PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : ยอมเพราะรัก



rain....
01-01-2010, 09:34 PM
"ขอให้ฉันได้ดูหน้าลูกหน่อยสิคะ..."

เสียงเบาหวิวเอื้อนเอ่ยกับสามี ชายหนุ่มเม้มปากแน่น ระบายลมหายใจ พยักหน้าช้า...แล้วเดินไปบอกพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์

ครู่หนึ่งพยาบาลสาวก็เข้ามายังห้องพักพิเศษ พร้อมห่อผ้าสีขาวในอ้อมแขน...สามีช่วยประคองผู้เป็นแม่ของลูกยันกายกึ่งนั่ง เธอน้ำตาคลอมองห่อผ้านั้นด้วยความปลื้มปีติ

2 มือเอื้อมรับห่อผ้ามาด้วยความระมัดระวัง โอบกอดกระชับด้วยหัวใจพองโต...นี่หรือคือหนึ่งชีวิตที่เธอสู้อดทน อุ้มท้องมากว่า 9 เดือน ด้วยความรัก
เธอ ก้มลงมองวงหน้าเล็กๆ ที่ยังแดงก่ำ...พริ้มตา...คุณแม่คนใหม่ยิ้มกว้าง น้ำใสๆ ไหลเอื่อยลงเคลียแก้มขาวซีดโดยไม่รู้ตัว...มือขวาค่อยๆ ลูบผมบางนุ่มที่ศีรษะลูกเบาๆ แล้วไล้เรื่อยผ่านลงมาคลี่เปิดผ้าที่ห่อ-วงหน้านั้นไว้ หมายจะได้เห็นหน้าชัดๆ
ครั้นมือไล้ผ่านศีรษะลงมาช้าๆ จนเผยให้เห็นใบหน้าอย่างชัดเจน เธอถึงกับตาเบิกโพลง...

กรี๊ดดดดดดด !!!!

พยาบาลรีบเข้ามารับทารกน้อยที่อยู่ในห่อผ้านั้น แล้วผละออกจากห้องไป...

ทารกไม่มีหู!!!!

เธอ ร้องไห้โฮ โดยไม่อาจข่มความรู้สึกไว้ได้ สามีโอบกอดปลอบโยน เสียงร่ำไห้จากภรรยากรีดลึกลงไปในหัวใจของสามี จนมิอาจกลั้นน้ำตาไว้ได้เช่นกัน

เวลาผ่านไป 2 ปี
2 สามีภรรยาเฝ้าเอาใจใส่ดูแลเด็กน้อยอย่างดีที่สุด ทุ่มเทความรักให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้
และกาลเวลาได้พิสูจน์ว่า การได้ยินของเจ้าหนูไม่มีปัญหา

ปัญหาใหญ่ มีเฉพาะสิ่งที่มองเห็นภายนอก นั่นคือ...ใบหูทั้งสองข้างที่หายไป..!


* * * * *

เมื่อเข้าโรงเรียน บ่อยครั้งที่เด็กน้อยกลับถึงบ้านแล้ววิ่งไปซบ อก แม่...แม้ไม่พูดอะไรเธอก็รับรู้ว่าลูกเผชิญกับสิ่งใดมา และลูกปวดร้าวเพียงใด? ทว่า...เธอนั้น เจ็บยิ่งกว่า...

วันหนึ่งเจ้าหนูโพล่งออกมาอย่างน่าเศร้า
"พวกพี่ปอ.6 เขาเรียกผมว่าไอ้ตัวประหลาด" เธอฟังคำแล้วเหมือนถูกเหล็กแหลมทิ่มแทงเข้ามากลางใจ คว้าลูกมากอดกระชับ น้ำตาเอ่อท้น...

* * * * *

เด็กน้อยเติบใหญ่จนเข้าสู่วัยรุ่น ใบหน้าคมเข้ม หล่อเหลา เป็นที่รักของเพื่อนๆ มีความสามารถพิเศษหลากหลาย ทั้งศิลปะ การประพันธ์ และดนตรี และอาจจะได้เป็นหัวหน้าชั้น หากมิใช่เพราะสิ่งนั้น !

