PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : โรคติดต่อ ที่ไม่อยากรักษาให้หาย



oubasika
09-12-2012, 12:23 PM
การยิ้ม



http://www.watkoh.com/board/attachment.php?attachmentid=64&d=1347426903

1.ยิ้มของท่านสามารถนำความสุขสู่หัวใจของผู้อื่น
การยิ้มเป็นการให้ที่ดีที่สุด จากการวิจัยพบว่า
บางครั้งมนุษย์ต้องการความสุข
ความร่าเริงมากกว่าความปรารถนาต่อการกินและการดื่ม
และความสุขนั้นสามารถบำบัดรักษา
โรคที่รุมเร้าหัใจได้เป็นอย่างดี

2.ด้วยกับการยิ้ม ท่านสามารถเข้าถึง
และรับรู้ผู้อื่นอย่างง่ายดาย
จะเห็นได้ว่า คำพูดที่หนักหน่วง
บางครั้งคนเรายากนักที่จะรับมันได้
แต่ถ้าหากคำพูดนั้นได้พูดออกไป
พร้อมกับรอยยิ้มแล้ว
รอยยิ้มเปรียบเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูด
เบี่ยงเบนความสนใจของคนฟัง
และสามารถลบเลือนความหนักหน่วงของคำพูดนั้นได้
และทำให้เกิดความอ่อนโยนโดยปริยาย

3.ด้วยกับรอยยิ้มที่พิมพ์ใจ
รอยยิ้มที่งดงาม รอยยิ้มที่จริงใจ
สามารถลดสภาวะความตึงเครียดที่กำลังประสบอยู่
สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถที่จะแลกได้ด้วยเงิน
สามารถบ่งชี้ได้ว่า การยิ้มสำคัญกว่าอำนาจเงินตรา
และด้วยเหตุนี้ อย่างน้อยๆ
ที่ท่านสามารถให้ทานกับผู้อื่นได้โดยการยิ้มให้กัน

4.การยิ้มและการรักษาโรค
โปรดทราบว่าแพทย์จำนวนมาก
จะยิ้มบ่อยๆกับคนไข้
เพราะการยิ้มคือยารักษาโรคชนิดหนึ่ง
เพราะฉะนั้นแล้ว
เมื่อท่านยิ้มให้กับเพื่อนๆของท่าน ​
สามีของท่าน ภรรยาของท่าน
หรือใครก็แล้วแต่ที่อยู่รอบๆตัวท่าน
นั่นก็คือ
ท่านได้หยิบยื่นยาให้กับพวกเขาเหล่านั้น
โดยที่ท่านและเขาไม่รู้ตัวเลย
ด้วยสาเหตุทั้งเหล่าทั้งปวง
แท้ที่จริงแล้วนั้น การยิ้มนั้น
เป็นแขนงหนึ่งของการให้ที่ประเสริฐ
เป็นการซอดาเกาะฮ์ (ให้ทาน)ที่กระทำได้ง่าย
และเป็นความมีเกียรติอย่างไม่ต้องสงสัย
มาถึงตรงนี้แล้ว ท่านเข้าใจหรือยังว่า
ทำไมที่ท่านศาสดามุฮัมหมัด ศล.ถึงได้กล่าวว่า
(وتبسمك في وجه أخيك صدقة)
ความว่า การที่ท่านส่งยิ้มให้พี่น้องของท่านนั้น เป็นการให้ทานอย่างหนึ่ง

http://ar-mie2.webs.com/photos/D-day-C/d77.gif

oubasika
09-12-2012, 03:08 PM
ศ.นพ.ดร.วิจิตร บุณยะโหตระ


ได้มีจิตแพทย์จำแนกการยิ้มได้เป็น 3 แบบ คือ ยิ้มจริงใจ ยิ้มเสแสร้ง ยิ้มเศร้า

1. ยิ้มจริงใจ คือ ยิ้มที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกที่ดีงาม ยิ้มจริงใจเป็นการแสดงความรู้สึกทางด้านบวกอย่างแท้จริงจะปรากฎขึ้น หลังจากได้รับรู้สภาวะของอารมณ์ซึ่งรวมทั้งความยินดีจากสิ่งกระตุ้น ทางตา หู จมูก ลิ้น การสัมผัส อย่างรักใคร่ก็สามารถเรียกรอยยิ้ม อย่างจริงใจออกมาได้ รอยยิ้มอย่างจริงใจนี้สามารถเกิดขึ้นได้ เมื่อหายจากเจ็บปวดจากแรงกดดันที่อึดอัดได้เหมือนกัน

