PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : ปิตามาตาอัญชลี & คีตะมาตา



ทั่นยาย
03-29-2009, 09:00 AM
http://blog.spu.ac.th/home/blog_data/627/627/images/king16.jpg

เป็นภาพที่ประทับใจที่สุดค่ะ เมื่อในหลวงทรงก้มกราบสมเด็จย่าอย่างงดงาม
ทรงเป็นที่สุดของลูกกตัญญูอย่างแท้จริง ทรงเป็นองค์ต้นแบบของลูกกตัญญู
อันหาที่เปรียบไม่ได้อีกแล้ว ให้แก่พสกนิการชาวไทยได้ดำเนินรอยตาม...

*** ทุกครั้งที่ในหลวงไปหาสมเด็จย่าในหลวงต้องเข้าไปกราบที่ตัก..
แล้วสมเด็จย่า ก็จะดึงตัวในหลวงเข้ามากอด...กอดเสร็จก็หอมแก้ม
ใครเคยเห็นภาพ สมเด็จย่าหอมแก้มในหลวงบ้าง... ? ภาพนี้ถ้าใครมีต้องเอา
ไปใส่กรอบ เป็นภาพความรักของแม่ที่มีต่อลูก อย่างยอดเยี่ยม***

http://gotoknow.org/file/wasawatdeemarn/L4437459-45.jpg

ตอนสมเด็จย่าหอมแก้มในหลวงอาจารย์คิดว่าแก้มในหลวงคงไม่หอมเท่าไร
เพราะไม่ได้ใส่น้ำหอม แต่ทำไมสมเด็จย่าหอมแล้ว...ชื่นใจ เพราะท่านได้
กลิ่นหอมจากหัวใจในหลวง หอมกลิ่นกตัญญูไม่นึกเลยว่าลูกคนนี้
จะกตัญญูขนาดนี้ จะรักแม่มากขนาดนี้ ตัวแม่เองคือ สมเด็จย่าไม่ได้
เป็นเชื้อพระวงศ์ เป็นคนธรรมดาสามัญชน... เป็นเด็กหญิงสังวาลย์
เกิดหลังวัดอนงค์เหมือนเด็กหญิงทั่วไปเหมือนพวกเราทุกคนในที่นี้
ในหลวงหน่ะเกิดมา เป็นพระองค์เจ้าเป็นลูกเจ้าฟ้าปัจจุบันเป็นกษัตริย์
เป็นพระเจ้าแผ่นดินอยู่เหนือหัว แต่ในหลวงที่เป็นพระเจ้าแผ่นดินก้มลงกราบ
คนธรรมดาที่เป็นแม่ หัวใจลูกที่เคารพแม่ กตัญญูกับแม่อย่างนี้ หาไม่ได้อีกแล้ว...คนบางคนพอเป็นใหญ่เป็นโต ไม่กล้าไหว้แม่ เพราะแม่มาจากเบื้องต่ำเป็นชาวนา
เป็นลูกจ้างไม่เคารพแม่..ดูถูกแม่... แต่นี่ในหลวง เทิดแม่ไว้เหนือหัว...
ยังความซาบซึ้งตรึงอยู่ในดวงใจของไพร่ฟ้าทุกคน ตราบนานเท่านาน...

ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

คัดลอกมาจากหนังสือเรื่อง "หยุดความชั่วที่ไล่ล่าตัวคุณ" ของ พ.อ.(พิเศษ) ทองคำ

ทั่นยาย
03-29-2009, 09:39 AM
http://www.gebsasom.com/uploads/Image/nt-mom01.jpg
http://www.imeem.com/muchshima/music/djkiYb_8/loso/ (http://www.imeem.com/muchshima/music/djkiYb_8/loso/) เพลงแม่ ศิลปิน เสก โลโซ

ตักอุ่น..เคยหนุนนอน

ตักละมุนอุ่นอกอ้าง เรียมเอย
ซบแอบแนบชิดเชย อุ่นเอื้อ
ตักอุ่นหนุนนอนได้ หลับไหล เต็มตา
ยามเมื่อใจอ่อนล้า ตักนี้ดูแล..

มาตาอัญชลี

“ แม่ ” เป็นคำที่ใช้เรียกผู้หญิงคนหนึ่งที่คอยเลี้ยงดูอุ้มชูเรามา ตั้งแต่วันแรกที่เราลืมตาดูโลก
แม่จึงเป็นคนที่เรารู้จักคุ้นเคยตั้งแต่เกิดจนวันตาย ถึงแม่จะเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆที่ดูบอบบาง
แต่แม่มีจิตใจที่แข็งแกร่งดังภูผา สองมือแม่แม้จะเป็นมือเล็กๆของผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
แต่ก็สามารถโอบอุ้มโลกไว้ได้ทั้งใบทีเดียว แม่เป็นใครมาจากไหนกันนะทำไมแม่จึงเก่ง
ไปเสียทุกอย่างแบบนี้หนอ...ไม่ว่าแม่จะเป็นใคร มาจากไหนก็ตาม เราก็รักแม่ที่สุดในโลก
เพราะพระคุณของแม่ได้ตราตรึงอยู่ในดวงใจน้อยๆดวงนี้ มาตั้งแต่แรกเกิดมาลืมตาดูโลกจนถึงบัดนี้
ลูกรู้ว่าที่แม่เลี้ยงดูลูกมาจนเติบใหญ่ได้ขนาดนี้ แม่เหนื่อยยากเพียงไร เป็นพระคุณอันยิ่งใหญ่
ของแม่เกินกว่าที่ลูกจะพรรณนาได้ ลูกจึงขอกรองอักษรผกามาร้อยเป็นอักษรามาลัย เพื่อน้อมบูชาพระคุณแม่...
ลูกมิได้คิดจะบูชาพระคุณแม่เพียงแค่วันใดวันเดียว แต่ไม่ว่าวันไหนๆแม่ก็เป็นแม่ที่มีพระคุณ
ล้นฟ้าล้นแผ่นดินของลูกตลอดเวลา แม่เป็นสุดที่รักในชีวิตของลูกอย่างเที่ยงแท้ไม่แปรผันจนวันตาย
ณ บัดเดี๋ยวนี้ลูกขอกราบลงแทบเท้าของแม่ผู้มีแต่ให้เสมอมา แม่รู้มั้ยว่าแม่
เป็นผู้หญิงที่น่ารักที่สุดในโลก ลูกรักแม่สุดหัวใจ ......

ทั่นยาย

ทั่นยาย
03-29-2009, 10:11 AM
คีตะมาตา...นักร้องในดวงใจ (ลูก)


นอนไปเถิดแม่จะกล่อม นวลละม่อมแม่จะไกว
ทองคำแม่อย่าร่ำไห้ สายสุดใจเจ้าแม่เอย...


http://www.oknation.net/blog/print.php?id=352113 (http://www.oknation.net/blog/print.php?id=352113) เพลงกล่อมลูก

http://flash.manager.co.th/rhyme/song.swf (http://flash.manager.co.th/rhyme/song.swf) เพลงกล่อมลูก 4 ภาค

เพลงที่ไพเราะที่สุดในโลกคงไม่มีเพลงไหนไพเราะได้เท่ากับเพลงกล่อมลูก
ที่แม่ร้อง ตอนแกว่งไกวเปลให้ลูกนอน... ท่วงนำนองที่พริ้วไหวหวานละมุนละมัย
สอดผสานกับเนื้อร้องที่พร่ำสอนลูกให้เป็นคนดี เป็นเพลงที่มีคุณค่าโดยแท้
ช่างน่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก แม่แต่งเนื้อร้องได้อย่างไรหนอทั้งๆที่แม่ไม่เคยเขียน
อักษรใดๆในกระดาษ แม่แต่งทำนองได้ทั้งๆที่ไม่รู้ตัวโน๊ตสักตัว แม่เล่นดนตรีได้
ทั้งๆที่ไม่มีเครื่องดนตรีสักชิ้นเดียว เพลงกล่อมลูกนี้แม่กลั่นมาจากใจ...
ดังนั้นเพลงที่แม่ร้องจึงเป็นเพลงที่ไพเราะที่สุดในโลก...
...นอนเถิดนะลูกนอน แม่จะกล่อมเจ้าขวัญอ่อนลูกจงนอนเถิดเอย...
เสียงร้องที่กังวานใสสะกดลูกให้หลับตานอน แม้ในยามนิทราเพลงของแม่
ยังตามมาเว้าวอน สร้างรอยยิ้มละมุนอ่อนให้ลูกนอนฝันดี
แม่เห่กล่อมเพลงหวานเพื่อให้ลูกให้ซึมซับความอ่อนโยนจากแม่
เพลงของแม่กล่อมเกลาจิตใจลูกให้เป็นคนดีแม้แม่จะไม่ได้รางวัลนักร้องยอดนิยม
แต่แม่ก็เป็นนักร้องในดวงใจของลูกตลอดกาล ไม่ว่าจะนานแค่ไหน
เพลงของแม่จะยังคงดังก้องทั่วปฐพี...และแว่วหวานอยู่ในใจลูกนี้ตลอดไป

ทั่นยาย

http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=7554.0 (http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=7554.0) เพลงกล่อมลูก

นอนเสียหล่า หลับตาแม่สิกล่อม นอนให้เย๊น ตะเวนแดงแดง
นอนเอาแฮง กินแกงบักเข่า นอนหลับย๊าว เอาเข่าเอ๊าเคินน......
เอ่ เอะ เอ้ เอ เอ.....

ทั่นยาย
03-29-2009, 11:14 AM
ร้องเพลงให้แม่ฟัง

สร้อยสดับรับฟังยังตราตรึง
เพลงที่ซึ่งกล่อมเราเฝ้าถนอม
แม่เห่กล่อมลูกน้อยคอยอดออม
ลูกขอน้อมกราบที่ตัก..รักแม่เอย..

ทั่นยาย 03/04/09


เพลงคิดถึงแม่
ศิลปิน คนด่านเกวียน

http://www.imeem.com/people/Fulw6K5/music/nsTZoOhE// (http://www.imeem.com/people/Fulw6K5/music/nsTZoOhE//)

ถักทอความรักให้ลูกอบอุ่น ตักแม่เคยหนุน นอนหลับฝันดี
แต่ว่าแม่จ๋า วันนี้ลูกยัง ไม่ได้ดี กลับมาคราวนี้ไม่มีของฝาก

มีเพียงความรักที่เอามาให้ มีเพียงหัวใจที่เอามาฝาก
โอ้ว่าแม่จ๋าลูกคิดถึงแม่คิดถึงมาก ถึงยังทุกข์ยากก็อยากกลับบ้าน

* กลับมาเยี่ยมแม่ เพราะห่วงแม่นัก อยากรู้แม่ยาก ลำบากแค่ไหน
ลูกมาคราวนี้ มีเพียงหัวใจ มาอิงอุ่นไอ ดวงใจแม่จ๋า

กราบลาแทบเท้า ถึงคราวต้องไป อย่าได้ร้องไห้ เลยนะ แม่เอ๋ย
สักวันได้ดี คงมีเหมือนเคย หนุนตักแม่เอย กลับมาแทนคุณ ...

ทั่นยาย
03-29-2009, 11:33 AM
คำข้าว..ที่แม่ป้อน

ข้าวคำลูกจำมั่น ที่แม่นั้นเอื้ออาทร
เมื่อลูกเป็นเด็กอ่อน ทะยอยป้อนสอนลูกกิน
คำข้าวที่แม่ป้อน ยังอุ่นร้อนเป็นอาจินต์
รสชาดเคยคุ้นลิ้น เมื่อได้กินฝีมือแม่...

ทั่นยาย 10/04/52

เพลง : แม่
ศิลปิน : แฮมเมอร์

http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?tid=1893 (http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?tid=1893)

ตื่นขึ้นมาแต่เช้า แม่หุงข้าวต้มปลา จวนจะได้เวลา ไปท้องนาอีกครา
ทุกวันคืนแม่อยู่ด้วยความหวัง ดังแสงทองส่องฟ้า ลูกแม่นั้นไปศึกษา ในสังคมชาวกรุง

ตาแม่มองลูกรัก วันที่เจ้าจากไป แม่เคยทุกข์ทนเพียงใด แลลูกไกลอกตรม
เมื่อลูกจบจากการศึกษา แม่คอยตั้งตาชื่นชม ลูกอย่าหลงระเริงสังคม จงหวนคืนบ้านนา

นาก็คือความหวัง ดังชีวิตจิตใจ จนเดือนดับลับร่วงไป ไกลหนทางลูกจร
ม่านเมฆบดบังนัยตา สาริกาไม่คืนกลับคอน ทุกคืนวันแม่มิได้หลับนอน คอยเจ้าย้อนบ้านนา

ตื่นขึ้นมาแต่เช้า แม่หุงข้าวต้มปลา ดูแสงทองส่องมาไปท้องนาอีกที
ทุกวันคืนแม่ก็ยังเฝ้าหวัง หวังถึงวันสุดท้าย รอจนแม่ถึงวันสิ้นใจ คงได้พบลูกชาย

ทั่นยาย
03-29-2009, 11:54 AM
http://kungfugirl.exteen.com/images/boo6.jpg


จะหนักหนาสาหัสสักเพียงไหน

ทั่นยาย
03-29-2009, 12:02 PM
เพลง คิดถึงแม่
ศิลปิน โฮป

http://www.sontayamusic.com/index.php?topic=3940.msg143545 (http://www.sontayamusic.com/index.php?topic=3940.msg143545)


ผ่านมาหลายปี..ที่แม่..ได้จากโลกไป
แต่ไม่ว่าจะนานเพียงไร..ลูกยังทำใจ..ไม่ได้สักที
ยังไม่อยากเชื่อ..ว่าเหลือเพียงเถ้าธุลี
เห็นภาพเลือนของแม่ยังมี..รอยยิ้ม..อิ่มใจ

คิดถึง..คิดถึงแม่..ครั้งใด
เหมือนดั่งหัวใจ..ขาดวิ่น..ไม่มีชิ้นดี
คิดถึง..แม่ขา..ทำไมต้องเป็นเช่นนี้
หากชาติหน้ามี..ขอเป็นลูกแม่อีกครั้ง

ตอนแม่ยังอยู่..แม่ให้ลูกนั้นมากมาย
เฝ้าอบรมบ่มเพาะนิสัย..ผ่านวันและวัย..ได้มีเมตตา
จะเพียรเอาอย่าง..เหมือนแม่อยู่เคียงกายา
เพื่อหลานแม่เติบโตขึ้นมา..จิตใจงดงาม

ทั่นยาย
03-29-2009, 12:16 PM
เพลง : แม่
ศิลปิน : ยุ้ย ญาติเยอะ

http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=2132 (http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=2132)

แม่จ๋า แม่ แม่ โอ้...แม่ แม่จ๋า...เออ...เอย...
คิดขึ้นมาน้ำตาไหลรินร่วง แม่ยังอยู่คงยับยั้งทุกข์ทั้งปวง
คงหายห่วงหัวใจไม่หม่นหมาง แม่เลี้ยงลูกกี่คนก็เลี้ยงได้...เออ....
ลูกคนไหนเลี้ยงแม่ตอบแทนบ้าง เมื่อมีเมียเลี้ยงเมียเสียทุกทาง
เป็นแบบอย่างกันมาน่าแปลก...เออ...ใจ

แม่อดอยากปากแห้งจนซีดเซียว กินแต่เปรี้ยวคาวหวานทานไม่ได้
แม่ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกไว้ ตั้งแต่ในท้องแม่ตั้งเก้าเดือน
ทั้งสายเปลสายใจเหมือนสายเลือด...เออ

แม่ยอมเชือดให้ลูกได้ไม่ฟั่นเฟื่อน หยดน้ำนมหยาดน้ำตาแม่ย้ำเตือน
แม่เป็นเหมือนแม่พระผู้อารีย์

เมื่อเติบโตโถลูกมาลืมแม่ บางคนแย่ตีด่าน่าบัดสี
แม่ของฉันแม่ท่านจะชั่วดี ก็ยังมีชื่อว่าแม่แน่นิรันดร์

เมื่อจะรู้ว่าแม่รักประจักษ์จิต...เออ...เออ....เออ....
กว่าจะรู้ว่าแม่รักประจักษ์จิต จะได้คิดเมื่อมีลูกผูกรักมั่น
เรารักลูกอย่างไรแม่เหมือนกัน กงกรรมนั้นกงเกวียนเวียนหมุนไป
พระคุณแม่ล้ำฟ้ามหาสมุทร บริสุทธิ์เกินกว่าคำปราศรัย
ขออุทิศร่างกายขายหัวใจ ที่แม่ให้ลูกนี้พลีสังเวย
ลูกทราบซึ้งในพระคุณคุณแม่แล้ว...เออ

ร่มโพธิ์แก้วโพธิ์ทองของลูกเอย อันกุศลผลบุญที่คุ้นเคย
ขอชดเชยให้แม่พลัน...กตัญญู....

