PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : ทำอย่างไรให้ใจสงบพ้นทุกข์และพาครอบครัวให้พ้นจากสิ่งที่เกิดขึ้นไปได้



Windy
04-02-2009, 03:30 PM
ดิฉันแต่งงานมาได้ 10 กว่าปีแล้ว มีลูกสาวอายุ 8 ขวบ มีลูกชาย 2 คน 6 ขวบ และ 4 ขวบ ครอบครัวเรามีความสุขดี
จนดิฉันบังเอิญไปใช้โทรศัพท์สามี และ ทราบว่าเค้ามีติดต่อกับผู้หญิงคนอื่น เมื่อถามเข้าก็ยอมรับและขอโทษ เราคุยกันและเค้าบอกว่าจะแก้ไขปัญหานี้เอง จะไม่ให้มีเรื่องมาทำให้เราไม่สบายใจอีก แต่เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ ด้วยความอยากรู้จึงไปเปิดโทรศัพท์อีกรอบ จึงรู้ว่าเค้าใส่รหัสเข้า จึงทำให้ไม่สบายใจ เมื่อถามเค้าก็โกรธหาว่าไม่ไว้ใจ เมื่อเค้ายอมรับผิดและขอโอกาสแก้ตัวทำไมไม่ให้โอกาส เค้าโกรธมากและหายออกจากบ้านไป 1 คืน ทุกคนในบ้านเป็นห่วงเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เกื่อบบ่ายจึงกลับมาบ้านและเตรียมเก็บของไปอยู่ที่อื่น ดิฉันและลูกพยายามขอร้อง และไม่เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น
เค้าขอให้เค้าได้ไปตามทางของเค้าบ้าง ขอโทษ และ เสียใจทึ่ดึงเรามาอยู่กับคนที่เห็นแก่ตัวอย่างเค้า จริงๆแล้วเค้าไม่ได้ดีอย่างที่เราคิดและไม่อาจฝืนใจทำต่อไปได้อีกถ้าต้องการจากเค้ามากกว่านี้ เราตกใจมากข้อร้องและสัญญาว่าจะไว้ใจเค้าจึงทำให้เค้ายังอยู่จนทุกว้นนี้

ดิฉันไม่เคยเล่าให้พ่อและแม่ฟังเลย ไม่เคยแสดงให้ใครรู้หรือเห็นเพราะไม่อยากให้ไม่สบายใจ มีแต่เด็กเห็นเราร้องไห้ ก็ร้องไห้ตามและก็ถามถึงพ่อของเค้า เราพยายามติดต่อทั้งคืนเค้าตอบว่าถ้าไม่มีเค้าเรากับลูกก็สามารถอยู่ได้ เพราะเค้าคงไม่สามารถทำได้ดีกว่าที่ผ่านมาแล้ว จริงเค้าเป็นคนดีมาก ทำงานเก่ง รักดิฉันและลูกมาก กับพ่อแม่ก็ดีมาก จึงไม่เคยได้สงสัยอะไรเลย
วันหยุดเค้าก็อยู่บ้านทุกเสาร์อาทิตย์ หลังจากเกิดเรื่องก็ยังบอกว่าไม่เคยรู้สึกรักเราน้อยลงเลย แต่สิ่งที่เกิดเพราะความใกล้ชิด ในที่ทำงานบ้าง

ขณะเวลาผ่านมาเกือบ 2 เดือน ดิฉันรู้สึกดีขึ้นจนเมื่อเช้าจะเข้าไปหยิบเงินในกระเป๋าของเค้าให้ลูกไปโรงเรียน และด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงได้หยิบอย่างอื่นดูด้วย ปรากฎว่าได้เห็นรูปของผู้หญิงคนอื่นในกระเป๋าของเค้า ดิฉันไม่รู้จะทำอย่างไรดี จะร้องให้ก็ร้องไม่ออก กำลังจะขับรถไปทำงาน ก็เลยไปกอดเด็กและบอกว่าเป็นเด็กดีนะ แม่รักพวกหนูมากนะ เสียงเครือนิดหน่อยเพราะพยายามสะกดอารมณ์ไว้

สามีเดินออกมาเห็นเราหน้าไม่ค่อยดีแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร

ยินนี้จะต้องกลับไปเจอกันอีก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ขณะนี้ยังรู้สึกเสียใจอยู่แต่เมื่อเทียบกับครั้งก่อนยังห้ามตัวเองไม่ให้ถามเค้าได้อยู่ ยังอยากอยู่กับลูก และ อยากพยายามที่จะทำให้ลูกมีพ่อ โดยที่เราจะทำเฉยๆ แต่ก็ต้องเก็บความเสียใจไว้ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็อยากให้ผู้ที่มีทีผ่านธรรมะมาอาจชี้ทางสว่างให้ได้บ้าง

ขอบคุณมาก
Windy

LOTUS
04-02-2009, 05:30 PM
ก่อนอื่น ต้องขออนุญาตร่วมสนทนา อาจไม่เก่งเท่า อาจาร์ยท่านอื่น ๆ

