PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : เมื่อจิตเกิดกิเลสบาปหรือไม่/มโนกรรม



krittapas
05-21-2010, 02:36 PM
เมื่อจิตเกิดกิเลสบาปหรือไม่

เช่นเมื่อเราดูทีวี ฟังเพลง หรือ เพลิดเพลินกับอะไรก็ตาม จิตเราเกิดกิเลส ความลุ่มหลง ณ ตอนนี้เรากำลังทำบาปอยู่หรือไม่

เราร้องเพลง ที่เราชอบ เพื่อคลายเครียด อย่างนี้ถือเป็นกิเลส ก่อให้เกิดบาปหรือไม่

ถ้าเราทำงานต่างๆด้วยความชอบ เช่นนี้ถือว่าเป็น บาป หรือไม่

เมื่อจิตเกิดกิเลส =เกิดบาปทันทีหรือไม่

------------------------------------------------------------------------

เมื่อจิตเราคิดไม่ดีกับผู้อื่น แต่ไม่ได้กระทำ ก็ถือว่าเป็นบาปใช่หรือไม่

เรามีความคิดที่ไม่ดีแต่เราไม่ได้กระทำ ถือว่าเป็นมโนกรรม บาปมากใช่หรือไม่

------------------------------------------------------------------------

การกลือนน้ำลาย เป็นการฆ่า สิ่งมีชวิต ในกระเพาะอาหารของเรา อย่างนี้ถือว่าบาปหรือไม่

อันนี้ผมไปเจอกระทู้ธรรมะมีคนถามครับ เลยสงสัยเช่นกัน

------------------------------------------------------------------------

การที่เรากินเนื้อสัตว์ นี้ก็ถือว่าบาปหรือไม่ หรือถ้าเรากินเพื่อความอยู่รอด ไม่ได้กินเพราะกิเลส ก็ถือว่าไม่บาป

---------------------------------------------------------------------

ถ้าเราปฎิบัติตัวอยู่ในศิล5 เราก็ยังมีโอกาสจะสร้างบาปได้ เพราะยังมีศิลนอกจาก5ข้อนี้ถูกต้องไหมครับ


ขอบคุณ พี่ๆทุกคนครับ

D E V
05-21-2010, 04:37 PM
ผู้ที่ยังเป็นปุถุชน ย่อมยังมีกิเลสอยู่ครบ
ยังไม่ได้ดับกิเลสอะไรเลยน่ะคับ
แต่กระนั้นก็ยังเกิดกุศลจิตได้
และมีการกระทำบุญกุศลได้อ่ะคับ

ขณะที่ดูหนัง ฟังเพลง ร้องเพลง
สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับสิ่งบันเทิงเริงใจต่างๆ
ขณะนั้นเป็น อกุศลจิต...เป็นโลภมูลจิตที่เกิดขึ้นสั่งสม
แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นอกุศลกรรม
คือยังไม่ได้มีการนึกคิด พูด หรือกระทำ
อันเป็นบาปที่ล่วงอกุศลกรรมบถน่ะคับ

*******************************************************

ขณะที่จิตคิดไม่ดีกับผู้อื่น
เช่น นึกโกรธ ไม่พอใจ ขัดเคืองใจ ในผู้อื่น
ขณะนั้นก็เป็นอกุศลจิต...เป็นโทสมูลจิตที่เกิดขึ้นสั่งสม
แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นเป็นอกุศลกรรมบถ
เป็นแต่การรู้สึกนึกคิดด้วยจิตที่ไม่ดีงาม

แต่ถ้าขณะนั้นเลยไปถึงนึกคิดสาบแช่งผู้อื่น
มีความอาฆาตพยายาท คิดมุ่งร้ายต่อผู้อื่น
โทสมูลจิตนั้นก็มีกำลังขึ้น ถึงขั้นเป็นอกุศลกรรม
เป็นบาปอันล่วงอกุศลกรรมบถทางใจ (มโนกรรม)

******************************************************

หากเข้าใจว่าการกลืนน้ำลายเป็นบาป
ก็ลองเปรียบเทียบดูกับกระทู้ตามลิงค์ที่ให้นี้นะคับ
http://www.watkoh.com/board/index.php?topic=3254.0

*******************************************************

การกินเนื้อสัตว์ไม่ใช่บาปคับ
ดูรายละเอียดทั้งหมดที่อธิบายไว้ในกระทู้ตามลิงค์ที่ให้นี้นะคับ
http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=1899&KW=%E4%B6%E8%AA%D5%C7%D4%B5

********************************************************

ศีล 5 เป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันโดยไม่เบียดเบียนทำร้ายกัน
แต่ความละเอียดและกำลังของอกุศลกรรมก็วิจิตรต่างๆ มากมาย
ดังนั้น ผู้ที่มุ่งเจริญกุศล ขัดเกลาจิตใจให้ละเอียดยิ่งขึ้น
ก็ไม่ประมาทแม้ในอกุศลกรรมเล็กน้อย
จึงเจริญกุศลธรรมทั้งหลายยิ่งขึ้น
ลด ละ เลิก อกุศลกรรมนานาประการไม่ว่ามากหรือน้อยยิ่งขึ้น

อย่างเช่น ศีล 5 ในข้อ 4 มุสาวาท ครอบคลุมที่การไม่กล่าวคำเท็จ
แต่ผู้ที่ขัดเกลาละเอียดยิ่งขึ้น
ก็จะเว้น การด่าทอหยาบคาย การพูดจาส่อเสียด
การพูดที่ไม่ยังให้เกิดประโยชน์ อีกด้วย
ซึ่งเป็นวจีทุจริตที่เพิ่มเติมละเอียดขึ้นนอกจากศีลข้อ 4 มุสาวาท เป็นต้น
โดยแสดงไว้ในอกุศลกรรมบถ 10 (วจีกรรม) น่ะคับ

ประการสำคัญอีกอย่างก็คือ
สำหรับปุถุชนแล้ว ยากนักที่จะได้ชื่อว่า ศีลบริสุทธิ์อ่ะคับ
ผู้ที่ชื่อว่าศีลบริสุทธิ์ ปิดประตูอบาย คือ พระโสดาบันขึ้นไปคับ

กระนั้น...แม้พระโสดาบันไม่ล่วงศีล 5 เลย (ปิดประตูอบาย)
แต่ก็ยังมีโอกาสล่วงอกุศลกรรมบถบางอย่างได้อยู่
แต่ก็มีกำลังอ่อนกว่าปุถุชน
ไม่มีกำลังพอที่อกุศลวิบากจะให้ผลในปฏิสนธิกาล (นำเกิดในอบาย)
แต่ให้ผลในปวัตติกาล

พระโสดาบันท่านดับกิเลสได้บางส่วน
แต่ยังเหลือกิเลสบางส่วนที่ยังไม่ได้ดับน่ะคับ
(แต่กิเลสที่เหลือยังไม่ได้ดับก็มีกำลังอ่อนกว่าปุถุชน)




8) เดฟ