ทั่นยาย
03-29-2009, 12:23 PM
เพลง : แม่
ศิลปิน : เฉลียง

http://www.imeem.com/mono-gokinjo/music/TDFjPS19// (http://www.imeem.com/mono-gokinjo/music/TDFjPS19//)

แต่ก่อนเยาว์วัย เมื่อคราวความคิดยังไร้เหตุผล ดวงดาวเบื้องบน
ประดับเต็มฟ้า หนุนตักแม่ นอนดูแสงดาว แม่กุมมือน้อย อุ่นใจ

อยากเอื้อมมือคว้า จะเด็ดดอกฟ้าลงมาชื่นชม ระบัดพลิ้วลม
อยู่ในอ้อมกอด แม้ไม่อาจไปถึงซึ่งดวงดาว แม่ยัง อยู่เคียงข้าง ปลอบโยน

แต่มาวันนี้ ไม่มีแม้เสียงเพลงกล่อม ไออุ่นที่รุมล้อม จากมือแม่ดูอ่อนโยน
อยากเป็นดาวน้อย แม่เป็นฟ้าอ้าแขนคลุมครอบ โอบดาวทุกดวง ในอ้อมใจ นิรันดร์

แม้ไม่อาจ ไปถึงซึ่งดวงดาว แต่ฟ้ายังพราวพร่าง แสงดาว

ทั่นยาย
03-29-2009, 12:25 PM
เพลง : แม่
ศิลปิน : บอย ตรัย ภูมิรัตน

http://www.imeem.com/people/6KdrmPz/music/7KRf7Ir9// (http://www.imeem.com/people/6KdrmPz/music/7KRf7Ir9//)

ทุกครั้งตอนที่ฉันเสียใจ เธอใช่ไหมที่อยู่ข้างกัน หรือแม้วันที่ฉันไหวหวั่น เธอเท่านั้นที่ไม่เคยทิ้งไป
ในคืนที่ฉันเหงาที่สุด เธอรับรู้ และกอดฉันไว้ ด้วยความรัก ที่แสนยิ่งใหญ่ ที่มีให้ฉันคนนี้จริงๆ
แล้วจะต้องการ อะไรไปกว่านี้

เพราะว่ามันเพียงพอแล้ว เพียงพอแล้ว เมื่อรู้ว่ายังมีคนคนหนึ่ง ที่พร้อมจะเข้าใจ
มันก็คงเพียงพอแล้ว กับความหมาย ไม่เห็นจำเป็นต้องมากมาย

ถึงใจจะแสนเหนื่อย แต่ฉันคงจะสู้ไหว ดูเหมือนโลกนี้ก็คงยังไม่เลวร้าย เพราะฉันยังมีเธอ
บางทีฉันก็ไม่ตั้งใจ จนทำร้ายความรู้สึกของเธอ ทิ้งรักเธอนั้นไว้จนเก้อ แต่ทุกครั้งเธอก็ยังเข้าใจ
คนเดียวที่รักฉันที่สุด คนคนนั้นคือเธอใช่ไหม ด้วยอ้อมแขนที่แสนยิ่งใหญ่ ที่มีให้ฉันคนนี้จริงๆ

ทั่นยาย
03-29-2009, 12:27 PM
" รักแม่เท่าดวงใจ "

เด็กผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณสองขวบเศษ ช่างพูดช่างถาม
จนคุณแม่รำคาญ เลยแก้เกมลูกสาวตัวน้อยโดยเป็นฝ่ายยิงคำถามบ้าง
เมื่อถูกถามว่า " รักแม่มากแค่ไหนจ๊ะ " แม่หนูน้อยก็ตอบโดยไม่ต้องคิดว่า
"รักแม่จ๋าเท่าจักรวาล" อ้างปากกว้างพอที่ปลาวาฬจะเข้าไปได้ทั้งตัว
พร้อมกางมือกางแขนป้อมๆออกให้กว้างที่สุดเท่าที่จะกว้างได้
แม่มักจะถามคำถามเดิมซ้ำๆกันอยู่เสมอ แต่น่าแปลกยิ่งนัก แม้จะเป็นคำถามเดิมๆ
แต่คำตอบกลับไม่เหมือนเดิมเลยสักครั้งเดียว เพราะจากวันนั้นที่เธอเคยบอกว่า
"รักแม่จ๋าเท่าจักรวาล" แต่วันต่อมาเธอบอกว่า " รักแม่จ๋าเท่าโลกเลย" แถมทำ
ท่าประกอบแบบเดิมคือกางมือออกจนสุดแขนดูเหมือนจะใหญ่เท่ากับจักรวาลนั่นแหล่ะ
และเมื่อถูกถามคำถามเดิมในครั้งต่อๆมาเธอก็ตอบว่า "รักแม่จ๋าเท่าฟ้าเลย"
" รักแม่จ๋าเท่าบ้านเลย " เอ..รู้สึกว่าความรักมันชักจะหดเล็กลงทุกทีๆเลยนะนี่
จนผู้เป็นแม่เริ่มกังวลว่า ต่อไปหนูจะเหลือความรักให้แม่สักเท่าไหนหนอ
จะเล็กกว่าเม็ดทราย หรือไม่เหลือเลยหรือเปล่าหนอ แล้วคำตอบก็เป็นดังที่แม่
ได้คาดคิดไว้จริงๆเสียด้วยซี เพราะคำตอบของเธอแต่ละครั้งนั้น จะรักแม่เล็กลง
หรือน้อยลงเรื่อยๆ จากรักเท่าบ้าน ก็เป็นรักเท่ารถ รักเท่ามุ้ง รักเท่าเตียง รักเท่าโอ่ง
รักเท่ากะทะ รักเท่าจาน..ฯลฯ
และในที่สุดความรักของเธอก็เหลือแค่......รักแม่เท่าดวงใจ...

ทั่นยาย 09/04/09

เพลง : รักหม่าม้า
ศิลปิน : กลุ่มเด็กน้อยเสียงใส
http://music.gmember.com/player/html_player_music/index.php?songid=0200808101 (http://music.gmember.com/player/html_player_music/index.php?songid=0200808101)

เช้าวันหนึ่งวันนั้น วันหนึ่งวันนั้น เจ็ดนาฬิกา
หนูกระโดดออกมา ก็บอกว่ารัก รักหม่าม้าคนเดียว
หม่าม้าก็บอกว่ารัก ก็บอกว่ารัก รักหนูคนเดียว
คนอื่นก็ไม่แลเหลียว ก็บอกว่ารัก รักหม่าม้าคนเดียว
เช้าวันหนึ่งวันนั้น วันหนึ่งวันนั้น เจ็ดนาฬิกา
หนูกระโดดออกมา ก็บอกว่ารัก รักหม่าม้าคนเดียว
หม่าม้าก็บอกว่ารัก ก็บอกว่ารัก รักหนูคนเดียว
คนอื่นก็ไม่แลเหลียว ก็บอกว่ารัก รักหม่าม้าคนเดียว
ลันลันลันลันลา ลันลันลันลันลา ลันลันลันลันลา
ลันลันลันลันลา ลันลันลันลันลา ลันลันลันลันลา
ลันลันลันลันลา ลันลันลันลันลา

ทั่นยาย
04-07-2009, 08:45 PM
สวัสดีค่ะ ญาติธรรมทุกท่าน

ทั่นยายได้อ่านเจอเรื่องราวที่ลูกคือ คุณพิง ลำพระเพลิง เขียนถึงแม่ได้อย่างน่ารัก
น่าเอ็นดูมากๆเชียวค่ะเชื่อว่าใครได้อ่านก็ต้องคิดถึงแม่อยากกอดแม่เหมือนทั่นยายแน่ๆเลยค่ะ
และที่สำคัญจะรักแม่มากขึ้นด้วยค่ะ อยากบอกแม่ว่า แม่คือคนดีที่หนึ่งในดวงใจ..
รักแม่ที่สุดในโลกเลยค่ะ ( รองจากพ่อนิ๊ดดดดดดดดเดียว อิ อิ )
จึงขออนุญาตินำบทความนี้มาลงไว้ ณ ที่นี้ด้วย เพื่อเป็นการเทิดทูนพระคุณแม่
และขอยกย่องผู้เขียนว่าเขียนได้อย่างยอดเยี่ยมมากค่ะ


พิง ลำพระเพลิง เขียนถึงแม่ “ค่าน้ำนม”

ถ้าให้จัดเรียงความสำคัญของ ’ผู้หญิง’ ในชีวิตเรามาสามอันดับแรก น่าเป็นดังนี้
อันดับที่หนึ่ง คือ “แม่”
อันดับที่สอง คือ “แม่”
อันดับที่สาม คือ “แม่”
ใช่ครับ ผมกำลังจะพูดถึง “แม่” สิ่งที่เราทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว แต่ว่าอาจมีบ้างบางครั้ง
ที่เราหลงลืมไป จนขาดความใส่ใจกับบุคคลใกล้ตัวท่านนี้ จำได้มั๊ยครับ
ครั้งสุดท้ายที่คุณกอดแม่น่ะเมื่อไหร่? อย่าบอกนะว่าคุณอายุมากเกินไปแล้ว...
เป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครแก่เกินกว่าจะกอดแม่หรอก ผมอยากอวดแม่ของผมครับ
แม่ผมเป็นคนบ้านนอก เชยๆ ผมชอบนั่งแอบมองแม่เวลาแกเผลอ หล่อนอยากทำอะไร
ผมก็ปล่อยให้แกทำ ล่าสุดนี่เธอเหยาะน้ำยาปรับผ้านุ่มลงไปในน้ำสุดท้ายของการอาบน้ำให้หมาด้วย
ด้วยเหตุผลของคนซื่อ คือเธอบอกว่า ทำตั้งหลายครั้งแล้ว ก็ไม่เห็นหมามันบ่นอะไร
แม่ผมเรียนมาน้อย เรียกว่าไม่ได้เรียนเลยก็เกือบจะว่าได้ เธอศึกษาทุกอย่างด้วยการจำ
เห็นเขาพูดเขาทำอะไรในโฆษณาก็พยายามเอามาใช้กับลูกชาย ครั้งนึงผมน้ำเข้าหู
เธออวดภูมิด้วยการบอกให้ผมใช้ไม้สำลีเช็ดหูของ จอห์นสันไมโครบัส...

ผู้หญิงคนเดียวกันนี้เองที่ลากครกกับสากกะเบือออกไปตำน้ำพริกมะม่วงนอกบ้าน
เพราะเห็นลูกชายกำลังนอนหลับอยู่ในบ้าน ไม่ใช่ตำแค่นอกบ้านนะ แต่เธอออกไปตำ
นอกรั้วบ้านเลยทีเดียว
ผมกับแม่ทุกวันนี้เราอาศัยอยู่ด้วยกันที่ต่างจังหวัด ทุกครั้งที่ผมขับรถเข้ามาคุยงาน
ในกรุงเทพฯ เธอยังคงทำกับข้าวใส่กล่องมาให้ผมกินอยู่เสมอ และเธอไม่เคยลืม
ที่จะเด็ดดอกจำปีหน้าบ้าน มาใส่ในกล่องข้าวด้วยทุกครั้ง ผมตื้นตัน
แต่! แม่ครับ ผมอยากจะบอกแม่ว่า...ดอกจำปีมันไม่อร่อยเลยครับ...

เมื่อไม่นานมานี้ครอบครัวของเราได้มีวาสนาไปออกรายการโทรทัศน์ รายการ “ เจาะใจ ”
ผมบอกแม่ว่า “นี่เธอ ชั้นจะพาเธอไปออกโทรทัศน์นะ ดีใจมั๊ย”
แม่อิดออด แบ่งรับแบ่งสู้ “ไม่เอาดีกว่ามั๊งลูก เดี๋ยวเขาถามอะไรแล้วแม่ตอบไม่ได้”
“แม่ครับ รายการเขาไม่ได้มีสิบหกคำถาม สามตัวช่วย ถามใครก็ได้ ตอบได้สองครั้ง
หรือว่าเปลี่ยนคำถาม ถึงแม่จะตอบผิด เกมส์เขาก็ไม่ได้จบลงทันทีซะเมื่อไหร่ นะแม่นะ
ไปด้วยกันเถอะนะ”
“ไม่เอาหรอก แม่ไม่ไปดีกว่า”
“เอาน่าแม่ ไปด้วยกันเถอะ”
“ไว้ถึงวันนัดก่อนแล้วกัน แม่จะให้คำตอบ”
แล้วคำตอบของแม่ก็คือ การตื่นไปทำผมตั้งแต่มืด ร้อยวันพันปีเธอเคยเข้าร้านเสริมสวยกับเขาซะที่ไหน
แต่ผมก็รู้ดีว่าเธอไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง...เธอทำเพื่อชายไทยทั้งประเทศต่างหาก!!!!!!!!!!
เรื่องราวแม่มีมากมายไม่รู้จบ เป็นนิทานให้เรานั่งมองได้ไม่รู้เบื่อ ถ้าเราจะหาเวลาว่างๆ
นั่งลอบมองดูเธอคนนั้นบ้างเท่านั้นเอง ผมเชื่อว่า แม่ของพวกเราทุกคนมีมุมน่ารัก
ให้เราได้อมยิ้มอยู่เสมอ เป็นเรื่องน่าแปลก ที่เรามักจะรู้กันอยู่ในใจว่าเรารักผู้หญิงคนนี้
แต่ทว่าเรากลับนั่งกินข้าวกับเธอน้อยกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ ซะอีก
เราถูกสอนมาให้รักแม่ แต่เรากลับซื้อของขวัญให้คนอื่นบ่อยกว่าซื้อให้แม่ของเราซะอีก
เดี๋ยวนี้ผมอายุมากขึ้น แม่ก็อายุมากกว่าเราอีกเท่าตัว ผมยังคงนั่งแอบมองแม่อยู่
แม่ผมแก่ลงไปมาก หล่อนจะมีเวลามาโพสต์ท่าให้เรานั่งแอบมองได้อีกสักกี่ปี
บนโลกกลมๆใบนี้ ผมมัวแต่วิ่งวนเร็วจี๋จนแทบจะชนหลังตัวเองอยู่ร่อมร่อ
ตลอดเวลาเราไขว่คว้าหาอะไรอยู่ก็ไม่รู้จนเกือบลืมผู้หญิงคนนี้ กว่าจะนึกขึ้นมาได้เวลาก็ผ่านไปมากมาย
ถ้าบทความนี้ สะกิดให้ใครนึกถึงแม่ขึ้นมาได้มั่งล่ะก้อ ขอร้องล่ะ อย่าทำได้แค่นั่งมองแม่
เพราะเกรงว่าเพียงแค่นั้นจะไม่ทันการณ์ เวลาไม่ได้มีเหลือเฟือ...เวลาไม่ได้มีอยู่จริง
สิ่งที่เรามี มันเป็นแค่นาฬิกา มันเป็นแค่ปฏิทิน เวลาที่แท้จริงมันเป็นของวัฏจักรเขา
เพราะฉะนั้น เรามาเตรียมคำตอบกันเอาไว้ดีกว่า เผื่อมีใครถามเราว่า ครั้งสุดท้ายที่กอดแม่น่ะ มันเมื่อไหร่
เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเอียงคอนึกกันอีกว่า ครั้งสุดท้ายที่คุณกอดแม่น่ะเมื่อไหร่?


อ่านแล้วได้อะไรดีๆจากบทความนี้ก็ขอให้เกิดเป็นกุศลกับผู้เขียน (คุณพิง ลำพระเพลิง )
และคุณแม่ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงและเจริญในทุกๆด้านค่ะ

ทั่นยาย
04-09-2009, 12:50 PM
เรื่องจริงจาก รร.อัญสัมชัญ อ่านแล้วจะกลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่...
เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ " มิสอุไรพร " ครูที่มีจิตวิทยาสูง ในการสอนเด็ก

รักใดไหนเล่าเท่ารักแม่...วีรกรรมสุดยิ่งใหญ่ของแม่ที่ลูกทุกคนต้องอ่าน!

