chocobo
02-24-2010, 01:07 PM
กราบนมัสการพระคุณเจ้า กราบสวัสดีมิตรธรรม
คือว่ามีอาการนี้มาก็หลายเดือนแล้ว ยังทำให้เบาบางไม่ได้ จนอาการหนักขึ้นจนจิตอยู่ไม่สงบเลย คือว่ามักจะมีจิตคิดเป็นทุกข์ไปก่อนเหตุ ทุกข์ในทุกข์ที่จะต้องพบในอนาคต ที่หนักๆก็เห็นจะเป็นเรื่องพ่อแม่ หรือ ญาติๆผู้มีอุปการคุณ
มักจะมีจิตคิดว่า เมื่อวันใดที่ถึงเวลาจากไปของพวกท่านเหล่านั้นมาถึง เราจะเป็นอย่างไร พอนึกแล้วก็เห็นว่าตัวเราก็ยังไม่ได้ละกิเลสให้สิ้น ก็คงต้องทุกข์หนักหนาเป็นแน่ พอนึกไปอย่างนั้น ก็ชวนให้ทุกข์ขึ้นมาจริงๆ กลายเป็นทุกข์ก่อนจะเกิดเหตุให้ทุกข์ไป
พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ความคิดนี้ก้ผุดมาบ่อยขึ้นกว่าเดิม จนถึงขั้นที่ว่าพอได้มีเวลาอยู่กับพ่อแม่ปุ๊ป ก็เกิดอาการให้รู้สึกว่า ความสุขแบบนี้ก็จะหายไปในอีกไม่ช้าไม่เร็วนี้แล้ว ก็ทุกข์ขึ้นมาอีก กลายเป็นว่าได้มีเวลาอยู่ร่วมกันแทนที่จะมีความสุข กลับกลายเป็นมีความทุกข์เพราะจิตมัวแต่ห่วงเวลานั้นที่จะมาถึง พอจะอยู่กับปัจจุบันก็อยู่ได้ไม่นาน พะวงไปถึงอนาคตตลอด
พอหนักเข้าๆ ก็เริ่มเกิดอาการที่ว่าอยากจะทนแทนคุณท่านทั้งสองให้มากๆ ก่อนที่เวลานั้นจะมาถึง ก็เลยเกิดความที่ว่าพอได้มีโอกาสช่วยงานอะไรท่านเล็กๆน้อยๆ ก็แทนที่จะรู้สึกยินดี เกิดมุทิตาที่ได้ช่วยพ่อแม่ทำงานแล้วเห็นท่านเป็นสุข ไม่ลำบาก กลับกลายเป็นความรู้สึกที่ว่า เราจะมีโอกาสได้ช่วยท่านอย่างนี้อีกนานเท่าไหร่กัน ก็พาให้ทุกข์ไปอีก
ยังมีอาการที่ว่าพอได้ช่วย ก็เกิดอาการว่าหวงบุญ ยึดบุญ อาการนี้ช่วงนี้เกิดบ่อย ไม่ว่าจะทำบุญอะไรเล็กๆน้อย ก็เกิดอาการหวงบุญ บางทีก็รู้สึกเหมือนว่าก่อนทำไม่ได้หวังให้เกิดประโยชน์ต่อผู้รับอย่างแท้จริง แต่เป็นการทำเพื่อสนองกิเลสที่อยากได้บุญมากกว่า จนบางทีทำบุญเสร็จแล้วกลับไม่รู้สึกสบายใจ รู้สึกอึดอัด กลัวว่าบุญนี้จะส่งผลอย่างนี้ที่เราหวังมั้ย จะส่งผลให้เราถึงนิพพานไหม ก็ไปยึดนิพพานอีก เวลาสวดมนต์ก่อนนอนก็มีการขอให้ไปถึงนิพพาน แต่ก่อนสวดไม่ได้ขออะไรเลย มีแค่แผ่เมตตาเท่านั้น เดี๋ยวนี้ต้องขอให้ถึงนิพพาน เสร็จเราก็มาลองนึกดู ก็เห็นว่าจิตนี้ก็ยึดนิพพานอีกเหมือนกัน ไม่ได้มีนิพพานเป็นอารมณ์เลย มีแต่ยึดเอาไว้เพราะอยากนิพพาน
จากที่เล่ามาก็ ควรจะทำอย่างไรดี ให้อาการเหล่านี้เบาบางลง ให้จิตนี้หลุดจากความคิดพวกนี้ จะได้เบาๆสักที เพราะพยายามให้มันหายไปแต่ก็ทำไม่ได้ มีแต่จะยึดมากขึ้นๆ ทุกข์มากขึ้นๆ กลายเป็นของยึดมีมากกว่าเดิมเป็นหลายเท่าตัว
