PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : ปัญญาทางโลกกับปัญญาทางธรรม



Butsaya
07-07-2009, 08:08 AM
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Word_Other/11.gif
อืม ... ปัญญาทางโลกกับปัญญาทางธรรม ประกอบด้วยอะไรบ้างอะค่ะ
ให้ผลเหมือน ต่างกันหรือว่าเกื้อกูลกันอย่างไรอะค่ะ
วิธีเจริญปัญญาทางธรรมมีประเด็นที่น่าสนใจอะไรบ้างอะค่ะ
ที่ทำให้เรามีการพัฒนาตรงนี้ให้ก้าวหน้า
และรับรู้ความก้าวหน้าในการที่เราได้ทำตรงนี้อะค่ะ

D E V
07-07-2009, 10:55 AM
ปัญญา หมายถึง สภาพที่เห็นถูก เข้าใจถูก หยั่งรู้ รู้ชัด รู้แจ้งแทงตลอด

โดยทั่วไป เราก็มักเรียกคนที่ช่างคิด ช่างค้นคว้า รอบรู้
หรือคนที่วางแผนเก่ง แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ดี ว่าเป็นคนมีปัญญา
หรือ เด็กคนนี้เรียนเก่ง สอบได้คะแนนดี เราก็เรียกว่า หัวดี มีปัญญา
ซึ่งก็คือการตรึกคิดพิจารณาไปในเรื่องราวต่างๆ วิชาการต่างๆ
และเกิดความเข้าใจตามเหตุตามผลของเรื่องราวหรือวิชาการนั้นๆ
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมี ปัญญาเจตสิก เกิดร่วมด้วยอ่ะคับ

ปัญญาเจตสิก ที่เกิดร่วมกับจิตนั้น
ทำให้เกิดความหยั่งรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง
จึงละคลายจากโมหะอันเป็นสภาพที่ไม่รู้
หลงผิด เห็นผิด ไปจากสภาพธรรมตามความเป็นจริง

ลักษณะของปัญญาเจตสิก ก็คือ
ธมฺมสภาวปฏิเวธลกฺขณา มีความรู้แจ้งซึ่งสภาวธรรม เป็นลักษณะ
โมหนฺธการวิทฺธํสนรสา มีการกำจัดมืด เป็นกิจ
อสมฺโมหปจฺจุปฏฺฐานา มีความไม่หลงผิด หรือไม่เห็นผิด เป็นผล
สมาธิปทฏฺฐานา มีสมาธิ เป็นเหตุใกล้


ปัญญาที่หยั่งรู้นี้ เมื่อแบ่งใหญ่ๆ โดย 3 นัยยะ ก็คือ

1. กัมมสกตาปัญญา คือ รู้ว่าแต่ละคนมีกรรมเป็นของตน กรรมมี ผลของกรรมมี ฯลฯ เป็นต้น
2. วิปัสสนาปัญญา คือ รู้รูปนามตามความเป็นจริง ประจักษ์แจ้งในไตรลักษณ์
3. โลกุตตรปัญญา คือ รู้แจ้งแทงตลอดในอริยสัจ ดับกิเลสได้สิ้นซาก


และการที่จะสั่งสมอบรม เพาะบ่ม
ให้ปัญญามีขึ้น เจริญขึ้น จนกว่าจะสมบูรณ์พร้อมนั้น
ก็ย่อมต้องใช้เวลา ความเพียร ซึ่งเป็นไปโดยลำดับทีละเล็กละน้อยน่ะคับ

1. สุตมยปัญญา...ปัญญาเกิดจากการฟัง (อ่าน สนทนา) ในสิ่งที่ถูกต้องตามพระธรรม
2. จินตามยปัญญา...ปัญญาเกิดจากการไตร่ตรอง พิจารณา โดยเหตุโดยผลตรงตามพระธรรม
3. ภาวนามยปัญญา...ปัญญาเกิดจากการน้อมไปสู่สภาพธรรมตามความเป็นจริงที่ปรากฏจนประจักษ์แจ้งแทงตลอด



http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/cool.gif เดฟ

lek
07-07-2009, 08:48 PM
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/77.gif http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/63.gif โมทนาสาธุขอรับ

Butsaya
07-11-2009, 08:52 PM
http://www.watkoh.com/board/Smileys/default/shocked.gif http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Other/27.gif อืม....มค่ะ ขอบคุณค่ะ พี่เดฟ ...




http://www.watkoh.com/board/richedit/upload/2kd9e10cf54e.jpg

piangfan
07-11-2009, 08:59 PM
สาธุ ค่ะ อาจารย์เดฟ พี่บุษยา คุณเล็ก

were
08-25-2009, 01:20 PM
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยไว้เหนือเศีนยรเกล้า

ปัญญาทางโลกเรียนเท่าไหร่ก็ไม่มีทางจบสิ้นน่ะครับ แต่ปัญญาทางธรรมสามารถที่จะเรียนจบสิ้นได้

แต่ทว่ายากกว่าเรียนด๊อกเตอร์อีก น่ะครับ จบยากส์มากเลย ต้องอาศัยความพากเพียร วิริยะ อย่างมาก

เอาเป็นว่าเรียนข้ามพบข้ามชาติเลยทีเดียวครับ

อนุโมทนาครับ

Butsaya
08-27-2009, 09:21 AM
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Happy/1.gif


อืมม..วันนี้นั่งอ่านหนังสือธรรม แล้วแว๊ปหนึ่งของความคิดสงสัยอะค่ะ
ว่าเวลาที่เราอ่านหนังสือธรรม ฟังธรรม หรือว่าสนทนาธรรมก็ตาม
ที่เรารู้สึกว่าเราเข้าใจ (ไม่รู้เข้าใจถูกหรือเปล่า อิอิ)
แบบนี้เรียกว่า ปัญญาเราก็อาจจะเจริญขึ้นใช่ปะค่ะ
ทีนี่สิ่งที่เราเข้าใจนั้นเราก็ม่ะรู้ว่าใช่หรือเปล่า
คือความแตกต่างระหว่างเข้าใจไปเองกับ ปัญญาเจริญขึ้นแล้วอะค่ะ
ดูหรือสังเกตุอย่างไงอะค่ะ (เริ่มวิตกจริตล่ะ อิอิ....)

were
08-27-2009, 09:46 AM
สวัสดีครับ คุณบุษยา

การที่เราศึกษาพระธรรม แล้วมีความเข้าใจมากขึ้น ขณะนั้นเป็นปัญญาเจตสิกที่เจริญขึ้น และเข้าใจในธรรมนั้น

แต่การศึกษาพระธรรมกันส่วนใหญ่ ก็ยังมุ่งไปเพื่อตนเองเข้าใจ ทั้งๆที่เป็นปัญญาต่างหากล่ะที่ทำกิจของปัญญา

ไม่ได้มีตัวตนที่ไปเข้าใจครับ และความสงสัยย่อมเกิดขึ้นได้แน่นอน ซึ่งก็ต้องนำมาสนทนาสอบทานความเข้าใจจากผู้ที่รู้

เป็นเรื่องๆไป เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน มั่นคง และเจริญขึ้นเป็นลำดับๆ ครับ


เจริญในธรรมครับ

Butsaya
08-28-2009, 10:11 AM
http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/YahooIM/21.gif http://www.watkoh.com/board/richedit/smileys/Happy/4.gif
อืมค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ คุณวี อิอิ