ตึกเซนต์หลุยส์มารี โรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถม ราวกลางปี พ.ศ. 2539
“ มิสคะ ช่วงพักเที่ยงจะมีผู้ปกครองมารอพบสองท่านที่หน้าห้องรับรองค่ะ ”
โทรศัพท์แจ้งจากห้องประชาสัมพันธ์ทำให้ มิสอุไรพร นาคะเสถียร
ครูสาวประจำระดับชั้นป. 4 รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะจำได้ว่ามีการโทรนัดหมาย
จะมาพบจากคุณแม่ท่านหนึ่ง เพียงท่านเดียวในวันนี้ เอ...ใครล่ะนี่ จะมีเรื่องอะไรรึเปล่านะ
เมื่อมิสอุไรพรเดินมา ถึงหน้าห้องประชาสัมพันธ์ ครูสาวก็แทบยกมือรับไหว้
จากสุภาพสตรีทั้งสองท่านไม่ทัน หากก็รู้สึกแปลกใจ ที่เห็นคุณแม่ท่านหนึ่ง
ยกมือไหว้ แต่เพียงแขนข้างเดียว อย่างไรก็ตาม มิสได้เชิญ คุณแม่ท่านแรก
เข้าไปคุยก่อนตามลำดับการนัดโดยเก็บงำความแปลกใจไว้
หลังจากคุยกับคุณแม่ท่านแรกเสร็จมิสจึงเชิญคุณแม่อีกท่านเข้ามาคุยในห้องรับรอง
ภาพแรกที่ได้เห็นชัดๆ ทำให้ครูสาวตกใจเล็กน้อย แขนซ้ายของคุณแม่เป็นแขนเทียม
คุณแม่มาปรึกษาเรื่อง การเรียนของลูก เพราะไม่ได้มาในวันนัดพบผู้ปกครองประจำปี
เมื่อต้นปีการศึกษาที่ผ่านมา “ ลูกเขาไม่อยากให้มา เขาว่าเขาอายที่แม่ใส่แขนเทียม
กลัวโดนเพื่อนล้อแม่มาทีเพื่อนก็ล้อกันประจำว่าแม่แขนเดียว แม่เป็นหุ่นยนต์เหรอ
อะไรนี่น่ะค่ะ เลยไม่ได้มา ”
น้ำเสียงของคุณแม่แฝงแววเอ็นดูมากกว่าที่จะโกรธหรือไม่พอใจ
มิสอุไรพรขออนุญาตซักถามเกี่ยวกับสาเหตุที่คุณแม่ต้องใส่แขนเทียม
เมื่อได้ทราบความจริงทั้งหมดครูสาว ก็ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะต้องจัดการ
เรื่องที่ลูกไม่ยอมรับและไม่เข้าใจแม่นี้ โดยเร็ว หากปล่อยเรื่องนี้ไป...
ก็จะเป็นบาปอันหนักยิ่งติดตัวเด็กไปในภายหน้า ทั้งตัวลูกชายและคนที่ล้อเพื่อนด้วย

ช่วงเย็นวันนั้นมีชั่วโมงลูกเสือแต่ฝนตกหนัก มิสอุไรพรจึงได้โอกาสนำเรื่องนี้
มาเล่าให้นักเรียนฟังในห้องเรียน เรื่องราวที่ว่านั้น มีดังต่อไปนี้
วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2536 หลังวันแม่เพียงไม่กี่วัน... ครอบครัวหนึ่งได้เดิน
ทางไปเที่ยวนากุ้งที่จังหวัดสตูล ครอบครัวนี้ประกอบด้วยคุณพ่อ คุณแม่ และลูกชายอีกสามคน
พวกเขาเดินชมนากุ้งไปตามทางเดินซึ่งเป็นคันดิน ท่ามกลางบรรยากาศสดชื่น
ของธรรมชาติ
โดยคุณพ่อเดินนำหน้ากับลูกชายคนโตสองคน ส่วนคุณแม่เดินตามหลังมากับลูกชายคนเล็ก
ทางเดินที่เป็นคันดินนั้นมีการแบ่งเป็นท้องร่องเพื่อติดตั้งระหัดวิดน้ำ ซึ่งมีใบพัดทำ
จากเหล็กสูงจากคันดินราว 25 ซม คุณพ่อและลูกคนโตสองคนก็ข้ามท้องร่อง
แล้วเดินนำต่อไปข้างหน้า ไม่มีใครฉุกใจคิดระวังถึงเหตุร้าย

แต่แล้วลูกชายคนเล็ก กลับก้าวพลาดล้มลงไปในท้องร่อง ขากางเกงเข้าไปติด
กับร่องของระหัดวิดน้ำ ที่กำลังหมุนอยู่ และฉุดขาของลูกทั้งสองข้างเข้าไปในใบพัดเหล็ก
“ ถ้าเป็นพวกคุณน้องตกลงไปอย่างนี้คุณจะทำอย่างไร ”
มิสหยุดเรื่องไว้ก่อนเพื่อซักถาม มองหน้าเด็กนักเรียน ทั้งห้องที่นั่งเงียบกริบหน้าซีด
โดยเฉพาะ “ ลูกชาย ” ของคุณแม่ท่านนั้น
“ ทุกคนตกตะลึงใช่มั้ย คิดไม่ทันใช่มั้ย แต่นักเรียนรู้มั้ยว่าคุณแม่ท่านตัดสินใจทำอย่างไร ”
คุณแม่ไม่ยอม เสียเวลาคิดอะไรเลย ท่านรีบยึดดึงตัวลูกเอาไว้แล้วเอาแขนซ้าย
ที่ว่างอยู่เข้าไปขวางใบพัดเหล็กไว้ก่อน ใบพัดจึงหมุนเอาแขนของคุณแม่เข้าไป
คนงานที่เห็นเหตุการณ์รีบปิดเครื่องทันที แต่แรงเฉื่อยทำให้ใบพัดยังหมุนต่อด้วยกำลังแรง...
แรงจนกระชากแขนซ้ายของคุณแม่ ขาดสะบั้นลง!
คุณแม่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสสติสัมปชัญญะดับวูบลงในทันที
ท้องร่องทั่วบริเวณแดงฉานไปด้วย เลือด...เลือดของแม่...
ใบพัดเหล็กยังหมุนต่อไปอีกเล็กน้อยและบดเอาขาทั้งสองข้างของลูกชายคนเล็ก
จนกระดูกหัก...แต่ไม่ขาด ...ไม่ขาด ... เพราะแขนซ้ายของแม่ขาดแทน...
ไม่ขาด...เพราะแม้จะไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะ มือขวาของคุณแม่ก็ยังยึดตัวลูกเอาไว้แน่น... ไม่ยอมปล่อย...

คุณพ่อและลูกคนโตทั้งสองคนหันกลับมามอง ตามเสียงตะโกนเอะอะโวยวาย
ของคนงาน พร้อมๆกับเสียงกรีดร้องของคุณแม่ ภาพที่เห็นทำให้พวกเขาช็อกจนแทบสิ้นสติ!
คุณพ่อกระโจนพรวดเดียวถึงตัวคุณแม่และลูกน้อย แต่... มันสายเกินไปแล้ว!
สิ่งเดียวที่ทำได้คือรีบพาสองแม่ลูกส่งโรงพยาบาลทันที ผลของการรักษาคือ
คุณแม่ต้องใส่แขนเทียมแทนแขนซ้ายที่ขาดไป ส่วนลูกคนเล็กที่ขาหักต้องอยู่
โรงพยาบาลนานราวสามเดือน จึงสามารถเดินเหินได้เป็นปกติ
มิสอุไรพรกวาดสายตามองไปรอบๆห้องถามขึ้นอีกว่า
“ นักเรียนคิดว่าคุณแม่ท่านนี้กล้าหาญมั้ยคะ ”
“ กล้าหาญมาก ” เด็กๆพากันตอบเป็นเสียงเดียวกันพลางพยักหน้า
หลายๆคนยังหน้าซีดเซียวเมื่อนึกภาพเหตุการณ์ไปตามที่ครูเล่า
มิสมองหน้า “ ลูกชาย ” ของคุณแม่แล้วบอกต่อว่า นักเรียนทราบมั้ยว่า
คุณแม่ท่านนี้เป็นคุณแม่ของเพื่อนเราในห้องนี้เองไหนใครเป็นลูกของคุณแม่ท่านนี้
ยืนขึ้นให้เพื่อนเห็นหน่อยสิ เด็กนักเรียนคนนั้นยืนขึ้น ท่ามกลางเสียงปรบมือของเพื่อนทั้งห้อง
วันนี้เมื่อคุณกลับไปบ้านมิสฝากเรียนคุณแม่ด้วยว่าพวกเราชื่นชมและยกย่อง ท่านมากจริงมั้ยพวกเรา
"จริงครับๆ ใช่ครับๆ ” เสียงเล็กๆตอบมาเป็นทางเดียวกัน

“ มิสได้ทราบมาว่ามีหลายๆคนไปล้อเลียนเพื่อนไหนคนไหนบ้างคะ ที่เคยล้อ
คุณแม่เขา ถ้ามีเราเป็นลูกผู้ชายต้องกล้ารับค่ะ ”
มีนักเรียน 3-4 คนยืนขึ้น สีหน้าของแต่ละคนซีดเซียวอย่างสำนึกผิด
มิสอุไรพรมองหน้าของเด็กกลุ่มนี้อย่างอ่อนโยน ถามว่า
“ ดีมากนักเรียนตอนนี้คุณคงอยากพูดอะไรกับเพื่อนใช่มั้ยคะ ”
เด็กชายกลุ่มนั้นเดินเข้าไปโอบกอดคอแล้ว กล่าวขอโทษเพื่อนด้วยความจริงใจ
ครูสาวน้ำตาคลอ ยืนมองภาพนั้นด้วยความปลาบปลื้มยินดีหนักใจอยู่เหมือนกัน
ว่าหากถามขึ้นมาแล้วไม่มีใครยอมรับว่าเคยล้อเพื่อน...จะทำอย่างไร ?
เธอไม่เคยผิดหวังในตัวนักเรียนอัสสัมชัญและจนถึงเวลานี้ก็ยังคงไม่ผิดหวัง
ใครเล่า...จะเข้าใจความเจ็บช้ำขมขื่นในหัวใจเล็กๆของเด็กชายคนหนึ่ง
ที่ถูกเพื่อนล้อเลียนประสาเด็กโดยไม่ทันคิด
หากบัดนี้...ความรักของแม่และน้ำใจของเพื่อนได้สลายปมด้อยในใจของเด็กคนนี้
ลงจนสิ้นแล้ว เหลือเพียงความรักและภาคภูมิใจในตัวคุณแม่เท่านั้น
เมื่อหมดชั่วโมงเรียน มิสอุไรพรได้เ รียกตัว “ ลูกชาย ” เข้าไปคุยอีกครั้ง
“ วันนี้เรามีอะไรในใจที่คิดว่าควรพูดกับคุณแม่มั้ยคะ ”
เด็กคนนั้นนิ่งคิดไปชั่วครู่ก่อนจะตอบเสียงสั่นปนสะอื้นไห้ว่า
“ ผม...ผมจะไปขอโทษคุณแม่แล้ว...แล้วบอกคุณแม่ว่าผมรักคุณแม่ ที่สุดในโลกเลยครับ ”
รู้มั้ยน้ำนมหยดหนึ่งซึ่งไหลมาต้องใช้น้ำตาหยาดเหงื่อสักเท่าไหร่ บอกแม่เถอะนะ
บอกทุกวันว่ารักท่านมากมาย กอดแม่เถอะนะให้คุ้นเคย กอดเลยไม่ต้องอาย ก่อนไม่มีแม่ให้กอด...

ที่มา... กัลยาณมิตร FW เมล์มาให้ค่ะ ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
อ่านแล้วได้อะไรดีๆจากบทความนี้ก็ขอให้เกิดเป็นบุญเป็นกุศลกับผู้เขียน
เล่าเรื่องราวดีๆแบบนี้ และคุณแม่ผู้ประเสริฐท่านนั้นด้วยเถิด
ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงและเจริญในทุกๆด้านค่ะ http://www.watkoh.com/board/Themes//classic/images/icons/modify_inline.gif

ทั่นยาย
04-11-2009, 10:54 AM
http://pics.manager.co.th/Images/551000004667301.JPEG


กราบเท้า ปิตามาตา มหามงคล

น้ำขันน้อยลอยมะลิมีมาลัย มากราบไหว้มาตาปิตาท่าน
ลูกสำนึกในบุญคุณอนันต์ ทั้งสองท่านเมตตาเอื้ออาทร
ลูกเตรียมน้ำสำหรับล้างบาทา ขอพ่อจ๋าแม่จ๋านั่งลงก่อน
ให้ลูกได้ล้างเท้าเพื่อขอพร เมตตาสอนลูกได้ใส่ใจจำ
ผสมน้ำอบไทยให้หอมฟุ้ง เพื่อจรุงจิตใจให้ชื่นฉ่ำ
เอาเท้าพ่อแม่ใส่ได้ลูบคลำ เท้านี้ย่ำมาเท่าไหร่ให้ลูกโต

http://www.dmc.tv/images/world_meditation/solomon/Dhammachai65_6/SM520324p9.jpg

ล้างเท้าพ่อแม่แล้วแก้วใจจ๋า เอาผ้ามาซับให้ได้บุญโข
เท้าของท่านนั้นไม่ใช่จะใหญ่โต มิได้โอ่แต่เท้านี้มีบุญคุณ
ลูกขอเทิดทูนไว้ใส่เหนือเกล้า ขอกราบเท้าพ่อแม่แกเกื้อหนุน
เท้าของพ่อแม่นี้ที่การุญ เทิดพระคุณขอวางไว้เหนือใจกาย
เท้าของพ่อวางไว้ในบ่าขวา เท้ามารดาวางไว้ในบ่าซ้าย
เปรียบเสมือนได้แบกท่านนั้นจนตาย ทดแทนได้ท่านอุ้มชูเลี้ยงดูมา

เป็นมงคลแก่ตัวเราเท่าไหร่แล้ว มีพ่อแก้วแม่แก้วอยู่ซ้ายขวา
กราบขอพรท่านได้ในทุกครา อย่ารอว่าเทศกาลนั้นค่อยทำ
ทำทุกวันนั้นจะได้ใจสดชื่น หลับหรือตื่นดวงฤทัยได้ชื่นฉ่ำ
หากว่าใครทำได้เป็นประจำ จะสุขล้ำยินดีเปรมปรีดา...


ทั่นยาย ๑๑/๔/๕๒

สงกรานต์นี้ขอให้ทุกท่านสุขกายสุขใจ เจริญในทุกๆด้าน
สุขภาพแข็งแรงตลอดไปนะคะ

ทั่นยาย
04-20-2009, 08:38 AM
http://thai.mindcyber.com/images/sections/thamdee/thamdee_42.jpg

กตัญญู ...ค่าน้ำนม

ค่าน้ำนม ผสมเลือด ไม่เหือดหาย
เป็นสายใจ ไม่รู้ลืม เคยดื่มด่ำ
เคยซุกซบ เคยอบอุ่น คุณควรจำ
ทุกทุกคำ ทุกค่ำเช้า เราเคยกิน


พระเจ้าฮั่นบุ้นเต้ ผู้เปี่ยมกตัญญู

ในสมัยราชวงศ์ฮั่น เมื่อฮั่นอ๋องเสร็จศึกมีชัยชนะฌ้อปาอ๋องแล้วก็ปราบดาภิเศกตัวเอง
เป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์เจ้อฮั่น ทรงพระนามว่าพระเจ้าฮั่นโกโจ
กาลต่อมาเจ้าผู้ครองเมืองเตี๋ยกับเมืองต่ายเกิดการแข็งเมืองขึ้น พระเจ้าฮั่นโกโจจึง
ยกทัพไปปราบจนราบคาบ เจ้าเมืองทั้งสองตายในสนามรบ พระเจ้าฮั่นโกโจจึงทรง
แต่งตั้งพระโอรสล่ายอี้เป็นเตียอ๋องไปครองเมืองเตี๋ย และแต่งตั้งเล่าเฮงเป็นต่ายอ๋อง
ไปครองเมืองต่าย ต่ายอ๋องทูลขอพระอนุญาติพาพระมารดาไปอยู่ด้วย
เพราะตั้งแต่ต่ายอ๋องยังทรงพระเยา ก็จะคอยดูแลเอาพระทัยใส่ปรนนิบัติพระมารดา
ด้วยความเคารพเทอดทูนพระมารดาเหนือสิ่งอื่นใดมาตลอด พระองค์จะเสด็จไปกราบ
พระบาทพระมารดาทุกค่ำเช้าเป็นกิจวัตร
คราวหนึ่งพระมารดาประชวนเป็นเวลานานถึง ๓ ปี ต่ายอ๋องไม่เป็นอันทรงเสวย
หรือบรรทมเลย ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน พระองค์จะทรงประทับอยู่
ข้างพระแท่นบรรทมของพระมารดาตลอดเวลา ไม่ยอมแม้แต่จะไปเปลี่ยนเครื่องทรง
แม้ว่าจะมีข้าราชบริพารมากมายก็ตามแต่ไม่ทรงไว้วางใจให้ใครดูแลเลย ทรงปฎิบัติทุกอย่าง
ด้วยพระองค์เอง แม้แพทย์จะประกอบโอสถขึ้นถวายก็ต้องทรงชิมก่อนแล้วจึงนำถวายพระมารดา
กิตติศัพท์แห่งความกตัญญูกตเวทีของต่ายอ๋องที่ทรงมีต่อพระมารดาเป็นที่ประจักษ์
เป็นที่แซ่ซ้องสรรเสริญไปทั่วราชอาณาจักร แม้พระเจ้าฮั่นโกโจพระบิดาก็ตรัสชมเชย
ต่ายอ๋องในที่ประชุมขุนนางผู้ใหญ่ บรรดาขุนนางและราษฎรทั้งหลายต่างก็เพิ่มความ
สวามิภักดิ์ต่อพระองค์ยิ่งขึ้น
เมื่อพระเจ้าฮั่นโกโจเสด็จสวรรคตแล้ว เล่าอย้งไทจือราชบุตรก็ขึ้นครองราชแทน
ทรงพระนามว่าพระเจ้าฮั่นฮุยเต้ ทรงครองราชอยู่เพียง 7 ปีก็สวรรคต พระนางลื่อสีไทเฮา
พระมารดาของฮั่นฮุยเต้จึงสำเร็จราชการแผ่นดินได้ ๘ ปีก็ทิวงคต ขุนนางทั้งหลาย
จึงอัญเชิญต่ายอ๋องเล่าเฮงขึ้นสืบราชสมบัติเป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่า พระเจ้าฮั่นบุ้นเต้
พระองค์ทรงสถาปนาพระมารดาขึ้นเป็น เป๊าะไทเฮา
พระเจ้าฮั่นบุ้นเต้มีพระราชอัธยาศัยที่เปี่ยมด้วยความกตัญญูกตเวที กอปรกับทรงมี
ความเมตตาปรานีสูง ทรงสงเคาระห์ผู้ยากจนคนชรา ลดภาษีอากร พระราชทานอภัย
ลดหย่อนโทษให้แก่นักโทษทั้งหลาย ทรงปกครองอาณาประชาราษฎรด้วยทศพิตรราชธรรรม
ในรัชสมัยของพระองค์ จึงมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ประชาชนพลเมืองมีแต่ความสุขไพบูลย์
กันถ้วนหน้าสืบมา


