PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : นางไอ่....ตำนานรักแห่งหนองหาน ภาคอีสาน



DAO
08-21-2009, 07:01 PM
นางไอ่....ตำนานรักแห่งหนองหาน ภาคอีสาน บทนำ......ชายใบ้กับลูกสาวเศรษฐี





http://www.bloggang.com/data/kenichi/picture/1183404017.jpg
..........กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีชายหนุ่มยากจนเป็นใบ้เที่ยวขอทานตามหมู่บ้านต่างๆจนมาถึงบ้านเศรษฐีคนหนึ่งชายใบ้จึงเข้าไปขอทำงานที่บ้านเศรษฐีโดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก ต่อมาท่านเศรษฐีรักใคร่เอ็นดูชายใบ้ยิ่งนักจนถึงกับยกบุตรสาวให้ แต่ครั้นใช่ชีวิตอยู่กับลูกสาวเศรษฐีก็กลับไม่ได้เป็นสามีที่ดี แต่นางผู้เป็นภรรยาก็มิได้ปริปากบ่นว่าสักนิด นางยังคงเป็นภรรยาที่ดีเสมอมา


http://www.bloggang.com/data/kenichi/picture/1183404282.jpg
.....ครั้นต่อมาไม่นานชายใบ้คิดถึงญาติพี่น้องของตนจึงขอท่านเศรษฐีกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด ท่านเศรษฐีก็จัดแจงเสบียงอาหารไปให้ แต่ชายใบ้กลับใจดำต่อภรรยา มิยอมช่วยหาบของเลยสักนิด นางต้องทนลำบากหาบของไปตลอดทางจนกระทั่งเสบียงหมดกลางทาง ชายใบ้จึงปีนขึ้นต้นมะเดื่อเก็บผลมะเดื่อบนต้นกินแทนข้าว นางผู้เป็นภรรยาได้แต่ชะเง้อมองหวังว่าสามีจะโยนผลมะเดื่อลงมาบ้างแต่ก็เปล่าเลย เนื่องจากสามีของนางเป็นคนใจแคบจึงเก็บกินเอง เมื่ออิ่มแล้วสามีของนางลงมาจากต้นมะเดื่อ นางจึงต้องปีนขึ้นไปเก็บกินเอง แต่เมื่อนางลงมาจากต้นมะเดื่อสามีของนางกลับทิ้งนางไปเสียแล้ว นางตามหาสามีแต่ก็มิพบ นางจึงต้องทุกข์ทรมานกลางป่าเพียงลำพัง

.....ครั้นต่อมานางมาถึงต้นไทรริมน้ำ นางอาบน้ำชำระกายและตั้งจิตอธิษฐานว่า ในชาติหน้าขอให้สามีของนางเสียชีวิตบนกิ่งไม้ และอย่าได้เกิดมาเป็นสามีภรรยากันอีกเลย....ครั้นนางสิ้นบุญนางไปเกิดเป็นเจ้าหญิงของพญาขอมเรืองอำนาจและชายใบ้ผู้เป็นสามีไปเกิดเป็นพญานาคตามแต่บุญกรรมของตน



http://www.bloggang.com/data/kenichi/picture/1183404641.jpg
ตำนานรักหนองหาน.......




.....พระยาขอมแห่งเมืองสุวรรณโคมคำหรือเมืองเอกธีตามีนางจันทร์เป็นมเหษี และมีธิดาชื่อไอ่คำ (หรือเจ้าหญิงคำผิว) พระยาขอมรักและหวงแหนพระธิดามาก จึงสร้างปราสาทเจ็ดชั้น พร้อมข้าทาสบริวารคอยรับใช้





.....จนกระทั่งเจ้าหญิงเจริญพระชนมายุครบ ๑๕ ชันษา ความงามของนางเลื่องลือไปทั่วทุกสารทิศ ท้าวผาแดงเจ้าครองนครแห่งเมืองผาโพงได้ยินกิติศัพท์ความงามของนางไอ่คำจึงลักลอบเข้าวังมาพบนางไอ่คำ ทั้งสองจึงรักใคร่กัน ท้าวผาแดงสัญญาจะกลับมาสู่ขอตามราชประเพณี





.....ความงามของเจ้าหญิงเลื่องลือไปถึงเมืองบาดาล ท้าวพังคีนาคราช โอรสของท้าวสุทโธนาคราชแปลงกายมาเป็นกระรอกเผือกชมความงามของนาง ส่วนบริวารก็แปลงเป็นสัตว์ต่างๆมาที่เมืองเอกธีตา

