*8q*
05-26-2010, 09:26 PM
ที่ควรจะเริ่มเป็นอันดับแรกก็คือ...การคิดดี
ซึ่งทำได้ไม่ยากเลย ถ้าตั้งใจว่าจะลองทำดู
และจะพยายามทำให้ความฝันกลายเป็นความจริง
1. เริ่มจากคิดดีแก่ตนเองก่อน
ให้เวลาแก่ตนเองบ้าง
ปลีกเวลาออกจากสังคมที่ป่วยบ้างเป็นครั้งคราว
โดยเฉพาะในช่วงที่เป็นวันหยุด
ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดต่อเนื่อง
ทำงานให้น้อยลงบ้าง หัดปฏิเสธงานบางอย่างบ้าง
อย่าคิดว่ามีแต่ตนเองเท่านั้นที่จะทำได้
คนอื่นเขาก็อาจจะทำได้ ถ้าเปิดโอกาสให้เขาทำ
เมื่อคุณเริ่มมีเวลาแล้วก็จะมีเวลาเพิ่มขึ้นในการจะคิดดี...
เช่น คิดดูแลตนเอง รักษาสุขภาพให้ดี ร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์
จิตใจที่แจ่มใสเบิกบาน ย่อมจะทำให้อารมณ์ดี และชีวีเป็นสุข
2. มองคนรอบข้างในแง่ดี
การมองคนรอบข้างในทางที่ดีนั้น
จะทำให้บรรยากาศที่อยู่นั้นผ่อนคลายหายเครียด
เป็นสุข ไว้ใจกัน และเข้าใจกัน
อย่าลืมว่าคนเราส่วนใหญ่
ไม่ได้อยากจะเกิดมาเป็นคนร้ายเสมอไป
ยิ่งคนใกล้ตัวของคุณแล้ว ถ้าเขาหรือเธอไม่ดี
คุณจะรับรักและมาใช้ชีวิตเป็นคู่ครองหรือ
แล้วทำไมเมื่ออยู่ด้วยกันนานไปๆ
จึงมองเห็นแต่สิ่งไม่ดีงามของกันและกัน
ตอบตัวเองได้ไหม ว่าทำไมต้องเป็นอย่างนั้น ??
ถ้าพลันคิดได้เมื่อไร ครอบครัวจะเป็นสุขขึ้นมาทันทีเลย
เคยไปถามลุงป้าคู่หนึ่ง ซึ่งชอบท่องเที่ยวทัศนาจรเหมือนผมว่า
ทำไมแก่เฒ่าป่านนี้แล้ว ก็ยังรักกันอยู่หวานแว๋ว
จนหนุ่มสาวทั้งหลายที่ได้เห็น เกิดการอิจฉาริษยา
ท่านตอบว่า เพราะเราสองคนเป็นคนขี้ลืม
จำไม่เคยได้เลยว่า อีกคนทำอะไรไม่ถูกใจ
จำได้เฉพาะว่าอีกคนทำอะไรที่ถูกใจบ้าง
เมื่อเราจำได้เฉพาะความดีงามของคู่ครองแล้ว
ใจของเราก็จะเป็นสุข หน้าตาของเราก็จะแจ่มใส
และอายุก็จะยืนยาว
วันนี้คุณเริ่มต้นด้วยการคิดถึงคนรักคู่ครองของคุณ
ในทางดีสักหนึ่งอย่าง
และเพิ่มความดีนั้นไปเพียงวันละอย่าง
ตัดความคิดที่ไม่ดีออกไปวันละอย่าง
ไม่นานคุณก็จะมีคนรักคู่ครองที่คิดดีและทำดี
3. ไม่เป็นคนขี้ระแวง
...ต้องตัดความคิดเรื่องระแวงแคลงใจออกจากตัวเอง
ให้เร็วที่สุด มากที่สุด
สิ่งแรกที่คุณควรจะทำก็คือ การเลิกรับข่าวสาร
ที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อคุณออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เลิกอ่านหนังสือพิมพ์ที่เขียนข่าวแต่ในทางร้าย
เลิกฟังวิทยุหรือชมรายการโทรทัศน์ที่ไม่ประเทืองปัญญา
แล้วยังยุแยงตะแคงรั่วให้เกิดความไม่สมานสามัคคีในสังคม...