ที่มา : หนังสือยอดกตัญญู ของ ร. บุนนาค


*******************************************************
พระเจ้าฮั่นอู่ตี้ สำนึกในค่าน้ำนม

ในรัชสมัยของพระเจ้าฮั่นอู่ตี้ ครั้งหนึ่งแม่นมของพระเจ้าฮั่นอู่ตี้ได้กระทำผิดขึ้น
พระเจ้าฮั่นอู่ตี้โกรธมากเตรียมการจะลงโทษแม่นมอย่างหนัก แต่แม่นมซึ่งแก่เฒ่ามากแล้ว
กลัวการถูกลงโทษมาก จึงไปขอร้องให้ท่านราชเลขาตงฟังสั่วช่วยเหลือ ท่านราชเลขาฯแนะนำว่า
“ เมื่อฮ่องเต้จะตัดสินลงโทษไม่ต้องร้องขอหรือโต้แย้งอย่างไรทั้งสิ้น ให้มองดูฮ่องเต้
ด้วยความรักเหมือนเมื่อครั้งพระองค์ยังเล็กอยู่ก็พอ ”
เมื่อฮ่องเต้เรียกตัวแม่นมมาจะลงโทษ แม่นมก็ได้แต่มองดูฮ่องเต้นัยน์ตาละห้อย
ท่านราชเลขา ฯเห็นเช่นนั้นก็แกล้งพูดเหน็บให้สะกิดใจฮ่องเต้ขึ้นว่า
“ อย่าเพ้อฝันไปเลยว่าฮ่องเต้จะอาทรถึงความหลังครั้งที่เคยเสวยเลือดในอกของแม่นม ”
พระเจ้าฮั่นอู่ตี้แม้จะเด็ดเดี่ยวห้าวหาญเพียงไร เมื่อได้ฟังคำของตงฟังสั่วก็อดสะดุ้งในใจไม่ได้
จึงได้โปรดนิรโทษกรรมแม่นมในที่สุด

ที่มา : http://thai.mindcyber.com/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=124 (http://thai.mindcyber.com/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=124)

ทั่นยาย
05-13-2009, 08:03 AM
อุ่นไอรัก..ตักละมุน

ปากน้อยๆดูดน้ำนมสมใจนัก
อุ่นไอรักแม่เอื้อเกื้อวงแขน
ได้หนุนตักอุ่นกายาหาใดแทน
สุขใดแม้นได้อิ่มอุ่นหนุนตักนอน...

ทั่นยาย 03/04/2009

เพลง แม่
ศิลปิน พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=babylovely&month=08-2008&date=05&group=11&gblog=8 (http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=babylovely&month=08-2008&date=05&group=11&gblog=8)

น้ำค้างยังหยดใส น้ำใพรยังไหลมา น้ำใจของมารดา มีน้ำตาและน้ำนม

ก่อกำเนิดเกิดกาย ร้อนในธาตุไฟจม หมดธาตุดินสิ้นธาตุลม ได้ธาตุน้ำมาค้ำจุน

จึงเอาน้ำลูบท้องลูกที่ร้องนั้นลูกคน ให้ดื่มกินนมจนๆ นมไม่ข้นสายนมขาด

ลูกกินนมแม่กินน้ำ เช้าค่ำก็คุ้ยเขี่ย ไม่ได้พลอยแม่ก็เพลีย ไม่ได้พักเพราะรักลูก

ดิ้นรนสู้ทนถักสายใยสายใจผูก ถักทอชีวิตลูกให้เป็นไท ใช่เป็นทาส

น้ำค้างยังหยดใส น้ำใพรยังไหลมา น้ำใจของมารดา มีน้ำตาและน้ำนม...

ทั่นยาย
05-13-2009, 08:27 AM
http://maejo59.com/uploadpath/content_image01_00251.jpg


น้ำตา...ค่าน้ำนม

ลูกน้อยเจ้ากลอยตา แม่ห่วงหากว่าชีวัน
ถึงแม่จะอาสัญ ก็ไม่หวั่นเกรงอันใด
ห่วงอยู่ก็แต่ลูก รักพันผูกลูกเกินใคร
หากแม่ต้องจากไป จะมีใครไหนดูแล

แม้แม่ต้องม้วยมรณ์ ห่วงอาวรณ์ลูกของแม่
รักลูกผูกดวงแด ไม่ห่วงแม้แต่ชีวัน
ลูกน้อยไร้เดียงสา โผผวาหาแม่พลัน
น้ำนมแม่เท่านั้น ที่ช่วยให้ได้เติบโต

* * * * *

ชีวิตแม่แม้ใกล้ตายไม่ถวิล
ให้ลูกกินนมแม่แค่ยาไส้
ชีวิตแม่ไม่ว่าเป็นหรือว่าตาย
แม่พลีได้เพื่อลูกน้อยเจ้ากลอยตา

ชีวิตแม่แม้ใกล้ตายไม่วายห่วง
ลูกคือดวงหฤทัยที่ใฝ่หา
แม้เจ็บป่วยอย่างไรไม่นำพา
ขอลูกยาอยู่รอดและปลอดภัย...

ทั่นยาย 13/05/52

เห็นภาพนี้แล้วสะท้อนใจอย่างมากค่ะ ทำให้เกิดหลายมุมมองค่ะ
ชีวิตเพื่อชีวิต ... ชีวิตหนึ่งอยู่เพื่ออีกชีวิตหนึ่งรอด หรือ ชีวิตหนึ่งไปเพื่อให้ชีวิตหนึ่งอยู่
แต่ไม่ว่าจะเป็นเพื่ออะไรก็ตาม ชีวิตที่ยอมเสียสละได้ทุกอย่างเพื่อคนที่ตนรักนั้นย่อมมีค่าเสมอ...

ทั่นยาย
05-22-2009, 12:51 PM
ต้นแอปเปิ้ล...กับเด็กน้อย

นานมาแล้ว มีต้นแอปเปิ้ลใหญ่อยู่ต้นนึงและก็มีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ คนนึง
ชอบเข้ามาอยู่ใกล้ๆและเล่นรอบๆต้นไม้นี้ทุกๆวัน
เขาปีนขึ้นไปบนยอดของต้นไม้ และก็กินผลแอปเปิ้ล
และก็นอนหลับไปภายใต้ร่มเงาของต้นแอปเปิ้ล เขารักต้นไม้ และต้นไม้ก็รักเขา
เวลาผ่านไป เด็กน้อยโตขึ้น และเขาไม่มาวิ่งเล่นรอบๆต้นไม้ทุกวันอีกแล้ว
วันหนึ่ง เด็กน้อย กลับมาหาต้นไม้ เด็กน้อยดูเศร้า
' มาหาฉัน และมาเล่นกับฉันเหรอ ' ต้นไม้ถาม
'ฉันไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้วนะ ฉันไม่อยากเล่นรอบๆต้นไม้อีกแล้ว
ฉันต้องการของเล่น ฉันอยากได้เงินไปซื้อของเล่น' เด็กน้อยตอบ
'ฉันไม่มีเงินจะให้ ....เก็บลูกแอปเปิ้ลของฉันไปขายสิ เพื่อเอาเงินไปซื้อของเล่น ' ต้นไม้ตอบ
เด็กน้อยตื่นเต้นมาก เขาเก็บลูกแอปเปิ้ลไปหมด และจากไปอย่างมีความสุข
หลังจากเขาเก็บแอปเปิลไปหมดแล้ว เขาไม่กลับมาหาต้นไม้อีกเลย ต้นไม้ดูเศร้า....

วันหนึ่ง เด็กน้อยกลับมา เขาดูโตขึ้น ต้นไม้รู้สึกตื่นเต้นมาก
'มาหาฉัน และมาเล่นกับฉันเหรอ' ต้นไม้ถาม
'ฉันไม่มีเวลามาเล่นหรอก ฉันมีครอบครัวแล้ว ฉันต้องทำงานเพื่อครอบครัวของฉันเอง
เราต้องการบ้าน ช่วยฉันได้ไหม '
'ฉันไม่มีบ้านจะให้ แต่... ตัดกิ่งก้านของฉันไปสิ ....เอาไปสร้างบ้าน'
ดังนั้นเด็กน้อยตัดกิ่งก้านทั้งหมดของต้นไม้ไป และจากไปอย่างมีความสุข
อีกครั้งที่ต้นไม้ถูกทิ้งให้เดียวดาย และเศร้า ....

วันหนึ่งในฤดูร้อน เด็กน้อยกลับมา ต้นไม้ดีใจมาก
'มาหาฉัน และมาเล่นกับฉันเหรอ' ต้นไม้ถาม
'เปล่า ฉันรู้สึกผิดหวังกับชีวิต และเริ่มแก่ขึ้น ฉันอยากแล่นเรือไปพักผ่อนไกลๆ ให้เรือฉันได้ไหม'
'ใช้ลำต้นของฉันได้ เอาไปสร้างเรือ เพื่อเธอจะได้เล่นเรือไปและมีความสุข' ต้นไม้ตอบ

ดังนั้น เด็กน้อยตัดลำต้นของต้นไม้ไปสร้างเรือ เขาล่องเรือไป และไม่เคยกลับมาอีกเลย
หลายปีผ่านไป ในที่สุดเด็กน้อยกลับมา คราวนี้เขาดูแก่ลงไปมาก
'ฉันเสียใจ ฉันไม่เหลืออะไรจะให้อีกแล้ว ไม่มีผลแอปเปิ้ลให้ ...ฉันไม่มีลำต้นให้ปีนอีกแล้ว'
'ฉันไม่มีฟันจะกินแล้ว ฉันปีนไม่ไหว และฉันก็แก่แล้ว ' เด็กน้อยตอบ
'ฉันไม่มีอะไรเหลือให้อีกแล้ว สิ่งเดียวที่เหลือ มีเพียงรากที่กำลังจะตาย'
'ตอนนี้ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แค่อยากได้ที่พักพิง ฉันเหนื่อยมาหลายปีแล้ว'
'รากของต้นไม้แก่ๆ จะเป็นที่พักพิงของหนูได้ ...... มาสิ นั่งลงข้างๆฉัน ...หลับให้สบาย...'
เด็กน้อยนั่งลงข้างๆ ต้นไม้ดีใจ ยิ้ม ...และน้ำตาไหล........

นี่เป็นเรื่องสำหรับทุกๆคน ต้นไม้ในเรื่องคือพ่อแม่ เมื่อเราเป็นเด็กตัวเล็กๆ เรารักที่จะเล่นกับพ่อกับแม่...
เมื่อเราโตขึ้น เราทอดทิ้งพ่อ และแม่ และกลับมาหาท่าน เมื่อเราต้องการบางสิ่งบางอย่าง
หรือเมื่อเรามีปัญหาไม่ว่าอย่างไร ...พ่อ และแม่ของเราก็จะอยู่และให้ทุกสิ่งอย่างที่ท่านทำได้
หวังเพียงเรามีความสุข คุณอาจจะคิดว่า 'เด็กน้อย' ในเรื่องโหดร้าย
แต่นั่นคือความจริงที่สะท้อนให้เห็นว่าพวกเราทำกับผู้มีพระคุณอย่างไร ?
........ แล้วต้นไม้ของคุณล่ะ ....... เด็กน้อย .....???

ทั่นยาย
05-26-2009, 10:31 PM
สวัสดีค่ะญาติธรรมทุกท่าน อยากให้ได้อ่านจดหมายจากแม่ฉบับนี้จังค่ะ
แล้วจะรู้ว่าผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าแม่หน่ะ น่ารักขนาดไหน ไม่เชื่อลองอ่านดูสิคะ

แม่จะเขียนจดหมายนี้ช้าๆ น๊ะ เพราะแม่รู้ว่า แกน่ะ อ่านหนังสือไม่ค่อยเร็ว
ตอนนี้พวกเราไม่ได้อยู่ที่บ้านเดิมแล้วนะลูก พ่อแกเขาอ่านหนังสือพิมพ์เจอ
เค้าบอกว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่จะเกิดในบ้านตัวเอง 45 %
ดังนั้น พวกเราจึงย้ายบ้านมาเช่าเขาอยู่ไง รอบคอบดีมั๊ยล่ะ

ที่นี่อากาศดีนะลูก ฝนตกแค่อาทิตย์ละสองครั้งเอง ครั้งละสามวัน กับครั้งละสี่วัน
เออ..แต่แม่ส่งที่อยู่ใหม่ให้แกไม่ได้หรอกน๊ะ เพราะคุณคนเช่าคนก่อนมันเอาป้ายเลขที่บ้านไปด้วย
สงสัยมันคงจะเอาไปติดบ้านหลังใหม่พวกมัน
อ้อ.. บ้านนี้มีเครื่องซักผ้าด้วยนะ แต่เครื่องแบบนี้มันเสียอยู่อย่างเดียว สงสัยถังมันรั่วน่ะลูก
ใส่น้ำทีไรมันไหลออกทางท่อข้างหลังทุกที ใส่น้ำเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม แม่เลยหันมาใช้กาละมังเหมือนเดิม

อ้อ .... เสื้อแจ็กเก็ตที่แกอยากให้แม่ส่งไปให้น่ะ กระดุมมันเป็นเหล็กน๊ะลูก หนักมาก
เวลาส่งไปก็จะเสียตังค์เยอะ ดีที่ป้าแกเขาฉลาด เขาก็เลยเลาะกระดุมออกหมด
ถ้าแกอยากใส่ก็เย็บกระดุมเอาเองน๊ะ แม่เอากระดุมใส่ถุงแนบมาพร้อมกับแจ็กเก็ตแล้ว
เออ..... น้องสาวแกเพิ่งคลอดลูกน๊ะเช้านี้ แม่ยังไม่รู้ว่าเป็นชาย หรือ หญิง
ดังนั้น แม่เลยบอกไม่ได้ว่าแกจะได้เป็นป้าหรือเป็นลุง

ป.ล. แม่กะจะส่งเงินให้แกอยู่พอดี แต่แม่ดันปิดซองจดหมายแล้วน่ะสิ.....ลืม

รัก...จาก แม่


ที่มา : Fw เมล์จากลูกที่น่ารักคนหนึ่งซึ่งเป็นกัลยาณมิตรที่แสนดีด้วยค่ะ อิอิ

ทั่นยาย
07-25-2009, 12:03 PM
สวัสดีค่ะญาติธรรมทุกท่าน

วันนี้มีเรื่องราวของลูกกตัญญูมาให้อ่านค่ะ เพื่อสะกิดเตือนว่า ที่เรามีพ่อมีแม่อยู่ชิดเคียงใกล้ ให้อบอุ่นใจอยู่เสมอนั้น
ช่างเป็นบุญอันมากมายยิ่งเชียวค่ะ เพราะว่าบางคนเค้าไม่มีโอกาสได้ซุกหาไออุ่ยจากอกพ่อแม่เหมือนเราหรอกค่ะ
บางคนเกิดมาไม่เคยได้เห็นหน้าพ่อแม่ด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นใคร ไม่เคยได้สัมผัสไออุ่นจากอกพ่อแม่เลย
บางคนก็ต้องพลัดพรากจากพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก ความอบอุ่นจากอกพ่อแม่เป็นเพียงความทรงจำอันเลือนลาง
ที่คอยสะกิดเตือนให้คิดถึงและโหยหา พยายามติดตามค้นหาเพื่อจะให้ได้เห็นหน้าพ่อแม่อีกสักครั้งในชีวิต...
บางคนก็โชคดีได้เจอหน้าพ่อแม่ ได้โผเข้าหาอ้อมกอดอันอบอุ่น แต่บางคนช่างโชคร้ายนัก
แม้จะค้นหาจนแทบพลิกแผ่นดิน ตราบถึงวันตายก็ไม่ได้เห็นหน้าพ่อแม่แม้เสี้ยววินาที...
อ่านเรื่องจริงของคนๆ หนึ่งที่เฝ้าตามหาแม่ จนตัวตาย...

