PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : งดแป้งแล้วไม่อ้วน?..จิงดิ?



wrice11
08-08-2011, 01:51 PM
. (http://snorkel.BEST-RICES.INFO). (http://blower.GREATRICE.INFO). (http://poncho.BEST-RICETODAY.INFO). (http://firewire.MYBEST-RICE.INFO). (http://fleece.THEBEST-RICE.INFO)
ความเชื่อหนึ่งที่ฮิตกันมากเวลาเราจะลดความอ้วน นั้นหมายความว่า การงดรับประทานแป้ง พร้อมกับน้ำตาล หรือไม่ก็ ลดสัดส่วนในการรับประทานลงมาก ๆ แต่รู้หรือไม่ไม่สาเหตุนั้นเป็นเพราะอะไร

เพราะอาหารจำพวกแป้ง พร้อมกับน้ำตาลนั้น เมื่อเราทานเข้าไป ร่างกายจะย่อยสลายกลายเป็นกลูโคส โดยมีอินซูลิน หรือว่าตัวควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดที่ถูกผลิตขึ้นโดยตับอ่อน เป็นตัวดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด เพื่อนำไปสร้างเป็นพลังงานให้กับร่างกาย

เมื่อร่างกายมีปริมาณน้ำตาลมากกว่าปกติ มากจนอินซูลินไม่สามารถดูดซึมได้อีกต่อไป อินซูลินก็จะไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเอนไซม์ชนิดหนึ่งขึ้นมา แปรสภาพกลูโคสให้เป็นไกลโคเจนเข้าไปเก็บสะสมที่ตับ และกล้ามเนื้อ
แต่ถ้าหากยังเก็บได้ไม่หมดอีก ทีนี้กลูโคสจะถูกแปรสภาพกลายเป็นไขมันเก็บสะสมไว้ในร่างกายเราแทน

เห็นแล้วใช่ไหม.. ว่าทำไมความที่เป็นโรคอ้วน นอกจากไขมันจะพอกพูนจากอาหารที่มีไขมันสูงแล้ว ยังสามารถเกิดได้จากการรับประทานอาหารรสหวานเป็นประจำ กับคนที่อ้วนก็มักจะเป็นโรคเบาหวานเป็นของแถมตามมาด้วย

เพราะฉะนั้นหนทางสำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วนไม่ก็ลดน้ำหนัก หมายความว่าต้องทานอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล แต่ไขมันให้น้อยลง แต่ขณะเดียวกัน ก็มีทางเลือกเสริมเพื่อให้การทานแป้ง พร้อมกับน้ำตาล มีประโยชน์ต่อร่างกายเรามากขึ้น ที่มีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน นั่นหมายความว่า

1. การเลือกกินแป้ง และน้ำตาลที่มีดัชนีไกลซีมิกต่ำ

ดัชนีไกลซีมิก (Glycemic Index) จะเป็นตัววัดว่า อาหารพวกแป้ง พร้อมกับน้ำตาลนี้จะมีผลต่อระดับของกลูโคสในเลือดอย่างไร หากมีค่าไกลซีมิกสูงเท่าไร ระดับกลูโคสในเลือดก็เพิ่มขึ้นเร็วเท่านั้น

โดยปกติ กลูโคสจะถือว่ามีค่าไกลซีมิกอยู่ที่ 100 ส่วนแป้ง และน้ำตาลอื่น ๆ ก็มีค่าน้อยลงลดหลั่นลงมา หากอาหารที่มีค่าไกลซีมิกต่ำกว่า 55 ถือว่ามีค่าไกลซีมิกต่ำ ส่วนระดับ 55-70 จัดว่ามีค่าอยู่ขั้นปานกลาง กับระดับที่สูงกว่า 70 จัดอยู่ในขั้นสูง

ฉะนั้น หากไม่อยากให้เกิดระดับกลูโคสในเลือดสูงเกินไป ก็เลือกกินแป้ง พร้อมทั้งน้ำตาลที่มีค่าไกลซีมิกต่ำนั่นเอง