ขอให้กำลังใจคุณ windy และคิดว่าคงรอคำตอบอยู่ ขอให้เข้าใจว่าทุกข์ที่เกิดขึ้นไม่อยู่กับเราตลอดไป
ทุกสิ่งมีเกิดขี้น ตั้งอยู่ เกิดขึ้น และมันจะดับไป การที่เราพยายามที่จะคิดว่าพาครอบครัวให้พ้นจากสิ่งที่เกิดขึ้นไปได้ จะเป็นเรื่องของการฝืนกฎตามธรรมชาติที่มันจะเป็นไปตามเหตุปัจจัย สามีคุณอาจมีห้วงผูกพันมากับหญิงนั้น จะสั้นจะนาน ขึ้นอยู่กับวิบากของเขาทั้งสอง เราลองมามองในสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราเองได้ดีกว่า คือการ
หยุดคิดถึงอดีต มองไปข้างหน้า สร้างเหตุวันนี้ให้ดี ด้วยความรักและเอาความห่วงใย ให้กับลูก มองหลาย ๆ ครอบครัวที่เขาอยู่ได้ด้วยแม่กับลูก มิใช่ให้เลิกกับสามี แต่ให้ทำดีกับเขาด้วยความจริงใจ ไม่ได้หวังอะไร ทำดีด้วยความว่าง ขอเป็นกำลังใจนะคะ

arkom
04-03-2009, 10:49 AM
อืม..ไม่รู้จะพูดไงดีได้แต่เห็นใจและเข้าใจเป็นอย่างที่สุดเนื่องจากเคยเป็นผู้กระทำเช่นสามีคุณ ตอนนี้ก็ได้แยกทางกับภรรยาเรียบร้อยแล้วเมื่อเรามาอยู่ที่จุดหนึ่งของเราเราก็ค่อยคิดได้ อืม เรื่องของความหลงหรือกิเลสนั้น มันไม่สนว่าคนคนนั้นเป็นคนดีหรือไม่ดีรักครอบครัวหรือไม่รัก เพราะมันเป็นตัวทำลายที่แยบยนมาก มันอยู่กับเรามาไม่รู้กี่กัปกี่กัลป์โดยแทบจะเป็นเราหรือตัวเราไปโดยปริยาย ที่ว่ามานั้นก็อยากให้เห็นว่าความดีของสามีคุณนั้นก็ไม่ได้หมดไปกับความหลงอันเป็นอำนาจของกิเลสหรือสิ่งที่เขาเป็นอยู่ ขอให้ตัวเรานั้นต้องมีสติอย่าขาดสติในห้วงหนึ่งสามีท่านขาดสติไป แต่เราต้องยังคงสติอยู่อย่าใหลไปตามอำนาจของกิเลสเสียทั้งหมด หากเรายังคงสติและค่อยพิจรณาตามความเป็นจริงโอกาศผ่านเรื่องเหล่านี้ไปย่อมมีมาก กลับกันถ้าต่างคนต่างเซหรือขาดสติ หรือที่เรีกว่าเป็นไฟกันทั้งสองคนอันนี้ก็คงเหนื่อย ที่ผมเคยทำผิดกับครอบครัวในเรื่องนี้มาจึงไม่บังอาจสอนท่านผู้ถามได้ แต่ขอเล่าในฐานะผู้กระทำให้ฟังเผื่อมีอะไรที่พอจะเป็นแนวทางที่จะช่วยให้ปัญหาของท่านผู้ถามได้ลดลงและหมดไปในที่สุด บังเอินผมเขียน(พิมพ์)ไม่เก่งอาจจะใช้ภาษาที่บ้านๆบ้างหรือเข้าใจยากบ้างต้องขออภัยนะครับ สรุปขั้นต้นเราต้องตั้งสติและใช้ปัญญาจัดการ เราต้องรู้ว่าที่เราสู่นั้นเราไม่ได้สู้หรือฟาดฟันกับสามีเรา แต่เราสู้กับกิเลส(ส่วนหยาบ)ของสามีเราต่างหาก เช่นเมื่อเราจะคาดคั้นเขานั้นเราต้องรู้ว่าเราต้องการคำตอบนั้นเพื่ออะไร(บางคำตอบเราก็รู้อยู่แล้ว)เพื่อสะใจเหรออันนี้ก็สำคัญ จะเชื่อหรือไม่ก็ตามในฐานะที่เคยเป็นเช่นสามีคุณ เขาไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้ เช่นเมื่อคุณรู้ว่าสามีคุณเดินไปเหยียบหนามมา คุณก็ไม่ต้องไปถามว่า เดินยังไง ไปเหยียบมาจากใหน หรือตาไม่มองรึไงถึงไปเหยียบ แต่คุณต้องใช้สติคิดว่าจะเอาหนามออกให้สามีคุณยังไง ส่วนสามีคุณจะไปเหยียบเมื่อไร จากใหน ทำไม อันนั้นไม่สำคัญ จิงอยู่พูดค่อยข้างเป็นนามธรรมเนื่องจากเราไม่รู้จักกัน ผมไม่รู้จักนิสัยคุณและสามีคุณ ผมและผู้ตอบอื่นๆย่อมจะพูดเป็นกลางๆ ยังไม่ลงลึกถึงรายละเอียดขั้นตอน อันนั้นคุณย่อมนำไปประยุคให้เหมาะกับนิสัยของคุณกับสามีคุณได้ดีกว่าผู้อื่น ก็ขอพูดใว้แค่นี้ก่อนนะครับ หากจะถามหรือขอความคิดเห็นผมก็ยินดีครับ ถามได้ทุกเรื่องครับ ก็เพื่อหวังว่าคุณและครอบครัวจะได้ผ่านคลื่นกิเลส และบททดสอบของลูกพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าจะสู้กับบททดสอบนี้ไม่ได้เชียวหรือ...เป็นกำลังใจให้นะครับ ....อาคม