"คิม" เกาหลี กตัญญู สุดท้ายตายก่อนพบแม่

"ไอ้คิม"...คือชื่ออันคุ้นชินของหนุ่มน้อยเกาหลียอดกตัญญู ปาร์ค ยอง แบ ของหมู่ตาด
หรือ ส.ท.ตราด กองจันดี และหมู่วีระ หรือ พ.ท.สุริยิน ประภาสวัตร สองทหารไทย
ที่ไปร่วมรบในสมรภูมิสงครามเกาหลีเหนือและใต้

นับจากปี พ.ศ.2524 เป็นเวลา 28 ปี...ล่วงมาแล้ว เรื่องราวของไอ้คิม เหมือนหนังเรื่องยาว
ที่เริ่มนับหนึ่งในหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ไอ้คิมเป็นผลผลิตของสงครามเกาหลีเหนือ...เกาหลีใต้ เขาพลัดหลงกับแม่และน้องชาย
ด้วยวัยเพียงแค่ 7 ขวบ ขณะกำลังชุลมุนอยู่ท่ามกลางเสียงปืน ควันระเบิดคละคลุ้ง
ในเสี้ยววินาทีที่มีความเป็นความตาย หมู่ตาดกับหมู่วีระ สองทหารไทยในสมรภูมิเกาหลี
ก็เข้าไปช่วยอุ้มไอ้คิมขึ้นรถทหารพาไปเลี้ยงในค่ายทหาร
ไอ้คิมมีหน้าที่ซักผ้า รีดผ้า ช่วยทำงานสารพัดแลกกับอาหารและเครื่องนุ่งห่มกันหนาว
พร้อมกับหัดพูดภาษาไทย คิมกับหมู่วีระ...หมู่ตาดใกล้ชิดกันมาก

เขาเรียกทหารทั้งสองว่าพ่อปีเดียวกันสองทหารไทยถูกส่งตัวกลับไทย คิมยังผูกพันกับค่ายทหาร
รับใช้ ทหารรุ่นต่อๆมา บ่มเพาะความรู้สึกผูกพันไปถึงคนไทยทุกคนที่เจอ คิมช่วยเหลือรับใช้
คนไทยทุกคณะที่เดินทางไปเกาหลี เมืองที่เขาอยู่โดยไม่เคยพูดถึงค่าตอบแทน

บ้านของปาร์ค ยอง แบ อยู่ที่อินชอน ห่างจากโซล 30 กิโลเมตรด้วยสายใยรักที่มีต่อคนไทย
ในบ้านของปาร์คจึงเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ไทยและทุกอย่างที่ได้จากคนไทย แม้กล่องใส่น้ำพริก
ทัพฟุตบอลไทย คณะสื่อมวลชนที่ไปแข่ง "ปักจุงฮีคัพ" น่าจะคุ้นเคยกับปาร์คดี มักเรียกเขาว่า
อาจารย์ปาร์ค หรือ อาจารย์พัก

เพื่อนนักข่าวกีฬาอยู่ในวัยใกล้กับปาร์คในวันนี้ บอกว่าคิมมาด้วยใจ ตำแหน่งหน้าที่ก็ไม่มี
เวลาทำงานไม่มีปัญหา เวลานอนก็นอนขลุกอยู่ด้วยกัน แต่เวลากินแต่ละมื้อก็ต้องอาศัยน้ำใจ
เพื่อนพี่น้องคนไทย โดยเฉพาะสื่อช่วยตุนอาหารมาเผื่อประทังหิว
เป็นอีกฉากชีวิตจริงที่ต้องจดจำ และยอมรับว่าปาร์คกับพวกเรามีความรักผูกพันต่อกันมาก
ปาร์คสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกียงฮีในเกาหลี วิชาพลศึกษา แต่ความที่ชอบมาขลุก
กับคนไทย ทำให้ทางโรงเรียนเชิญออกมาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งยังมีโรคประจำตัว โรคกระเพาะ
ทำให้ปาร์คต้องว่างงานเป็นประจำ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องร้อนใจ ภรรยาปาร์คมีอาชีพสอนดนตรี
มีรายได้ ค้ำจุนครอบครัว เลี้ยงลูกชายลูกสาวได้อย่างไม่ขัดสน

วันเวลาผ่านไป ปาร์ค ยอง แบ อายุ 30 ปีเศษในความรู้สึกโหยหาสองทหารที่เขานับถือ
เป็นพ่อบุญธรรมในไทย ลึกๆในหัวใจ คิมก็ยังโหยหาแม่ เขาลงประกาศตามหาพ่อแม่
ในหน้าหนังสือพิมพ์ ไม่นานนักก็ได้ข่าว พ่อและแม่แยกไปอยู่ทางเกาหลีเหนือ
เมื่อมีคนไทยไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ นักเขียน ส่วนใหญ่เป็นนักข่าวเดินทางไปเกาหลี
ไอ้คิมเข้ามาอาสาตัวช่วยเป็นล่าม แล้วก็มักจะฝากให้ช่วยประกาศตามหาหมู่ตาดกับหมู่วีระ
ในความทรงจำที่ติดตรึงมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เขามีภาพถ่ายโพลารอยด์ เวลาผ่านมากว่า 20 ปี
สีของภาพเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลคล้ำ ในภาพนั้นมีสองทหารไทยรูปร่างสูงใหญ่ยืนอยู่คู่กัน
คิมตอนนั้นความสูงเลยหัวเข่าสองทหารไทยไปนิดเดียว
คิมจำได้แม่นยำ คนหนึ่งชื่อหมู่วีระ อีกคนชื่อหมู่ตาด เขาไม่มีข้อมูลอันใดมากไปกว่านี้
ทีมนักข่าวกีฬาไทยรัฐขอหลักฐานนั้นไว้ กลับมาถึงไทยก็เริ่มค้นหาทะเบียนทหารในสงครามเกาหลี
มีชื่อ "วีระ" 32 คน ยากที่จะเจาะจงไปว่า "วีระ" ไหน
โชคดี ชื่อหมู่ตาดหรือตราด...มีคนเดียว ปี 2524 ยศเป็นพันตรี เปลี่ยนชื่อเป็นนรชัย
พ.ต.นรชัย กองจันดี สังกัดศูนย์การทหารราบธนรัชต์ ปราณบุรี
เวลาผ่านมายาวนาน ถึงวันนั้น 28 ปี แต่หมู่ตราดก็ยังจำ "ไอ้คิม" ได้ ไม่ลืมเลือน
เขาอุทานทันทีเมื่อเห็นภาพว่า "ไอ้คิมนั่นเอง...มันยังไม่ตายอีกหรือ"
หมู่ตาดเล่าว่า วีรกรรมของเจ้าคิมมีมาก ครั้งหนึ่งทหารในแคมป์อดอาหาร เพราะขาดการติดต่อ
กับหน่วยเหนือ คิมเดินออกไปหาชาวบ้านขอเนื้อมาให้กินประทังหิว"อิ่มแล้ว คิมมันจึงบอกว่า
เป็นเนื้อหมา จะโมโหมันก็ไม่ได้"
เมื่อเจอหมู่ตราดแล้วก็เท่ากับได้กุญแจไขไปหาหมู่วีระ ซึ่งถึงวันนั้นเปลี่ยนชื่อแล้วเป็นครั้งที่ 3
ชื่อใหม่ยศใหม่ พ.ท.สุริยิน ประภาสวัตร สังกัดกรม การรักษาดินแดน
พ.ท.สุริยินฟื้นความหลังช่วงที่ทหารไทยช่วงสงครามเกาหลีปี 2493-2494 เจอเจ้าคิมครั้งแรก
ก็รู้สึกถูกชะตา "มันเป็นเด็กฉลาด คล่องแคล่ว บุคลิกก็ดี" หมู่วีระบอก

วันที่ต้องเดินทางกลับไทย ถุงทะเลใบใหญ่ที่ทหารไทยต้องแบกลงเรือใบของหมู่วีระอัดแน่นเป็นพิเศษ
ฝรั่งขอตรวจถุงทะเลเจอเจ้าหนูน้อยคิมซุกอยู่ในนั้นแผนพาเจ้าคิมมาไทยล้มเหลว
หมู่วีระต้องออกแรงฝากฝังให้เพื่อนทหารไทย ที่มารับช่วงภารกิจดูแลต่อข่าวการพบหมู่ตาด หมู่วีระ
ถูกส่งไปถึงปาร์ค ยอง แบ ที่เกาหลีใต้ ช่วงเวลานั้น ปาร์คช่วยงานอยู่ในกองถ่ายภาพยนตร์ไทย
เรื่องอารีดัง ที่ไปถ่ายทำถึงเกาหลี นางเอกใช้คนเกาหลี แต่พระเอกไทย จตุพล ภูอภิรมย์
ถ่ายในเกาหลีจบแล้วก็ยกกองถ่ายกลับไทย ปาร์คขออาศัยเดินทางมาไทยด้วย
ที่สนามบินดอนเมือง ดาราไทย ดาราเกาหลี เดินเข้าไปให้สัมภาษณ์นักข่าว บันเทิงในห้องวีไอพี
ปาร์ค ยอง แบ หรือเจ้าคิมในชุดสากลสีเทา ถูกพาไปเจอกับ พ.ท.สุริยิน
"พ่อวีระ..." ... "ไอ้คิม มึงหรือ"
สองลูกผู้ชายที่ผูกสายสัมพันธ์กันยาวนานถึง 28 ปี อุทานแล้วก็ยืนจ้องหน้ากันครู่ใหญ่
จากนั้นก็โผเข้ากอดกัน น้ำตาซึมทั้งสองคน ภาพและข่าวนี้ขึ้นหน้าหนึ่งเป็นข่าวเดี่ยวขายดีของยุคนั้น
ความดังของปาร์ค ยอง แบ เขามักเล่าให้นักข่าวรุ่นหลังฟังว่า เรียกแท็กซี่ เรียกตุ๊กตุ๊กกี่คัน
ไม่มีโชเฟอร์คนไหนคิดค่าโดยสารสักคน
นับแต่วันนั้น ปาร์ค ยอง แบ ก็ผูกขาดอยู่ในประเทศไทย นานๆทีจะไปเกาหลี พบสองพ่อบุญธรรม
หมู่ตาด หมู่วีระแล้ว ก็ยังเหลือฝันสุดท้าย เขาอยากจะพบหน้าแม่สักครั้ง
"ก่อนเกิดวิกฤติสงคราม ครอบครัวเราเป็นเกษตรกรปลูกโสมขายในหมู่บ้านปันมุนจอมของเกาหลีใต้
" ปาร์คฟื้นความหลัง ปันมุนจอม เป็นหมู่บ้านกั้นกลางแบ่งเขตระหว่างเกาหลีเหนือและใต้
ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่ปลูกโสมดีที่สุดในโลก

วันหนึ่งทหารเกาหลีเหนือบุกเข้ายึดหมู่บ้าน กวาดต้อนผู้คน ครอบครัวปาร์คต้องอพยพหนีลงมาทางใต้
ท่ามกลางความหนาวและหิว ระหว่างที่กำลังเดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำขนาดเล็กเชื่อมสันเขาสองลูก
ทหารเกาหลีใต้ยกกำลังมาสกัดกองทัพเกาหลีเหนือ เกิดปะทะกันรุนแรงปาร์ค ยอง แบ วัย 7 ขวบ
พลัดหลุดมือจากแม่ตรงกลางสะพาน จากนั้นเขาระเหเร่ร่อนในฐานะเด็กจรจัด
กับเพื่อนคนไทยใกล้ตัว ปาร์ครำพันความหลังให้ฟังเสมอ
"จากวันนั้นผมก็ไม่เคยเจอแม่และพี่น้องอีก ตอนนี้ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผมเกิดวันไหน
แม่หน้าตาอย่างไร" หลังสงครามสิ้นสุด ปาร์ค ยอง แบ สร้างเนื้อสร้างตัวจนมีธุรกิจทำโรงงาน
ผลิตเปียโน แต่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ปาร์คก็ยังไม่คลายความหวังที่จะพบแม่

นับวันปาร์คยิ่งรู้สึกว่า เวลามันยาวนานเหลือเกิน เขาใช้ความพยายามตามแม่ทุกทาง ทั้งทางตรง
ทางลับ แต่ก็ไม่เคยได้ผล รัฐบาลเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ยังไม่ยอมเป็นญาติดีกัน
สองประเทศเกาหลีต่างมีระเบียบเข้มงวด ใครในประเทศติดต่อกับประเทศศัตรูก็จะมีความผิดฐาน
เป็นสายลับ โทษเด็ดขาดถึงขั้นประหารปาร์คเล่าว่า เขาร้องไห้ทุกครั้งที่ฝันถึงแม่ เมื่อความหวังพบแม่
ยังไม่มี เขาก็ให้คนงานโรงงานเซรามิกปั้นรูปแม่ตามจินตนาการมาตั้งไว้ดูต่างหน้าเป็นเครื่องปลอบ
ประโลมจิตใจยามคิดถึง ช่วงหลังๆปาร์คเศร้าซึมมากขึ้น เขาเริ่มป่วยเป็นโรคหัวใจ ดิ้นรนรักษาชีวิตไว้
กินแต่ผัก อาหารจืด พร้อมทั้งออกกำลังกายเป็นประจำตามคำแนะนำของหมอลูกสาวคนโต
ปาร์คพามาเรียนหนังสือในไทย ฝากฝังให้หลายๆคนช่วยดูแล ถึงวันนี้ปาร์ค ยอง แบ มีอายุ 72 ปี

เช้าวันที่ 21 ก.ค. 2552 ในประเทศไทย อายุปาร์ค 72 ปี ถึงวาระสุดท้าย เจ้าคิม หนุ่มเกาหลี
ยอดกตัญญูก็ลาจากโลกนี้ไปสู่อีกโลก ที่ใช้คำเรียกกันว่า...โลกหน้า
โลก...นั้น ไม่น่าจะมีเส้นขนานที่ 38 แบ่งเกาหลีเหนือออกจากเกาหลีใต้ หวังกันว่า ปาร์ค ยอง แบ
น่าจะพบแม่...ผู้ให้กำเนิดของเขาแล้ว สมดังที่ถวิลหา มาค่อนชีวิต.

http://www.thairath.co.th/media/content/2009/07/22/21330_20_2.jpg
ปาร์ค ยอง แบ (คิม)

ขอจดจำจารไว้ในหัวใจ...
กุศลใดเกิดจากการนำเรื่องของคุณคิมมาเผยแพร่
ขอดวงวิญญาณของคุณคิมได้รับรู้และอนุโมทนา
ขอให้ไปสู่สุคติ มีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไปเทอญ

ที่มาจาก ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/pol/21330 (http://www.thairath.co.th/content/pol/21330)

ทั่นยาย
08-12-2009, 01:05 PM
http://img294.imageshack.us/img294/3256/mom02wj8.gif

เพลง อิ่มอุ่น
ศิลปิน ด.ญ.กชกร สมบูรณานนท์
http://www.imeem.com/naynaepurikuz/music/eDjapvYs// (http://www.imeem.com/naynaepurikuz/music/eDjapvYs//)

อุ่นใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม
อุ่นอกอ้อมแขนอ้อมกอดแม่ตระกอง
รักเจ้าจึงปลูก รักลูกแม่ย่อมห่วงใย
ไม่อยากจากไปไกล แม้เพียงครึ่งวัน

ให้กายเราใกล้กัน ให้ดวงตาใกล้ตา
ให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผูกพัน

อิ่มใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม อิ่มอกอิ่มใจ
อิ่มรักลูกหลับนอนน้ำนมจากอก
อาหารของความอาทร แม่พร่ำเตือนพร่ำสอน สอนสั่ง

ให้เจ้าเป็นเด็กดี ให้เจ้ามีพลัง
ให้เจ้าเป็นความหวังของแม่ต่อไป
ใช่เพียงอิ่มท้อง ที่ลูกร่ำร้อง
เพราะต้องการไออุ่น อุ่นไอรัก อุ่นละมุน
ขอน้ำนมอุ่นจากอกให้ลูกดื่มกิน

ให้กายเราใกล้กัน.. ให้ดวงตาใกล้ตา ให้ดวงใจ..
เราสองเชื่อมโยงผูกพันธ์ ให้เจ้าเป็น.. เด็กดี
ให้เจ้ามี...พลัง ให้เจ้าเป็น.. ความหวังของแม่ต่อไป..

กราบแม่ด้วยใจของลูกค่ะ

ทั่นยาย
08-13-2009, 08:41 PM
คำสอน..ของ.." แม่ "

ขอให้ลูกมีน้ำใจต่อทุกๆ คน ดังนี้.!

