PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : เรื่อง ถุงมันฝรั่ง



oubasika
11-29-2012, 04:31 PM
นิทานธรรม เรื่อง ถุงมันฝรั่ง

ว่าด้วยการให้อภัย

https://encrypted-tbn3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRWzYkmPuARlmXuOLxy85ZsihVPWzqeFHxqlQ4aHcn6rarOCzpdlg



ครูคนหนึ่ง...

...สั่ง ให้นักเรียนทุกคนนำ ถุงพลาสติกใส และมันฝรั่งมาที่โรงเรียน และให้แต่ละคนเขียนชื่อของคนที่เคยทำให้นักเรียนโกรธ และ ไม่ยอมให้อภัยบนหัวมันฝรั่งหัวละชื่อแล้ว ใส่มันฝรั่งที่มีชื่อลงไปในถุงพลาสติกใบนั้น

http://www.pendulumthai.com/pic_potatobag.jpg

ถุงพลาสติกของบางคนหนักอึ้ง !

แล้วครูก็ให้ทุกคนหิ้วถุงนี้ไปทุก ๆ แห่งเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ไม่ว่าจะกินจะนอน ก็ต้องเอาถุงวางไว้ใกล้ตัวเสมอ
เวลา ผ่านไปไม่กี่วัน การแบกถุงมันฝรั่งก็เริ่มเป็นภาระหนักสำหรับนักเรียน บางครั้งพวกเขาต้องเฝ้าคอยเอาใจใส่เพื่อที่จะไม่ลืมทิ้งมันไว้ตามที่ต่างๆ ในที่สุด มันฝรั่งก็เน่าและเริ่มส่งกลิ่นเหม็น
ถ้า ถุงมันฝรั่งนี้เป็นความหนักในการที่ เราคอยเก็บรักษาความโกรธแค้นเอาไว้ ลองคิดดูว่าเราต้องสูญเสียอะไรเพื่อรักษาความเจ็บปวดนี้ไว้ในหัวใจ

เราอาจจะคิดว่า เราเป็นผู้ให้เมื่อเราอภัยให้ผู้อื่น แต่จริงๆแล้ว มันเป็นของขวัญสำหรับตัวเราเองต่างหาก
***************************************************************************************

การให้อภัย ไม่ได้หมายถึงการบอกว่า “ที่เธอทำร้ายฉันน่ะ ไม่เป็นไรหรอก” แต่หมายถึงการที่เราปล่อยวางความเจ็บปวดเพื่อประโยชน์ของตัวเราเอง

http://www.pendulumthai.com/pic_rage.pngถ้าคุณเก็บความโกรธไว้ แล้วคิดว่าชีวิตของคุณมีความสุข ก็เก็บไว้เถิด
แต่ ความโกรธมีผลเหมือนมีลูกศรเสียดแทงจิตใจ นั่งก็ทุกข์ นอนก็ทุกข์ ทำให้บุญบารมี โชคลาภ วาสนา ที่เคยสั่งสมมาสูญหายไปในพริบตา เพราะขณะที่เราโกรธ ตัวเราจะขาดสติสูญเสียบุคลิกภาพ ขาดยางอาย ถ้อยคำก็ไม่มีคารวะ หากถึงขั้นรุนแรงก็มีการทำร้ายร่างกาย ยิ่งเป็นการสร้างเวรสร้างกรรมขึ้นอีก

http://www.pendulumthai.com/pic_quarrel.jpgนอก จากนั้น ร่างกายจะปล่อยสารทำลายเนื้อเยื่อ และ ระบบภูมิคุ้มกันทำให้สุขภาพเสื่อมโทรมได้ง่าย การโมโหจนเป็นนิสัยจะเป็นการเติมเชื้อโทสะที่มีอยู่ในจิตใจให้มีกำลังรุนแรง กิริยาจะก้าวร้าว ลูกหลานและคนรอบข้างก็จะติดนิสัยไปด้วย
พระ ธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส และอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬา ฯ เคยกล่าวคำกลอนน่าฟังถึงโทษของความโกรธว่า
http://www.pendulumthai.com/pic_tumgosajarn.jpg