.....ครั้นถึงกลางเดือนหกพระยาขอมจะทำบุญบั้งไฟ จึงมีใบบอกบุญไปยังหัวเมืองต่าง ๆ ที่เป็นบริวารให้ทำบั้งไฟไปร่วมจุดในงาน ท้าวผาแดงไม่ได้รับใบบอกบุญ แต่ได้ทราบข่าวจึงจัดบั้งไปหมื่นไปร่วมบุญด้วย และได้พบนางไอ่คำเป็นครั้งที่ ๒ และได้รับการต้อนรับอย่างดี ในการจุดบั้งไฟพระยาขอมให้มีการพนันกันว่า ถ้าบั้งไฟของใครชนะจะได้ทรัพย์สมบัติและนางสนมกำนัล สำหรับท้าวผาแดงนั้นจะยกนางไอ่คำให้ ในเวลาจุดปรากฏว่าบั้งไฟของเมืองอื่น ๆ ขึ้นหมด ส่วนของพระยาขอมไม่ขึ้น และของท้าวผาแดงแตกกลางบั้ง แต่พระยาขอมก็เฉยเสียไม่ทำตามสัญญา เจ้าเมืองต่าง ๆ จึงพากันกลับหมด ส่วนท้าวผาแดงก็กลับเมืองของตนพร้อมกับความทุกข์เพราะความรักและบั้งไฟไม่ขึ้น



http://www.bloggang.com/data/kenichi/picture/1183407231.jpg

....กระรอกเผือกแปลงแอบปีนป่ายมาในเขตพระราชฐานชมนางไอ่คำจนกระทั่ง นางไอ่คำพบเข้าก็ใคร่ได้เอาไว้เลี้ยงดู จึงรับสั่งนายพรานไปจับมาให้นาง แต่นายพรานกลับยิงกระรอกเผือก ท้าวพังคีในร่างกระรอกเผือกอธิษฐานขอให้เนื้อของตนมีมากมายพอจะเลี้ยงชาวเมืองได้ทั้งเมือง จากนั้นท้าวพังคีนาคราชในร่างกระรอกเผือกแปลงจึงสิ้นใจบนกิ่งไม้นั้น



.....นายพรานนำเนื้อกระรอกเผือกไปปรุงอาหารถวายแด่เจ้าหญิง แต่เนื้อกระรอกเผือกกลับมีจำนวนมากมายจึงแบ่งกันไปทั่ววัง แต่ก็ยังมีจำนวนมหาศาลจนต้องแบ่งออกไปให้ชาวเมืองข้างนอกกินด้วย

.....กล่าวถึงท้าวผาแดงซึ่งรักนางไอ่คำจนทนอยู่ไม่ได้ จึงรีบขึ้นม้าบักสามจากเมืองผาโพงมาสู่เอกธีตาเมื่อมาถึงนางไอ่คำก็ต้อนรับด้วยความดีใจ พร้อมทั้งจัดหาอาหารที่ปรุงจากเนื้อกระรอกวิเศษนั้นมาเลี้ยง เมื่อท้าวผาแดงรู้ว่าเป็นเนื้อกระรอกเห็นผิดสังเกตุก็ไม่เสวย แล้วบอกนางไอ่คำว่ากระรอกตัวนี้มิใช่กระรอกธรรมดา

.....ท้าวสุทโธนาคราชเมื่อทรงทราบว่าโอรสของตนสิ้นพระชนม์และกลายเป็นอาหารของมนุษย์จึงแค้นใจและจัดเตรียมไพร่พลชาวนาคขึ้นไปถล่มเมืองเอกธีตา พอตกกลางคืนกองทัพพญานาคก็มาถึงเมือง แผ่นดินถล่มโครมครามไปทั่ว ท้าวผาแดงจึงให้นางไอ่คำเตรียมข้าวของบางสิ่งที่พอจะเอาไปได้ นางไอ่คำนำแหวน ฆ้อง และกลองประจำเมืองแล้วรีบขึ้นม้าซ้อนท้ายท้าวผาแดงควบม้าบักสามหนีออกจากเมืองทันที พญานาครู้ว่านางไอ่คำหนีไปจึงติดตามไปติด ๆ แผ่นดินก็ถล่มไม่หยุด นางไอ่คำเข้าใจผิดคิดว่าพญานาคติดตามเอาของสำคัญคู่บ้านคู่เมืองจึงโยนฆ้องและกลองทิ้ง แต่พญานาคก็ยังตามมาอีก ม้าบักสามก็หมดแรงลงทำให้พญานาคตามมาทัน แล้วเอาหางเกี่ยวตวัดรัดตัวนางไอ่คำลงมาจากหลังม้า ส่วนท้าวผาแดงก็ควบม้าหนีต่อไปพญานาคก็ตามไปอีกเพราะท้าวผาแดงมีแหวนของนางไอ่คำติดตัวไปด้วย ท้าวผาแดงจึงทิ้งแหวนเสียตนเองจึงปลอดภัย พญานาคนำร่างของนางไอ่คำลงไปเมืองบาดาล บ้านใครที่กินเนื้อของกระรอกเผือกก็ได้ถล่มกลายเป็นน้ำหมด เหลือแต่บ้านของแม่ม่ายที่ไม่ได้กิน จึงกลายเป็นดอนแม่ม่ายจนถึงทุกวันนี้