Windy
05-02-2009, 12:53 PM
ขอขอบคุณอย่างมากสำหรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะให้ดิฉัน ดิฉันไม่ได้เข้ามาอ่านเลยตั้งแต่ตั้งกระทู้ไว้เนื่องด้วยติดอยู่กับงานตลอด พร้อมทั้งตั้งใจพยายามคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและสิ่งที่ต้องทำรวมถึงทำเพื่ออะไรด้วย ทำให้ทุกวันนี้รู้สึกดีขึ้นมากจากเดิมด้วยคิดให้อภัยสามีที่อาจหลงไปกับกิเลสนั้นและพยายาพาเค้ากลับมา ให้กำลังใจเค้า คิดถึงอนาคตที่ต้องอยู่ให้ได้เพื่อพ่อแม่และลูก รวมถึงถ้าสามีสามารถเลิก หรือหลุดพ้นจากกิเลสได้จริงเราก็จะมีครอบครัวที่เป็นสุขได้ค่ะ

ขอบคุณมาก
Windy

Vipawee
05-02-2009, 05:42 PM
ไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้ค่ะ สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นผลของกรรมที่ทำไว้ เราต้องมีสติ อยู่เสมอ อย่างน้อยลูกยังเป็นดวงใจของเรา อดทน เข้มแข็ง และสู้ค่ะ จะเป็นกำลังใจให้


http://www.watkoh.com/board/richedit/cliparts/Angel_Evil/1.gif

piangfan
05-03-2009, 09:53 PM
เป็นกำลังให้นะค่ะ
คุณWindy
สาธุค่ะ

tal
05-04-2009, 09:51 PM
กราบนมัสการพระคุณเจ้า และญาติธรรมวัดเกาะทุกท่านค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ Windy

ก่อนอื่นตาลต้องขอชื่อชมในความเข้มแข็งของคุณมาก ๆ เลยนะคะ
บางทีคงอาจจะเหมือนอย่างเช่นญาติธรรมท่านอื่น ๆ พูดกัน
วิบากกรรมเป็นสิ่งที่เราต้องประสบ เมื่อมันผ่านไปแล้วทุกสิ่งจะดีขึ้นเอง
"พ่อกับแม่ตาลท่านแยกทางกันตั้งแต่ตาลอายุ 7 ขวบ ครั้งนั้นยังจำได้ดีไม่เคยลบลืมเลย
เมื่อนึกถึงทีไรทำให้เศร้าถึงกับร้องไห้ได้ทุก ๆ ครั้ง
บางทีตาลก็ทำเหมือนเข้มแข็งเพื่อปกปิดปัญหาต่าง ๆ
แต่ที่แท้จริงแล้วมันก็ยังเหมือนหนามที่อยู่กับตาลทั้ง ๆ ที่ดึงออกได้
แต่ไม่ยอมที่จะดึงออก กลับเลือกจะจำ ไม่เคยลืมเลย
ไม่ใช่ว่าไม่อยากที่จะลืม แต่มันกลับลืมไม่ได้ คิดถึงทีไรแล้วก็เสียใจ
ไม่รู้จะอะไรนักหนา จิตหนอจิตคนเรา ฟุ้งซ่านเกินควบคุม

แต่เมื่อวันนึงได้เดินผ่านมันมาแล้ว เหลียวหันหลังกลับไปมองมันอีกครั้งนึง
กลับรู้สึกว่า
"เอ.... นี่มันปัญหาเล็กนิดเดียวเองนี่นา เมื่อก่อนนี้เราทำไมต้องเสียใจขนาดนี้นะ"
ตอนนี้กับมีความรู้สึกแบบนี้ปรากฏขึ้นมา ฉุกคิดขึ้นได้ว่า
เมื่อก่อนเราไม่น่าไปเสียใจกับเรื่องนั้นขนาดนั้นเลย แต่คิดกลับไปแล้วมันก้ไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีก
ก็เราคิด เราเสียใจไปแล้วนี่นา

วันนั้นถ้าไม่มียายคอยให้ความรัก อบรมดูแล ตาลคงจะไม่มีวันนี้
คงจะไปอยู่ข้างถนนที่ไหนสักแห่งนึง

รักยายมาก ๆ นะคะ

เวลาที่มีความทุกข์ไม่ว่าจะทุกข์กาย ทุกข์ใจ คิดเสมอ ๆ ว่าเราแค่นี้สบายมาก ๆ
คนอื่นเค้ามีความทุกข์ มากกว่าเราเยอะเลย

สู้ ๆ กับทุกปัญหานะคะคุณวิน เมื่อเราผ่านพ้นกับปัญหาไปแล้ว เราจะหันกลับมามองมันด้วยรอยยิ้มได้เสมอค่ะ