ขอมิตรธรรมชี้แนะด้วย
สาธุ
คือว่ามีอาการนี้มาก็หลายเดือนแล้ว ยังทำให้เบาบางไม่ได้ จนอาการหนักขึ้นจนจิตอยู่ไม่สงบเลย คือว่ามักจะมีจิตคิดเป็นทุกข์ไปก่อนเหตุ ทุกข์ในทุกข์ที่จะต้องพบในอนาคต ที่หนักๆก็เห็นจะเป็นเรื่องพ่อแม่ หรือ ญาติๆผู้มีอุปการคุณ
มักจะมีจิตคิดว่า เมื่อวันใดที่ถึงเวลาจากไปของพวกท่านเหล่านั้นมาถึง เราจะเป็นอย่างไร พอนึกแล้วก็เห็นว่าตัวเราก็ยังไม่ได้ละกิเลสให้สิ้น ก็คงต้องทุกข์หนักหนาเป็นแน่ พอนึกไปอย่างนั้น ก็ชวนให้ทุกข์ขึ้นมาจริงๆ กลายเป็นทุกข์ก่อนจะเกิดเหตุให้ทุกข์ไป
พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ความคิดนี้ก้ผุดมาบ่อยขึ้นกว่าเดิม จนถึงขั้นที่ว่าพอได้มีเวลาอยู่กับพ่อแม่ปุ๊ป ก็เกิดอาการให้รู้สึกว่า ความสุขแบบนี้ก็จะหายไปในอีกไม่ช้าไม่เร็วนี้แล้ว ก็ทุกข์ขึ้นมาอีก กลายเป็นว่าได้มีเวลาอยู่ร่วมกันแทนที่จะมีความสุข กลับกลายเป็นมีความทุกข์เพราะจิตมัวแต่ห่วงเวลานั้นที่จะมาถึง พอจะอยู่กับปัจจุบันก็อยู่ได้ไม่นาน พะวงไปถึงอนาคตตลอด
พอหนักเข้าๆ ก็เริ่มเกิดอาการที่ว่าอยากจะทนแทนคุณท่านทั้งสองให้มากๆ ก่อนที่เวลานั้นจะมาถึง ก็เลยเกิดความที่ว่าพอได้มีโอกาสช่วยงานอะไรท่านเล็กๆน้อยๆ ก็แทนที่จะรู้สึกยินดี เกิดมุทิตาที่ได้ช่วยพ่อแม่ทำงานแล้วเห็นท่านเป็นสุข ไม่ลำบาก กลับกลายเป็นความรู้สึกที่ว่า เราจะมีโอกาสได้ช่วยท่านอย่างนี้อีกนานเท่าไหร่กัน ก็พาให้ทุกข์ไปอีก
ยังมีอาการที่ว่าพอได้ช่วย ก็เกิดอาการว่าหวงบุญ ยึดบุญ อาการนี้ช่วงนี้เกิดบ่อย ไม่ว่าจะทำบุญอะไรเล็กๆน้อย ก็เกิดอาการหวงบุญ บางทีก็รู้สึกเหมือนว่าก่อนทำไม่ได้หวังให้เกิดประโยชน์ต่อผู้รับอย่างแท้จริง แต่เป็นการทำเพื่อสนองกิเลสที่อยากได้บุญมากกว่า จนบางทีทำบุญเสร็จแล้วกลับไม่รู้สึกสบายใจ รู้สึกอึดอัด กลัวว่าบุญนี้จะส่งผลอย่างนี้ที่เราหวังมั้ย จะส่งผลให้เราถึงนิพพานไหม ก็ไปยึดนิพพานอีก เวลาสวดมนต์ก่อนนอนก็มีการขอให้ไปถึงนิพพาน แต่ก่อนสวดไม่ได้ขออะไรเลย มีแค่แผ่เมตตาเท่านั้น เดี๋ยวนี้ต้องขอให้ถึงนิพพาน เสร็จเราก็มาลองนึกดู ก็เห็นว่าจิตนี้ก็ยึดนิพพานอีกเหมือนกัน ไม่ได้มีนิพพานเป็นอารมณ์เลย มีแต่ยึดเอาไว้เพราะอยากนิพพาน
จากที่เล่ามาก็ ควรจะทำอย่างไรดี ให้อาการเหล่านี้เบาบางลง ให้จิตนี้หลุดจากความคิดพวกนี้ จะได้เบาๆสักที เพราะพยายามให้มันหายไปแต่ก็ทำไม่ได้ มีแต่จะยึดมากขึ้นๆ ทุกข์มากขึ้นๆ กลายเป็นของยึดมีมากกว่าเดิมเป็นหลายเท่าตัว
ขอมิตรธรรมชี้แนะด้วย
สาธุ