PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : วิปัสสนูปกิเลส



Butsaya
03-02-2009, 04:11 PM
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Happy/5.gif
เวลาที่เราปฏิบัติแล้วเราต้องระวังเรื่อง วิปัสสนูปกิเลส (http://javascript:na_open_window('win3',) ตอนไหนอะค่ะ
หรือไม่เราต้องระวัง หรือป้องกันไม่ให้เราหลงทางด้วยเรื่องพวกนี้ได้เปล่าค่ะ

D E V
03-02-2009, 04:42 PM
ระวังตอนที่เริ่มเป็น อุทยัพพยญาณ

วิปัสสนูปกิเลส 10 นี้
ถ้าเกิดลำพัง 1-9 โดยไม่มีนิกันติเกิดร่วมด้วย...ยังไม่เป็นอุปกิเลสของวิปัสสนา
ต่อเมื่อมี นิกันติ เกิดร่วมด้วยกับอย่างใดอย่างนึงใน 1-9 จึงเป็นวิปัสสนูปกิเลสคับ




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

*8q*
03-02-2009, 05:22 PM
อุทยัพพยญาณ นิกันติ

ขยายความให้ผู้ไม่รู้คำด้วยครับhttp://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/39.gif

tal
03-02-2009, 06:41 PM
ช่วยขยายความให้ผู้ที่ไม่รู้อย่างตาลด้วยค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
http://www.watkoh.com/board/richedit/cliparts/9.gif

Butsaya
03-02-2009, 10:38 PM
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Happy/1.gif http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Happy/7.gif
อันนี้คือความเป็นมาของคำว่า วิปัสสนูปกิเลส ม่ะรู้ถูกผิดอย่างไร
คำนี้ได้มาจากการฟังธรรมอะค่ะ และไม่รู้ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้หลงได้ง่ายหรือเปล่าไม่รู้
ถ้าไงพี่เดฟ ช่วยตอบต่อในสิ่งที่ยังไม่ครบถ้วนด้วยนะค่ะ อิอิ ..... http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Happy/10.gif http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Happy/12.gif

วิปัสสนูปกิเลส ๑๐ หมายถึง อุปกิเลส (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%AA)แห่งวิปัสสนา (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2) เป็นธรรมารมณ์ (http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%93%E0%B9%8C&action=edit&redlink=1)ที่เกิดแก่ผู้ได้วิปัสสนาอ่อนๆ (ตรุณวิปัสสนา) สภาพน่าชื่นชมแต่ที่แท้เป็นโทษเครื่องเศร้าหมองแห่งวิปัสสนา ทำให้เข้าใจผิดว่าตนบรรลุมรรค (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84)ผลแล้ว เป็นเหตุขัดขวางไม่ให้ก้าวหน้าต่อไปในวิปัสสนาญาณ (http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93&action=edit&redlink=1) มี ๑๐ อย่าง คือ


โอภาส หมายถึง แสงสว่าง(ที่ปรากฏเป็นธรรมารมณ์ในใจ)
ญาณ (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93) หมายถึง ความหยั่งรู้
ปีติ (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%B4) หมายถึง ความอิ่มใจ
ปัสสัทธิ หมายถึง ความสงบเย็น
สุข หมายถึง ความสุขสบายใจ
อธิโมกข์ หมายถึง ความน้อมใจเชื่อ ศรัทธาแก่กล้า ความปลงใจ
ปัคคาหะ หมายถึง ความเพียรที่พอดี
อุปัฏฐาน หมายถึง สติแก่กล้า สติชัด
อุเบกขา (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%B2) หมายถึง ความมีจิตเป็นกลาง
นิกันติ หมายถึง ความพอใจ ติดใจ
เมื่อผู้ปฏิบัติวิปัสสนาสามารถยกเอารูปธรรมและนามธรรมทั้งหลาย ขึ้นมาพิจารณาเป็นหมวดๆ ตามแนวไตรลักษณ์ (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C)ที่ละอย่างๆ จนเริ่มมองเห็นความเกิดขึ้น และความเสื่อมไปแห่งสังขาร (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A3)ทั้งหลาย เกิดเป็นวิปัสสนาญาณอ่อนๆ (หรือตรุณวิปัสสนา เช่น ในช่วงอุทยัพพยานุปัสสนาญาณ) ในช่วงนี้ก็จะเกิดวิปัสสนูปกิเลสขึ้นมา วิปัสสนูปกิเลสทั้งสิบนี้ เป็นภาวะที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง และไม่เคยเกิดมี ไม่เคยประสบมาก่อน จึงชวนให้ผู้ปฏิบัติเข้าใจผิด คิดว่าตนบรรลุมรรคผลแล้ว หรือหลงยึดเอาคิดว่าวิปัสสนูปกิเลสนั้นเป็นทางที่ถูก ถ้าหลงไปตามนั้นก็เป็นอันพลาดจากทาง เป็นอันปฏิบัติผิดไป คือพลาดทางวิปัสสนา แล้วก็จะทิ้งกรรมฐานเดิมเสีย นั่งชื่นชมอุปกิเลสของวิปัสสนาอยู่นั่นเอง