Windy
05-18-2009, 11:31 AM
ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ ดิฉันเองก็พยายามอย่างยิ่งที่จะพาครอบครัวไปให้พ้นวิบากกรรมที่เผชิญอยู่ พยายามทำให้ใจเข็มแข็ง พยายามทำงาน พยายามอยู่กับลูกๆ ให้มีความผูกพันให้มากที่สุดเพื่อที่ เมื่อใดก็ตามที่ถึงวันที่เราต้องตัดสินใจทำอะไรลงไป เราจะได้มีพวกเค้าไว้เป็นส่วนในการช่วยที่จะเลือกตัดสินใจ

คุณตาล ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันความรู้สึกที่มี เพราะเห็นว่าความรู้สึกของลูกที่อาจจะต้องเจ็บปวด เป็นแผลในใจ และไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อแม่ ทำไมถึงต้องมีการแยกทางกัน จึงทำให้มีความอดทนสูงขึ้นลดความรู้สึกส่วนตัวออกไปให้มากเพราะนึกถึงเด็กๆ ซึ่งก็ช่วยได้มาก

ขณะนี้มีความรู้สึกดีขึ้นมากอาจเป็นเพราะเราละที่จะเอาทุกข์ใส่ใจเราได้บ้างแต่ไม่สามารถละได้ทั้งหมด กำลังพยายามอยู่ค่ะ
สิ่งที่กำลังทำอยู่คือจะเป็นแม่ของเด็กๆให้ดีที่สุด จะเป็นลูกของแม่ให้ดีที่สุด (แต่ไม่เคยเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ใครในครอบครัว.ฟังเลยนะคะ พยายามจะยึด ไฟในอย่าเอาออก ไฟนอกอย่าเอาเข้า แต่ก็รู้สึกอึดอัดไม่น้อยเลยคะ สิ่งสำคัญไม่อยากให้ท่านกระทบกระเทือนจิตใจเพราะอายุมากแล้ว) จะเป็นภรรยาที่ดีกับสามี เป็นกำลังใจให้เค้าฝ่าฟันกิเลสหยาบที่มีอยู่ให้ผ่านไปให้ได้เข้าใจว่าขณะที่เผชิญปัญหาอะไรอยู่ก็แล้วแต่ถ้าแก้ไขได้ด้วยตัวเราก็อาจจบได้เร็ว แต่ถ้าเป็นปัญหาที่มีผู้อื่นมาร่วมตัดสินใจหรือเป็นห่วงในการตัดสินใจอาจจะทำได้ลำบากและทำได้ไม่ดี ไม่ว่าการตัดสินใจของเค้าจะเป็นอย่างไร ดิฉันจะเคารพการตัดสินใจของเค้าค่ะ สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือความรักที่ให้กับเด็กขอให้คงอยู่เพราะเข้าใจว่าเค้าต้องการมากๆเพราะเค้ายังเด็กเล็กอยู่

รู้สึกขอบคุณที่มาใช้กระดานธรรมะตรงนี้เลยทำให้เรามีเพื่อนที่คอยชี้แนะให้ และทำให้เรามีสติในการจัดการกับปัญหา ลดความฟุ้งซ่านลงได้บ้าง ขอบคุณด้วยใจจริงค่ะ

Windy

rain....
05-23-2009, 06:40 PM
เรื่องนี้อาจยาวไปสักนิด แต่ฝนคิดเอาเองว่า เมื่ออ่านจบแล้ว คงทำให้มีกำลังใจเพิ่มขึ้นบ้าง ไม่มากก็น้อนนะคะ จากเวปฯบ้านใส่ใจค่ะ

เรื่อง จดหมายรัก
http://www.carefor.org/images/stories/together3/care_nature093_s.jpg
มีหญิงชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งเก็บรักษาจดหมายรักเก่า ๆ ของสามีเอาไว้ ซึ่งตัวสามีได้เขียนจดหมายที่งดงามไว้หลายฉบับให้แก่เธอก่อนแต่งงานกัน
ทุก ๆ ครั้งที่ได้รับจดหมายจากเขา เธอรู้สึกดื่มด่ำในทุกประโยค
ทุก ๆ ถ้อยคำหวานไพเราะด้วยความรักเข้าอกเข้าใจ
เธอรู้สึกเบิกบานใจเสมอเมื่อได้รับจดหมาย

ด้วยเหตุนี้เธอจึงเก็บจดหมายทุกฉบับของเขาเอาไว้ในกล่องขนม
เช้าวันหนึ่งขณะที่กำลังจัดของในตู้
เธอจึงได้พบกล่องขนมใบเก่าคร่ำคร่า
ซึ่งภายในมีจดหมายของเขาเก็บอยู่
เป็นเวลาเนิ่นนานมากแล้วตั้งแต่ได้เห็นมันคราวก่อน
กล่องเก็บจดหมายบอกเล่าถึงช่วงเวลาอันแสนวิเศษของสามีภรรยา
ซึ่งยังเป็นหนุ่มสาวและรักกันจนเชื่อว่า
หากปราศจากใครไปคนหนึ่งแล้วชีวิตคงอยู่ต่อไปไม่ได้

