PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : พระอภัยมณี ตอนที่ ๕ ศรีสุวรรณเกี้ยวนางเกษรา



8ocdj
02-24-2012, 07:52 PM
พระอภัยมณี ตอนที่ 5 ศรีสุวรรณเกี้ยวนางเกษรา

ฝ่ายพระนุชบุตรีกรุงกษัตริย์ มาถึงวังยังประหวัดถวิลหา
เห็นเจ้าพราหมณ์งามติดในตามา เข้าไสยายามค่ำยิ่งรำจวน
คิดสงสารป่านฉนี้เจ้าพราหมณ์น้อย จะอยู่คอยหรือจะไปเสียไกลสวน
เมื่อเดินมาพอพ้นต้นลำดวน ทำแย้มสรวลเหมือนจะชวนจำนรรจา
เหตุไฉนไม่ตรัสหรือขัดข้อง จะหนีน้องไปเสียแล้วกระมังหนา
เป็นพราหมณ์เทศพราหมณ์จรรย์จรัลมา หรือกษัตริย์ขัดติยาอยู่เมืองไกล
ทำปลอมแปลงแกล้งจู่มาดูน้อง หรือจะต้องประสงค์ที่ตรงไหน
จะมาเดียวหรือจะมาด้วยข้าไท จะกลับไปหรือจะอยู่ไม่รู้เลย
เสียดายนักหนักทรวงดวงสมร สอื้นอ้อนอิงแอบแนบเขนย
ไม่แต่งองค์ทรงเล่นเหมือนเช่นเคย ลืมเสวยลืมสรงหลงรำพึงฯ
สี่พี่เลี้ยงเมียงมองตามช่องฉาก แล้วบุ้ยปากให้กันดูด้วยรู้ถึง
ต่างปรึกษาหารือไม่อื้ออึง เราก็พึ่งเห็นรักประจักษ์ใจ
แต่ดูกันห่างห่างสิอย่างนี้ พระบุตรีตรอมจิตต์พิสมัย
แม้นได้เรียงเคียงข้างจะอย่างไร รำคาญใจจะใคร่ปลอบให้ชอบที
ทั้งสี่นางต่างเข้าเคียงบรรจฐรณ์ ทำทูลวอนพระธิดามารศรี
แม่เป็นไรไสยาไม่พาที หรือวานนี้ไปสวนประชวรมา
จะเจ็บปวดเป็นไฉนก็ไม่ตรัส จะได้จัดมดหมอมารักษา
หรือพระน้องต้องรุกขเทวา ซึ่งอยู่ค่าคบลำดวนสวนดอกไม้
แล้วแสแสร้งแกล้งทำปรนนิบัติ ศรีสวัสดิ์สว่างจิตต์พิสมัย
พระบุตรีแกล้งตรัสเหมือนขัดใจ ไฮ้อะไรนี่เล่ามาเฝ้ากวน
จริงอยู่น้องต้องเทวดาด้วย จึงเจ็บป่วยเป็นไข้เพราะไปสวน
พี่เคยได้ไปยลต้นลำดวน ทำกระบวรมิได้บอกออกให้ตรง
จะสังเวยสิ่งไรจะได้จัด สาระพัดสิ่งของต้องประสงค์
หรือจะคิดติดสินบนท่านคนทรง ให้เชิญองค์อารักษ์ที่ทักทาย
ทั้งสี่นางต่างยิ้มแล้วเยื้อนว่า จะรักษาทรามวัยเสียให้หาย
อันต้องเทพารักษ์ขี้มักร้าย ให้กระวนกระวายละอายใจ
จะขับกล่อมจอมขวัญให้บรรทม อย่าปรารมภ์ร้อนจิตต์พิสมัย
พลางแย้มยิ้มหยิบกรับแล้วขับไป ให้ต้องในน้ำจิตต์พระธิดาฯ
ว่าปางหลังยังมีเจ้าพราหมณ์น้อย โฉมแฉล้มแช่มช้อยดังเลขา
ทั้งผิวเหลืองเรืองรองดังทองทา เที่ยวเสาะหานุชนางมาทางไกล
เวลาค่ำน้ำค้างลงพร่างพร้อย พ่อโฉมงามพราหมณ์น้อยจะนอนไหน
สตรีงามสาภพไม่สบใจ จะใคร่ได้ดอกฟ้าลงมาเชย
ถ้าแม้นเหมือนหมายมาดไม่คลาดแคล้ว ดังดวงแก้วแกมทองเจียวน้องเอ๋ย
น่าน้อยใจที่ไม่ไว้อาไลยเลย แล้วลงเอยอภิวันท์อัญชลีฯ
พระธิดาฟังขับให้จับจิตต์ จะปกปิดป้องปัดก็บัดสี
จึงแสร้งว่าน่าแค้นแสนทวี น้อยหรือพี่ช่างคิดประดิษฐ์ครวญ
เหมือนฟื้นฝอยหาตะเข็บให้เจ็บจิตต์ สมคบคิดกันพาข้าไปสวน
แล้วเป็นใจให้พราหมณ์มาลามลวน เห็นสมควรแล้วหรือพี่ทั้งสี่คน
จะกราบทูลปิตุรงค์ให้ทรงซัก ใครย้อนยักแยบคายเป็นสายสน
หรือพราหมณ์น้อยกลอยใจให้สินบน ถ้าบอกจริงจึงจะพ้นที่โทษทัณฑ์ฯ
พี่เลี้ยงรู้จักใจไม่วิตก ทำลูบอกอนิจจามาว่าฉัน
จะบอกความจริงทุกสิ่งอัน เจ้าพราหมณ์นั้นเขาจะมาเป็นข้าไท
ให้พวกพี่นี้พามาถวาย แต่ดีร้ายยังไม่เห็นเป็นไฉน
ถ้าไล่เลียงเที่ยงแท้แน่แก่ใจ จึงจะได้ทูลความแม่ทรามเชย
น้อยไปหรือดื้อดึงไปถึงสวน จะแกล้งกวนก่อความเจ้าพราหมณ์เอ๋ย
แม่เมตตาอย่าทูลฉลองเลย เหมือนทรามเชยช่วยหลังไว้ครั้งนี้
ฉันผัดพอเช้าตรู่ประตูเปิด ฟ้าผ่าพี่เถิดจะไปว่าน่าบัดสี
ไม่เจียมตัวกลัวเกรงประบุตรี ทำท่วงทีเหมือนกระต่ายตะกายดิน
มาพบแม่แต่ตัวเจ้าพราหมณ์น้อย หรือพี่พลอยองอาจประมาทหมิ่น
แม้นจ้วงจาบหยาบช้าเป็นราคิน จะขับไปเสียให้สิ้นทั้งสี่นายฯ