ถึงยามโกรธโปรดส่องมองกระจก ดูจิตตก อกเต้น เมื่อเห็นหน้า
ซึ่งปั้นยาก ปากจมูก และลูกตา ดังยักษา ราศี ไม่มีเอย



ความ โกรธเป็นตัวตัดรากความประพฤติดีทั้งหลาย ที่เราพยายามตั้งใจรักษา และทำร้ายทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคมรอบข้าง แต่เรามักกลับไปพะเน้าพะนอความโกรธนั้นไว้เหมือนกำหนามในมือไม่ยอมปล่อย
การให้อภัยแม้แต่ให้กับคนเลวที่เราหาความดีไม่เจอ ก็ยังเป็นประโยชน์
หลวงพ่ออลงกต ตกฺขปญฺโญ แห่งวัดพระบาทน้ำพุ เคยกล่าวว่า
“หลวง พ่อถือว่า ถ้าคนเลวกลายเป็นคนดีขึ้นมาได้ โลกมันก็จะดีขึ้นตามไปด้วย แต่ถ้าทุกคนไม่ให้โอกาส มิหนำซ้ำยังไปทับถมเขาอีก ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ถามว่าใครอยากจะกลับตัวเป็นคนดี”
แล้วเราจะให้อภัยผู้อื่นได้อย่างไร คำตอบก็คือ
ถ้าคุณไม่เคยกล่าวโทษใคร คุณก็ไม่จำเป็นต้องให้อภัยเขา

เหมือนเช่น แม่ชีเทเรซ่าเคยกล่าวไว้ว่า

http://www.pendulumthai.com/pic_theresa.jpg

“If you judge people, you have no time to love them”


“ถ้าคุณมัวแต่คอยพิพากษาคนอื่น คุณก็จะไม่มีเวลารักพวกเขา”


ความโกรธนั้นหากเก็บไว้นานด้วยความเจ้าคิดเจ้าแค้น อาจทำให้จิตวิปลาสไปได้

ดัง เช่นเรื่องจริงของชาวไทยเชื้อสายจีนคน หนึ่ง ซึ่งถือศีลกินเจไหว้เจ้าเป็นประจำ จนอยู่มาวันหนึ่งไฟไหม้บ้านทั้งหลัง เหลือแต่ศาลเจ้าที่ชาวจีนนิยมวางไว้ที่พื้นบ้าน

ด้วยความโกรธ ชายผู้นี้จึงยกศาลเจ้าทุ่มลงพื้นแล้วพูดว่า

“ต่อไปนี้กูจะไม่ไหว้มึงอีกต่อไป เสือกเอาตัวรอดคนเดียว”

หลังจากนั้นชีวิตของเขาก็เหมือนขาดที่พึ่ง

สุดท้ายคิดมากจนวิปลาส เพื่อนๆต้องพามาหาหลวงพ่อเทียน หลังจากนำข้อปฏิบัติของหลวงพ่อเทียนไปฝึก

คืนหนึ่งเขาฝันถึงศาลเจ้า ในฝันเขาได้สำนึกและยกมือไหว้ขอขมา

เทพในศาลออกมาพูดว่า

“อโหสิกรรม แล้ว เราไม่เคยโกรธเจ้าเลย อย่ากังวล จงหมั่นปฏิบัติต่อไปเถิด กรรมของเจ้าที่เป็นมาแต่อดีตก็หมดแล้ว ต่อไปชีวิตจะเจริญรุ่งเรือง”


หลังจากนั้นเขาก็หายจากโรคกรรม ใช้ชีวิตอย่างปกติสุข และ มีฐานะร่ำรวยเป็นเจ้าของโรงงานทำที่นอนในไต้หวัน

นี่เป็นเรื่องของผลของความโกรธ และ ผลของการให้อภัยซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำในสังคมที่พบเห็นได้ตามหน้าหนังสือพิมพ์ทุก ๆ วัน