PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : พระติสสเมตเตยยเถระ



DAO
11-12-2008, 10:10 AM
พระติสสเมตเตยยเถระ


ชาติภูมิ
ท่านพระติสสเมตเตยยะ เป็นบุตรพราหมณ์ ในกรุงสาวัตถี เดิมชื่อว่า ติสสะ มีนามโดยโคตรว่า เมตเตยยะ รวมเป็นนามเดียวว่า ติสสเมตเตยยะ เมื่อมีอายุควรแก่เล่าเรียนแล้ว ได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์เล่าเรียนศิลปวิทยา ในสำนักของพราหมณ์พาวรี ผู้เป็นปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิโกศล ครั้นพราหมณ์พาวรีมีความเบื่อหน่ายในฆราวาสวิสัย จึงได้กราบทูลลาออกจากตำแหน่งปุโรหิต ออกบวชเป็นชฎิล ประพฤติพรตตามลัทธิของพราหมณ์ ตั้งอาศรมอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำโคธาวารี ที่พรมแดนแห่งเมืองอัสสกะ และ เมืองอาฬกะต่อกัน เป็นอาจารย์ใหญ่บอกไตรเพทแก่หมู่ศิษย์ ติสสเมตเตยยมาณพพร้อมกับมาณพอื่น ได้ติดตามออกบวชด้วย และศึกษาศิลปวิทยาอยู่ในสำนักของพราหมณ์พาวรีนั้น ครั้นต่อมาพราหมณ์พาวรีได้ทราบข่าวว่า พระโอรสของพระเจ้าศักยะ เสด็จออกทรงผนวชปฏิญาณพระองค์ว่าเป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ แสดงธรรมสั่งสอนประชาชน มีคนนับถือและเลื่อมใสยอมตนเป็นสาวก ปฏิบัติตามคำสั่งสอนเป็นจำนวนมาก พราหมณ์พาวรีประสงค์จะสืบสวนให้ได้ความจริง จึงเรียกมาณพผู้เป็นศิษย์สิบหกคน มีอชิตมาณพเป็นหัวหน้า ผูกปัญหาให้คนละหมวด ๆ ให้ไปทูลถามลองดู มาณพทั้งสิบหกคนลาอาจารย์ แล้วไปเฝ้าพระศาสดาที่ปาสาณเจดีย์ แคว้นมคธ ทูลขอโอกาสถามปัญหาคนละหมวด ๆ



ทูลถามปัญหา ๑ ข้อ

ครั้นพระบรมศาสดาทรงอนุญาตแล้ว อชิตมาณพทูลถามปัญหาเป็นคนแรก ๔ ข้อ เมื่อจบการพยากรณ์ปัญหาอชิตมาณพแล้ว ติสสเมตเตยยมาณพ จึงทูลถามปัญหาเป็นคนที่สองว่า



ใครชื่อว่าเป็นคนสันโดษ คือ มีความประสงค์เต็มบริบูรณ์ในโลกนี้ ใครไม่มีความอยากซึ่งเป็นเหตุดิ้นรนทะเยอทะยาน ใครรู้ส่วนข้างปลายทั้งสอง (คือ อดีต กับ อนาคต) ด้วยปัญญาแล้ว ไม่ติดอยู่ในส่วนท่ามกลาง (คือ ปัจจุบัน) พระองค์ตรัสว่าใครเป็นมหาบุรุษ ใครล่วงความตายอันผูกใจสัตว์ไว้ในโลกนี้ ดุจด้ายเป็นเครื่องเย็บให้ติดกันไปได้?



พระบรมศาสดาทรงพยากรณ์ว่า ภิกษุผู้ประพฤติพรหมจรรย์สำรวมในกามทั้งหลาย ปราศจากความอยากแล้ว มีสติระลึกได้ทุกเมื่อพิจารณาเห็นโดยชอบ ดับเครื่องร้อนกระวนกระวายเสียได้แล้ว ชื่อว่าเป็นผู้สันโดษ คือ มีความประสงค์เต็มบริบูรณ์ในโลกนี้ ความอยาก ซึ่งเป็นเหตุดิ้นรนทะเยอทะยานของภิกษุนั้นไม่มี ภิกษุนั้นแล รู้ส่วนข้างปลายทั้งสองด้วยปัญญาแล้ว ไม่ติดอยู่ในส่วนท่ามกลาง เรากล่าวว่าภิกษุนั้นแหละเป็นมหาบุรุษ ภิกษุนั้นแล ล่วงความอยากอันผูกในสัตว์ไว้ในโลกนี้ ดุจด้ายเป็นเครื่องเย็บผ้าให้ติดกันไว้ได้ฯ



ในที่สุดแห่งการพยากรณ์ปัญหา ติสสเมตเตยยมาณพ ได้สำเร็จพระอรหัตผล (ก่อนอุปสมบท) เมื่อมาณพที่เหลือทูลถามปัญหาของตน ๆ และพระบรมศาสดาทรงพยากรณ์แล้ว ติสสเมตเตยยมาณพพร้อมมาณพเหล่านั้น ทูลขออุปสมบทในพระธรรมวินัย พระองค์ก็ทรงอนุญาตให้เป็นภิกษุด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา เมื่อท่านดำรงชนมายุสังขารอยู่โดยสมควรแก่กาลแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพานฯ




ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.geocities.com/piyainta/ab19.htm