พระธิดาได้ความว่าพรหมณ์น้อย ตามติดสอยสมจิตต์ที่คิดหมาย
จึงกล่าวแกล้งแสร้งเสเพทุบาย สักกี่ชายนั้นฉันไม่ทันดู
เห็นคนเดียวเที่ยวเดินเด็ดดอกรัก เป็นเชิงชักปริศนาน่าอดสู
จะหม่อมน้องหรือหม่อมพี่ก็มิรู้ ไปถามดูเถิดอย่าซักฉันนักเลย
มิเสียทีที่พี่คบพอครบถ้วน เป็นสี่ส่วนสมหน้าเจ้าข้าเอ๋ย
อุปถัมภ์ทำคุณจนคุ้นเคย จึงล่วงเลยลามมาเป็นน่าชัง
ถ้าพรุ่งนี้พีไปจะไต่ถาม จงห้ามปรามสั่งสอนหล่อนเสียมั่ง
แม้นว่ากล่าวคราวนี้เธอมิฟัง ทำทีหลังแล้วจะทูลให้วุ่นวายฯ
สี่พี่เลี้ยงเบี่ยงบิดประดิษฐ์แก้ ฉันเป็นแต่จะช่วยพามาถวาย
ที่ผิวเหลือเรืองรองนั้นน้องชาย สมเป็นนายขอเฝ้าถึงเข้ากรม
แต่พราหมณ์ใหญ่ไม่งามเหมือนพราหมณ์น้อย ถ้าใช้สอยมะละกอก็พอสม
ถึงฉันว่าคบค้าสมาคม ก็จะก้มหน้ารับอัประมาณ
แต่อย่าให้พราหมณ์น้อยนั้นพลอยผิด เธอตั้งจิตต์มาเป็นข้าน่าสงสาร
จงยกโทษโปรดไว้ใช้ราชการ เมื่อเกียจคร้านจึงค่อยลดปลดบัญชีฯ
นางฟังคำทำเคืองชำเลืองค้อน ยังกลับย้อนยักว่าน่าบัดสี
ถ้าขืนขัดก็อย่าเฝ้ามาเซ้าซี้ หรือเห็นดีแล้วไม่ห้ามตามอารมณ์
แล้วสั่งให้ไขหีบหยิบสมุด นางทรงอ่านอุณรุทเมื่ออุ้มสม
สี่พี่เลี้ยงเคียงข้างแท่นบรรทม ชวนกันชมสุรเสียงสำเนียงนางฯ
ฝ่ายพระหน่อนฤเบศร์เกศกษัตริย์ ดึกกำดัดยามสองจึงหมองหมาง
เผยพระแกลแลชมนภาภางค์ จันทร์กระจ่างส่องฟ้าสุราลัย
ระดูเดือนเหมือนวงนลาตน้อง สัมผัสผ่องพาจิตต์พิสมัย
รื่นรื่นกลิ่นลำดวนรัญจวนใจ เหมือนเข้าใกล้กลิ่นนางเมื่อกลางวัง
ให้เคลิ้มเคล้นเห็นเงาเสาตำหนัก ว่านงลักษณ์ลงขยับไปรับขวัญ
ไฉนน้องมองเมียงอยู่เพียงนั้น ขอเชิญขวัญเนตรนั่งบัลลังค์รัตน์
แล้วเคียงเข้าเล้าโลมนางโฉมฉาย พระกรกรายกอดเสาเข้าถนัด
เห็นผิดนางหมางฤทัยให้ฮึดฮัด จะใคร่ตัดเสาสับให้ยับเยิน
ได้ยินพราหมณ์สามคนเขาหัวร่อ ในใจคอคิดอายระคายเขิน
ทำเหลียวแลแก้เก้อไปตามเกิน ชม้ายเมินเมียงมาศาลากลาง
แกล้งลดเลี้ยวเที่ยวเดินดูไม้ดัด สาระพัดสรรค์ใส่ในกระถาง
พระเพ่งพิศคิดถึงคนึงนาง ไม่เสื่อมสร่างอารมณ์สมประดี
เสียงจักระจั่นจังหรีดวะหวีดแว่ว เหมือนเสียงแก้วเกษรามารศรี
เที่ยวผันแปรแลหาแล้วพาที ขึ้นมานี่เถิดนะเจ้าเยาวมาลย์ฯ
ทั้งสามพราหมณ์ตามมองเห็นน้องรัก ละล่ำละรักลุ่มหลงน่าสงสาร

8ocdj
02-27-2012, 08:19 PM
ทั้งสามพราหมณ์ตามมองเห็นน้องรัก ละล่ำละรักลุ่มหลงน่าสงสาร
เข้าเคียงข้างทางปลอบประโลมลาน พ่อเที่ยวป่านนี้ไยไม่ไสยาฯ
ศรีสุวรรณ นั้นยัง กำลังหลง คิดว่าองค์ มิ่งมิตร ขนิษฐา
ประโลมลูบ รับขวัญ จำนรรจา วาสนา เราทั้งสอง เคยครองกัน
พราหมณ์หัวร่อ พ่อแปลก พี่แล้วหรือ พระหดมือ เมินพักตร แล้วผินผัน
ทำแก้เก้อ เออพี่ ที่ตรงนั้น ปีศาจมัน หลอนข้า ตาวาววาวฯ
เจ้าพราหมณ์ว่า น่ากลัว แล้วหัวร่อ พี่เห็นต่อ จะเป็นผี สตรีสาว
ประจำองค์ อนุชา มาแต่เช้า จนดึกราว สองยาม มาตามกวนฯ
เจ้าโมรา ว่าผี ไม่มีดอก ที่หลอนหลอก นั่นแหละเงา เจ้าของสวน
พอพรุ่งนี้ พี่จะบล ต้นลำดวน ให้ช่วยชวน ชาววัง มาดังใจฯ
พระฟังคำ ทำเมิน ดำเนินหนี มานั่งที่ แท่นทอง อันผ่องใส
เห็นสามพราหมณ์ ตามมา จึงว่าไป ประหลาดใจ จริงน้อง เหมือนต้องมนต์
ให้เห็นเขา เจ้าของ ห้องตำหนัก มาถามทัก แล้วก็หาย ไปหลายหน
พี่เอ็นดู ฉันด้วย ช่วยกันค้น นฤมล จะมาแฝง อยู่แห่งไรฯ
พราหมณ์ฟังเห็น ยังเพื่อน ช่วยเตือนน้อง เจ้าของห้องมิได้มาอย่าสงสัย
พี่บอกแล้ว ไม่เชื่อ นั้นเหลือใจ หนักอะไร จะเหมือนรัก หนักอุรา
หลงอะไร จะเหมือนหลง ทรงมนุษย์ ที่โศกสุด เศร้าแสน เสน่หา