แต่ในหลายปีที่ผ่านมา สามีภรรยาทั้งคู่กลับรู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก
พวกเขาไม่ได้รู้สึกยินดีที่จะมองกันและกันอีกต่อไป
ไม่รู้สึกเพลิดเพลินต่อการคุยกันอีกแล้ว
พวกเขาไม่ได้เขียนจดหมายถึงกันอีกเลย

วันก่อนที่เธอจะพบกล่องใส่จดหมาย
สามีได้บอกให้เธอทราบว่าเขาจะต้องเดินทางไปทำธุรกิจต่อ
เขารู้สึกไม่สบายใจนักเวลาอยู่บ้าน
บางทีเขาคงกำลังหาความสุขความพึงพอใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการเดินทาง

เธอเริ่มได้ตระหนัก และเมื่อสามีบอกว่าเขาต้องไปประชุมที่นิวยอร์ก
เธอจึงบอกกลับไปว่า “หากคุณมีงานต้องทำก็ขอให้ทำตามสบายเลย”
เธอโตมากับการพูดอย่างนี้ มันเป็นเรื่องปกติมาก

แล้วแทนที่การกลับบ้านจะเป็นไปตามแผน
เขาโทรศัพท์มาบอกว่า
“ผมต้องอยู่ต่ออีกสองวันเพราะมีเรื่องจำเป็นต้องให้ทำ”
เธอยอมรับได้อย่างง่ายดาย อาจเป็นเพราะเมื่อเขาอยู่บ้าน
เธอรู้สึกไม่มีความสุขเลย
หลังจากวางหูโทรศัพท์ เธอจึงเริ่มต้นจัดข้าวของในตู้แล้วก็พบกล่องดังกล่าว
มันเป็นกล่องขนมปังกรอบยี่ห้อ Lu ซึ่งมีชื่อเสียงมากในประเทศฝรั่งเศส

เธอรู้สึกสนอกสนใจเนื่องจากมันนานมาแล้วตั้งแต่เปิดกล่องนั้นครั้งก่อน
เธอใช้ไม้ขนไก่ปัดเอาฝุ่นออกแล้วเปิดกล่อง
จึงได้กลิ่นของบางสิ่งที่คุ้นเคยมาก

เธอหยิบเอาจดหมายฉบับหนึ่งออกมาและยืนอ่านอยู่ตรงนั้น
มันช่างเป็นจดหมายที่หวานไพเราะอะไรอย่างนี้!
ในภาษาถ้อยคำของเขานั้นเต็มไปด้วยความเข้าใจรักใคร่
เธอรู้สึกได้ถึงความสดชื่นมากมายได้กลับมาเหมือนกับผืนดินที่แตกระแหงได้รับน้ำฝน

เธอเปิดจดหมายอีกฉบับออกอ่านเพราะว่ามันวิเศษเหลือเกิน
ในที่สุดเธอจึงนำจดหมายทั้งกล่องมาที่โต๊ะนั่งลงและอ่านฉบับแล้วฉบับเล่า
จนกระทั่งอ่านจบหมด ๔๖ ฉบับ เมล็ดพันธุ์แห่งความสุขใน
อดีต
ยังคงอยู่ที่นั่น
ทว่ามันถูกฝังกลบไว้ภายใต้ความทุกข์มากชั้น
หากแต่ว่ามันคงอยู่ที่นั่น

ดังนั้นในขณะที่อ่านจดหมายซึ่งเขาเขียนเมื่อยังหนุ่มและรักซึ้

ตรึงใจ
เธอจึงรู้สึกได้ว่าเมล็ดพันธุ์แห่งความสุขภายในเธอเริ่มต้นได้น้ำแล้ว
เมื่อคุณทำบางสิ่งเหมือนอย่างนี้ ก็เท่ากับช่วยรดน้ำให้กับเมล็ดพันธุ์แห่งความสุข
ซึ่งนอนจมอยู่ในจิตสำนึกของคุณ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่นานมานี้
สามีของเธอไม่รู้จักใช้ถ้อยคำอันไพเราะเสียบ้างเลย

แต่เดี๋ยวนี้เมื่อกำลังอ่านจดหมาย
เธอได้ยินคำพูดหวาน ๆ จากเขา ความสุขของพวกเขามีอยู่จริง
แต่ทำไมเล่าพวกเขาจึงมีชีวิตเหมือนอยู่ในนรก?
เธอแทบจะจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่าเขาเคยพูดคุยกับเธออย่างนั้น
แต่มันก็เป็นสิ่งที่เขาเคยทำจริง ๆ ซึ่งเขาสามารถคุยกับเธอด้วยคำพูดดี ๆ ได้
ช่วงเวลาชั่วโมงครึ่งที่เธอใช้เวลาอ่านจดหมายเหล่านี้ทั้งหมด
ได้ช่วยพรมน้ำลงบนเมล็ดพันธุ์แห่งความสุขในตัวเธอ
เธอเข้าใจแล้วว่าทั้งเธอและเขาต่างก็ไม่มีความชำนาญ
พวกเขาจึงให้น้ำบนเมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์ของกันและกัน
อีกทั้งไม่รู้จักให้น้ำบนเมล็ดพันธุ์แห่งความสุขบ้างเลย