แต่ถ้ามีสติสัมปชัญญะแก้ไขได้ ก็จะกำหนดได้ว่าวิปัสสนูปกิเลสนั้นไม่ใช่ทาง รู้เท่าทัน เมื่อมันเกิดขึ้น ก็กำหนดพิจารณาด้วยปัญญาว่า โอภาสนี้ ญาณนี้ ฯลฯ หรือนิกันตินี้ เกิดขึ้นแล้วแก่เรา แต่มันเป็นของไม่เที่ยง เกิดจากปัจจัยปรุงแต่ง จะต้องเสื่อมสิ้นไปเป็นธรรมดา แล้วกำหนดวิปัสสนาญาณที่ดำเนินถูกทาง ซึ่งจะพึงเดินต่อไป

ผู้ที่ไม่เกิดวิปัสสนูปกิเลส


พระอริยสาวก (http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%81&action=edit&redlink=1) ผู้บรรลุปฏิเวธ (http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%98&action=edit&redlink=1)แล้ว
ผู้ปฏิบัติผิด (เริ่มต้นมาแต่ศีลวิบัติ)
ผู้ละทิ้งกรรมฐาน (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99)
บุคคลเกียจคร้าน (แม้ปฏิบัติถูกมาแต่เริ่มต้น)
แต่จะเกิดขึ้นแก่ผู้ปฏิบัติโดยชอบ ประกอบความเพียร ผู้เริ่มต้นบำเพ็ญวิปัสสนาแล้ว เท่านั้น

ความยึดถือวิปัสสนูปกิเลส

อุปกิเลสแห่งวิปัสสนานี้มี ๑๐ อย่าง แต่ละอย่างมีความยึดถือได้อย่างละ ๓ แบบ (รวมเป็น ๓๐) ได้แก่
ทิฏฐิคาหะ หมายถึง ยึดถือด้วยทิฏฐิ เช่น ยึดถืออยู่ว่า "โอภาสเกิดขึ้นแก่เราแล้ว"
มานคาหะ หมายถึง ยึดถือด้วยมานะ เช่น ยึดถืออยู่ว่า "โอภาสน่าพึงพอใจจริงหนอ เกิดขึ้นแล้ว"
ตัณหาคาหะ หมายถึง ยึดถือด้วยตัณหา (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%AB%E0%B8%B2) เช่น ชื่นชมโอภาสอยู่

อ้างอิง


พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). "พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์".
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). "พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรม". (http://84000.org/tipitaka/dic/)
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). "พุทธธรรม".
พระพรหมโมลี (วิลาศ ญาณวโร). "วิปัสสนาทีปนี".
พระพุทธโฆษาจารย์. "คัมภีร์วิสุทธิมรรค".

