PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : พระเมตตคูเถระ



DAO
11-12-2008, 10:14 AM
พระเมตตคูเถระ


ชาติภูมิ
ท่านพระเมตตคู เป็นบุตรพราหมณ์ในนครสาวัตถี เมื่อเจริญวัยแล้ว ได้ไปมอบตัวยอมตนเป็นศิษย์พราหมณ์พาวรี ผู้เป็นปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิโกศล เพื่อศึกษาศิลปวิทยา ครั้นกาลต่อมาพราหมณ์พาวรี ออกบวชเป็นชฎิล ประพฤติพรตตามลัทธิของพราหมณ์ ตั้งอาศรมอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำโคธาวารี ที่พรมแดนแห่งเมืองอัสสกะและเมืองอาฬกะต่อกัน เมตตคูมาณพออกบวชติดตามไปศึกษาศิลปวิทยาอยู่ด้วย และนับเข้าเป็นมาณพ ๑๖ น ที่พราหมณ์พาวรี ได้ผูกปัญหาให้ไปทูลถามพระบรมศาสดา ที่ปาสาณเจดีย์ แคว้นมคธฯ



ทูลถามปัญหา ๔ ข้อ

เมตตคูมาณพทูลถามปัญหาเป็นคนที่สี่ว่า



ข้าพระพุทธเจ้าขอทูลถาม ทราบมาว่า พระองค์ถึงที่สุดจบไตรเพท มีจิตอันได้อบรมดีแล้ว ทุกข์ในโลกหลายประการล้วนมีเหตุมาแต่อะไร?



พระบรมศาสดาพยากรณ์ว่า ท่านถามเราถึงเหตุเกิดแห่งทุกข์ เราจะบอกแก่ท่านตามรู้เห็น ทุกข์ในโลกนี้มี อุปธิ คือกรรม และ กิเลส เป็นเหตุ ล้วนเกิดมาก่อนแต่อุปธิ ผู้ใดเป็นคนเขลา ไม่รู้แล้วกระทำอุปธินั้นให้เกิดขึ้น ผู้นั้นย่อมถึงทุกข์เนือง ๆ เหตุนั้น เมื่อรู้เหตุว่า อุปธิเป็นตัวให้เหตุเกิดแล้ว อย่ากระทำให้อุปธินั้นเกิดขึ้น



เมตตคูมาณพ

ข้าพระพุทธเจ้าทูลถามข้อใด ก็ทรงแก้ข้อนั้น ประทานแก่ข้าพระพุทธเจ้าแล้ว ข้าพระพุทธเจ้าขอถามข้ออื่นอีก ขอเชิญพระองค์ทรงแก้อย่างไร ผู้มีปัญญาจึงข้ามพ้นห้วงทะเลใหญ่ คือ ชาติชรา และ โศกพิไรรำพันได้ ขอพระองค์จงทรงแก้ข้อนั้นประทานแก่ข้าพระพุทธเจ้า เพราะว่าธรรมนั้นพระองค์ก็ทรงทราบแล้ว?



พระพุทธเจ้า

เราจักแสดงธรรมที่จะพึงเห็นแจ้งด้วยตนเอง อัตภาพนี้ไม่ต้องพิศวงตามคำของผู้อื่นว่า คือ อย่างนี้ๆ ที่บุคคลได้ทราบแล้วจะเป็นผู้มีสติ ดำเนินข้ามความอยากอันให้ติดอยู่ในโลกเสียได้ แก่ท่านฯ



เมตตคูมาณพ

ข้าพระพุทธเจ้ายินดีธรรมที่สูงสุดนั้นเป็นอย่างยิ่ง?



พระพุทธเจ้า

ท่านรู้อย่างใดอย่างหนึ่ง ในส่วนเบื้องบน (คือ อนาคต) ในส่วนเบื้องต่ำ (คือ อดีต) ในส่วนท่ามกลาง (คือ ปัจจุบัน) จงบรรเทาความเพลิดเพลิน ความยึดมั่นในส่วนเหล่านั้นเสีย วิญญาณของท่านจะไม่ตั้งอยู่ในภพ ภิกษุผู้มีธรรมเป็นเครื่องอยู่อย่างนี้ มีสติไม่เลินเล่อ ได้ทราบแล้ว ละความถือมั่น ว่าเป็นของเราเสียได้แล้ว จะละทุกข์ คือ ชาติชรา และโศกพิไรรำพันในโลกนี้ได้ฯ



เมตตคูมาณพ

ข้าพระพุทธเจ้า ชอบพระวาจาของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง ธรรมอันไม่มีอุปธิ พระองค์ทรงแสดงชอบแล้ว พระองค์คงละทุกข์ได้แน่แล้ว แม้ท่านผู้รู้ ที่พระองค์ทรงสั่งสอนอยู่เป็นนิตย์ไม่หยุดหย่อน คงละทุกข์นั้นได้ด้วยเป็นแน่ เหตุนั้น ข้าพระพุทธเจ้า จึงได้มาถวายบังคมพระองค์ ด้วยตั้งใจจะให้ทรงสั่งสอนข้าพระพุทธเจ้าเป็นนิตย์ไม่หยุดหย่อน เหมือนอย่างนั้นบ้าง?



พระพุทธเจ้า

ท่านรู้ว่าผู้ใดเป็นพราหมณ์ ถึงที่สุดจบไตรเพท ไม่มีกิเลสเครื่องกังวล ไม่ติดข้องอยู่ในกามภพ ผู้นั้นแลข้ามพ้นเหตุแห่งทุกข์ได้ ดุจห้วงทะเลอันใหญ่นี้ได้แน่แล้ว ครั้นข้ามถึงฝั่งแล้ว เป็นคนไม่มีกิเลสอันตรึงจิต สิ้นความสงสัย ผู้นั้นครั้นรู้แล้ว ถึงที่สุดจบไตรเพทในศาสนานี้ละธรรมที่เป็นเหตุติดข้องอยู่ในภพน้อยภพใหญ่เสียได้แล้ว เป็นคนมีความอยากสิ้นแล้วไม่มีกิเลสอันจะกระทบจิต หาความอยากทะเยอทะยานมิได้ เรากล่าวว่าผู้นั้นแลข้ามพ้นชาติชราได้แล้วฯ



ในที่สุดแห่งการแก้ปัญหา เมตตคูมาณพ ก็ได้สำเร็จพระอรหัตผล (ก่อนอุปสมบท) เมื่อจลโสฬสปัญหาพยากรณ์แล้ว เมตตคูมาณพพร้อมด้วยมาณพอีกสิบห้าคน ทูลขออุปสมบท พระองค์ก็ทรงอนุญาตให้เป็นภิกษุในพระธรรมวินัยด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา ท่านดำรงชนมายุสังขารอยู่โดยสมควรแก่กาลเวลาแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพานฯ



ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.geocities.com/piyainta/ab21.htm