หลังจากอ่านจดหมายทั้งหมด
เธอมีแรงจูงใจปรารถนาที่นั่งลงเขียนจดหมายบอกแก่สามีว่า
ในช่วงเวลานั้นเธอมีความสุขเพียงใด
เมื่อแรกเริ่มในความสัมพันธ์ของพวกเขา

เธอเขียนว่าปรารถนาให้ปีแห่งความสุขอันทรงคุณค่าเหล่านั้นหวนกลับคืนมาอีกครั้ง
และตอนนี้อยากจะเรียกเขาว่

“สุดที่รักของฉัน”
ด้วยความสัตย์ซื่อจริงใจอย่างเต็มเปี่ยม
เธอใช้เวลา ๔๕ นาทีเพื่อเขียนจดหมายนั้น
มันเป็นจดหมายรักจริงๆ ที่ส่งไปให้ชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์
คนที่เขียนจดหมายมาให้เธอเก็บเอาไว้ในกล่องๆ หนึ่ง

การอ่านและเขียนจดหมายใช้เวลาไปร่วมๆ ๓ ชั่วโมง
มันเป็นเวลาแห่งการฝึกปฏิบัติ
ทว่าเธอเองไม่รู้เลยว่ากำลังปฏิบัติอยู่

หลังจากเขียนจดหมายเสร็จ เธอรู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจ
ทั้งๆ ที่จดหมายยังไม่ได้ส่งและสามีของเธอก็ยังไม่ได้อ่าน
แต่กลับทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นอย่างมาก
เพราะว่าเมล็ดพันธุ์แห่งความสุขได้ตื่นขึ้นอีกครั้ง
พวกมันได้รับน้ำแล้ว

เธอขึ้นไปชั้นบนแล้วเอาจดหมายวางลงบนโต๊ะของเขา
เธอรู้สึกมีความสุขเพียงเพราะว่า
จดหมายเหล่านั้นได้หล่อเลี้ยงเมล็ดพันธุ์ด้านบวกในตัวเธอ
ในขณะที่กำลังอ่านจดหมายและเขียนถึงสามีของเธอ
เธอได้รับความเข้าใจบางอย่างที่ว่า
พวกเขาทั้งสองไม่มีความชำนาญพอ
อีกทั้งไม่รู้จักวิธีที่จะถนอมรักษาความสุขที่พวกเขาสมควรจะได้รับ
จากถ้อยคำพูดคุย จากการกระทำ
แต่กลับทำให้สถานการณ์ย่ำแย่
ทั้งๆ ที่ทั้งสองยินดีที่จะใช้ชีวิตร่วมกันเป็นครอบครัว
เป็นคู่ผัวตัวเมีย แต่พวกเขากลับไม่มีความสุขเอาเสียเลย

หลังจากมีความเข้าใจนี้
เธอรู้สึกมั่นใจว่า ถ้าเธอและเขาพยายามฝึกปฏิบัติ
ความสุขก็จะหวนคืนกลับมาอีก
เธอรู้สึกเต็มไปด้วยความหวังและ
ไม่มีความทุกข์ใดๆ อีกเลยเช่นที่เธอเคยมีในอดีตที่ผ่านมา
เมื่อสามีเธอกลับมาบ้าน เขาขึ้นชั้นบนและเห็นจดหมายบนโต๊ะ เขียนว่า
“ฉันเป็นคนหนึ่งที่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในความทุกข์ของเรา
เป็นความจริงที่ว่า เราไม่มีความสุขอย่างที่เราทั้งคู่สมควรจะได้รับ
ขอให้มาเริ่มต้นพูดคุยกันใหม่
ขอให้ความสงบสันติความปรองดอง และความสุขเกิดขึ้นจริงอีกครั้ง”

เขาใช้เวลามากมายไปกับการอ่านจดหมายและมองลึกลงไปในสิ่งที่เธอเขียน
เขาไม่รู้เลยว่ากำลังฝึกภาวนา
แต่เขาก็กำลังทำมันอยู่

เพราะว่าด้วยการอ่านจดหมายของภรรยา
เมล็ดพันธุ์แห่งความสุขในตัวเขาได้รับน้ำด้วยเช่นเดียวกัน

เขาอยู่ที่ชั้นบนเป็นเวลานาน มองหยั่งลึกเข้าไป
เกิดความเข้าใจเหมือนๆ กันกับที่เธอได้รับในวันก่อน

ด้วยการกระทำนี้
...
พวกเขาทั้งสองจึงมีโอกาสเริ่มต้นใหม่และฟื้นฟูความสุขอีกครั้ง
ปัจจุบันนี้ ผู้คน คู่รักไม่เขียนจดหมายถึงกันอีกต่อไปแล้ว
พวกเขาเพียงแค่ยกหูโทรศัพท์และพูดว่า

“คืนนี้เธอว่างไหม ? เราน่าจะออกไปนอกบ้านกันนะ”
แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรให้เก็บเอาไว้ให้ระลึกนึกถึง
นั่นเป็นเรื่องน่าสงสาร