จนลืมตัว มัวหมอง เพราะต้องตา ต้องตรึกตรา ตรอมจิตต์ เพราะปิดความ
บุราณว่า ถ้าเหลือ กำลังลาก ให้ออกปาก บอกแขก ช่วยแบกหาม
แม้นพ่อบอก ออกบ้าง ไม่พรางความ จะเป็นล่าม แก้ไข ให้ได้การฯ
พระฟังปลอบ ชอบชื่น ค่อยฝืนพักตร กำลังรัก ลืมอาย หมายสมาน
จึงว่าพี่ มีปัญญา ปรีชาชาญ ช่วยคิดอ่าน อนุกูล อย่าสูญใจ
เหมือนหนึ่งน้อง ต้องศร เสียบสลัก จะฉุดชัก ก็ไม่อาจ จะหวาดไหว
พี่ช่วยถอน ศรโศก ที่เสียบใจ น้องจะได้ ผ่อนพ้น ทนทรมาฯ
เจ้าพราหมณ์ว่า อย่าทุกข์ ไปเลยพ่อ นางนกต่อ ของเรามี ดีนักหนา
พรุ่งนี้เช้า เขาคง จะออกมา พ่อพูดจา ฉอเลาะ ให้เราะราย
จะสอนสั่ง สิ่งเดียว เกี้ยวผู้หญิง ถ้าถึงจริง ก็มักช้า ประดาหาย
ให้หวานหวาน ไว้สักหน่อย ค่อยสบาย นี้แยบคาย เข้าชู้ แต่บูราณ
พ่อรู้แต่ง หนังสือ อยู่หรือไม่ จงแก้ไข คิดกลอน อักษรสาร
แม้นตอบต่อ ก็พอเห็น จะเป็นการ อันพวกฉาน นี้ไม่วาง นางพี่เลี้ยง
แต่กีดขวาง อย่างเดียว ดอกเดี๋ยวนี้ ด้วยหญิงสี่ ชายสาม เป็นความเถียง
พ่อโปรดด้วย ช่วยเปรียบ ให้เรียบเรียง ใครจะเคียง ควรคู่ กับผู้ใดฯ
พระแย้มยิ้ม พริ้มพราย ภิปรายตอบ พี่ว่าชอบ ชี้ทาง สว่างไสว
ทำไมกับ กาพย์กลอน อย่าร้อนใจ จะว่าให้ ปลื้มจิตต์ พระธิดา
อันชายสาม หญิงสี่ นี้ก็ยาก จับฉลาก นั้นแลพี่ ดีนักหนา
สำรวลพลาง ทางหยิบ กลีบจำปา เอานขา เขียนหนังสือ เป็นชื่อนาง
แล้ววางไว้ ให้สาม พราหมณ์พี่เลี้ยง เจ้าพราหมณ์เสี่ยง ทายดู ที่คู่สร้าง
หยิบจำปา มาพลิก ขึ้นอ่านพลาง เจ้าวิเชียร ได้นาง จงกลนี
ดูฉลาก เลขา เจ้าสานน ได้โฉมตรู อุบล รัศมี
ที่ของเจ้า โมรา ประภาวดี เหลือแต่ศรี สุดา น่าเสียดาย
ต่างหัวเราะ เยาะหยอก ว่านอกส่วน เราก็ควร จะประมูล ทูลถวาย
แล้วสรวลเส เฮฮา ประสาชาย พระยิ้มพราย อายใจ ด้วยไม่เคย
จนยามสาม พราหมณ์เตือน ให้ไสยาสน์ พระขึ้นอาสน์ อิงแอบ แนบเขนย
นึกประดิษฐ์ คิดกลอน ไม่นอนเลย พอลงเอย ก็พอแจ้ง แสงตวัน
ให้ปั่นป่วน ชวนพราหมณ์ ทั้งสามพี่ ไปอยู่ที่ ต้นลำดวน ในสวนชวัญ
คอยพี่เลี้ยง แลหา ปรึกษากัน เกษมสันต์ สมคเน ด้วยเล่ห์ลม
ฝ่ายพี่เลี้ยง พระธิดา เวลารุ่ง ต่างบำรุง ราศี นั่งหวีผม
ค่อยสะกิด กรีดกริบ ตะไกรคม แล้วนุ่งห่ม ต่างต่าง ละอย่างกัน
เรียกบ่าวถือ หีบหมาก ออกจากฉนวน พอถึงสวน ฉายแสง พระสุริย์ฉัน
แกล้งส่งเสียง เคียงคลอ จรจรัล ทำเชิงชั้น กรีดกราย ชม้ายเมียง
พอทั้งสาม พราหมณ์แล ประสบพักตร์ ชิงกันทัก เยาวมาลย์ ประสานเสียง
เชิญมานี่ หน่อยเถิดคะ พระพี่เลี้ยง ร่มพุมเรียง ราบเลี่ยน เตียนสบายฯ
ทั้งสี่นาง ต่างคำนับ นั่งพับเพียบ ได้ระเบียบ อยู่มิให้ สะไบขยาย
แล้วต่างยิ้ม แย้มพลาง ทางภิปราย หม่อมสบาย อยู่ด้วยกัน หรือฉันใด
ฉันอยู่หลัง ตั้งแต่ เสด็จกลับ นอนไม่หลับ หลากจิตต์ คิดสงสัย
พ่อพราหมณ์น้อย พลอยเจ็บ เป็นไข้ใจ เคราะห์กระไร ร้ายรวบ ประจวบกัน
แม้นหม่อมมี หยูกยา เมตตาด้วย เหมือนชุบช่วย ชีวา นุชาฉัน
ถ้าตลอด รอดฝั่ง ได้ดังนั้น จะส่งขวัญ เข้าหมอ ให้พอการฯ
พี่เลี้ยงยิ้ม พริ้มพราย ชม้ายค้อน ทำเสียงอ่อน อนิจจา น่าสงสาร
จะทูลขอ หมอหลวง มาอยู่งาน แต่อาการ เป็นอย่างไร จะใคร่รู้ ฯ
เจ้าพราหมณ์น้อย นึกสะเทิน แล้วเมินหน้า จะพูดจา มิใคร่ได้ ให้อดสู
พี่เลี้ยงเตือน เชือนแช แล้วแลดู ต่อเป็นครู่ แล้วจึงตอบ ว่าขอบใจ
อันโรคของ น้องนี้ ไม่มีแผล ให้มีแต่ ขัดข้อง ไม่ผ่องใส
กลางคืนหนาว เช้าร้อน อ่อนฤทัย แม้นหม่อมไม่ ชุบช่วย คงม้วยมิด
ถ้าทูลขอ หมอหลวง ได้เหมือนว่า เห็นโรคา จะค่อยคลาย สบายจิตต์
