D E V
11-24-2009, 10:43 AM
http://www.khaosod.co.th/images/ks.gif
วันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 เวลา 10:02 น. ข่าวสดออนไลน์
http://www.khaosod.co.th/online/2009/11/12590318941259031978.jpg
สมัคร สุนทรเวช สิ้นใจสงบด้วยโรคมะเร็งตับ
เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี วัย 74 ปี ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบแล้ว เมื่อเวลา 08.48 น. ด้วยโรคมะเร็งตับ ญาติตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเบญจมบพิตร โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในวันพรุ่งนี้
สำหรับประวัตินายสมัคร สุนทรเวช เกิดวันที่ 13 มิถุนายน 2478 เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศไทย อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ก่อตั้งพรรคประชากรไทย เกิดที่กรุงเทพมหานคร เป็นนักการเมืองเก่าแก่ ที่มีเสียงพูดและลีลาการพูดเป็นเอกลักษณ์ เคยดำรงตำแหน่งสำคัญมากมาย อาทิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ฉายาจากสื่อมวลชนทั่วไปว่า "น้าหมัก" "ออหมัก" หรือ "ชมพู่" (มาจากลักษณะจมูกของนายสมัคร) เป็นต้น
เริ่มทำงานหลังจบนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เป็นสื่อมวลชนสายการเมือง โดยเขียนบทความ และความคิดเห็น ทางการเมืองแบบไม่ประจำใน หนังสือพิมพ์สยามรัฐ, สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ และชาวกรุง ตั้งแต่ พ.ศ. 2500 จนถึง 2516 เขียนบทความ การเมืองในหนังสือพิมพ์ประชาไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2517 จนถึง 2520 และเขียนบทความในคอลัมน์ประจำ "มุมน้ำเงิน" หนังสือพิมพ์เดลิมิเร่อร์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2521 จนถึง 2537
เริ่มต้นชีวิตการเมืองโดยเข้าเป็นสมาชิก พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ปี 2511 ลงสมัครตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนขึ้นถึงระดับชาติ จนมามีบทบาทโดดเด่นช่วงปี 2519 จากการจัดรายการสถานีวิทยุยานเกราะ ที่มีเนื้อหาโจมตีบทบาทของ ขบวนการนักศึกษาในสมัยนั้น พร้อมทั้งปลุกระดมมวลชนให้เกลียดชังขบวนการนักศึกษา และ เป็นศูนย์กลางประสานงาน ถ่ายทอดกำหนดการ และคำสั่งเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านนักศึกษาใน เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
เมื่อสิ้นสุดเหตุการณ์ ในปี พ.ศ. 2519 นายสมัครได้เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมๆ กับการลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ และในปี พ.ศ. 2522 ได้ก่อตั้ง พรรคประชากรไทย และดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค มีฐานคะแนนเสียงหลักในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในเขตที่มีหน่วยทหารตั้งอยู่หนาแน่น
ปี 2543 ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จากการเลือกตั้งพ.ศ.2543 ด้วยคะแนนเสียงเกินล้าน ซึ่งนับเป็นคะแนนเสียงมากที่สุด หลังพ้นตำแหน่งเบนเข็มมาสมัครสมาชิกวุฒิสภา ได้รับการเลือกตั้งในปี 2549 และถูกยกเลิกเนื่องจากเหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งโดยไม่มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่
ปี 2550 รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2551 สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบ ให้นายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมี นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี วันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายสมัครยังได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อีก 1 ตำแหน่ง แต่ยังถูกกล่าวหาจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถึงการดำรงตำแหน่งของนายสมัคร สุนทรเวช นี้ว่าเป็นนอมินี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกในข้อหาเซ็นชื่อยินยอมให้ภรรยาซื้อที่ดินตามกฎหมาย
ต่อมาวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551 นายชัช ชลวร ประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมคณะ ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในกรณีที่ประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภาและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความสิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 267 ประกอบมาตรา 182(7) เนื่องจากรับเป็นพิธีกรกิตติมศักดิ์ ของรายการ “ชิมไปบ่นไป” และ “ยกโขยง 6 โมงเช้า” ซึ่งคณะตุลาการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง เห็นว่านายสมัครกระทำต้องห้ามขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 267 เรื่องคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี จึงทำให้นายสมัครสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรีลง แต่ให้คณะรัฐมนตรีรักษาการไปจนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ต่อมาวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551 นายสมัคร ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชนอย่างไม่เป็นทางการ โดยให้เหตุผลว่า ได้ทำหน้าที่หัวหน้าพรรคและรักษาระบอบประชาธิปไตยอย่างถึงที่สุดแล้ว จึงขอยุติบทบาททางการเมือง ส่วนการดำเนินการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ให้ขึ้นอยู่กับพรรค
ในวันที่ 25 ก.ย. 2551 ศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกนายสมัคร เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา คดีหมิ่นประมาทนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าฯราชการกรุงเทพมหานครในสมัยนั้น จัดรายการ เช้าวันนี้ที่ช่อง 5 ทางททบ.5 และ "สมัคร-ดุสิต" คิดตามวัน ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี
ในช่วงต้นเดือน ต.ค. 2551 มีรายงานว่านายสมัคร เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ด้วยโรคมะเร็งตับ โดยนายสมัครเพิ่งมาทราบว่าตนเองป่วยเพราะไม่มีอาการแสดงให้เห็น ในเดือนถัดมานายสมัครเดินทางไปรักษาตัวที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และกลับมาเมื่อวันที่ 22 ม.ค. และพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จนกระทั่งเสียชีวิต รวมระยะเวลารักษาตัวประมาณ 1ปีเศษ
วันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 เวลา 10:02 น. ข่าวสดออนไลน์
http://www.khaosod.co.th/online/2009/11/12590318941259031978.jpg
สมัคร สุนทรเวช สิ้นใจสงบด้วยโรคมะเร็งตับ
เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี วัย 74 ปี ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบแล้ว เมื่อเวลา 08.48 น. ด้วยโรคมะเร็งตับ ญาติตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเบญจมบพิตร โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในวันพรุ่งนี้
สำหรับประวัตินายสมัคร สุนทรเวช เกิดวันที่ 13 มิถุนายน 2478 เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศไทย อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ก่อตั้งพรรคประชากรไทย เกิดที่กรุงเทพมหานคร เป็นนักการเมืองเก่าแก่ ที่มีเสียงพูดและลีลาการพูดเป็นเอกลักษณ์ เคยดำรงตำแหน่งสำคัญมากมาย อาทิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ฉายาจากสื่อมวลชนทั่วไปว่า "น้าหมัก" "ออหมัก" หรือ "ชมพู่" (มาจากลักษณะจมูกของนายสมัคร) เป็นต้น
เริ่มทำงานหลังจบนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เป็นสื่อมวลชนสายการเมือง โดยเขียนบทความ และความคิดเห็น ทางการเมืองแบบไม่ประจำใน หนังสือพิมพ์สยามรัฐ, สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ และชาวกรุง ตั้งแต่ พ.ศ. 2500 จนถึง 2516 เขียนบทความ การเมืองในหนังสือพิมพ์ประชาไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2517 จนถึง 2520 และเขียนบทความในคอลัมน์ประจำ "มุมน้ำเงิน" หนังสือพิมพ์เดลิมิเร่อร์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2521 จนถึง 2537
เริ่มต้นชีวิตการเมืองโดยเข้าเป็นสมาชิก พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ปี 2511 ลงสมัครตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนขึ้นถึงระดับชาติ จนมามีบทบาทโดดเด่นช่วงปี 2519 จากการจัดรายการสถานีวิทยุยานเกราะ ที่มีเนื้อหาโจมตีบทบาทของ ขบวนการนักศึกษาในสมัยนั้น พร้อมทั้งปลุกระดมมวลชนให้เกลียดชังขบวนการนักศึกษา และ เป็นศูนย์กลางประสานงาน ถ่ายทอดกำหนดการ และคำสั่งเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านนักศึกษาใน เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
เมื่อสิ้นสุดเหตุการณ์ ในปี พ.ศ. 2519 นายสมัครได้เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมๆ กับการลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ และในปี พ.ศ. 2522 ได้ก่อตั้ง พรรคประชากรไทย และดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค มีฐานคะแนนเสียงหลักในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในเขตที่มีหน่วยทหารตั้งอยู่หนาแน่น
ปี 2543 ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จากการเลือกตั้งพ.ศ.2543 ด้วยคะแนนเสียงเกินล้าน ซึ่งนับเป็นคะแนนเสียงมากที่สุด หลังพ้นตำแหน่งเบนเข็มมาสมัครสมาชิกวุฒิสภา ได้รับการเลือกตั้งในปี 2549 และถูกยกเลิกเนื่องจากเหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งโดยไม่มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่
ปี 2550 รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2551 สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบ ให้นายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมี นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี วันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายสมัครยังได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อีก 1 ตำแหน่ง แต่ยังถูกกล่าวหาจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถึงการดำรงตำแหน่งของนายสมัคร สุนทรเวช นี้ว่าเป็นนอมินี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกในข้อหาเซ็นชื่อยินยอมให้ภรรยาซื้อที่ดินตามกฎหมาย
ต่อมาวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551 นายชัช ชลวร ประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมคณะ ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในกรณีที่ประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภาและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความสิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 267 ประกอบมาตรา 182(7) เนื่องจากรับเป็นพิธีกรกิตติมศักดิ์ ของรายการ “ชิมไปบ่นไป” และ “ยกโขยง 6 โมงเช้า” ซึ่งคณะตุลาการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง เห็นว่านายสมัครกระทำต้องห้ามขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 267 เรื่องคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี จึงทำให้นายสมัครสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรีลง แต่ให้คณะรัฐมนตรีรักษาการไปจนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ต่อมาวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551 นายสมัคร ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชนอย่างไม่เป็นทางการ โดยให้เหตุผลว่า ได้ทำหน้าที่หัวหน้าพรรคและรักษาระบอบประชาธิปไตยอย่างถึงที่สุดแล้ว จึงขอยุติบทบาททางการเมือง ส่วนการดำเนินการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ให้ขึ้นอยู่กับพรรค
ในวันที่ 25 ก.ย. 2551 ศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกนายสมัคร เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา คดีหมิ่นประมาทนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าฯราชการกรุงเทพมหานครในสมัยนั้น จัดรายการ เช้าวันนี้ที่ช่อง 5 ทางททบ.5 และ "สมัคร-ดุสิต" คิดตามวัน ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี
ในช่วงต้นเดือน ต.ค. 2551 มีรายงานว่านายสมัคร เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ด้วยโรคมะเร็งตับ โดยนายสมัครเพิ่งมาทราบว่าตนเองป่วยเพราะไม่มีอาการแสดงให้เห็น ในเดือนถัดมานายสมัครเดินทางไปรักษาตัวที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และกลับมาเมื่อวันที่ 22 ม.ค. และพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จนกระทั่งเสียชีวิต รวมระยะเวลารักษาตัวประมาณ 1ปีเศษ