๑. โอบอ้อมอารี
๒. วจีไพเราะ
๓. สงเคราะห์ผู้อื่น
๔. วางตนให้เหมาะสม

การมีน้ำใจต่อทุกคนเป็นเสน่ห์สำหรับมนุษย์ในยุคนี้..
ลูกมีน้ำใจต่อเพื่อน เพื่อนก็จักมีน้ำใจต่อเรา
แต่ถ้าเพื่อนไม่มีน้ำใจต่อเราอย่าไปโกรธเขา
คิดเสียว่า ไม่เป็นไร...เราทำเองได้

คนโบราณกล่าวว่า
“รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี”
การให้อภัยเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ตลอดกาล
การแก้แค้น เป็นชัยชนะที่ไม่ยั่งยืน
การแก้แค้นเป็นชัยชนะเพียงชั่วคราวเท่านั้น

ถ้าลูกต้องการชนะตลอดไปจงให้อภัยเป็นดีที่สุด.
ลูกลองสังเกต คนโง่...มักอวดตัวว่าฉลาด หรือ
อยากให้คนอื่นรู้ว่าเราฉลาด จึงโอ้อวด คุยเบ่ง
ทับถมคนอื่นจงระวังไว้ให้ดี
ส่วนคนฉลาด มักไม่อวดตัว
จักเป็นคนอ่อนน้อม ถ่อมตนไม่หยิ่งยะโส ไม่โอหัง

โกรธ คือ โง่ โมโห คือ บ้า ไม่โกรธดีกว่า จะได้ไม่บ้า ไม่โง่
การทำผิด...เป็นสิ่งที่ต้องปรับปรุง แก้ไข
การทำถูก...เป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไป
ลูกอย่ากังวล ว่าเราทำผิด แล้วอย่าเสียใจเกินไป
เรายังเล็ก ถ้าผิดแล้ว เราก็แก้ไขให้ดีขึ้น
จงจำไว้ว่า ทุกอย่างแก้ไขได้
ลูกจงเคารพ คำสั่ง วินัย และเคารพผู้อื่น
ลูกจงอย่าทำให้ใคร โกรธง่ายๆ
ลูกจงอย่าโกรธใครง่ายๆ
ลูกจงขอบคุณ และขอบใจใครบ่อยๆ จนเคยชิน
และขอโทษเมื่อทำพลาดหรือพลั้งเผลอไป

“น้ำใจดีเป็นสิ่งที่พึงปรารถนาของคนทั้งโลก”
ลูกรัก...การที่จักทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้สำเร็จ
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย
เพราะฉะนั้นลูกต้องร่วมมือกับผู้อื่นด้วย
เมื่อลูกต้องการทำสิ่งใด ก็จะได้รับความร่วมมือเช่นกัน

โบราณท่านว่า...
“ฆ่าคนได้รับโทษ ฆ่าความโกรธได้รับบุญ”
“ดูคนดีที่การกระทำ ดูผู้นำดูที่การเสียสละ”
“อยู่คนเดียวระวังความคิด อยู่กับญาติมิตรระวังคำพูด..

อย่าเมินเฉยต่อการช่วยเหลือผู้อื่น ลูกต้องเป็นคนมีน้ำใจต่อผู้อื่นเสมอ
ลูกควรจักช่วยเหลือผู้อื่นทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ แต่พึงระวังว่า...

"การช่วยเหลือนั้นจักสำเร็จประโยชน์เมื่อช่วยอย่างถูกวิธี.."
ลูกรัก...ต้องช่วยเหลือผู้อื่นสม่ำเสมอ การช่วยเหลือผู้อื่น
จักทำให้ลูกสุขใจเมื่องานสำเร็จ
ช่วยโดยการพูดการจา...ให้คำปรึกษา
ช่วยด้วยการกระทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ.
ช่วยด้วยการคิดให้ อย่าไปคิดเอาของเพื่อน
ช่วยด้วยเงิน (ให้อย่างพอควร แต่อย่าให้ยืม)

เรามิได้เกิดมาเพื่อที่จะเป็นทุกข์
แต่เกิดมาเพื่อที่จักทำให้ผู้อื่นเป็นสุข...
ลูกช่วยตัวเองไม่ได้...ผู้ผิดคือพ่อและแม่
ลูกช่วยตัวเองได้เมื่อใด...ผู้เป็นสุขใจคือพ่อ - แม่ - ลูก

ถ้าลูกอยากเป็นคนที่มีความสุขใจ
ลูกต้อง...มองส่วนดีของเขา ...มองส่วนเสียของเรา
แล้วปรับปรุงให้ดีขึ้น ความสุข. อยู่ที่การทำความดี..
มีเมตตา .มี น้ำใจ ช่วยเหลือ เกื้อ กูลต่อบุคคลที่พึง
จะช่วยได้ขอให้ลูกมีความสุข กับการทำดี มีน้ำใจ
บุญรักษาลูกตลอดไป

ด้วย ..ความปราถนาดี ..ของแม่..

ทั่นยาย
09-04-2009, 04:27 PM
เรื่องของสการ์เลต..ความรักอันยิ่งใหญ่ของแม่แมวเหมียว

วันนี้ทั่นยายได้รับ fwd mail จากกัลยาณมิตรที่แสนดีท่านหนึ่ง
อ่านแล้วประทับใจสุดๆเลยค่ะ จึงขออนุญาตินำความรักอันยิ่งใหญ่
อย่างหาสิ่งใดมาเปรียบมิได้นี้ มาแบ่งปันให้ญาจิธรรมได้ประทับใจด้วยกันค่ะ
เป็นเรื่องราวที่สุดแสนจะประทับใจของแม่แมวที่ชื่อ "สการ์เลต"
เรื่องราวจะประทับขนาดไหนลองติดตามอ่านกันดูเองนะคะ

http://www.bloggang.com/data/maewjomkuan/picture/1252692023.jpg (http://www.bloggang.com/data/m/maewjomkuan/picture/1252692023.jpg)

http://www.bloggang.com/data/maewjomkuan/picture/1252692916.jpg (http://www.bloggang.com/data/m/maewjomkuan/picture/1252692916.jpg)

http://www.bloggang.com/data/maewjomkuan/picture/1252692942.jpg (http://www.bloggang.com/data/m/maewjomkuan/picture/1252692942.jpg)

http://www.bloggang.com/data/maewjomkuan/picture/1252692966.jpg (http://www.bloggang.com/data/m/maewjomkuan/picture/1252692966.jpg)

http://www.bloggang.com/data/maewjomkuan/picture/1252692992.jpg (http://www.bloggang.com/data/m/maewjomkuan/picture/1252692992.jpg)

http://www.bloggang.com/data/maewjomkuan/picture/1252693011.jpg (http://www.bloggang.com/data/m/maewjomkuan/picture/1252693011.jpg)

http://www.bloggang.com/data/maewjomkuan/picture/1252693030.jpg (http://www.bloggang.com/data/m/maewjomkuan/picture/1252693030.jpg)

http://www.bloggang.com/data/maewjomkuan/picture/1252693052.jpg (http://www.bloggang.com/data/m/maewjomkuan/picture/1252693052.jpg)

http://www.bloggang.com/data/maewjomkuan/picture/1252693076.jpg (http://www.bloggang.com/data/m/maewjomkuan/picture/1252693076.jpg)

http://www.bloggang.com/data/maewjomkuan/picture/1252693096.jpg (http://www.bloggang.com/data/m/maewjomkuan/picture/1252693096.jpg)

http://www.bloggang.com/data/maewjomkuan/picture/1252693130.jpg (http://www.bloggang.com/data/m/maewjomkuan/picture/1252693130.jpg)

http://www.bloggang.com/data/maewjomkuan/picture/1252693153.jpg (http://www.bloggang.com/data/m/maewjomkuan/picture/1252693153.jpg)

http://www.bloggang.com/data/maewjomkuan/picture/1252693177.jpg (http://www.bloggang.com/data/m/maewjomkuan/picture/1252693177.jpg)

http://www.bloggang.com/data/maewjomkuan/picture/1252693201.jpg (http://www.bloggang.com/data/m/maewjomkuan/picture/1252693201.jpg)

http://www.bloggang.com/data/maewjomkuan/picture/1252693245.jpg (http://www.bloggang.com/data/m/maewjomkuan/picture/1252693245.jpg)

http://www.bloggang.com/data/maewjomkuan/picture/1252693268.jpg (http://www.bloggang.com/data/m/maewjomkuan/picture/1252693268.jpg)

ความรักของแม่ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันค่ะ วันนี้แม่แมวเหมียวสการ์เลต
ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของแม่ที่หาใดเปรียบมิได้

ตั้งจิตอธิฐานขอส่งผลบุญทั้งหลายให้แม่แมว สการ์เลตและลูกๆขอให้อยู่ดีมีความสุขตลอดไป
ขอผลบุญในครั้งนี้ส่งผลให้แม่แมวสการ์เลตเกิดเป็น มนุษย์ผู้ประเสริฐ ในทุกๆชาติไปเทอญ

ทั่นยาย
09-12-2009, 12:24 PM
เรื่องของสการ์เลต..ความรักอันยิ่งใหญ่ของแม่แมวเหมียว
น่ายกย่องชื่นชมความรักของแม่แมวสการ์เลตอย่างยิ่งค่ะ
ทั่นยายจึงขอนำภาพของสการ์เลตมาลงอีกครั้งนะคะ

หลังจากได้รับการรักษาจนหายดี สการ์เลตก็กลับมา
สง่างาม สวยสมกับเป็นแม่เหมียวฮีโร่อย่างนี้ค่ะ

http://assets.animal-league.org/hpelements/scarlett-pf.jpg

ภาพล่างนี้เป็นภาพของสการ์เล็ตที่โดนไฟลวงจนบาดเจ็บสาหัส
จากการที่เธอพยายามเข้าไปช่วยลูกๆของเธอจากกองเพลิงค่ะ

http://www.moggies.co.uk/html/scarlett/scarlettburned.jpg

www.geocities.com/mitchumgirl4/SCARLETT.html (http://www.geocities.com/mitchumgirl4/SCARLETT.html) ดูภาพครอบครัวของสการ์เล็ตเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ

ทั่นยาย
09-13-2009, 07:25 PM
บทเพลงแม่นกกาเหว่าเอ๋ย เวอร์ชั่น 1
http://www.dekorlaku.com/index.phpoption=com_content&task=view&id=108&Itemid=176 (http://www.dekorlaku.com/index.phpoption=com_content&task=view&id=108&Itemid=176)

(ญ) แม่นกกาเหว่าเอ๋ย..ไฉนเลยทอดทิ้งลูกน้อย
ปล่อยไข่ไว้ให้แม่กาฟัก ใจร้ายนัก บินจรจากไป
ไม่มีความห่วงหาอาลัย เร้นกายหายไป
ไม่เหลียวหลังมามอง แม่กาคาบเอาข้าวมาเผื่อ
แม่กาเอื้อเฟื้อหาเหยื่อมาป้อน ทะนุถนอมขับกล่อมจอมใจ
ด้วยความห่วงใยในรักผูกพัน แม่มิใช่ผู้ให้กำเนิด ไม่ได้เกิดลูกน้อยกลอยใจ
แม่จริงๆทิ้งเจ้าไปไหน หมดความห่วงใย ไร้รักและผูกพัน
(ช) แม้มิใช่ผู้ให้กำเนิด ไม่ได้เกิดเด็กน้อยกลอยใจ
แต่ความรักที่เธอมีให้ ไม่มีผู้ใดจะมาเทียบเปรียบปาน
(ญ) เด็กน้อยเอย หนูจงเป็นคนดี จงรักศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคน
เอาความอดทนนี้เป็นที่ตั้ง จงมีความหวังอย่าคิดท้อแท้
ซื่อสัตย์พากเพียรพยายาม อย่าคบคนทรามจำคำแม่สอน
อ่อนน้อมถ่อมตนนะเราเกิดมาเป็นคน อย่าหลงลืมตัวตน จงเป็นคนกตัญญู..
(ช) แม้มิใช่ผู้ให้กำเนิด ไม่ได้เกิดเด็กน้อยกลอยใจ
(ญ) แต่ความรักที่แม่มีให้ ไม่มีผู้ใดจะมาเทียบเปรียบปาน
(ช) สังคมยุคโลกาภิวัฒน์ ถึงจุดวิบัติ ศีลธรรมเสื่อมสิ้น
แม่นกน้อย ทิ้งลูกน้อยโบยบิน คือข่าวคาวเกิดขึ้นเป็นอาจินต์
เรื่องราวชาชิน ของสังคมไทย
(ญ) แม่นกน้อย ทิ้งลูกน้อยโบยบิน
(ช) คือข่าวคาวที่เกิดขึ้นเป็นอาจินต์
(ญ) เรื่องราวชาชิน ของสังคมไทย
(ช)คือข่าวคาวที่เกิดขึ้นเป็นอาจินต์
(ช,ญ) คือเรื่องราวชาชิน ของสังคมไทย


เขียนเนื้อร้อง ใส่ทำนอง ดีฆอลาฆู (ฉัตรชัย ศิริพันธุ์)
นักร้องนำ น้องหยา(บุปผาชาติ ปานสม)
นักร้องประสาน นาย"ฉาย สร้างสรรค์ดนตรีที่"
ฉาย สร้างสรรค์ดนตรีที่ ภัทราภรณ์สตูดิโอ

โดย เต๊ะ เจษฎาและนายฉาย
บันทึกเสียงร้อง ณ ไดม่อนสตูดิโอ
ควบคุมการร้องโดย อ.วิเชียร
ผมเขียน - แก้ไข มาเรื่อยๆ จาก 23 มีนาคม 2549 ถึง 12 กุมภาพันธ์ 2551
บันทึกเสียงเสร็จเมื่อ25 มิถุนายน 2551

ทั่นยาย
09-19-2009, 10:15 PM
" ลูกชายคนหนึ่ง.......เขียนถึงแม่ "

http://www.taklong.com/supermodel/r/143060mea%2001.jpg


http://www.taklong.com/supermodel/r/148098mea%2002.jpg


http://www.taklong.com/supermodel/r/155859mea%2003.jpg


http://www.taklong.com/supermodel/r/132355mea%2004.jpg


http://www.taklong.com/supermodel/r/158281mea%2005.jpg


http://www.taklong.com/supermodel/r/140248mea06.jpg


http://www.taklong.com/supermodel/r/115106mea%2007.jpg


http://www.taklong.com/supermodel/r/104541mea%2008.jpg


http://www.taklong.com/supermodel/r/82460mea%2009.jpg


http://www.taklong.com/supermodel/r/177940mea%2010.jpg


http://www.taklong.com/supermodel/r/132057mea%2011.jpg

ขอขอบคุณ คุณชูชาติ ครุฑใจกล้า ที่ได้นำเสนอบทกลอนอันไพเราะ
พร้อมด้วยเรื่องราวของบุพการี ที่สร้างความประทับใจ ซึ้งใจเหลือเกินค่ะ
และขอขอบคุณเวปไซด์ตากล้องมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ

ทั่นยาย
01-17-2010, 09:20 PM
สวัสดีค่ะญาติธรรมทุกๆๆท่านค่ะ

วันนี้ทั่นยายมีเรื่องราวความรักความห่วงใยของแม่ที่มีต่อลูกๆมาฝากค่ะ
เมื่ออ่านแล้วลองทบทวนดูนะคะว่า เราคยเป็นแบบนี้หรือเปล่า...
http://www.maemaiplengthai.com/webboard/attachments/20090420_a545e8ab4f0f175f0080w2usM10Te3Ps.jpg