แม้นแก้ไข ไม่ตาย วายชีวิต ไม่ลืมคิด คุณพี่ ทุกวี่วัน ฯ
ทั้งสี่นาง ต่างว่า น่าสงสาร ช่างอ่อนหวาน วอนวิง ทุกสิ่งสรรพ์
วิบากกรรม จำเพาะ เป็นเคราะห์ครัน จนพวกฉัน พลอยผิด เพราะปิดบัง
เมื่อวานนี้ พระธิดา ออกมาเล่น แลเขม้น เหมือนจะเถือ เอาเนื้อหนัง
จึงกริ้วโกรธ กลับไป เสียในวัง แล้วตรัสสั่ง ขอเฝ้า เข้ามาค้น
ฉันทูลแก้ ว่าจะมา สาพิภักดิ์ นางโฉมยง ทรงซัก เอาเหตุผล
ว่าลูกเมีย หม่อมมี สักกี่คน ฉันก็จน จึงถาม พ่อพราหมณ์น้อย
แม้นพรั่งพร้อม ยอมอยู่ เป็นขอเฝ้า จะให้เข้า เวรไว้ ได้ใช้สอย
หรือมีห่วง บ่วงใย ใครจะคอย มาหยุดพัก สักหน่อย แล้วจะไป ฯ
ศรีสุวรรณ ชั้นเชิง ฉลาดแหลม ทำยิ้มแย้ม เยื้อนว่า อย่าสงสัย
ฉันพี่น้อง ท้องเดียว มาเที่ยวไกล อันห่วงใย ยังไม่มี ทั้งสี่คน
หมายพระนุช บุตรี เป็นที่พึ่ง คิดรำพึง สารพัด จะขัดสน
เสด็จมา เที่ยวเล่น เห็นชอบกล นฤมล มองหา สุมาลี
ฉันเด็ดได้ ดอกรัก จักถวาย นางชม้าย เมียงเมิน ดำเนินหนี
เสียน้ำใจ เจ็บมา แต่ราตรี เดี๋ยวนี้พี่ ว่าจะช่วย ค่อยชื่นใจ
ช่วยทูลองค์ พระธิดา ว่าดีฉัน จะผูกพัน พึ่งพัก จนตักษัย
ซึ่งโฉมยง ทรงระแวง แคลงฤทัย ฉันจะให้ ทานบล ไว้จนตาย
พระว่าพลาง ทางตัด ใบตองอ่อน มาเขียนกลอน กล่าวประโลม นางโฉมฉาย
จนลงเอย อ่านต้น ไปจนปลาย ไม่คลาดคลาย ถูกถ้วน แล้วม้วนตอง
เอาโศกแซม แกมรัก สลักหนาม เหมือนบอกความ รักนาง ว่าหมางหมอง
พี่เลี้ยงรับ พับใส่ ไว้ในซอง แล้วว่าน้อง หวังพี่ เป็นที่อิง
ทุกวันนี้ มีผ้า จำเพาะผืน ถ้ากลางคืน หนาวก็ได้ แต่ไฟผิง
ถ้าแม้นหม่อม กรุณา เมตตาจริง ช่วยว่าวิง วอนทูล พระธิดา
ประทานสี ที่ห่ม มาชมสวน ควรมิควร ขอประทาน ซึ่งโทษา
แล้วถอดธำมรงค์ครุฑ บุษรา ฝากถวาย พระธิดา วิลาวรรณ
พระพี่เลี้ยง รับแหวนน้อย ชม้อยยิ้ม เห็นหงิมหงิม ลิ้นลม ช่างคมสัน

8ocdj
03-02-2012, 09:31 PM
พระพี่เลี้ยง รับแหวนน้อย ชม้อยยิ้ม เห็นหงิมหงิม ลิ้นลม ช่างคมสัน
จึงแกล้งว่า ช้าสัก สองสามวัน ถ้าแม้นฉัน ได้ช่อง จะลองทูล
ปรารถนา ผ้าผ่อน แต่เพียงนี้ เห็นท่วงที ก็จะได้ คงไม่สูญ
ค่อยอยู่เถิด ฉันจะลา อย่าอาดรู ได้กราบทูล แล้วจะออก มาบอกความ
แล้วสี่นาง ต่างจัด ซองสลา ทอดผ้าป่า เรียงไว้ กลางสนาม
พลางยิ้มพราย ชายตา ลาเจ้าพราหมณ์ เรียกบ่าวตาม กลับหลัง เข้าวังใน ฯ
ขึ้นปราสาท พระบุตรี ทั้งสี่นาง เข้าเคียงข้าง แท่นทอง อันผ่องใส
ถวายแต่ ส้มพวง ดวงดอกไม้ แล้วใส่ไคล้ ทูลความ ถึงพราหมณ์น้อย
ไปพบที่ ต้นลำดวน ในสวนขวัญ ฉันรุมกันต่อ ว่าจน หน้าจ๋อย
ไม่ทุ่มเถียง ทำแต่ แลชะม้อย ช่างเรียบร้อย ราบคาบ ไม่หยาบคาย
ว่าที่จริง นั้นจะมา สาพิภักดิ์ ได้ดอกรัก จักใคร่ ได้ถวาย
แม้นแม่ไม่ เมตตา ก็ท่าตาย ขอถวาย ชีวา ไม่อาลัย
ดูท่วงที กิริยา มารยาท มิใช่ข้าง พราหมณ์เทศ ข้างเพศไสย
ชะรอยหน่อ กษัตรา มาแต่ไกล เพราะจะใคร่ เป็นขอเฝ้า เยาวมาลย์
จะขับไล่ ไปเสีย ให้พ้นสวน เธอคร่ำครวญ วอนว่า น่าสงสาร
จะให้อยู่ ที่นี่ ก็ขี้คร้าน จะโปรดปราน เป็นไฉน จะใคร่รู้ ฯ
พระบุตรี ฟังเล่า ก็เศร้าสร้อย กลัวโฉมงาม พราหมณ์น้อย จะอดสู
เธอแก้ไข ไม่เป็น น่าเอ็นดู จึงว่าพี่ นี้ไปขู่ เขาทำไม
เป็นชีพราหมณ์ หยามหยาบ ก็บาปปาก เพระพวกมาก เธอจึงต้าน ทานไม่ไหว
ซึ่งว่าพี่ เป็นกษัตริย์ สันทัดใจ คิดสำคัญ ฉันใด จะใคร่ฟัง
ว่าจู้จี้ ขี้คร้าน ฉานสงสัย หรือว่าใคร กล่าวขวัญ ถึงฉันมั่ง
เล่าแถลง แจ้งจิตต์ อย่าปิดบัง จะขอฟัง ลิ้นลม คารมพราหมณ์ ฯ
พระพี่เลี้ยง ฟังโฉมยง เจ้าทรงซัก ทำเยื้องยัก ยำเยง เหมือนเกรงขาม