http://www.bloggang.com/data/kenichi/picture/1183405278.jpg


.....ท้าวผาแดงกลับไปถึงเมืองผาโพงแล้วเสียใจที่สูญเสียคนรักไปต่อหน้าต่อตา จึงอธิษฐานต่อเทพยดาฟ้าดินว่าจะขอตายเพื่อไปต่อสู้เอานางไอ่คำกลับคืนมา ว่าแล้วก็กลั้นใจตายบนปราสาทแล้วไปเป็นหัวหน้าผีได้นำกองทัพผีไปสู้กับพวกนาค ต่อสู้กันอยู่นานทำให้น้ำในบึงในหนองขุ่น ดินบนบกกลายเป็นฝุ่นตลบไปหมด ร้อนไปถึงพระอินทร์ต้องลงมาระงับศึก ให้พวกผีกลับเมืองผีให้นาคกลับเมืองบาดาล ส่วนนางไอ่คำให้อยู่ที่เมืองบาดาลไปก่อนรอพระศรีอาริย์มาตัดสินว่า ใครจะเป็นสามีที่แท้จริงของนาง ดังนั้นนางไอ่คำจึงรอที่เมืองบาดาลจนกว่าจะถึงวันนั้น

.......ตำนานท้าวผาแดง-นางไอ่บางแห่งเล่าแตกต่างกันออกไปตามแบบฉบับของแต่ละท้องถิ่นครับบางแห่งเล่าตอนท้ายของเรื่องว่า

..........เมื่อท้าวผาแดงตายเป็นผี ก็ยังมีความอาฆาตเคียดแค้นพญานาคอยู่ไม่วาย พอได้โอกาสเหมาะ ผีท้าวผาแดง ก็เตรียมไพร่พลเดินทัพผีไปรบกับพวกพญานาคให้หายแค้น บริวารผีท้าวผาแดงมีเป็นแสน ๆ เดินเท้าเสียงดังอึกทึกปานแผ่นดินจะถล่ม เข้ารายล้อมเมืองพญานาคเอาไว้ทุกด้าน ต่างฝ่ายต่างใช้อิทธิฤทธิ์รบกันนานถึง 7 วัน 7 คืน ไม่มีใครแพ้ใครชนะ ฝ่ายท้าวสุทโธนาคราช เจ้าครองนครบาดาลซึ่งแก่ชราภาพมากแล้ว ก็ไม่อยากก่อกรรมก่อเวร เพราะต้องการไปเกิดในแผ่นดินพระศรีอาริยเมตตรัยอีก จึงไปหาท้าวเวสสุวัณ ผู้เป็นใหญ่ให้มาตัดสินความ


http://www.bloggang.com/data/kenichi/picture/1183405620.jpg

.....ท้าวเวสสุวัณ จึงเรียกทั้งสองฝ่ายมาโดยให้ทั้งสองฝ่ายเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทราบ ท้าวเวสสุวัณจึงบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นผลของ ” บุพกรรม ” หรือกรรมเก่าแต่ชาติปางก่อนที่ตามมาในชาตินี้ และทั้งสองฝ่ายก็มีเหตุผลกล้ำกึ่งกัน
จึงให้ทั้งสองเลิกลาไม่ต้องเข่นฆ่ากันอีก ขอให้มีเมตตาต่อกัน และให้ทั้งสองฝ่ายรักษาศีลห้า ปฏิบัติธรรม และให้มีขันติธรรม ต่อไป ท้าวผาแดง และพญานาคได้ฟังคำสั่งสอนของท้าวเวสสุวัณก็กลับมีสติ เข้าใจในเหตุและผลต่างฝ่ายต่างอนุโมทนา สาธุการ เหตุการณ์ร้ายจึงยุติลงด้วยความเข้าใจ มีการให้อภัยกันในที่สุด




http://www.bloggang.com/data/kenichi/picture/1183405996.jpg


.....เลือกตอนจบกันเองครับ....อิอิ



http://www.bloggang.com/data/kenichi/picture/1183518353.jpg




http://www.bloggang.com/data/kenichi/picture/1183518471.jpg




ภาพหนองหาน จังหวัดสกลนครครับ เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่กว้างใหญ่มาก มีเนื้อที่ถึง 150 ตารางกิโลเมตร เป็นแหล่งเกษตรกรรมและการประมงของจังหวัด หนองหานมีเกาะต่างๆมากมายถึง20 เกาะ เกาะที่ใหญ่ที่สุดคือเกาะดอนสวรรค์มีวัดร้างและพระพุทธรูปเก่าแก่ สามารถเช่าเรือไปเที่ยวชมได้ หนองหานเป็นแหล่งท่องเที่ยว เหมาะสำหรับไปพักผ่อน ชมนก ตกปลา ล่องเรือครับ

และยังมีอีกหนองหาน... (หึหึ ทำไมเยอะจัง) อยู่ที่อ. กุมภวาปี จ. อุดรธานี คือหนองหานน้อย เป็นทะเลบัวแดงหลายหลากสี มีดอนแก้วซึ่งตามตำนานคือดอนแม่ม่าย ที่นี่มีตำนานของเมืองที่จมอยู่ในหนองน้ำคือเมืองชิตะนคร ในสมัยพุทธกาล เป็นอีกตำนานของท้าวผาแดง-นางไอ่ด้วยเหมือนกัน...






ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.luangpee.net/forum/?topic=6483.0