แล้วความเป็นคนขี้ระแววของคุณจะลดลง โดยคุณไม่รู้ตัว
4. พาตัวให้ห่างคนที่คิดในแง่ร้าย
มีคำกล่าวมาตั้งแต่โบราณแล้วว่า
คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล
พยายามหลีกตัวหนีห่างจากการคบหาสมาคม
กับคนที่มองโลกในแง่ร้าย คนที่ขี้อิจฉาริษยา คนขี้ระแวง
พวกเหล่านี้เป็นกาลกิณีของชีวิต
และจะนำพาชีวิตของคุณให้ต่ำลง
จนจมไปในวังวนของการมองโลกในแง่ร้าย
จริงอยู่ เราไม่สามารถที่จะเลือกคบกับใครได้ตามใจของเรา
แต่เราสามารถที่จะเลือกคบกับใครให้สนิทใจได้
บางคนเราอาจจะคบเพียงผิวเผิน
บางคนเราก็ควรจะคบให้ลึกซึ้ง
และคนที่ควรจะคบให้ลึกซึ้ง ก็คือคนที่มองโลกในแง่ดี
และคิดทุกอย่างในทางสร้างสรรค์ ไม่เห็นแก่ตัว
และคิดดีต่อคนรอบข้าง
5. เอาใจเขามาใส่ใจเรา
เมื่อมีคู่ครองและมีชีวิตคู่แล้ว
เคล็ดลับในการครองคู่ที่สำคัญที่สุดก็คือ
การเอาใจเขามาใส่ใจเรา
อย่าเอาแต่ความคิดของตนเป็นใหญ่
พยายามคิดในทางที่ดีถึงการกระทำของคู่รักคู่ครองว่า
หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันในความผิดพลาด
หรือไม่ได้ตั้งใจ
อย่าพยายามทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
แต่ต้องพยายามทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก
อย่าเกี่ยงกันว่า ให้อีกคนทำตามใจเราก่อน
แต่พยายามทำอะไรให้คนใกล้ตัวเกิดความประทับใจ
คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะเกิดประโยชน์อะไรบ้างแก่กันและกัน
ไม่คิดถึงอารมณ์ของตนเองเป็นใหญ่
แต่พยายามควบคุมอารมณ์ให้แจ่มใส มองในทางที่สร้างสรรค์
6. คิดก่อนพูด
หลายต่อหลายคนที่ชีวิตคู่ต้องอับปางลง
ส่วนหนึ่งเกิดจากพูดก่อนที่จะคิด พูดด้วยอารมณ์
พูดด้วยความมันสะใจ
พูดเพราะอยากให้อีกคนได้รับรู้ถึงความโกรธแค้น
อาฆาตพยาบาท พูดส่อเสียด พูดจากประชดประชัน ฯลฯ
เหล่านั้นเรียกว่า ปากเป็นกาลกิณี ขอให้เลิกประเภท...
ปากพาไปให้เร็วที่สุด แล้วให้คิดก่อนพูด
จำไว้เสมอๆ ว่า การจะมีความรักให้ต่อกันอย่างยั่งยืนยาวนาน
ไม่จำเป็นจะต้องพูดทุกอย่างที่รู้
(ซึ่งอาจจะไม่เป็นความจริงทุกเรื่องเสมอไป)
แต่จะต้องรู้ทุกเรื่องที่จะพูดออกไปว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ฟังหรือตัวเองหรือไม่
7. อย่าใช้อารมณ์คิด
ต้องใช้ความคิดในทางที่เป็นเหตุและผล
โดยเฉพาะต้องมองเหตุการณ์ทุกอย่างในชีวิตว่า
เป็นเพราะเหตุใด
จึงเกิดผลของการกระทำนั้น และถ้าปรับเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างแล้ว
ต้นเหตุที่ไม่ดีงามอาจจะหายไป
และผลดีต่างๆ ก็น่าจะตามมาแทนที่
เวลาที่กำลังมีอารมณ์ไม่ดี อารมณ์ขุ่นมัว อย่าใช้ความคิด
ให้หาทางไปพักผ่อนให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย
ไม่ว่าจะไปเล่นกีฬา พักผ่อน ฟังเพลงสบายๆ
หาบรรยากาศดีๆ สงบๆ ให้เกิดความผ่อนคลาย ก็ได้ทั้งสิ้น
การใช้ความคิด ในขณะที่จิตใจสงบ ในบรรยากาศดีๆ นั้น
ความคิดที่ออกมาจะเป็นไปในทางที่ดีเสมอไป
เห็นไหมว่า แค่คิดแต่เรื่องดี...ชีวีก็จะเป็นสุขแล้ว
rachata วาโย
ซึ่งทำได้ไม่ยากเลย ถ้าตั้งใจว่าจะลองทำดู
และจะพยายามทำให้ความฝันกลายเป็นความจริง
1. เริ่มจากคิดดีแก่ตนเองก่อน
ให้เวลาแก่ตนเองบ้าง
ปลีกเวลาออกจากสังคมที่ป่วยบ้างเป็นครั้งคราว
โดยเฉพาะในช่วงที่เป็นวันหยุด
ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดต่อเนื่อง
ทำงานให้น้อยลงบ้าง หัดปฏิเสธงานบางอย่างบ้าง
อย่าคิดว่ามีแต่ตนเองเท่านั้นที่จะทำได้
คนอื่นเขาก็อาจจะทำได้ ถ้าเปิดโอกาสให้เขาทำ
เมื่อคุณเริ่มมีเวลาแล้วก็จะมีเวลาเพิ่มขึ้นในการจะคิดดี...