แล้วแกล้งว่า อดสู ดูไม่งาม เป็นควันความ จะปิด ไม่มิดเปลว
ถ้าทราบถึง ปิตุรงค์ ให้ลงโทษ เสียประโยชน์ หญ้าแพรก จะแหลกเหลว
ซึ่งเห็นความ ว่ามิใช่ เป็นไพร่เลว เพราะองค์เอว อ้อนแอ้น ระโอดองค์
ช่างระทวย สวยทรง สังวาลรัตน์ เครื่องกษัตริย์ สุริยชาติ ราชหงษ์
นึกจะทูล โฉมงาม แต่ตามตรง กลัวจะทรง กริ้วโกรธ ลงโทษทัณฑ์ ฯ
พระธิดา ว่าน้อย ไปหรือพี่ พูดเช่นนี้ น่าเบื่อ ไม่เชื่อฉัน
ทำย้อนยอก หลอกลวง เพราะหวงกัน เถิดเช่นนั้น แล้วก็ไม่ พอใจฟัง
ฉวยบุบผา มาลี ขยี้ทิ้ง พี่เลี้ยงชิง ไปเสียสิ้น ก็ผินหลัง
ทั้งสี่นาง ต่างเข้า เคียงบัลลังก์ แล้วว่าตั้ง แต่นี้ไป ฉันไม่พราง
ถึงตื้นลึก หนักเบา จะเล่าแจ้ง อย่านึกแหนง เลยพระน้อง จะหมองหมาง
เจ้าพราหมณ์น้อย นึกถึง คนึงนาง วันนี้ร่าง เรื่องสาร ให้ฉานมา
กับธำรง วงน้อย เพ็ชรรัตน เป็นกษัตริย์ แล้วนะแม่ แน่หนักหนา
แล้วหยิบของ สองสิ่ง ที่ซ่อนมา ทูลถวาย พระธิดา พงางาม ฯ
นางโฉมยง ทรงหยิบ ใบตองอ่อน เห็นโศกซ้อน แกมรัก สลักหนาม
ก็แจ้งจิตต์ ปฤศนา ปัญญาพราหมณ์ แกล้งนิ่งความ คลี่สาร ออกอ่านพลัน
ในสารศรีสุวรรณวงศ์ พงศ์กษัตริย์ บูรีรัตนา มหาศวรรย์
สวาทหวัง พระธิดา วิลาวรรณ สู้เดินดั้น ดงแดน แสนกันดาร
พยายาม ข้ามมหา มหรณพ หวังประสบ วรนุช สุดสงสาร
มาอาศัย ในสวน อุทยาน บุญบันดาล ดลจิตต์ พระธิดา
เผอิญให้ โฉมงาม ทรามสวาท มาประพาส ชมพรรณบุบผา
พี่ยลยอด เยาวเรศ เกษรา ช่างโสภา นิ่มน้อง ลอองนวล
ประไพพริ้ม นิ่มน้อย กลอยสวาท ดังนางใน ไกรลาส มาเล่นสวน
เสด็จกลับ ลับไป ให้รัญจวน เฝ้าอักอ่วน อาวรณ์ ร้อนฤทัย
ด้วยยามยาก จากเมือง มามุ่ง หมาย ดังกระต่าย เต้นแล ดูแขไข
ครั้นเดือนดับ ลับเหลี่ยม เมรุไกร โอ้อาลัย เหลือแล ชะแง้คอย
เหมือนอกพี่ ที่แสน เสน่ห์นุช เห็นสูงสุด ที่จะได้ สิ่งใดสอย
ถ้าได้ดวง ดอกฟ้า ลีลาลอย ก็จะค่อย ประคองนวล สงวนเชย
จึงแต่งสาร เสี่ยงทาย ถวายแหวน ใบตองแทน แผ่นทอง พระน้องเอ๋ย
ถ้าแม้นมาด ชาติก่อน เป็นคู่เคย ขอให้เผย พจนาตถ์ ประภาษมา
แม้นแม่ไม่ อนุกูล สูญสวาท เห็นสิ้นชาติ ชีวัง จะสังขาร์
จะเอากรุง โรมจักร นัครา เป็นป่าช้า สุมเพลิง เชิงตะกอน
ขอเชิญนุช บุตรี ปราณีสนอง อย่าหม่นหมอง หมางรัก ในอักษร
ช่วยชี้ชอบ ตอบถ้อย สุนทรวอน ให้วายร้อน ที่วิตก ในอกเอย ฯ
พี่เลี้ยงฟัง อ่านสาร หวานเสนาะ ช่างฉอเลาะ เหลือดี เจ้าพี่เอ๋ย
ไม่หยามหยาบ ราบเรียบ ช่างเปรียบเปรย พระน้องเอ๋ย ทรงตอบ ให้ชอบกล
แล้วว่าโศก แซมรัก สลักหนาม ของพ่อพราหมณ์ ทำมา น่าฉงน
ทำซักไซ้ ไต่ถาม ทั้งสามคน นฤมล หมางเมิน สะเทิ้นที
ว่าไม่รู้ หรือขา ปฤศนาพราหมณ์ เขาบอกความ โศกสลัก ว่ารักพี่
นางหยิบแหวน มาดู รู้ว่าดี น้ำมณี ใสสุด บุษรา
เอาสวมใส่ นิ้วนาง พลางดำรัส เพ็ชรรัตน์ วงนี้ ดีนักหนา
น้องจะขอ ซื้อไว้ ให้ราคา เป็นเงินตรา สักเท่าใด ไม่เสียดาย
แต่เพลงยาว หยาบช้า ฉันน่าแค้น จะตอบแทน เสียให้สม อารมณ์หมาย
พลางคลี่สาร อ่านซ้ำ คำภิปราย แล้วบ่นว่า น่าอาย อดสูใจ ฯ
ทั้งสี่นาง ต่างปลอบ ตอบสมร เธอทุกข์ร้อน เล่าแจ้ง แถลงไข
ชอบมิชอบ ตอบเล่น ก็เป็นไร ไว้อาลัย ล่อลวง ดูท่วงที
อันธำรง วงนั้น ฉันถวาย ไม่ซื้อขาย ขอเปลี่ยน ภูษาศรี
ที่ทรงไป อุทยาน เมื่อวานนี้ เหมือนให้พี่ ผ่อนพ้น ทนทรมา
นางโฉมฉาย อายใจ ทำไขสือ พี่รักหรือ จะให้ห่ม ให้สมหน้า
แต่จะขอ คำมั่น จงสัญญา อย่าเอาผ้า ฉันไป ให้ใครเลย
แล้วเปลี่ยนเปลื้อง ริ้วทอง ออกกองไว้ ฉันห่มไป ผืนนี้ แหละพี่เอ๋ย
พี่เลี้ยงรับ พับจีบ แล้วชมเชย เป็นบุญเคย ทำไว้ เห็นไม่ตาย
