PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : พระปุณณกเถระ



DAO
11-12-2008, 10:11 AM
พระปุณณกเถระ

ชาติภูมิ
ท่านพระปุณณกะ เป็นบุตรพราหมณ์ ในพระนครสาวัตถี เมื่อเจริญวัยแล้ว ได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาเล่าเรียนศิลปวิทยาในสำนักของพราหมณ์พาวรี ผู้เป็นปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิโกศลฯ ครั้นต่อมา พราหมณ์พาวรีมีความเบื่อหน่ายในฆราวาสวิสัย จึงได้ทูลลาออกจากหน้าที่ปุโรหิต ออกบวชเป็นชฎิล ประพฤติพรตตามลัทธิของพราหมณ์ ตั้งอาศรมอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำโคธาวารี ที่พรมแดนแห่งเมืองอัสสกะและเมืองอาฬกะต่อกัน ปุณณกมาณพออกบวชติดตามไปศึกษาศิลปวิทยาอยู่ด้วย และอยู่ในศิษย์ ๑๖ คน ที่พราหมณ์พาวรีได้ผูกปัญหาให้ไปทูลถามพระบรมศาสดา ที่ปาสาณเจดีย์ แคว้นมคธฯ



ทูลถามปัญหา ๓ ข้อ

ท่านได้ทูลถามปัญหาเป็นคนที่สามว่า



บัดนี้ มีปัญหามาถึงพระองค์ ผู้ที่หาความหวาดหวั่นมิได้ รู้เหตุที่เป็นรากเง่าของสิ่งทั้งปวง ข้าพระพุทธเจ้าขอทูลถาม หมู่มนุษย์ในโลกนี้คือ ฤาษี กษัตริย์ พราหมณ์ เป็นอันมาก อาศัยอะไรจึงบูชายัญบวงสรวงเทวดา ขอพระองค์จงตรัสบอกข้อความนี้แก่ข้าพระพุทธเจ้า



พระบรมศาสดาทรงพยากรณ์ว่า หมู่มนุษย์เหล่านั้น อยากได้ของที่ตนปรารถนา อาศัยที่มีชราทำให้แปรเปลี่ยน จึงบูชายัญบวงสรวงเทวดาฯ



ปุณณกเถระ

หมู่มนุษย์เหล่านั้น ถ้าไม่ประมาทในยัญของตน จะข้ามพ้นชาติชราได้บ้างหรือไม่?



พระพุทธเจ้า

หมู่มนุษย์เหล่านั้น มุ่งลาภที่ตนหวัง จึงพูดสรรเสริญการบูชายัญ รำพันสิ่งที่ตัวปรารถนา ก็เพราะอาศัยลาภ เรากล่าวว่า ผู้บูชายัญเหล่านั้นยังเป็นคนกำหนัดยินดีในภพ ไม่ข้ามพ้นชาติชราไปได้ฯ



ปุณณกเถระ

ถ้าผู้บูชายัญเหล่านั้น ข้ามพ้นชาติชราเพราะยัญของตนไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ใครเล่าในเทวโลก หรือมนุษย์โลก ข้ามพ้นชาติชรานั้นได้แล้วฯ



พระพุทธเจ้า

ความอยาก ซึ่งเป็นเหตุดิ้นรนทะเยอทะยานของผู้ใด ไม่มีอยู่ในทุก ๆ ชาติ เพราะได้พิจารณาเห็นธรรมที่ยิ่ง และ หย่อนในโลก เรากล่าวว่า ผู้นั้นซึ่งสงบระงับแล้ว ไม่มีทุจริต ความประพฤติชั่ว อันจะทำให้มัวหมอง ดุจควันไฟอันจับเป็นเขม่า ไม่มีกิเลสอันจะกระทบจิต หาความอยากทะเยอทะยานมิได้ ข้ามพ้นชาติชราไปได้แล้วฯ



ครั้นพระบรมศาสดาทรงแก้ปัญหา ที่ปุณณกมาณพทูลถามอย่างนี้แล้ว ในที่สุดแห่งการแก้ปัญหา ปุณณกมาณพ ได้สำเร็จพระอรหัตผล (ก่อนอุปสมบท) เมื่อพระศาสดาทรงพยากรณ์ปัญหาแห่งมาณพนอกนี้เสร็จสิ้นแล้ว ปุณณกมาณพพร้อมด้วยมาณพอีก ๑๕ คน ขออุปสมบทในพระธรรมวินัย พระองค์ทรงอนุญาตให้เป็นภิกษุ ด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา ท่านดำรงชนมายุสังขารอยู่โดยสมควรแก่กาลแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพานฯ..




ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.geocities.com/piyainta/ab20.htm