PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : กรวดน้ำ



Varatra
03-30-2009, 06:51 PM
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/8.gif
อยากทราบว่า กรวดน้ำอย่าไรให้ถึงผู้ล่วงลับและเจ้ากรรมนายเวร?

*8q*
03-30-2009, 08:16 PM
การกรวดน้ำ
ความหมาย .- คำว่า "กรวดน้ำ" นี้ ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ให้คำจำกัดความไว้ว่า"แผ่ส่วนบุญด้วยวิธีหลั่งน้ำ" การกรวดน้ำแผ่สว่นบุญนั้น สรุปแล้วมีอยู่ ๔ ประการ คือ ๑.กรวดน้ำตัดขาดจากกัน
๒.กรวดน้ำยกกรรมสิทธิ์ให้
๓.กรวดน้ำตั้งความปรารถนา
๔.กรวดน้ำแผ่ส่วนกุศล.๑. การหลั่งน้ำเพื่อตัดขาดจากกัน เช่น สมเด็จพระนเรศวรมหาราช วีรกษัตริย์ไทย สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ทรงตัดขาดไมตรีกับพม่า เพื่อประกาศอิสรภาพเมื่อเมืองแครง เมื่อ พ.ศ. ๒๑๒๗ โดยวิธีหลั่งน้ำลง เหนือแผ่นดิน๒.การหลั่งน้ำยกกรรมสิทธิ์ให้ครอบครอง เช่น เมื่อคราวที่สมเด็จพระบรมศาสดาได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ได้เสด็จไปสู่กรุงราชคฤห์ ทรงแสดงพระธรรมเทศนาโปรดพระเจ้าพิมพิสารพร้อมด้วยราชบริพาร
ให้เลื่อมใสและได้ถวายวัดเวฬุวันเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นที่ประทับของพระบรมศาสดาเพราะ
ทรงเห็นว่าป่าไม้ไผ่ ที่เรียกว่า "พระราชอุทยานเวฬุวัน" เป็นที่ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากชุมชนนัก สมควรเป็นที่อยู่ของสมณะได้๓.การหลั่งน้ำตั้งความปรารถนา เพื่อให้สำเร็จผลที่ประสงค์ พึงเห็นตัวอย่างในมหาเวสสันดรชาดก
๔.การหลั่งน้ำแผ่กุศล พึงเห้นอุทาหรณ์ เช่น พระเจ้าพิมพิสารทรงถวายทานแด่พระภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้บรรดาเปรตซึ่งเป็นพระญาติในชาติก่อนปรากฏ ในมังคลัตถทีปนีคัมภีร์ในพระพุทธ
ศาสนาว่า "เมื่อพระราชาทรงหลั่งน้ำทักษิโณทก ทรงอุทิศส่วนกุศลว่า อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ ขอทานนี้(บุญนี้) จงสำเร็จ
แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า" วิธีนี้เป็นการแผ่ส่วนกุศลให้แก่ญาติทั้ง มิตรและสรรพสัตว์ได้ ชื่อว่าเป็นปัตติทานมัย
บุญสำเร็จด้วยการแผ่ส่วนบุญ