ตัวอย่าง แป้ง กับน้ำตาล ที่มีค่าไกลซีมิกสูง เช่น ขนมปัง (แม้แต่โฮลวีทที่มีวิตามินเยอะก็สูง) วัฟเฟิล แครกเกอร์ ข้าวขัดขาว มันฝรั่ง ไม่ว่าจะเป็น เฟรนฟราย หรือไม่ อบ

ตัวอย่าง แป้ง และน้ำตาล ที่มีค่าไกลซีมิกต่ำ เช่น พวกแป้ง พร้อมกับน้ำตาลที่อยู่ในถั่วโดยส่วนใหญ่ น้ำตาลในผลไม้ ข้าวซ้อมมือ พาสต้า ไม่ก็ สปาเก็ตตี้

ทำไมจึงต้องเลือกทานอาหารตามค่าดัชนีไกลซีมิก

ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นของการทานอาหารที่มีดัชนีไกลซีมิกสูงๆ คือว่า ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการฟอกสี แต่กระบวนการผลิต ที่ทำให้อาหารที่มีค่าไกลซีมิกต่ำกลายเป็นอาหารที่มีค่าไกลซีมิกสูง เช่น พวกแป้งขัดขาวที่นำมาทำเป็นขนมปัง เป็นต้น
เคยสังเกตถึงคนชาวพื้นเมืองของอเมริกัน ที่แต่เดิมกินพวก หัวเผือกหัวมัน ถั่ว ข้าวโพด อาหารที่เส้นใย ผลไม้ ซึ่งมีค่าไกลซีมิกต่ำ แต่เมื่อพวกนี้เปลี่ยนมากินอาหารแบบคนเมือง คือว่า อาหารฟาสฟู๊ด น้ำอัดลม ขนมอบต่างๆ
ปรากฏว่า กลายเป็นคนอ้วนไปตามๆ กัน อีกทั้งมีปัญหาโรคเบาหวานมากขึ้นด้วย
เพราะเช่นนั้น ไม่ถึงกับต้องงดไม่ก็ลดการทานแป้ง พร้อมทั้งน้ำตาลทั้งหมดนะค๊ะ แต่ให้เลือกอาหารพวกที่มีค่าไกลซีมิกต่ำ เป็นหลัก ก็สามารถช่วยลดจำนวนน้ำตาลที่จะสะสมในร่างกายได้

2. การออกกำลังกาย

การออกกำลังกาย เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่าง (แต่ทำได้ยากจริงๆ) ที่ควรทำควบคู่ไปกับการควบคุมปริมาณอาหาร
เช่นนี้ การออกกำลังกายจะไปกระตุ้นตับอ่อนให้ผลิตฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่งหมายถึง กลูคากอน ซึ่งมีหน้าที่ในการรักษาระดับของกลูโคสในเลือดไม่ให้ต่ำเกินไป โดยการไปสลายไกลโครเจนที่สะสมไว้เป็นกลูโคส
รวมไปถึงการดึงเอาไขมันที่สะสมออกมาใช้ด้วย การออกกำลังกายจึงช่วยให้ความอ้วนผอมลงได้ พร้อมกับปริมาณน้ำหนักก็จะลดลงด้วยเช่นเดียวกัน

ใครที่ต้องการลดความอ้วน ลองนำเอาหลักนี้ไปใช้ดู เลือกทานอาหารอย่างรู้ทัน ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ แค่นี้ก็จะมีหุ่นที่ฟิตได้ดั่งใจแล้วล่ะ

phuketdive
08-16-2011, 12:25 PM
ความสุนทรีย์ (http://ashtray.TRAVEL-PAI.INFO)..ในการกินอาหาร (http://aquarium.REALPLACE.INFO)จะหมดไป (http://stationary.NATURALSITE.INFO)เพราะกลัวอ้วน (http://like.HOLISTICPLACE.INFO)นี่แหละ.. (http://sling.PUREPLACE.INFO)

listerine11
08-23-2011, 12:54 PM
กินไปเถอะ (http://NATURAL-PLACE.INFO)..อย่าคิดมากเลย (http://fashion.best-ricetoday.info).. (http://fashion.mybest-rice.info)อวบๆหน่อย (http://fashion.thebest-rice.info)ก็ดีหรอก ไม่น่าเกลียด (http://fashion.thai-herbs.info)