ถึงน้ำค้าง พร่างพรม และลมว่าว อนาถหนาว ห่มผ้า ก็ถ้าหาย
นางโฉมยง ยิ้มเมิน สะเทิ้นอาย ค่อยเลียบชาย ถามไถ่ มิให้ดัง
ครั้นค่ำลง ทรงกลอน อักษรสนอง เขียนจำลอง ลงแผ่น กระดาษหนัง
ให้หักใบ เต่าร้าง ที่กลางวัง มาห่อทั้ง ดอกรัก อักขรา ฯ
พอรุ่งแจ้ง แสงทอง ส่องสว่าง ทั้งสี่นาง นุ่งสุหรัด แล้วผัดหน้า
ยังมีต่อ

8ocdj
03-07-2012, 07:52 PM
พอรุ่งแจ้ง แสงทอง ส่องสว่าง ทั้งสี่นาง นุ่งสุหรัด แล้วผัดหน้า
เอาสารซ่อน ใส่กลีบ ในหีบงา กับทั้งผ้า กรองทอง ของสำคัญ
ร้องเรียกหา ข้าสาว แต่เช้าตรู่ ออกประตู เดินด่วน ไปสวนขวัญ
พอประสบ พบพราหมณ์ อยู่พร้อมกัน ศรีสุวรรณ ยิ้มย่อง แล้วร้องเชิญ
พวกพี่เลี้ยง เรียงนั่ง ริมต้นแก้ว คำนับแล้ว ยิ้มพราย ระคายเขิน
ฉันกำลัง หิวโหย แต่โดยเดิน พอเชื้อเชิญ ชื่นใจ กระไรเลย
แต่ก่อนไซร้ ไม่เห็น เหมือนเช่นนี้ มิพอที่ หนีนั่ง เอนหลังเฉย
ทั้งสี่นาง ต่างหัวเราะ ทำเยาะเย้ย พลางเปรียบเปรย บอกความ เจ้าพราหมณ์พลัน
ธำรง วงนั้น ฉันถวาย นางโฉมฉาย ซักไซ้ จนไก่ขัน
จึงประทาน กรองทอง ของสำคัญ เป็นรางวัล ที่พ่อมา สาพิภักดิ์
แล้วเปิดหีบ หยิบของ ออกส่งให้ จะลาไป ก่อนแล้วคะ ธุระหนัก
ทั้งสามพราหมณ์ ตามส่ง ด้วยจงรัก แล้วชวนชัก นารี ทั้งสี่คน
เที่ยวชมสวน ชวนเก็บ บุบผชาต เดียรดาษ ดอกดวง เป็นพวงผล
ดอกชงโค โยทกา เจ้าสานน ช่วยเก็บให้ นางอุบลบังอร
เจ้าโมรา กรีดเล็บ เก็บจำปี ให้ประภาวดี ศรีสมร
เจ้าวิเชียร เก็บกระถิน กลิ่นขจร กับพุดซ้อน ตามส่ง ให้จงกล
ศรีสุดา นั้นไม่ได้ ดอกไม้ด้วย ดูเขินขวย คิดเห็น ไม่เป็นผล
นางค้อนเพื่อน เคืองพราหมณ์ ทั้งสามคน ออกเดินบ่น เบือนหน้า ไม่พาที
ทั้งสามพราหมณ์ ตามเด็ด ดอกไม้ให้ นางแค้นใจ ฉวยฉีก แล้วหลีกหนี
นางประภา อุบล จงกลนี ต่างยินดี เดินกราย เที่ยวร่ายไป ฯ
พี่เลี้ยงพราหมณ์ ตามนาง ไม่ห่างเหิน แล้วหยอกเอิน รอเรียง เข้าเคียงไหล่
เห็นลับลับ จับต้อง ทำลองใจ นางผลักไส ข่วนหยิก ทำพลิกแพลง
ศรีสุดา หน้าเง้า เที่ยวเซ้าซี้ จะอยู่นี่ หรือเจ้า จึงเฝ้าแฝง
เที่ยวเก็บเล็ม เต็มห่อ ให้พอแรง ยังจะแกล้ง ชักช้า น่ารำคาญ
ทั้งสามนาง ต่างว่า น่าหัวร่อ เพราะไม่พอ จึงได้วุ่น เที่ยวงุ่นง่าน
อย่าเปรียบเปรย เลยแน่ แม่แหพาน จะต้องการ ก็มาเอา ของเราไป
ศรีสุดา ว่าเจ้า เอาเถิดแม่ ข้าเป็นแค่ นอกส่วน ไม่ควรได้
จงแบ่งปัน กันชม ให้สมใจ ดิฉันไม่ ชิงช่วง อย่าหวงกัน
คอหอยเดียว เจียวหม่อม ช่างพร้อมหน้า ออกรุมท้า คารม ช่างคมสัน
ยังอยู่อีก ไหนเล่า หรือเท่านั้น มาช่วยกัน เถียงเล่น ก็เป็นไร
น่าเจ็บอก ยกแรก สิแปลกเพื่อน จะตักเตือน ฉุดลาก ไม่อยากไหว
เจ้าค่อยอยู่ เถิดข้า จะลาไป มาเรียกหา ข้าไท แล้วไคลคลา
ทั้งสามนาง ต่างว่า ต่อหน้าพราหมณ์ คงเกิดความ แล้วนะแม่ แน่หนักหนา
นี่เนื้อเคราะห์ เพราะหลง ด้วยมาลา พระธิดา รู้เรื่อง จะเคืองครัน ฯ
เจ้าพราหมณ์ว่า น่าแสน สงสารน้อง ถ้าแม้นต้อง โทษพี่ จะทำขวัญ
เอ็นดูด้วย ช่วยกระเตื้อง ที่เรื่องนั้น ให้ถึงกัน เสียรู้แล้ว เถิดแก้วตา
ทั้งสามนาง ต่างว่า อย่าปรารภ จะให้สบ สมมาด ปรารถนา
น่ารำคาญ ป่านนี้ ศรีสุดา จะไปว่า อย่างไร ที่ในวัง
ค่อยอยู่เถิด ฉันจะลา ช้าไม่ได้ จะสงสัย ซ้ำร้าย เมื่อภายหลัง
แล้วลุกมา หาบ่าว พวกชาววัง ไม่รอรั้ง รีบไป จะให้ทัน ฯ
ฝ่ายเจ้าพราหมณ์ สามนาย สบายจิตต์ ผู้หญิงติด ต่างชวน กันสรวลสันต์
บ้างบ่นว่า ถ้าแม้น มิกีดกัน จะได้ฉัน หวานหวาน สำราญใจ
แล้วยิ้มพราย บ่ายหน้า มาหาน้อง เห็นห่มกรอง กริ่มจิตต์ พิสมัย