ปัญหาชวนคิด .-
๑.ทำไมจึงต้องกรวดน้ำหลังเวลาทำบุญ แล้วจะกรวดก่อนไม่ได้หรือ ?
ตอบ.-ปัจจุบันนิยมกรวดน้ำหลังจากทำบุญถวายทานเสร็จแล้ว เพื่อประสงค์จะทำเจตนาของตนให้บริสุทธิ์ทั้ง ๓ กาล คือ ๑.ในกาลก่อนให้ ซึ่งเรียกว่า ปุพพเจตนา เจตนาก่อนให้ ๒.ในกาลที่กำลังให้ เรียบกว่า มุญจนเจตนา เจตนาขณะให้ ๓.อปราปรเจตนา เจตนาต่อ ๆ ไปหลังจากให้ทานแล้ว ๒.จะหลั่งน้ำกรวด เวลาไหน ? หยุดเวลาไหน ?
ตอบ.-การหลั่งน้ำกรวด ควรหลั่งในเวลาที่พระเถระผู้เป็นประธานเริ่มอนุโมทนาว่า "ยถา วาริวหา..." ก็เริ่มหลั่งน้ำลงในภาชนะคือขันน้ำ หรือแก้วน้ำ ที่เตรียมไว้ พอพระรูปที่ ๒ รับว่า "สัพพีติโย" ก็หยุดหลั่งน้ำกรวด แล้วเทน้ำ
กรวดที่ยังเหลืออยู่นั้นลงในภาชนะที่รองรับน้ำให้หมด แล้วประณมมือรับพร ๓.ทำไมจึงต้องเทน้ำกรวดให้หมดในเวลาพระว่า ยถา จบลงและเริ่มรับสัพพี ?
ตอบ.-เพราะถือว่าเมื่อน่ำไหลไปมหาสมุทรสาครเต็มแล้ว ก็ไม่ไหลอีกต่อไป ความปรารถนาที่ตั้งไว้ก็บริบูรณ์ แล้ว ลำดับต่อไปก็ประณมมือรับพรจากพระ ๔.ทำไมจึงเทน้ำกรวดให้ไหลติดต่อกัน ไม่ให้ขาดสาย ?
ตอบ.-ความประสงค์เพื่อให้กุศลที่อุทิศไปให้ผู้ล่วงลับไปแล้วได้รับไม่ขาดระยะ ให้ติดต่อกันไป และความปรารถนาก็จะได้ไม่ขาดระยะ เป็นไปโดยราบรื่น เหมือนกระแสน้ำที่ไหลไปสู่มหาสมุทรสาคร ย่อมไหลเป็นสายไม่ขาด
ระยะ หากเทน้ำให้หยดติ๋ง ๆ ขาดระยะ เปรียบเหมือนบุญกุศลที่จะได้ก็จะขาดระยะ ความปรารถนาก็จะขาดระยะ จึง
ให้เทน้ำหรือหลั่งน้ำเป็นสายเหมือนสายน้ำที่ไหลไปสู่มหาสมุมร หรือสายน้ำที่ไหลไปสู่แม่น้ำน้อยใหญ่ ฉะนั้น ๕.ทำไมจึงต้องกรวดน้ำ จะไม่กรวดได้หรือไม่ ?
ตอบ.-การกรวดน้ำ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามเอาไว้ อีกทั้งเป็นการแสดงถึงความยินดีในการบำเพ็ญกุศลที่ได้ทำไว้แล้ว และเผื่อแผ่แก่ผู้อื่น เพื่อแสดงเจตนา ของผู้กรวดน้ำ ๖.ทำไมจึงเทน้ำกรวดที่กลางแจ้ง ที่โคนต้นไม้ หรือในที่ไม่มีวัตถุสิ่งใดปกคลุม ?
ตอบ.-เพราะถือกันว่า การเทน้ำที่กรวดแล้วลงที่กลางแจ้ง เป็นที่สะอาด หรือโคนต้นไม้นั้น เพื่อต้องการปลูกฝังนิสัยให้รักต้นไม้ ๗.ทำไมต้องใช้น้ำกรวด จะกรวดแห้งไม่ได้หรือ ?
ตอบ.-การใช้น้ำกรวด เพราะถือตามประเพณีนิยมที่ได้ประพฤติปฏิบัติสืบ ๆ กันมาแต่โบราษกาล และให้สมกับคำอนุโมทนาของพระที่ว่า "ยถา วาริวหา ปูรา ปริปูเรนติ สาคะรัง เหมือนห้วงน้ำที่ยังมหาสมุทรสาครให้เต็มเปี่ยมฉะนั้น"
จะกรวดน้ำโดยไม่ใช้น้ำหรือที่เรียกกันว่ากรวดแห้งก็ได้ เรียกว่าปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการแผ่ส่วนบุญ ฯ ๘.ทำบุญแล้วไม่กรวดน้ำจะได้อานิสงส์หรือไม่ ?
ตอบ.-ได้ เพราะผู้ทำบุญก็ต้องได้บุญ ทำความดีก็ต้องได้ดี บุญต้องเป็นของผู้ทำบุญตลอดไป ไม่ไปไหนเสีย ๙.เวลากรวดน้ำใช้มือขวาหรือมือซ้ายกรวดน้ำ ?
ตอบ.-ควรใช้มือขวา เพราะมือขวาเป็นมือที่แสดงถึงความเคารพ เป็นการเคารพในทานที่ตนให้ และเคารพในปฏิคคาหกคือผู้รับทานจากเราด้วย การเคารพกันเขาใช้มือขวาแสดงความเคารพกันทั่วโลก เป็นสากลนิยม ๑๐.เวลาหลั่งน้ำกรวด ต้องใช้มือซ้ายรองรับน้ำหรือไม่ ?
ไม่จำเป็นต้องใช้มือซ้ายรองรับน้ำกรวด เพียงแต่ใช้มือซ้ายจับภาชนะเปล่าไว้ จะจับที่ขอบปากหรือที่ตัวภาชนะก็ได้ ไม่ต้องจับเลยก็ได้ ใช้แต่มือขวาจับที่กรวดน้ำ เช่น แก้วน้ำ คณโฑน้ำ หรือถ้วยน้ำอย่างเดียวก็ได้ ๑๑.การกรวดน้ำจะกรวดด้วยภาษาไทยได้หรือไม่ ?
ตอบ.-การกรวดน้ำด้วยภาษาไทยเห็นว่าใช้ได้ ไม่มีอะไรขัดข้อง หรือข้อห้ามแต่ประการใดการกรวดน้ำด้วยภาษาอะไรนั้น ไม่สำคัญ แต่จุดสำคัญอยู่ที่การตั้งใจ ตั้งความปรารถนาดี คนเราจะได้ดีก็เพราะการตั้งจิตไว้ให้ดีเท่านั้น
http://www.geocities.com/aticle_index/kruatnam.html<!-- / message --><!-- sig -->
ที่เหลือเชิญจารย์เดฟต่อครับhttp://www.watkoh.com/board/Smileys/default/grin.gif