แม่ของฉัน กับเจ้านายของฉันใครสำคัญกว่ากัน

ทุกวัน ฉันต้องตื่นเช้า เข้างานแปดโมง วันนี้..ก็เหมือนเคย แต่เมื่อคืนฉันทำงานจนดึก
ตื่นสาย.. อารมณ์ตอนนั้น โมโหตัวเองมาก ที่ลืมตั้งนาฟิกาปลุก (โดนเจ้านายด่าแน่ๆ )
แม่มาเคาะประตูห้อง .... “ ตื่นหรือยังลูก หกโมงแล้ว “
ฉันหงุดหงิดมาก ... แล้วทำไมแม่ไม่ปลุกหนูให้เร็วกว่านี้ เนี่ย..หนูไปทำงานไม่ทันแล้ว
วันนี้..มีประชุมด้วย “ แม่ทำข้าวต้มให้หนูอยู่ เมื่อคืนเห็นนอนดึก อยากให้กินอะไรร้อนๆหน่อย “ ...
แม่ไม่ต้องมาพูดเลย ไม่กง ไม่กินมันแล้ว .....แม่จับแขนฉันเบาๆก่อนเดินออกจากห้อง
อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ ลงมาข้างล่าง แม่นั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว
“ กินข้าวต้มกับแม่ก่อนนะลูกนะ แม่รอหนูอยู่ “
หนูไม่กิน พูดโดยไม่มองหน้าแม่ เดินออกมาจากบ้านทันที ถึงที่ทำงาน
“ ไม่รู้หรืองัย ว่าวันนี้มีประชุม แล้วรายงานอยู่ไหน “
ยกมือไหว้ .. ขอโทษค่ะพี่ ....รีบส่งรายงานให้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
“ พี่เลื่อนประชุมไปเป็น 10 โมงนะ เดี๋ยวช่วยไปหาอะไรให้พี่กินหน่อยสิ “ ...
ได้ค่ะพี่ ... วิ่งเข้าห้องครัว หยิบโจ๊กกึ่งสำเร็จรูป รีบ รีบ รีบ เติมน้ำร้อน ...
ว๊า !! น้ำร้อนลวกมือ .. . มาแล้วค่ะพี่ โจ๊กร้อนๆเลยค่ะ....
ออกจากห้องประชุมเกือบเที่ยง แม่โทรมาจากบ้าน
“ เมื่อเช้า.. หนูวางผ้าเช็ดหน้าไว้ตรงไหนลูก แม่หาในตะกร้าไม่เจอ จะเอาไปซักน่ะ “
หาไม่เจอก็ไม่ต้องซักหรอก หนูจำไม่ได้ คงโยนไว้ที่ไหนน่ะแหละ เมื่อเช้าหนูรีบ ...
“ ไม่เป็นไรลูก แล้วเย็นนี้..กลับกี่โมง มากินข้าวกับแม่นะ”
ยังไม่รู้หรอกแม่ ว่างานเสร็จเมื่อไหร่ ยังงัย..แม่กินไปก่อนเลยแล้วกัน ไม่ต้องรอ .....
วางหูโทรศัพท์ ก้มหน้า ก้มตาทำงาน เอาใจเจ้านาย ....
“เอ!! พี่วางบัญชีรายชื่อลูกค้าทิ้งไว้แถวนี้มั่งรึเปล่า ไม่รู้ไปลืมไว้ที่ไหน หาไม่เจอ..
ไม่เป็นไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูช่วยหา พี่ลงไปทานข้าวเถอะค่ะเที่ยงกว่าแล้วนะคะ ....
หา หา หา หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ โธ่..พี่ขา ก็พี่มาทำหล่นไว้ใต้เก้าอี้ในห้องประชุมนี่นา
โ อย !! เที่ยงครึ่งแล้ว ลงไปกินข้าวไม่ทันแน่ๆ ไม่เป็นไร..บะหมี่ซักห่อพออิ่มก็แล้วกัน
....พี่คะ เจอแล้วนะคะ พี่ทำหล่นไว้ที่ห้องประชุมค่ะ
“ อ้าว..เหรอ “ รับเอกสารคืน ไม่มีแม้แต่ขอบใจสักคำ แต่ฉันกลับปลื้ม ที่ทำให้เจ้านายพอใจได้
ใกล้เลิกงานแล้ว.. รีบกลับบ้านไปนอนดีกว่า
“ ช่วยแก้งานตรงนี้ให้พี่หน่อยนะ เสร็จแล้ววางไว้บนโต๊ะพี่เลย พี่กลับก่อนล่ะ
ว่าแต่ว่า เราน่ะมีธุระอะไรรึเปล่า คงต้องกลับช้านิดนึงนะวันนี้ “
... ยิ้มรับ.. ไม่มีธุระอะไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูพิมพ์ให้เลยค่ะ
โทรหาเจ้านายตอนเกือบทุ่ม .. พี่ขา หนูแก้ไข และตรวจทานเรียบร้อยแล้วค่ะ หนูวางไว้บนโต๊ะนะคะ
“ กลับดึกจังลูก จะอาบน้ำก่อน หรือ กินข้าวก่อนล่ะ ?? “
....เงียบไม่มีเสียงตอบ ไม่มีรอยยิ้ม . ..
“ มา มา แม่ช่วย “ แม่ รวบของจากมือฉันไปวางบนโต๊ะ ...
หนูเหนื่อยมากเลยแม่ หนูอยากพักผ่อน กำลังจะเดินขึ้นห้อง ...
ฮัลโหล..สวัสดีค่ะ..เจ้านายเหรอคะมีอะไรรึเปล่าคะ ...
อ๋อ !! ไม่ยุ่งค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการให้เลยค่ะ
กุลี กุจอ เปิดคอมพิวเตอร์ ... เจ้านายคะ เรียบร้อยแล้วค่ะ
แม่..หายไปไหน ในครัวไม่มี ห้องนอนไม่มี
. . . แม่นั่งอยู่หลังบ้านเหงา ๆ คนเดียว . . .
แม่แอบร้องไห้ ... เพราะฉันสินะ ฉันทำให้แม่ต้องร้องไห้
แม่..ดูแลฉันมาทั้งชีวิต เป็นห่วงฉัน รักฉันมากกว่าใครๆ แต่..ฉันตอบแทนได้สาสมเหลือเกิน
ฉันเริ่มทบทวน... เจ้านายคนที่ให้เงินเดือนฉัน กับ แม่คนที่ให้ความเป็นคนแก่ฉัน
เพื่อประจบสอพลอเจ้านาย ฉันทำร้ายผู้ให้กำเนิดได้เพียงนี้เลยหรือ..
แม่ ่ ... หนูขอโทษ
ใคร??? เคยเป็นแบบฉันบ้าง .......
..............................................................................

ใน ชั่วชีวิตของคุณ คุณอาจจะเปลี่ยนงานหลายๆ ครั้ง คุณอาจจะมีเจ้านายนับไม่ถ้วน
แต่ตลอดชีวิตของคุณ.....คุณมีแม่มีเพียงคนเดียวครับ คนเดียวจริงๆ ทำดีกับท่านไว้เถอะ
อย่าทำให้ท่านต้องร้องไห้เพราะการกระทำของคุณเลย....คุณอาจจะรักท่านน้อยลง ทุกๆ วัน
แต่ท่านไม่เคยรักคุณลดลงเลย ตรงกันข้ามท่านกลับรักและเป็นห่วงคุณมากขึ้นทุกๆ วัน....
http://www.thummada.com/public_html/images/KidTeongMae.jpg

ทั่นยาย
04-08-2010, 05:20 PM
สวัสดีค่ะ ญาติธรรมทุกๆๆท่าน

วันนี้ทั่นยายนำเรื่องราวความรักของพ่อที่ก่อเกิดปาฎิหาริย์ได้มาให้อ่านกันค่ะ
ลองอ่านดูนะคะแล้วจะรู้ว่า ความรักนั้นหากรักด้วยหัวใจแล้วจัเป็นรักที่ยิ่งใหญ่
มีพลังเหนื้ออื่นใดไม่มีอะไรมาขัดขวางได้ แม้แต่พญามัจจุราชยังยอมพ่ายแพ้ให้แก่ความรักนั้น
http://i0.sinaimg.cn/ent/m/2009-11-22/U1584P28T3D2779867F326DT20091122134417.JPG
http://3.bp.blogspot.com/__fgGIJatv1Y/RhslN9nmbmI/AAAAAAAAAGY/w2IsS4FhdzA/s400/tofu.jpg


คนขายเต้าหู้

เรื่องราวของคนขายเต้าหู้ เกิดขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่ ถ้าไม่ได้อ่านจะเสียดายค่ะ

ตอนเหนือของมณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน มีเมืองขนาดกลาง ชื่อว่า เทือกเหล็ก เกือบทุกเช้าตรู่หรือพลบค่ำ
บนท้องถนนกรรมกร จะเห็นผู้เฒ่าเข็นรถขายเต้าหู้เคลื่อนไปอย่างช้าๆลำโพงที่ต่อกับแบตเตอรี่บนรถ
กระจายเสียงใสของหญิงสาว “เต้าหู้มาแล้วจ้า เต้าหู้อ่อนสูตรโบราณเต้าหู้อร่อยจ้า"
– เสียงนี่เป็นของฉัน คนขายคือพ่อฉัน "พ่อฉันเป็นใบ้" ตราบถึงวันนี้อายุกว่ายี่สิบแล้ว ฉันจึงใจกล้าพอ
ที่จะบันทึกเสียงตัวเองไว้บนรถขายเต้าหู้ของพ่อ แทนกริ่งทองเหลือง ที่พ่อเขย่ามาหลายสิบปี อายุแค่ 2-3 ขวบ
ฉันก็รู้จักว่ามีพ่อเป็นใบ้น่าอัปยศเพียงใด ดังนั้นฉันจึงเกลียดชังพ่อแต่เล็ก เมื่อฉันเห็นเด็กบางคนถูกแม่สั่ง
ให้มาซื้อเต้าหู้ กลับหยิบเต้าหู้ไปโดยไม่จ่ายเงิน พ่อโก่งคอยาวแต่ไม่อาจตะเบ็งเสียงออกมา
ฉันไม่อาจทำเหมือนพี่ชายที่ไล่ตามไปต่อยเด็กได้แต่เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ปริปาก
ฉันไม่ชังเด็กคนนั้น แต่กลับชังพ่อที่เป็นใบ้ ถึงแม้ว่าทุกครั้งที่พี่ชายช่วยหวีผมให้และเจ็บจนต้องสูดปากซี๊ด
ฉันก็แข็งใจไม่ยอมให้พ่อถักผมเปีย

ตอนที่แม่เสียไม่ได้เก็บรูปถ่ายบานใหญ่ไว้ มีเพียงรูปขาวดำขนาด 2 นิ้วที่ถ่ายร่วมกับสาวเพื่อนบ้าน
ก่อนแต่งงาน เมื่อพ่อถูกฉันเมินเฉย ก็มักจะหันกระจกเงากลับมาดูรูปแม่อีกด้านหนึ่ง เพ่งจนนานพอแล้ว
ค่อยจากไปทำงาน อย่างซึมเซา น่าโมโหที่สุดคือเด็กคนอื่นเรียกฉันว่า อีใบ้สาม
(ฉันเป็นลูกคนเล็กอยู่อันดับสาม) ฉันจะวิ่งกลับบ้านเมื่อด่าสู้พวกเด็กไม่ได้ ต่อหน้าพ่อที่กำลังโม่เต้าหู้อยู่
ฉันเขียนวงกลมบนพื้น แล้วถ่มน้ำลายที่ตรงกลาง ถึงแม้ฉันไม่เข้าใจว่าที่ตนทำนั้นหมายความว่าอย่างไร
แต่ก็ทำเช่นนี้เมื่อถูกเด็กด่าว่า ฉันคิดว่า นี่คงเป็นการแสดงคำด่าคนใบ้ที่ร้ายกาจที่สุดแล้ว
ครั้งแรกที่ฉันด่าพ่อด้วยวิธีนี้ ทำให้พ่อต้องหยุดงานในมือ มองดูฉันอย่างงุนงง น้ำตาไหลนองหน้าอยู่นาน
น้อยครั้งที่ฉันเห็นพ่อร้องไห้ แต่วันนั้นพ่อขดตัวในโรงเต้าหู้ร้องไห้ตลอดทั้งคืน เป็นการสะอึกสะอื้นที่ไม่ส่งเสียงดัง
เพราะเห็นพ่อหลั่งน้ำตา ฉันจึงดูเหมือนหาทางออกให้กับความน้อยใจของฉันได้ในที่สุด ดังนั้น
ต่อจากนั้นเป็นต้นมา ฉันมักจะไปด่าพ่อต่อหน้าต่อตาแล้วเดินหนี ปล่อย ให้พ่องงเป็นไก่ตาแตก
ทว่าพ่อไม่หลั่งน้ำตาอีกแล้ว แต่จะขดตัวที่ผอมเซียวให้ลีบเล็กลง พิงกับคานโม่ หรือจานโม่
ดูน่าเกลียดยิ่งในสายตาฉัน ฉันต้องเรียนหนังสือให้ดี เพื่อเข้ามหาวิทยาลัย พ้นจากหมู่บ้านเล็ก
ที่ใครๆก็รู้ว่าพ่อฉันเป็นใบ้ นี่เป็นความปรารถนาใหญ่ยิ่งของฉันในขณะนั้น

ฉันไม่รู้ว่าพี่ชายสองคนมีเหย้าเรือนได้อย่างไร ไม่รู่ว่าโรงเต้าหู้นั้นพ่อเปลี่ยนคานโม่ใหม่อีกกี่ด้าม
ไม่รู้ว่ากริ่งทองเหลืองลั่นจนริมขอบสึก ผ่านไปแล้วกี่ฤดูกาลกี่ตำบลหมู่บ้าน รู้เพียงว่าฉันปฏิบัติต่อตนอย่างเคืองแค้น
เรียนหนังสืออย่างบ้าคลั่ง ในที่สุดฉันก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เสื้อม่อฮ่อมกรมท่าซึ่งอาโกวตัดเย็บให้ตั้งแต่ปี 1979
พ่อเพิ่งเอามาใส่เป็นครั้งแรกในต้นฤดูใบไม้ร่วงปี 1992 ท่ามกลางแสงตะเกียงในยามค่ำ
พ่อหน้าตาชื่นบานขณะยัดธนบัตรกำใหญ่ซึ่งยังติดกลิ่นคาวเต้าหู้ ไว้ที่ฝ่ามือฉันอย่างพิถีพิถัน
ปากก็เอะอะเออออไม่หยุดยั้ง ฉันมองดูความดีใจและภาคภูมิของพ่อโดยวางตัวไม่ถูก
เหม่อมองพ่อเที่ยวแจ้งให้ญาติโยมเพื่อนบ้านทราบด้วยใบหน้ายิ้มกริ่มพอใจ เมื่อฉันเห็นพ่อพา
คุณอาและพี่ๆ มาช่วยลากหมูตัวที่พ่อบรรจงขุนมา 2 ปีจนอ้วนพี ลงมือชำแหละเพื่อเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้าน
เป็นการฉลองที่ฉันเข้ามหาวิทยาลัยได้

จะยาจกหรือราชาถ้ามีรัก
พึงประจักษ์ว่ารักนั้นมันยิ่งใหญ่
แม้เป็นรักของยาจกยากเข็ญใจ
ก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้รักจากราชา.....

ทั่นยาย
04-09-2010, 12:49 PM
หัวใจแข็งดุจท่อนไม้ของฉันไม่รู้ถูกอะไรสะกิดเข้า จนฉันร้องไห้โฮ
บนโต๊ะอาหาร ฉันคีบหมูหลายชิ้นให้พ่อต่อหน้าคนหลายๆคน ฉันน้ำตานองหน้า เรียกพ่อให้กินเนื้อหมู
พ่อไม่ได้ยินหรอก แต่เข้าใจความหมายของฉันนัยน์ตาพ่อฉายประกายที่ไม่เคยมีมาก่อน
ดวดเหล้าเกาเหลียงที่ตวงซื้อมา พร้อมกับกินชิ้นหมูที่ลูกสาวคีบให้ พ่อคงเมาแล้ว หน้าแดงก่ำ หลังยืดตรง
ส่งภาษามืออย่างองอาจ เป็นความจริงที่ว่า ผ่านมา 18 ปีเต็มๆ พ่อเพิ่งเคยเห็นรูปริมฝีปากฉันขณะเรียกพ่อเป็นครั้งแรก
พ่อโม่เต้าหู้ด้วยความยากลำบาก เอาธนบัตรที่คลุกด้วยกลิ่นไอเต้าหู้ส่งเสียให้ฉันเรียนจนจบมหาวิทยาลัย ปี 1996
ฉันเรียนจบได้รับบรรจุงานที่เทือกเหล็กห่างจากบ้านเกิด 40 กม. เมื่อจัดที่พักเรียบร้อย
ฉันเดินทางไปรับพ่อผู้ใช้ชีวิตคนเดียวมาอยู่ในเมือง เพื่อรับความสุขที่ลูกสาวมอบให้แม้จะช้านานก็ตาม
ทว่าระหว่างทางนั่งแท็กซี่กลับหมู่บ้าน เกิดอุบัติเหตุขึ้น เรื่องราวต่างๆหลังจากอุบัติเหตุ
ฉันทราบจากพี่สะใภ้ เล่าให้ฟัง...มีคนเดินทางจำได้ว่าผู้ประสบเหตุคือลูกสาวคนเล็กของเฒ่าถู
ดังนั้น พี่ใหญ่พี่รอง สะใภ้ใหญ่สะใภ้รอง ต่างมาถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ทุกคนได้แต่ร้องไห้เมื่อเห็นฉันสลบคาที่
ทำอะไรไม่ถูก พ่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นคนสุดท้าย รีบช้อนร่างฉันขึ้นมาและโบกรถใหญ่ข้างทางให้หยุด
ผู้คนในเหตุการณ์ต่างเห็นว่าฉันไม่รอดแน่ พ่อใช้ขายันร่างฉันไว้ แล้วใช้มือล้วงธนบัตรปึกใหญ่ออกจากกระเป๋าเสื้อ
ยัดใส่มือคนขับรถ พร้อมกับขีดเขียนรูปกากบาทถี่ๆ ขอร้องให้พาส่งโรงพยาบาล พี่สะใภ้เล่าว่า
พ่อแต่ไหนแต่ไรร่างกายอ่อนแอ แต่ขณะนั้นสำแดงพลังความแข็งแกร่งมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ
หลังจากพยาบาลเบื้องต้นแล้ว หมอให้ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น และเปรยกับพี่ๆ ว่า รักษาต่อไปก็ป่วยการเปล่า
เพราะขณะนั้น ความดันโลหิตฉันเกือบวัดไม่ได้ หัวกระบาลถูกชนน่วมเป็นลูกน้ำเต้า
ชุดสวมศพที่พี่ใหญ่ซื้อมาโดยเห็นว่าหมดหวังแล้วถูกพ่อฉีกทิ้ง พ่อชี้ที่ตาตัวเอง ชูหัวแม่มือ จ่อที่ขมับตัวเอง
จากนั้นชูสองนิ้วชี้ที่ตัวฉัน แล้วชูหัวแม่มืออีก โบกมือแล้วหลับตา นั่นหมายความว่า พวกคุณอย่าร้องไห้
พ่อยังไม่ร้องเลย น้องสาวคุณไม่ตายหรอก เธออายุเพียง 20 กว่า ยังไหวแน่ เราช่วยชีวิตเธอได้แน่
หมอยังคงยืนยันว่าหมดทาง ให้พี่ใหญ่บอกกับพ่อว่า แม่หนูไม่รอดแน่ ถึงจะรักษาก็ต้องใช้เงินมหาศาล
และยังไม่แน่ว่าจะรักษาได้ ทันใดนั้นพ่อคุกเข่าลง แล้วลุกขึ้นทันที ชี้มายังฉันพร้อมกับชูแขนสูง
จากนั้นก็ทำท่าเพาะปลูก เลี้ยงหมู ถางหญ้า โม่เต้าหู้ แล้วปลิ้นกระเป๋าเสื้อซึ่งภายในว่างเปล่า
พร้อมกับชูมือสองข้างกลับฝ่ามือไปมาสองรอบ นั่นหมายความว่า ขอร้องคุณหมอเถิด ช่วยชีวิตลูกสาวฉัน
เธอมีอนาคตดี เป็นคนเก่ง คุณหมอต้องช่วยเธอ ผมจะหาเงินมาเสียค่ารักษา ผมเลี้ยงหมู ทำนา ทำเต้าหู้ได้
ผมมีเงิน ตอนนี้ก็มีอยู่4 พันหยวน หมอจับมือพ่อพร้อมกับสั่นหัว นัยว่า แค่ 4 พันหยวนยังขาดอีกเยอะ
พ่อไม่รีรอ ชี้ไปยังพี่ๆและพี่สะใภ้ กำมือแน่น หมายความว่า ผมยังมีคนเหล่านี้ช่วยกันพยายาม เราทำได้แน่
เห็นหมอยังทำเฉย พ่อชี้ที่หลังคา ก้มหัวใช้เท้ากระทืบพื้น พนมมือสองข้างไว้ด้านขวาของศีรษะ แล้วหลับตา
หมายความว่า ผมมีบ้านขายได้ ผมนอนบนพื้นดินก็ได้ แม้จะหมดเนื้อหมดตัว ผมก็ขอให้ลูกสาวอยู่รอด
พ่อชี้ไปยังหน้าอกคุณหมอ แล้ววางมือลง หมายความว่า ขอให้คุณหมอไว้ใจ เราไม่เบี้ยวค่ารักษาหรอก
เรื่องเงินเราจะหาทางออก พี่ใหญ่แปลภาษามือของพ่อให้หมอฟังพลางร้องไห้ไป ไม่ทันแปลจบ
หมอซึ่งเห็นเรื่องเกิดแก่เจ็บตายจนชินชา บัดนี้ก็อดกลั้นน้ำตาไม่อยู่เช่นกัน พ่อใช้ท่ามือที่รวดเร็ว
สื่อความแม่นยำ ใครๆเห็นแล้วต้องร้องไห้ หมอบอกอีกว่า ทำศัลยกรรมก็ไม่รับรองว่าจะช่วยชีวิตได้
เกิดพลาดขึ้นมาจะทำอย่างไร