เช่น คิดดูแลตนเอง รักษาสุขภาพให้ดี ร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์
จิตใจที่แจ่มใสเบิกบาน ย่อมจะทำให้อารมณ์ดี และชีวีเป็นสุข
2. มองคนรอบข้างในแง่ดี
การมองคนรอบข้างในทางที่ดีนั้น
จะทำให้บรรยากาศที่อยู่นั้นผ่อนคลายหายเครียด
เป็นสุข ไว้ใจกัน และเข้าใจกัน
อย่าลืมว่าคนเราส่วนใหญ่
ไม่ได้อยากจะเกิดมาเป็นคนร้ายเสมอไป
ยิ่งคนใกล้ตัวของคุณแล้ว ถ้าเขาหรือเธอไม่ดี
คุณจะรับรักและมาใช้ชีวิตเป็นคู่ครองหรือ
แล้วทำไมเมื่ออยู่ด้วยกันนานไปๆ
จึงมองเห็นแต่สิ่งไม่ดีงามของกันและกัน
ตอบตัวเองได้ไหม ว่าทำไมต้องเป็นอย่างนั้น ??
ถ้าพลันคิดได้เมื่อไร ครอบครัวจะเป็นสุขขึ้นมาทันทีเลย
เคยไปถามลุงป้าคู่หนึ่ง ซึ่งชอบท่องเที่ยวทัศนาจรเหมือนผมว่า
ทำไมแก่เฒ่าป่านนี้แล้ว ก็ยังรักกันอยู่หวานแว๋ว
จนหนุ่มสาวทั้งหลายที่ได้เห็น เกิดการอิจฉาริษยา
ท่านตอบว่า เพราะเราสองคนเป็นคนขี้ลืม
จำไม่เคยได้เลยว่า อีกคนทำอะไรไม่ถูกใจ
จำได้เฉพาะว่าอีกคนทำอะไรที่ถูกใจบ้าง
เมื่อเราจำได้เฉพาะความดีงามของคู่ครองแล้ว
ใจของเราก็จะเป็นสุข หน้าตาของเราก็จะแจ่มใส
และอายุก็จะยืนยาว
วันนี้คุณเริ่มต้นด้วยการคิดถึงคนรักคู่ครองของคุณ
ในทางดีสักหนึ่งอย่าง
และเพิ่มความดีนั้นไปเพียงวันละอย่าง
ตัดความคิดที่ไม่ดีออกไปวันละอย่าง
ไม่นานคุณก็จะมีคนรักคู่ครองที่คิดดีและทำดี
3. ไม่เป็นคนขี้ระแวง
...ต้องตัดความคิดเรื่องระแวงแคลงใจออกจากตัวเอง
ให้เร็วที่สุด มากที่สุด
สิ่งแรกที่คุณควรจะทำก็คือ การเลิกรับข่าวสาร
ที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อคุณออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เลิกอ่านหนังสือพิมพ์ที่เขียนข่าวแต่ในทางร้าย
เลิกฟังวิทยุหรือชมรายการโทรทัศน์ที่ไม่ประเทืองปัญญา
แล้วยังยุแยงตะแคงรั่วให้เกิดความไม่สมานสามัคคีในสังคม...