D E V
03-30-2009, 09:59 PM
ซ๊าๆๆๆทุ๊
อนุโมทนาคับ คุณแปดคิว


***********************************************


ลองดูเพิ่มเติมประกอบกันนะคับ


ตามลิงค์ที่ให้...ตรงความเห็นที่ 4 เริ่มที่...
สำหรับการทำบุญ
แล้วมีการอุทิศให้ผู้อื่นด้วย
เป็นสิ่งที่ดีและควรกระทำน่ะคับ

แต่ต้องทราบว่า...
http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=2709


************************************************************

และดูนี่ต่อนะคับ

เวลาที่เรากระทำบุญกุศลต่างๆ แล้วอุทิศให้เค้า
เค้าจะได้รับหรือไม่ ขึ้นอยู่กับฐานะของเค้า คือ

1. ต้องเกิดในภพภูมิที่ล่วงรู้การอุทิศได้
2. ต้องมีส่วนบุญกุศลจากการอุทิศเป็นอาหาร
3. ต้องเกิดกุศลจิตอนุโมทนาในบุญกุศลที่อุทิศให้

ดูเนื้อความเต็มตั้งแต่ต้นกระทู้ตามลิงค์ที่เคยตอบไว้คับ

http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=1950&KW=%A1%D2%C3%E4%CB%C7%E9%BA%C3%C3%BE%BA%D8%C3%D8%C9


************************************************************

แถมด้วยอันนี้คับ

ดังนั้น การแบ่งปันบุญ
จึงหมายถึง การบอกให้เค้าล่วงรู้ หรือที่เรียกว่าอุทิศ
อุทิศ หมายถึงการบอกกล่าวให้ผู้นั้นได้ล่วงรู้
ไม่ได้หมายถึงเอาบุญไปยกให้ ไปตัดแบ่งเป็นส่วนๆ ให้

ดูเนื้อความเต็มตั้งแต่ต้นตามลิงค์ที่ให้นี้คับ
http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=1760&KW=%A1%C3%C7%B4%B9%E9%D3



และอันนี้...ให้คลิกไปหน้าที่ 2 ดูตรงความเห็นที่ 6

หลังจากได้กระทำบุญกุศลใดๆ ก็ตามเสร็จใหม่ๆ
จิตขณะนั้นจะอิ่มเอิบ ผ่องใส
เป็นกุศลจิตที่มีกำลัง ควรแก่การงาน
ก็ตั้งจิตอุทิศให้แก่ผู้ที่ล่วงลับ
http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=1094&PN=1



http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

Varatra
03-31-2009, 03:12 PM
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Happy/11.gif ขอบคุณค่ะ คุณ*8q* และอาจารย์เดฟ ที่ตอบปัญหาให้จะนำไปปฎิบัติค่ะ

arkom
04-03-2009, 09:54 AM
อนุโมทนากับท่านผู้ถามและผู้ตอบด้วยครับ

nattynanny
04-03-2009, 10:53 AM
ขอบคุณค่ะขออนุโมทนาด้วยนะค่ะhttp://www.watkoh.com/board/Smileys/default/grin.gif

noppakorn
04-17-2009, 07:21 PM
จิตให้ ใจถึง พึงรับ สาธุๆๆ อนุโมทามิ ครับน้องแปดคิว

dino
04-18-2009, 02:25 AM
ขอถามอีกนิดนะค่ะ
- ระหว่างกรวดน้ำที่บ้าน กับ กรวดน้ำข้างนอกบ้านต่างกันไม่ค่ะ ในกรณีเราอาจจะไปทำบุญตักบาตรที่ทำงานหรือข้างนอก
- ถ้าเราตักบาตรแต่ไม่ได้กรวดน้ำ บุญที่เราทำจะส่งไปให้คนอื่นๆ ที่เราทำให้ไม่ค่ะ

noppakorn
04-27-2009, 08:18 PM
ขอถามอีกนิดนะค่ะ
- ระหว่างกรวดน้ำที่บ้าน กับ กรวดน้ำข้างนอกบ้านต่างกันไม่ค่ะ ในกรณีเราอาจจะไปทำบุญตักบาตรที่ทำงานหรือข้างนอก
- ถ้าเราตักบาตรแต่ไม่ได้กรวดน้ำ บุญที่เราทำจะส่งไปให้คนอื่นๆ ที่เราทำให้ไม่ค่ะ

จิตให้ ใจถึง พึงรับ

ไม่ได้กรวดน้ำก็ใช้อธิษฐานที่เขาว่า กรวดแห้ง พนมมืออุทิศส่วนกุศลให้แก่ท่าน
ทีเราต้องการอุทิศก็ถึงเช่นกันครับ เราเรียกว่า "ปัตติทานมัยบุญ" บุญสำเร็จด้วย
การแผ่ส่วนบุญ ครับ

dino
04-28-2009, 11:58 PM
ขอบคุณค่ะ คุณอุบาสกนพกรณ์ สำหรับคำตอบให้ความกระจ่างมากขึ้น

สาธุๆๆ อนุโมทนากับทุกท่านนะค่ะ