เมื่อหัวใจเปี่ยมรักใครจักต้าน
ใครจักหาญต้านรักหักลงได้
เมื่อพลังแห่งความรักจักคุ้มภัย
มัจจุราชยังแพ้พ่ายไม่ต่อกร...

ทั่นยาย
04-09-2010, 01:01 PM
พ่อตบกระเป๋าเสื้อตัวเอง แล้วลูบที่หน้าอก หมายความว่า ขอให้หมอช่วยเต็มที่
แม้จะไม่ไหว ก็จะจ่ายเงินให้ครบ โดยไม่บ่นโทษแม้แต่คำเดียว ความรักอันยิ่งใหญ่ของพ่อ
ไม่เพียงแต่ค้ำจุนชีวิตฉัน ยังค้ำจุนกำลังใจและความแน่วแน่ให้หมอในการช่วยชีวิตฉัน
ฉันถูกนำเข้าห้องผ่าตัด พ่อรออยู่นอกห้องเดินไปมาอย่างลุกลี้ลุกลนตามระเบียงจนรองเท้าสึกเป็นรู
พ่อไม่หลั่งน้ำตาแม้แต่หยดเดียว แต่กลับเป็นแผลพุพองเต็มปากหลังจากเฝ้ารออยู่นอกห้องสิบกว่าชั่วโมง
พ่อทำท่าอธิษฐานขอพรจากพระเจ้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างสับสนไม่เป็นระเบียบ จนฟ้าดินปรานี ให้ฉันรอดมาได้
ฉันสลบเหมือดตลอดระยะเวลาครึ่งเดือน ไม่ตอบสนองต่อความรักจากพ่อ ทุกคนหมดกำลังใจในตัวฉัน
ซึ่งกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรามีเพียงพ่อคนเดียวที่ยืนหยัดเฝ้าอยู่ข้างเตียงคนไข้รอฉันฟื้นขึ้นมา
พ่อใช้มืออันหยาบกร้านบรรจงนวดให้ฉัน กล่องเสียงพิการของพ่อได้แต่เปล่งลมเออออเรียกฉัน
เหมือนกับพูดว่า “ลูกหยูน ตื่นเถิด ลูกหยูน พ่อทำน้ำเต้าหู้สดๆรอลูกอยู่”เพื่อเอาใจหมอและพยาบาล
พ่อจะอาศัยเวลาที่พี่มาเฝ้าไข้แทน ทำเต้าหู้ร้อนๆถาดใหญ่ มาแจกแก่เจ้าหน้าที่พยาบาลเกือบทุกคน
ในแผนกศัลยกรรม แม้โรงพยาบาลตั้งระเบียบไม่ให้รับของจากคนไข้ แต่ด้วยคำขอร้องที่บริสุทธิ์จริงใจเช่นนี้
พวกเขาก็รับไว้อย่างเงียบๆ แค่นี้พ่อก็พอใจและมีความมั่นใจยิ่งขึ้น พ่อใช้ภาษามือสื่อความว่า
ท่านทั้งหลายเป็นผู้ใจบุญ เชื่อว่าต้องรักษาลูกสาวผมได้แน่ ระหว่างนั้น เพื่อระดมค่ารักษา
พ่อเดินสายไปทุกหมู่บ้านที่เคยไปขายเต้าหู้ ความซื่อสัตย์สุจริตตลอดชีวิตที่ผ่านมา
ได้รับความสนับสนุนเพียงพอที่จะช่วยลูกสาวรอดพ้นจากเส้นตาย ชาวบ้านต่างออกเงินช่วยเหลือ
พ่อก็ไม่ปล่อยปละละเลย ใช้ดินสอจดบัญชีเต้าหู้บันทึกรายละเอียดด้วยลายมือหงิกงอทว่าชัดจนดังนี้
คุณจัง 20 หยวน คุณลี่100 หยวน อาซ้อหวัง 65 หยวน......

ในที่สุดฉันฟื้นขึ้นมาจนได้ตอนเช้าตรู่วันหนึ่งหลังจากครึ่งเดือนผ่านไป ฉันเห็นผู้เฒ่าผอมเซียวจนเสียรูป
อ้าปากกว้าง เปล่งเสียงเออออดังลั่นด้วย ความดีใจที่ได้เห็นฉันตื่นขึ้นมา
ผมขาวโพลนของเขาเปียกชุ่มด้วยเหงื่อในฉับพลันเนื่องจากความตื่นเต้น ครึ่งเดือนก่อนพ่อยังมีผมดำเต็มศีรษะ
ครึ่งเดือนผ่านไป พ่อแก่ไปตั้ง 20 ปี หัวโกนจนเกลี้ยงของฉันเริ่มมีเส้นผมงอกขึ้นแล้ว
พ่อลูบไล้หัวฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเมตตา การลูบไล้เช่นนี้ ในอดีตถือเป็นความสุขเกินตัวสำหรับพ่อ
เวลาผ่านไปครึ่งปี ผมฉันยาวพอที่จะถักเปียได้ ฉันจูงมือพ่อขอร้องช่วยหวีผมให้ พ่อกลับออกอาการเปิ่นเก้อ
พ่อหวีทีละกระจุก หมดไปค่อนวันก็ยังไม่อาจหาทรงที่ถูกใจพ่อ

มีอยู่ครั้งหนึ่ง พ่อหันมาอยู่หน้าฉัน ทำท่าอุ้มฉันโยนออกไป แล้วงอนิ้วมือเหมือนท่านับเงิน
อ้อ พ่อคิดจะเอาตัวฉันไปขายเหมือนขายเต้าหู้ละสิ ฉันแสร้งปิดหน้าร้องไห้ จนพ่อดีใจหัวเราะ
ฉันแอบดูพ่อผ่านช่องนิ้วมือ เห็นพ่อหัวเราะจนขดตัวยองๆกับพื้น เกมนี้เราเล่นจนกระทั่งฉันลุกขึ้นยืนและเดินได้
ทุกวันนี้ มีเพียงอาการปวดหัวเป็นครั้งคราวเท่านั้น สุขภาพโดยทั่วไปฉันดูแข็งแรงดี พ่อจึงพึงพอใจยิ่ง
เราช่วยกันชำระหนี้สินจนหมด แล้วพ่อก็ย้ายเข้าเมืองอยู่กับฉัน โดยที่พ่อขยันทำงานมาตลอด
ทนไม่ได้กับชีวิตอยู่เฉยๆ ฉันจึงเช่าเพิงเล็กๆ ใกล้บ้านให้พ่อทำเป็นโรงเต้าหู้ เต้าหู้ที่พ่อทำ
รสชาตินุ่มหอมก้อนใหญ่ดี เป็นที่นิยมของชาวบ้าน ฉันติดตั้งชุดลำโพงกับแบตเตอรี่บนรถเข็นเต้าหู้ให้พ่อ
แม้ว่าพ่อไม่ได้ยินเสียงกังวานของฉัน แต่ท่านย่อมทราบดี ทุกครั้งที่พ่อกดปุ่มเสียง ท่านจะอกผายไหล่ผึ่ง
รู้สึกถึงความสุขและพอเพียงเรื่องราวในอดีตที่ฉันเหยียดหยามพ่อ ท่านมิได้จดจำจองเวรไว้เลยแม้แต่น้อย
จนตัวฉันเองก็ใจไม่ถึงพอที่จะสารภาพผิดต่อท่าน ฉันคิดอยู่เสมอว่า โลกเราเปี่ยมล้นด้วยสังคีตแห่งความรัก
เราสดับฟัง สาธยาย สัมผัส และสะเทือนใจ แต่แล้ว พ่อผู้ใบ้ของฉันกลับสอนให้ฉันเข้าใจว่า อันที่จริงแล้ว
สังคีตอันยิ่งใหญ่ที่สุดคือปลอดเสียง อันเป็นพลังที่ไม่พึงสงสัย ทำให้ฉันตีความความรักให้สูงขึ้นไปอีก

รักนี่หรือที่ว่าสุข ทุกข์คละเคล้า
รักนี่หรือที่ว่าเศร้าเฝ้าหม่นหมอง
รักนี่หรือที่ใครๆไม่ใฝ่ปอง
ฉันขอปองรักนี้ไว้ไปนิรันดร์.......... .

ทั่นยาย
05-08-2010, 01:11 PM
สวัสดีค่ะญาติธรรมทุกๆๆท่านค่ะ

มีคลิปหนึ่งที่กัลยาณมิตร FW มาให้ดูหลายครั้งหลายครา แต่ดูกี่ครั้งก็น้ำตาซึมทุกครั้งค่ะ
เป็นเรื่องจริงของพ่อกับลูกชาย ที่แสดงให้เห็นถึงคำว่า พ่อ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
และคำว่ารักของพ่อที่ยิ่งใหญ่มหัศจรรย์จนยากที่จะสรรหาคำมาพรรณาได้...
เลยเอามาแบ่งปันให้ญาติธรรมได้ชมกันค่ะ

True Story ...เรื่องจริง ...

http://i130.photobucket.com/albums/p258/tunyai/tunyai2/1-3.jpg
วันนึงลูกชายได้พูดกับ พ่อของเขาว่า 'พ่อครับ พ่อจะไปวิ่งมาราธอนกับผมได้ไหม'
ถึงแม้ว่าตัวคุณพ่อเอง จะอายุมากแล้ว แถมยังเป็นโรคหัวใจ
เขาเลือกที่จะตอบลูกของเขากลับไปว่า 'ได้ซิลูก' หลังจากนั้นทั้งสองก็วิ่ง มาราธอนด้วยกัน

http://i130.photobucket.com/albums/p258/tunyai/tunyai2/2-3.jpg
อีกวันนึง ลูกชายได้ถามพ่อของเขาอีกครั้งว่า 'พ่อครับ พ่อจะวิ่งมาราธอน
กับผมอีกครั้งได้ไหม' แน่นอนว่า พ่อตอบกลับไปว่า 'ได้ซิลูก'
เขาทั้งสองก็ได้วิ่ง มาราธอนรายการอื่นอีกครั้งด้วยกัน

http://i130.photobucket.com/albums/p258/tunyai/tunyai2/f95f3c24.jpg
และอีกวันนึง ลูกชายก็ถามพ่อของเขาอีกครั้งว่า 'พ่อครับพ่อจะลงแข่ง Iron Man กับผมได้ไหม'
(สำหรับคนที่ ไม่รู้ว่า Iron Man คืออะไร มันก็คือไตรกีฬานั่นเองในภาษาไทย รายการนี้จะรวม
มนุษย์เหล็กจากทั่วโลกมาแข่งขันกันโดยแบ่งออกเป็น ว่ายน้ำ 4 กิโล ปั่นจักรยาน 180 กิโล
และ วิ่ง 42 กิโล โดยไม่มีการหยุดพัก ใครเข้าเส้นชัยก่อนเป็นผู้ชนะ)

http://i130.photobucket.com/albums/p258/tunyai/tunyai2/3-5.jpg
และก็อีกครั้งหนึ่งที่ผู้ เป็นพ่อไม่ได้ตอบปฏิเสธ 'ได้ซิลูก'บางทีบทสนทนานี้
คุณอาจจะ ยังไม่เข้าใจ และยังไม่เกิดความประทับใจกับมัน...จนกระทั่งคุณได้ดูคลิปต่อไปนี้

คลิกค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=VJMbk9dtpdY&feature=player_embedded (http://www.youtube.com/watch?v=VJMbk9dtpdY&feature=player_embedded)

http://statics.atcloud.com/files/comments/51/510512/images/1_original.jpg
พ่อรู้มั้ยว่าพ่อยิ่งใหญ่กว่าขุนเขาจริงๆ

ทั่นยาย
06-11-2010, 11:41 PM
สวัสดีค่ะญาติธรรมทุกๆๆท่าน

วันนี้ได้รับ Fw เมล์จากกัลยาณมิตร ซึ่งเป็นเรื่องราวของความรักของพ่อที่อ่านแล้วซาบซึ้ง
จนน้ำตาซึมอีกเรื่องหนึ่งค่ะ จึงขออนุญาตินำมาแบ่งปันให้ญาติธรรมทุกท่านได้อ่านกันค่ะ

http://i130.photobucket.com/albums/p258/tunyai/tunyai2/509e2919.jpg
http://i130.photobucket.com/albums/p258/tunyai/tunyai2/11.jpg

ทั่นยาย
06-11-2010, 11:56 PM
http://i130.photobucket.com/albums/p258/tunyai/tunyai2/12.jpg
http://i130.photobucket.com/albums/p258/tunyai/tunyai2/13.jpg

ทั่นยาย
06-12-2010, 12:07 AM
http://i130.photobucket.com/albums/p258/tunyai/tunyai2/22.jpg
http://i130.photobucket.com/albums/p258/tunyai/tunyai2/998e0e0c.jpg

ทั่นยาย
06-12-2010, 12:14 AM
http://i130.photobucket.com/albums/p258/tunyai/tunyai2/3-7.jpg

ขอขอบคุณนิตยสารแพรวที่ได้นำเรื่องราวของความรักที่ทรงคุณค่า
และเปี่ยมด้วยความเสียสละอย่างยิ่งไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ

ทั่นยาย
07-27-2010, 09:07 PM
สวัสดีค่ะญาติธรรมทุกๆท่านค่ะ

สรรพสัตว์น้อยใหญ่ในโลกนี้ หากไม่มีพ่อและแม่คงกำเนิดเกิดมาไม่ได้
และหากพ่อแม่ไม่คอยเลี้ยงดูฟูมฟักก็คงเจริญเติบโตมากไม่ได้เช่นกัน
ไม่ว่าคนหรือสัตว์ความรักความห่วงใยของพ่อแม่ ที่ท่านยอมทำเพื่อลูกได้ทุกอย่างนั้น
ช่างน่าซาบซึ้งใจเกินคำบรรยายค่ะ วันนี้ทั่นยายขอนำคลิปวีดีโอความรักของแม่กบ
มาแบ่งปันให้ญาติธรรมได้ซาบซึ้งในความรักที่ยิ่งใหญ่กันค่ะ[/color]

http://www.boonniyom.net/vdoclip-1416-0-0.html (http://www.boonniyom.net/vdoclip-1416-0-0.html)
[color=brown] แม่กบช่วยลูกกบค่ะ