เข้าเคียงข้าง ต่างว่า ผ้าสะไบ ข้าจำได้ แน่นัก ประจักษ์ตา
นางชมโฉมยง ทรงห่ม มาชมสวน ยังหวนหวน หอมกรุ่น อุ่นหนักหนา
พลางหัวเราะ เยาะหยัน จำนรรจา ไหนสารา เล่าพ่อ จะขอชม ฯ
ศรีสุวรรณ กลั้นยิ้ม เยื้อนสนอง วันนี้น้อง ได้แต่ผ้า ออกมาห่ม
ส่วนพี่พราหมณ์ ตามติด ได้ชิดชม ต่อจะสม ปรารถนา จึงช้านาน
สำรวลพลาง ทางหยิบ กระดาษหนัง พี่จะฟัง หรือกลอน อักษรสาร
คำคารม สมทรง ของนงคราญ แล้วทรงอ่าน ให้สาม เจ้าพราหมณ์ฟัง
ศุภสาร ฉันสนอง ใบตองอ่อน ซึ่งวิงวอน ว่าไม่ขาด สวาทหวัง
ก็ขอบใจ ไมตรี ดีกว่าชัง ไม่ปิดบัง บอกวงศ์ พงศ์ประยูร
อันบุรี รัตนา มหาศวรรย์ สาระพัน โภไคย ทั้งไอสูรย์
แสนสมบัติ สัตรี บริบูรณ์ ย่อมเพิ่มพูน ผาสุก ทุกเวลา
ไฉนต้อง ท่องเที่ยว แสวงคู่ น่าอดสู เสียเดช พระเชษฐา
ซึ่งเสี่ยงทาย หมายมาด สวาทมา มิเมตตา ชีวัน จะบรรลัย
ทั้งรำพัน สรรเสริญ เห็นเกินนัก ถึงจะรัก ก็ไม่รัก จนตักษัย
ที่ข้อนั้น ครั้นจะเชื่อ ก็เหลือใจ เขาว่าไว้ หวานนัก ก็มักรา
ถ้ารักนัก มักหน่า ยคล้ายอิเหนา ต้องจากเยาว์ ยุพิน จินตะหรา
แม้นระองค์ ทรงเดช เจตนา จงตรึกตรา ตรองความ ตามบุราณ
เสด็จกลับ กรุงไกร ไอศวรรย์ จึงจัดสรร ทูตถือ หนังสือสาร
มาทูลองค์ ทรงศักดิ์ จักรวาฬ โปรดประทาน ก็จะได้ ดั่งใจจง
ซึ่งจะลอบ ชอบชิด พิสมัย เห็นจะไม่ เหมือนจิตต์ คิดประสงค์
ทูลแถลง แจ้งความ แต่ตามตรง พระโฉมยง อย่าได้อางขนางเอย ฯ
เจ้าพราหมณ์ ฟังนั่งชม ว่าคมสัน ดูเชิงชั้น ชูเชิด ไม่เปิดเผย

ยังมีต่อ

8ocdj
03-07-2012, 08:19 PM
เจ้าพราหมณ์ ฟังนั่งชม ว่าคมสัน ดูเชิงชั้น ชูเชิด ไม่เปิดเผย
พ่อคิดปลอบ ตอบความ นางทรามเชย ให้หลงเลย ลอยฟ้า ลงมามือ ฯ
พระยิ้มพลาง ทางถาม ทั้งสามพี่ รักเต่าร้าง อย่างนี้ ห่อหนังสือ
ฉันแคลงจิตต์ ปฤศนา ช่วยหารือ จะรักหรือ ว่าจะร้าง เป็นอย่างไร ฯ
เจ้าโมรา ว่าพ่อ ให้ดอกรัก นางนงลักษณ์ ตอบความ ตามสงไสย
ว่าสมรัก แล้วจะร้าง ให้ห่างไป พ่อแก้ไข คิดปลอบ ให้ชอบที ฯ
หน่อกษัตริย์ ตรัสว่า ปัญญาว่อง เห็นถูกต้อง ปฤศนา ปัญญาพี่
จะตอบความ ทรามวัย อย่างไรดี แกล้งเซ้าซี้ ซักถาม ทั้งสามชาย ฯ
ฝ่ายนารี ศรีสุดา มาถึงวัง ยังกำลัง ดาลเดือด ไม่เหือดหาย
เข้าในห้อง ตรองตรึก ให้นึกอาย โอ้อกกู ผู้ชาย ไม่ชอบใจ
เสียแรงแต่ง แป้งขมิ้น สิ้นสักพ้อม น้ำมันหอม น้ำมันดิบ สักสิบไห
ไหนจะสู้ ทนเจ็บ ให้เก็บไร ค่าตระไกร ของเขาถึง สลึงเฟื้อง
ผู้ชายไม่ ชอบตา ไม่น่าแต่ง เอาเครื่องแป้ง ทิ้งขว้าง เสียงปร่างเปรื่อง
ทุบตลับ เล็กน้อย ต่อยขวดเฟือง ให้แค้นเคือง สามพราหมณ์ กับสามนาง
มิคลึงเคล้า เล้าโลม อยู่แล้วหรือ สนุกมือ แล้วไม่มี ที่กีดขวาง
คิดจะใคร่ ไปฟ้อง ก็ต้องค้าง จะอำพราง ปิดงำ ไว้ทำไม
หุนโมโห โกรธา ทำหน้าเง้า เข้าไปเฝ้า พระธิดา อัชฌาสัย
นางกษัตริย์ ตรัสถาม เป็นความใน เป็นกระไร เร็วมา กว่าทุกวัน
พี่ประภา จงกล อุบลเล่า เชือนไปไหน ไม่เข้า มาหาฉัน
ศรีสุดา ว่าสาม นางงามนั้น ยังผูกพัน อยู่กับพราหมณ์ ทั้งสามนาย
แต่คอยท่า กว่าสาม หม้อข้าวสุก ไปเที่ยวซุก ซ่อนเร้น ไม่เห็นหาย
ครั้นตามเตือน กลับว่า ให้น่าอาย ช่างทำขาย บาทา ฝ่าธุลี ฯ
นางโฉมยง ทรงฟัง ให้คั่งแค้น จึงว่าแสน สารพัด จะบัดสี
ถ้าว่าเป็น อย่างนั้น แล้ววันนี้ ให้ฟ้าผี่ เถิดสินะ ไม่ละกัน
แล้วซักไซ้ ศรีสุดา ว่าให้แน่ หรือเป็นแต่ พูดเล่น พอเห็นขัน
ถ้าจริงจัง ดังว่า สาระพัน อย่ากลับคืน ยืนยัน ให้มั่นคง ฯ
ศรีสุดา ว่าฉัน ไม่กลอกกลับ ประภากับ โมรา ต้นกาหลง
อุบลกับ สานน ต้นประยงค์ วิเชียรจงกลซุ่ม พุ่มแกแล
