PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : อนาลโยวาท กัณฑ์ที่ ๑๘ หลวงปู่ขาว อนาลโย



**wan**
10-29-2008, 10:28 AM
http://www.dhammajak.net/gallery/albums/userpics/a_kao.jpg
อนาลโยวาท กัณฑ์ที่ ๑๘
หลวงปู่ขาว อนาลโย

คัดลอกจากหนังสือ อนาลโยวาท
พระธรรมเทศนาของพระอาจารย์ขาว อนาลโย และ ประวัติความอาพาธ
คณะศิษยานุศิษย์จัดพิมพ์ถวายโดยเสด็จพระราชกุศล
ในการพระราชทานเพลิงศพ
วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๗
ณ วัดถ้ำกลองเพล ตำบลโนนทัน อำเภอหนองบัวลำพู อุดรธานี


(เทศน์โปรดนักศึกษาสมาชิกกลุ่มอาสา มหาวิทยาลัยมหิดล
ที่วัดถ้ำกลองเพล ในวันสงกรานต์ พ.ศ. ๒๕๒๑)

พวกท่านทั้งหลายเป็นนักศึกษาแพทย์และนักศึกษาอย่างอื่นอยู่ในมหาวิทยาลัย นับเป็นผู้มีบุญญาบารมี ได้สั่งสมมาแต่ก่อน ๆ จึงได้เข้ามาอยู่ในสถานที่ที่ดี มีครุอาจารย์ที่เป็นแบบอย่างจำนวนมาก ได้เล่าเรียนวิชาที่ดี มีประโยชน์แก่ตนเองและแก่คนอื่น ๆ เรียนแล้วก็จะสอนผู้อื่นต่อไป พวกนักศึกษาแพทย์นั้น มีความรับผิดชอบมากกว่าพวกอื่น ๆ ทำงานเกี่ยวกับชีวิตคน ทำดีก็ได้บุญ ทำไม่ดีพลาดพลังไปก้เป็นบาปใหญ่ ต้องอบรมสติไว้รักษาตัว ไม่พลังเผลอ ทำอันตรายต่อคนอื่นและต่อตัวเอง จะมีสติได้ต้องมีศีล ทุกคนต้องมีศีล จึงจะเป็นคนดีได้ คนไม่มีศีลทำอะไรก็ผิด ๆ เหมือนเรือไม่มีหางเสือ เพราะฉะนั้น ทุกคนต้องมีศีล ไม่ว่าจะเล่าเรียนอะไร จะมีอาชีพอะไร ศีลเป็นของคนทุกคน ศีลทำคนให้เป็นคน ทำมนุษย์ให้เป็นเทวดา คนไม่มีศีลก็เหมือนสัตว์ ทำอะไรไปตามกิเลสชักนำ กิเลสคือ โลภ โกรธ หลง มันคอยชวนคนให้ทำผิดตลอดเวลา คนที่ไม่ได้ศึกษาธรรมย่อมไม่รู้จักมัน หลงเชื่อมัน ทำตามมัน มันก็พาไปพบทุกข์ คนไม่รู้ก็คิดว่าเป็นความสุข รูป รส กลิ่น เสียง พอหลงตามไปแล้ว ทีหลังจึงรู้ว่ามันเป็นสุขปลอม เป็นสุขแต่ข้างนอก ข้างในเป็นทุกข์ ตอนแรก ๆ สนุกสนาน นานไปได้ทุกข์ยาก หนัก ๆ เข้า ตกนรกทั้งเป็น ตายแล้วก็ยังตกนรกอีก คนฉลาดต้องรีบเร่งศึกษาธรรม ท่านทั้งหลายเป็นนักศึกษา ศึกษาทางโลกมากแล้ว มาศึกษาธรรมะเสียบ้างเป็นการดี ถูกต้อง ขั้นแรกคือศีล ศีลห้านั่นแหละพอแล้ว ถือให้มันดี ๆ ให้มั่นคง ให้บริสุทธิ์ พอแล้ว ท่านว่าถือตามฐานะ พวกท่านเป็นนักศึกษา ศีลห้าก็ดีแล้ว ถ้าใครถึงศีลแปด ก็ยิ่งดี ถ้าทำได้ ศีลเป็นเครื่องระงับสงบกายวาจา กายวาจาสงบ จิตก็สงบ เมื่อจิตสงบ ก็ตั้งมั่น เกิดเป็นสมาธิ จิตมีอำนาจ มีกำลัง เมื่อจิตตั้งมั่นแท้แล้ว อยากรู้อะไรก็รู้ได้ เกิดปัญญาเห็นแจ้ง เมื่อมีปัญญาแล้วก็ไม่หลงอะไรอีกต่อไป ไม่ทำอะไรผิด มีสติ รู้เท่าทัน อะไรถูกอะไรผิด เมื่อไม่ทำอะไรผิด ความทุกข์ก็ไม่มี มีปัญญารู้ตามความเป็นจริง ความเศร้าโศกเสียใจอะไรก็ไม่มี เพราะรู้แล้วว่ามันเป็นอย่างนั้นเอง ความพลัดพรากจากของรัก ความไม่ได้สิ่งที่อยากได้ ความไม่ได้สิ่งที่อยากเป็น เหล่านี้เป็นของธรรมดา ไม่ใช่เรื่องสำหรับเศร้าโศกเสียใจ มีปัญญาเห็นจริงย่างนี้แล้ว คิดอะไรก็ดี ทำอะไรก็ดี พูดอะไรก็ดี ดีทั้งนั้น ท่านทั้งหลายควรศึกษาเรื่องเหล่านี้ไปพร้อม ๆกับศึกษาวิชา แล้วกาลภายหน้าก็จะแจ่มใส เอาเท่านี้ละนะ

(จากบันทึกย่อของ อ.ก.)