 05:08 PM
เบื่อ

เหตุของความเบื่อ

หนทางที่จะหายเบื่อ


แค่รู้ใจตัวเดียวอย่างอื่นไม่ต้องพูดถึงhttp://www.watkoh.com/board/Smileys/default/grin.gif