ยิ้มอย่างจริงใจนี้ นอกจากจะใช้กล้ามเนื้อยิ้มตามปกติคือ กล้ามเนื้อขากรรไกรแล้ว ยังใช้กล้ามเนื้อรอบดวงตาอีกด้วย ผลของการยิ้มจริงใจทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมน "ความสุข" (เอนเดอร์ฟิน) ออกมา ซึ่งฮอร์โมนนี้จะไปออกฤทธิ์ทำให้ม่านตาขยายตัว และตามีประกายของความสุขที่เราเรียกว่า "ตายิ้ม" ซึ่งตานี้เองจะแสดงออกถึงความรัก ความเป็นมิตรและความอบอุ่น

2. ยิ้มเสแสร้ง ก็คือรอยยิ้มที่ประดิษฐ์ขึ้น โดยเจตนาจะทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดทำให้ผู้อื่นคิดว่า เรารู้สึกว่าอย่างนั้นจริงๆ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ ยิ้มเสแสร้ง คือ การเจตนาที่จะพยายามกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกในด้านดี ยิ้มเสแสร้งจะปรากฏบนใบหน้านานกว่ายิ้มจริงใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคจิตหลายคนเห็นว่า การหัวเราะเป็นตัวการที่จะปลดปล่อยความตึงเครียด หรือความตื่นเต้นที่มีมากจนเกินไป การหัวเราะช่วยปรับความสมดุล ให้อยู่ในสภาวะปกติ แม้ว่าจริงๆ แล้วมันอาจจะไม่ตลกเลยก็ตาม เหตุผลที่เราชอบหัวเราะอีกอย่างหนึ่งก็เพราะ เวลาหัวเราะเราต้องยิ้มก่อนและใบหน้าที่มีรอยยิ้ม ย่อมน่าดูกว่าใบหน้าบึ้งตึงดุร้าย การหัวเราะจึงเป็นอีกขั้นหนึ่ง ของการยิ้มนั่นเอง คุณสามารถยิ้มไปโดยไม่ต้องหัวเราะ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะหัวเราะโดยไม่ยิ้ม

คนที่สามารถยิ้มและหัวเราะอย่างจริงใจก็เหมือนกับกำลังพูดว่า "ฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรนะ ฉันเป็นมิตรนะ ฉันอยู่ข้างเธอนะ" คนที่สามารถยิ้มและหัวเราะในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายจริงๆ นั้นก็คือ คนที่เป็นอัจฉริยะโดยแท้ เพราะเท่ากับเขากำลังพูดว่า "ฉันไม่กลัวหรอก"

3. ยิ้มเศร้า มนุษย์เราเป็นทุกข์เพราะเราทำตัวเองเป็นทุกข์ และเรายังทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์อีกด้วย คนที่หัวเราะมากๆ จะมีชีวิตยืนนาน คนที่มีความสุขจะมีอายุยืนกว่าคนที่อมทุกข์ การที่จะให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ จำเป็นจะต้องมีการแบ่งปัน คนที่รู้จักหัวเราะ ก็คือ คนที่รู้จักแบ่งปันนั่นเอง

"ดร.อาหาร ดร.เงียบ และ ดร.รื่นเริง" เป็นผู้เชี่ยวชาญยารักษาที่ดีที่สุดในโลก การรักษาเยียวยานั้น ต้องมาจากภายในและเรานั่นเองและที่จะมีอำนาจรักษาตัวเองได้ การหัวเราะมักจะเกิดพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ไปในทางที่ดีที่ใครๆ ก็เห็นได้ชัด เช่น นัยน์ตาเป็นประกาย บุคลิกสดใส การร้องไห้จึงนับว่าเป็นการบำบัดอย่างหนึ่ง ช่วยลบล้างความทุกข์หรือเกิดจากทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ จะมีส่วนผสมทางเคมีแตกต่างจากน้ำตาที่เกิดจากผงเข้าตา น้ำตาที่เกิดจากอารมณ์ภายในจะมีสารช่วยลดความเจ็บปวดอยู่ด้วย ซึ่งจะผลิตออกมาในปริมาณมากเป็นพิเศษ เพื่อช่วยให้เราเอาชนะความเจ็บปวดและความโศกเศร้าได้ คนที่พยายามยิ้มและหัวเราะอยู่เสมอ แม้จะรู้สึกเป็นทุกข์อยู่ภายใน ก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์เป็นไปในทางดีได้ จะมีความสุขขึ้นทั้งสมองและจิตใจ



http://i821.photobucket.com/albums/zz133/yamiejung32/day%20a1/hh103.gif