เราต้องเรียนรู้ที่จะเขียนจดหมายรักอีกครั้ง
เขียนถึงคนที่คุณรัก เขาอาจจะเป็นพ่อหรือเป็นลูกชาย
เธออาจจะเป็นลูกสาว แม่ พี่สาว น้องสาว หรือเพื่อน
ให้เวลากับการลงมือเขียนด้วยความรู้สึกสำนึกและความรักของคุณ


[HR]


ติช นัช ฮันห์ เขียน ญาเฮ ดา แปล จากข้อเขียนเรื่อง “Love Letters” ในนิตยสาร Resurgence ฉบับที่ ๒๑๕ เดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม ๒๐๐๒

ขอเพิ่มเติมอีกนิดนึงว่า บางสิ่งบางอย่าง เราลองไม่รู้ หรือ แกล้งไม่รู้บ้าง จะดีกว่ามั้ยคะ รู้มากไปก็เป็นทุกข์ค่ะ


-------------------------------


โดดเดี่ยว แต่ไม่เคยเดียวดาย

DAO
05-24-2009, 08:21 AM
ร้อยไมตรีด้วยห่วงของดวงจิต
เสริมชีวิตให้งดงามด้วยความหมาย
ปลุกปลอบขวัญวันเหงาเศร้าเดียวดาย
มิเว้นวายอาทรตอนทุกข์ตรม

ยามชีวาตย์พลาดพลั้งรีบรั้งลุก
ยามท้นทุกข์ปลอบใจคลายขื่นขม
ยามท้อแท้แพ้ชะตาล้าอารมณ์
ที่พร่างพรมคือคำถ้วนน้ำใจ

กำลังใจให้กันในวันหมอง
ช่วยประคองยามล้าได้อาศัย
ช่วยด้วยจิตมิตรแท้แน่หทัย
สานสายใยมิตรภาพทาบอุรา

สิ่งวาดหวังคงรอมิท้อแท้
ใจแน่วแน่พร้อมฝ่าฟันกับปัญหา
อุปสรรคแค่ปราการด่านชีวา
เพียงใจกล้าพร้อมก้าวเข้าผจญ

ทุกปัญหามิสิ้นไร้ในทางออก
อย่าจนตรอกตั้งสติตรึกตรองผล
อันต้นตอสาเหตุเลศนัยกล
คือกมลของเราโปรดเข้าใจ

หนึ่งแรงใจให้กันในวันนี้
ด้วยหวังดีต่อกันอย่าหวั่นไหว
จงมุ่งมั่นฟันฝ่าปัญหาไป
ปราการชัยในชีวีมิไกลเกิน