D E V
03-03-2009, 09:37 AM
อ่ะคับ เห็นคุณบุษยาถามเรื่องวิปัสสนูปกิเลส
ในลักษณะที่เป็นห่วง ระมัดระวัง หลีกเลี่ยงที่จะไม่ให้หลงติดไปกับวิปัสสนูปกิเลส
ก็เลยคิดว่าคงเข้าใจดีอยู่แล้วว่า วิปัสสนูปกิเลส คืออะไร
ก็เลยไม่ได้ขยายความอะไรมากน่ะคับ

จากที่คุณบุษยายกมา
ครูบาอาจารย์ท่านก็ได้อธิบายไว้ชัดเจนแล้วอ่ะคับ...ซ๊าๆๆๆๆทุ๊


***********************************************

อาจจะเพิ่มเติมลงลึกในรายละเอียดอีกแค่สักเล็กน้อย
คือเวลาที่ โอภาส ปีติ ญาณ ปัสสัทธิ สุข อธิโมกข์ ปัคคาหะ อุปัฏฐาน อุเบกขา...เกิดขึ้นในอุทยัพพยญาณนั้น
ถ้าเกิดเพียงลำพังเหล่านี้ ยังไม่เป็นวิปัสสนูปกิเลส
แต่ต้องเกิดร่วมกับนิกันติ จึงเป็นวิปัสสนูปกิเลสในขณะนั้น
คือจะเกิดขึ้นในลักษณะดังนี้...

โอภาส + นิกันติ
ปีติ + นิกันติ
ญาณ + นิกันติ
ปัสสัทธิ + นิกันติ
สุข + นิกันติ
อธิโมกข์ + นิกันติ
ปัคคาหะ + นิกันติ
อุปัฏฐาน + นิกันติ
อุเบกขา + นิกันติ

ถ้าเกิดร่วมกันดังที่กล่าวมา
ก็เป็นอันวิปัสสนูปกิเลสอย่างใดอย่างนึงได้เกิดขึ้นแล้ว




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

D E V
03-03-2009, 09:52 AM
อันที่จริง...ยังไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดวิปัสสนูปกิเลส...ถ้าวิปัสสนาญาณยังไม่เกิด
เพราะจะเป็นการเป็นห่วงไปล่วงหน้าในสิ่งที่ยังไม่มี...ยังไม่เกิด...ยังไม่มาถึง อ่ะคับ

เพราะก่อนจะถึง อุทยัพพยญาณ ซึ่งเกิดอุปกิเลสแห่งวิปัสสนาที่เรียกว่า วิปัสสนูปกิเลส
อันเป็นเครื่องเศร้าหมอง ยึดมั่นไว้ด้วยความเห็นผิด
ขวางกั้นไม่ให้วิปัสสนาญาณเจริญขึ้นในขั้นต่อๆ ไป...หากไม่รู้เท่าทัน
ก็จะต้องผ่าน นามรูปปริจเฉทญาณ ปัจจยปริคคหญาณ และสัมมสนญาณ ก่อน
ถ้า 3 ขั้นแรกนี้ยังไม่เกิด...อุทยัพพยญาณก็เกิดไม่ได้อ่ะคับ

ดังนั้น เราก็รู้ได้ด้วยตนเองตอนนี้ว่า นามรูปปริจเฉทญาณ เกิดหรือยัง?
(นามรูปปริจเฉทญาณ ได้แก่ปัญญาที่หยั่งรู้ในรูป-นามที่แยกชัดจากกัน)

ถ้ายัง...อย่าพึ่งเป็นห่วงไปไกลเกี่ยวกับวิปัสสนูปกิเลสเลยนะคับ
แต่ให้รู้เท่าทันรูปนาม...เท่าทันกิเลส ซึ่งเกิดขึ้นเป็นไปในปัจจุบัน อันนี้คือสิ่งที่เร่งด่วนกว่า
เพราะเป็นสิ่งสำคัญซึ่งเกิดขึ้นกับเราทุกคนในปัจจุบัน...ในทุกวันอ่ะคับ




http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

*8q*
03-03-2009, 07:00 PM
http://www.watkoh.com/board/richedit/upload/2k6d106bc66c.gif

อนุโมทนาครับแจ่มละhttp://www.watkoh.com/board/richedit/upload/2k6d106bc66c.gif

จริงมะคุณตาล

arkom
03-13-2009, 10:48 PM
ขออนุโมทนากับผู้ถามและผู้ตอบด้วยครับ