เจ้าผู้ชาย เคียงข้าง นางผู้หญิง ทำอ้อยอิ่ง อ่อนคอ ประจ๋อประแจ๋
จนโอ้โลม แล้วเป็นไร จะไม่แท้ ถ้าพูดแก้ แล้วจะใส่ เสียให้เยิน ฯ
พระบุตรี เห็นจริง ทุกสิ่งสิ้น ยิ่งขุ่นขิ้น คิดอาย ระคายเขิน
จะหาญหัก นักเล่า เขาคนเดิน นางนิ่งเมิน พักตรา ไม่พาที ฯ
ฝ่ายสามนาง กัลยา มาถึงวัง ตรงขึ้นยัง ปรางค์มาศ ปราสาทศรี
เข้าเฝ้าองค์ นงนุช พระบุตรี เห็นเทวี ค้อนเคือง ชำเลืองแล
ก็รู้แน่ ว่าเขาฟ้อง จะต้องถาม แกล้งยกความ ศรีสุวรรณ ประกันแก้
พ่อพราหมณ์น้อย น่าชัง ทำรังแก จะมาแต่ ไหนไหน มิให้มา
เฝ้าซักไซ้ ไต่ถาม ไม่รู้จบ ประเดี๋ยวรบ ให้ช่วยทูล วุ่นนักหนา
แล้วเที่ยวเด็ด ดอกระกำ กับจำปา ถวายมา ตามจน คนเข็ญใจ ฯ
พระบุตรี ฟังความ เจ้าพราหมณ์น้อย ให้ละห้อย หวนคิด พิสมัย
ที่กริ้วโกรธ กลับลืม ด้วยปลื้มใจ ยิ้มละไม ในหน้า แล้วพาที
ฉันกินน้ำ สำลัก ถึงสามหน เพราะมีคน นินทา น่าบัดสี
ไม่รู้แล้ว เลยเฝ้า แต่เซ้าซี้ เธอสั่งพี่ เข้ามา ว่ากระไร ฯ
ทั้งสามนาง ต่างตอบ ให้ชอบชื่น เธอว่าคืน นี้นอน ไม่หลับไหล
คิดคะนึง ถึงสร้อย สุมาลัย ทำไฉน จะได้เฝ้า เยาวมาลย์
แล้วก็ว่า ถ้าแม้น มิโปรดช่วย จะมอดม้วย มรณา น่าสงสาร
แม้นมาได้ ก็จะมา พยาบาล ช่วยอยู่งาน นวดฟั้น ให้บรรทม
ทั้งรำพรรณ สรรเสริญ ว่ารูปโฉม งามประโลม ควรถนอม เป็นจอมสนม
ทั้งสามนาง ต่างคิด ประดิษฐ์ประดม ด้วยเล่ห์ลม ลวงล่อ ให้พอคลาย ฯ
ศรีสุดา นั่งอยู่นั้น กลั้นไม่ได้ เขาร่ำไร เรื่องพราหมณ์ จนความหาย
นางโฉมยง หลงเชื่อ เบื่อจะตาย ให้วุ่นวาย ว่านี่แน่ อย่าแปรปรวน
เจ้าพราหมณ์น้อย อ่อนห้าม หรือพราหมณ์ใหญ่ เขาเคียงไหล่ โลมนาง อยู่กลางสวน
ทำเกลียวกลม สมยอม ซ้อมสำนวน มาก่อกวน เกาแก้ ที่แผลคัน
สมคะเน เล่ห์กล แม่คนโปรด ถึงกริ้วโกรธ กลับหยุด สุดขยัน
สามพี่เลี้ยง เถียงทุ่ม ช่วยรุมกัน เออกระนั้น ฉันแล ช่างแก้ตัว
จะมีชู้ ผู้ชาย เขาไม่เกี้ยว จึงโกรธเกรี้ยว โกรธา เป็นบ้าผัว
แม่คนดี ศรีผ่อง ไม่หมองมัว ข้าคนชั่ว ช่างข้า อย่าว่าเลย ฯ
ศรีสุดา เดือดใจ ดังไฟสุม ชะช่างรุม กันแก้ อุแม่เอ๋ย
ข้ารูปชั่ว จึงผู้ชาย ไม่หมายเชย อย่าเปรียบเปรย เลยเจ้า ข้าเข้าใจ
เจ้ารูปงาม สามนาง สำอางโฉม จะโอ้โลม เล่นประชัน กันก็ได้
ล้วนร่วมรัก ร่วมรู้ คู่ฤทัย ไม่ถึงใจ ก็เห็นเจียน จะเปลี่ยนตัว ฯ
พระบุตรี กริ้วกราด ตวาดว่า นี่ใครหา มาให้พี่ ตีหมากผัว
เฝ้าหวงหึง อึงไป ช่างไม่กลัว ไม่มีชั่ว ตัวดี ทั้งสี่คน
อย่าทะเลาะ กันที่นี่ ให้มี่ฉาว ไปว่ากล่าว ถากถาง กันกลางถนน
เหมือนไก่เห็น ตีนงู เขารู้กล มาพลอยปน แปดข้า น่ารำคาญ ฯ
ทั้งสามนาง ต่างคน เห็นกริ้วโกรธ ทูลขอโทษ โทษา ไม่ว่าขาน
ศรีสุดา ยังไม่เหือด ที่เดือดดาล ต้องรุกราน ร้องไห้ ฟายน้ำตา
จะพูดจริง เป็นเท็จ เข็ดแล้วแม่ เถิดตั้งแต่ นี้ไป ฉันไม่ว่า
ถึงใครใคร จะทำ ให้ตำตา ไม่พูดจา ให้ทราบ หลาบจนตาย
แล้วแหวกม่าน คลานออก มานอกฉาก ยังคันปาก ยิบอยู่ ไม่รู้หาย
เข้าในห้อง หมองใจ ไม่สบาย เอามือก่าย พักตรนอน สะท้อนทุกข์
คิดถึงพราหมณ์ สานาย ที่หมายมาด มาแคล้วคลาด คลั่งใจ ไม่เป็นสุข
ให้หนาวหนาว ร้อนร้อน นอนแล้วลุก ประเดี๋ยวจุก ประเดี๋ยวจับ ไม่หลับเลย ฯ
ฝ่ายพระนุช บุตรี ศรีสวัสดิ์ โทมนัส นึกนิ่ง พิงเขนย
สงสารพราหมณ์ ความค้าง จะห่างเชย โอ้อกเอ๋ย อาภัพ อัประมาณ
ให้คิดแค้น เคืองสี่ นางพี่เลี้ยง มาทุ่มเถียง ทำฉาว ให้ร้าวฉาน
จะได้ใคร ไปแทน แสนสำราญ เยาวมาลย์ ไม่สบาย มาหลายวัน ฯ

จบตอนที่ 5 ติดตามตอนที่ 6 ศรีสุวรรณรบท้าวอุเทน