ขอเป็นกำลังใจให้คุณวินดี้ด้วยคนนะคะ ขอมอบเพลงเธอผู้ไม่แพ้ให้ฟังด้วยคะ

http://www.youtube.com/watch?v=PTiR2kyVIBo&feature=related


ขอเล่าชีวิตคู่ของดาวไว้เป็นอุทาหรณ์สอนใจอีกซักเรื่องนะคะ


ดาวแต่งงานกับพ่อของลูกมา25ปี ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันนั้นเค้าเจ้าชู้มาโดยตลอด และดาวก็ให้อภัยเค้าพร้อมกับให้เวลามาจนถึง25ปีคะแต่เค้าก็ไม่เคยหยุดนิสัยเจ้าชู้ได้เลยคะ ดีแต่ว่าเค้าไม่เคยทำให้เห็นและปิดดาวมาตลอดเพราะเค้าบอกว่าเค้ารักดาว และดาวก็เสียใจมากกับการกระทำของเค้าถึงแม้เค้าไม่เคยทำให้เห็นแต่ดาวก็ได้ข่าวมาตลอด25ปีที่อยู่ด้วยกันกับเค้าคะ ดาวเคยทำทุกอย่างแม้แต่การฆ่าตัวตายเพื่อหนีไปจากชายคนนี้ แต่ดีว่าดาวมีแม่คอยช่วยเหลือให้กำลังใจมาตลอดคะ แม่บอกว่าอดทนนะลุกอย่างน้อยก็เพื่อลูกของเธอลูกเธอมีพ่อแบบนี้แล้วถ้าเธอยังคิดจะหนีไปอีกแล้วลุกเธอจะอยู่กับใครละ นี่คือหนึ่งกำลังใจที่ดาวอดทนมาจนถึง25ปีคะ การที่แม่เข้ามาช่วยดาวนี้ดาวได้รู้ความจริงแท้อีกเรื่องนึงคือคนที่รักเราที่สุดคือพ่อแม่เราเองคะ พอปีที่26คือปีที่แล้วกรรมดาวคงจะเบาบางคะเค้าไปเปิดสาขาที่กรุงเทพ(ลืมบอกไปดาวทำธุรกิจส่วนตัวคะ) และดาวกับเค้าเลยห่างกันโดยปริยายคะดาวเลยถือโอกาสไม่ไปหาเค้าและพูดเสมอๆว่าขอให้คุณมีแฟนใหม่ได้เลยนะเพราะฉันคงไม่มีโอกาสไปดูแลคุณแล้วละ เพราะฉันต้องอยู่กับลูกเค้าก็บอกว่าผมไม่มีใครนะผมยังอยากให้คุณมาอยู่กับผม จนเวลาผ่านไปครบปีนึงเค้าเลยอดทนไม่ไหว และมาบอกดาวว่าเค้ามีแฟนใหม่แล้วนะพอดาวได้ยินคำบอกล่าวของเค้าดาวนะเหมือนยกภูเข้าออกจากอก ใจเบาสบายมากเลยคะไม่คิดเสียดายเสียใจเลยและดีใจที่ตนเองอดทนมาจนถึงวันนี้ได้คะ เพราะ9ปีหลังนี้ดาวได้ไปเข้าวัดปฏิบัติธรรมและทำตามที่หลวงพ่อจรัลท่านสอนมาอย่างสม่ำเสมอไม่ขาดเป็นเวลาหลายปีคือ ดาวจะไปเข้ากรรมฐานทุกปีปีละหลายๆครั้งถ้ามีโอกาสและถ้าอยู่บ้านดาวก็จะปฏิบัติตัวอย่างดีมาตลอดคือรักษาศีล5 สวดมนต์นั่งสมาธิเช้าเย็นทุกวันไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือวัดและที่ไม่เคยลืมเลยคือถ้าสามีอยู่บ้านดาวจะมาขออโหสิกรรมเค้าทุกครั้งที่ดาวนั่งสมาธิเสร็จ ดาวเชื่อว่าอดีตชาตินั้นดาวเคยทำกับเค้าไว้มากมายและแสนสาหัสเค้าถึงได้มาทวงกรรมดาวขนาดนี้ อย่างน้อยการคิดเช่นนี้เราเองก็ไม่ต้องไปต่อกรรมและอาฆาตเค้าคะขอสิ้นสุดกรรมเก่าและกรรมใหม่นั้นก็จะขอสร้างแต่กรรมดีต่อกันคะ หลังจากที่ดาวเข้าวัดและทำแบบนี้มาหลายปีดาวและเค้าก็เข้าใจกันและให้อภัยกันได้ดีคะและสุดท้ายเราก็จากกันด้วยดีคะ ดาวและเค้าต่างก็เป็นเพื่อนกันปรึกษากันเวลาลูกมีปัญหาคะและดาวยังให้คำแนะนำแฟนใหม่เค้าด้วยนะคะว่าสามีเค้าชอบและไม่ชอบแบบไหนในเรื่องคำพูดและการกระทำต่างๆไปจนถึงเรื่องเสื้อผ้าอาหารการกินด้วยคะ ทุกวันนี้ดาวมีความสุขมากคะได้ดูแลพ่อแม่และลูกๆอย่างเต็มที่และเต็มกำลังคะ

ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนนะคะได้เวลาไปทำงานละคะ ขอเป็นกำลังใจให้คุณวินดีก้าวผ่านความทุกข์นี้อย่างมีสตินะคะ

เกิดแก่
05-24-2009, 10:23 AM
ขอเป็นกำลังใจให้คุณวินดี้ด้วยอีกคนค่ะ

ฟังคุณดาวเล่าชีวิตคู่ที่เป็นอุทาหรณ์สอนใจแล้ว
ได้เห็นสัจจะธรรมมากขึ้นเชียวค่ะ ทุกสิ่งในโลก
ใบนี้ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอนคนเคยรักกันกลาย
เป็นคนทำร้ายจิตใจกันไปได้ แต่สิ่งเลวร้ายก็จะ
ผ่านพ้นไปด้วยดีถ้าเรามีหลักธรรมไว้เป็นที่พึ่ง
เกิดแก่ขออนุโทนาในการปฏิบัติธรรมของคุณดาว
ด้วยนะค่ะ เกิดแก่เองก็กำลังคลานต้วมเตี้ยมอยู่
ผิดบ้างถูกบ้างก็ได้กัลยาณมิตรช่วยชี้แนะชี้แจ้ง
ให้เข้าใจ ค่ะ

*8q*
05-24-2009, 06:25 PM
http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/grin.gifเข้ามายิ้ม

srtawil
07-04-2009, 06:32 AM
พระพุทธองค์ สอนว่า ทุกสิ่งไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา แม้กายก็ไม่ใช่ของเรา ดังนั้น สามีก็ไม่ใช่ของเรา อย่าไปยึดมั่นถือมั่นเลย จะได้ไม่ทุกข์
หากยึดมั่น ถื่อมั่นว่า เป็นเรา เป็นของเรา เมื่อใร ทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลงเสมอ ไม่เป็นดังใจเรา ย่อมทุกข์แน่นอน พระพุทธองค์ยังบอกว่า ที่ใดมีรัก
ที่นั่นมีทุกข์ รัก 1 ทุกข์ 1 รัก 100 ทุกข์ 100 ไม่รัก ไม่ทุกข์ ทำใจให้ปกติ มีศีล มีสมาธิ มีปัญญา แก้ปัญหาได้ ปัญหานี้ไม่ได้เกิดเฉพาะกับท่านผู้เดียวหรอก
เป็นกันทั้งโลก
หวังว่าคงจะทำใจได้ โลกนีมีแต่เรื่องให้ทำใจ
srtawil ครับ

piangfan
07-04-2009, 09:05 PM
เข้ามายิ้ม http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/grin.gif http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/rolleyes.gif

เพียงฝันขอยืมค่ะ พี่แปดคิว

สาธุ ค่ะ