แล้วความเป็นคนขี้ระแววของคุณจะลดลง โดยคุณไม่รู้ตัว
4. พาตัวให้ห่างคนที่คิดในแง่ร้าย
มีคำกล่าวมาตั้งแต่โบราณแล้วว่า
คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล
พยายามหลีกตัวหนีห่างจากการคบหาสมาคม
กับคนที่มองโลกในแง่ร้าย คนที่ขี้อิจฉาริษยา คนขี้ระแวง
พวกเหล่านี้เป็นกาลกิณีของชีวิต
และจะนำพาชีวิตของคุณให้ต่ำลง
จนจมไปในวังวนของการมองโลกในแง่ร้าย
จริงอยู่ เราไม่สามารถที่จะเลือกคบกับใครได้ตามใจของเรา
แต่เราสามารถที่จะเลือกคบกับใครให้สนิทใจได้
บางคนเราอาจจะคบเพียงผิวเผิน
บางคนเราก็ควรจะคบให้ลึกซึ้ง
และคนที่ควรจะคบให้ลึกซึ้ง ก็คือคนที่มองโลกในแง่ดี
และคิดทุกอย่างในทางสร้างสรรค์ ไม่เห็นแก่ตัว
และคิดดีต่อคนรอบข้าง
5. เอาใจเขามาใส่ใจเรา
เมื่อมีคู่ครองและมีชีวิตคู่แล้ว
เคล็ดลับในการครองคู่ที่สำคัญที่สุดก็คือ
การเอาใจเขามาใส่ใจเรา
อย่าเอาแต่ความคิดของตนเป็นใหญ่
พยายามคิดในทางที่ดีถึงการกระทำของคู่รักคู่ครองว่า
หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันในความผิดพลาด
หรือไม่ได้ตั้งใจ
อย่าพยายามทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
แต่ต้องพยายามทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก
อย่าเกี่ยงกันว่า ให้อีกคนทำตามใจเราก่อน
แต่พยายามทำอะไรให้คนใกล้ตัวเกิดความประทับใจ
คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะเกิดประโยชน์อะไรบ้างแก่กันและกัน
ไม่คิดถึงอารมณ์ของตนเองเป็นใหญ่
แต่พยายามควบคุมอารมณ์ให้แจ่มใส มองในทางที่สร้างสรรค์
6. คิดก่อนพูด
หลายต่อหลายคนที่ชีวิตคู่ต้องอับปางลง
ส่วนหนึ่งเกิดจากพูดก่อนที่จะคิด พูดด้วยอารมณ์
พูดด้วยความมันสะใจ
พูดเพราะอยากให้อีกคนได้รับรู้ถึงความโกรธแค้น
อาฆาตพยาบาท พูดส่อเสียด พูดจากประชดประชัน ฯลฯ
เหล่านั้นเรียกว่า ปากเป็นกาลกิณี ขอให้เลิกประเภท...
ปากพาไปให้เร็วที่สุด แล้วให้คิดก่อนพูด
จำไว้เสมอๆ ว่า การจะมีความรักให้ต่อกันอย่างยั่งยืนยาวนาน
ไม่จำเป็นจะต้องพูดทุกอย่างที่รู้
(ซึ่งอาจจะไม่เป็นความจริงทุกเรื่องเสมอไป)
แต่จะต้องรู้ทุกเรื่องที่จะพูดออกไปว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ฟังหรือตัวเองหรือไม่
7. อย่าใช้อารมณ์คิด
ต้องใช้ความคิดในทางที่เป็นเหตุและผล
โดยเฉพาะต้องมองเหตุการณ์ทุกอย่างในชีวิตว่า
เป็นเพราะเหตุใด
จึงเกิดผลของการกระทำนั้น และถ้าปรับเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างแล้ว
ต้นเหตุที่ไม่ดีงามอาจจะหายไป
และผลดีต่างๆ ก็น่าจะตามมาแทนที่
เวลาที่กำลังมีอารมณ์ไม่ดี อารมณ์ขุ่นมัว อย่าใช้ความคิด
ให้หาทางไปพักผ่อนให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย
ไม่ว่าจะไปเล่นกีฬา พักผ่อน ฟังเพลงสบายๆ
หาบรรยากาศดีๆ สงบๆ ให้เกิดความผ่อนคลาย ก็ได้ทั้งสิ้น
การใช้ความคิด ในขณะที่จิตใจสงบ ในบรรยากาศดีๆ นั้น
ความคิดที่ออกมาจะเป็นไปในทางที่ดีเสมอไป
เห็นไหมว่า แค่คิดแต่เรื่องดี...ชีวีก็จะเป็นสุขแล้ว
rachata วาโย