" ลูกต้องพบปะกับผู้คน ต้องเข้าสังคมบ้างนะลูก" แม่แนะนำด้วยความสงสาร ทว่าเด็กหนุ่มยังคงเก็บตัว...ทุกวันที่กลับมาถึงบ้าน ก็จะไม่ออกไปไหนดังเช่นเด็กวัยรุ่นทั่วไป

ผู้เป็นพ่อสงสารลูกสุดประมาณ จึงไปปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

"ผมสามารถปลูกถ่ายใบหูให้ลูกคุณได้ครับ ถ้ามีผู้บริจาค แต่ต้องหาคนที่จะเสียสละใบหูให้ลูกของคุณ" แพทย์เล่าถึงวิธีการช่วยเหลือ

* * * * *

สองปีต่อมา
พ่อได้บอกกับลูกชายหลังทานอาหารเย็นวันหนึ่ง

" เตรียมตัวไปโรงพยาบาลนะ...พ่อกับแม่หาคนบริจาคใบหูที่ลูกต้องการได้แล้ว แต่เรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับนะ" พ่อกำชับ...เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง นัยน์ตาวาวโรจน์ กอดผู้เป็นพ่อแน่น


วันหนึ่งชายหนุ่มผู้ซึ่งบัดนี้ได้เปลี่ยนบทบาทเป็นพ่อ ได้ถามผู้เป็นพ่อ เมื่อพาภรรยาและลูกมาเยี่ยมปู่กับย่าในวันหยุดปลายสัปดาห์

" พ่อครับ...บอกผมได้มั้ย คนที่ให้ใบหูผมเขาเป็นใคร...ทำไมเขาถึงให้ผมได้มากมายขนาดนี้ แต่ทำไมผมถึงไม่มีโอกาสที่จะทำอะไรเพื่อเขาได้เลยแม้ซักนิด"

"อืม ม์...พ่อดีใจที่ลูกสำนึกในพระคุณนั้น... แต่ลูกคงจะตอบแทนเขาได้ไม่หมดหรอก...เรื่องนี้เป็นความลับ...พ่อบอกไม่ได้ อย่าลืมสิ...เราตกลงกันแล้ว" พ่อกำชับ


* * * * *

หลายปีผ่านไป
เรื่องราวเหล่านี้ ยังคงเป็นความลับที่ตกเป็นตะกอนในใจของชายหนุ่ม

แต่แล้ว...วันที่มืดมิดที่สุดก็ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขา...

ชายหนุ่มยืนเคียงข้างพ่อใกล้หีบศพของแม่ ก่อนนำไปฝังยังสุสาน

ผู้เป็นพ่อมองใบหน้าซีดๆ ของสตรีที่เคยร่วมชีวิต และรักผูกพันกันมา ตราบลมหายใจสุดท้าย...

พ่อค่อยๆ ลูบผมแม่อย่างช้าๆ และนุ่มนวล ผมสีดำขลับถูกเสยขึ้นช้าๆ จนมองเห็น...
แม่ไม่มีใบหู...ใบหูทั้งสองข้างของแม่ถูกตัดไป!!!!!!!


ชายหนุ่มตาเบิกโพลงกับภาพที่พบ...น้ำตาไหลพราก
พ่อกระซิบกับลูกชาย

"แม่บอกพ่อว่า แม่ดีใจที่ได้ทำอย่างนี้...นับแต่วันนั้น แม่ไม่เคยตัดผมสั้นอีกเลย และไม่มีใครมองว่าแม่ไม่สวย...จริงมั้ย"

. . . . . . . . . .

"ลูกเอ๋ย...จงจำไว้...สิ่งที่มีค่านั้น แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การมองเห็น แต่อยู่ที่สิ่งที่เรามองไม่เห็น...เหมือนเช่นความรักที่แท้จริง...ไม่ได้อยู่ที่เรากระทำ แล้วต้องมีคนรับรู้ในความรักที่เรามอบให้...
...และบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องกล่าวคำใดๆ"



หมาย เหตุ2:...เป็นเรื่องเล่าเหตุการณ์จริงสั้นๆ ที่ได้รับจากฟอร์เวิร์ดเมลเมื่อราว 4-5 ปี ก่อน โดยไม่ทราบที่มาของต้นเรื่อง และไม่ทราบผู้แปล ผู้เขียนได้นำมาเรียบเรียงให้สละสลวย พร้อมเพิ่มฉาก บรรยากาศ และลงรายละเอียดการบรรยาย ในการนำเสนอใหม่.../ทิวสน ชลนรา