DAO
11-12-2008, 12:04 PM
พระสุภูติเถระ
ชาติภูมิ
ท่านพระสุภูติ เป็นบุตรของสุมนเศรษฐี ในพระนครสาวัตถี เมื่ออนาถบิณฑิกมหาเศรษฐี ทำการฉลองพระเชตวันมหาวิหาร สุภูติกุฎุมพีได้ไปสู่พระมหาวิหารพร้อมกับท่านมหาเศรษฐี เมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระบรมศาสดาแล้วเกิดศรัทธาเลื่อมใส อยากจะอุปสมบทในพระธรรมวินัย จึงทูลขออุปสมบทในสำนักของสมเด็จพระบรมศาสดา ครั้นได้อุปสมบทเป็นภิกษุสมตามความปรารถนาแล้ว ก็ศึกษาเล่าเรียนพระวินัยปิฎกและพระอภิธรรมปิฎก จนชำนิชำนาญคล่องแคล่วแล้ว เรียนเอาพระกรรมฐานในสำนักของพระบรมศาสดาจารย์ ไปกระทำสมณธรรมเจริญวิปัสสนากรรมฐานอยู่ในป่า ไม่ช้าไม่นานก็ได้บรรลุพระอรหัตผลเป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา ท่านประกอบด้วยคุณสมบัติ ๒ ประการคือ อรณวิหาร ชำนาญด้วยโลกุตรธรรม สำราญอยู่ด้วยหากิเลสมิได้และเป็นทักขิไณยบุคคล ผู้ควรรับซึ่งทักษิณาทานฯ
เอตทัคคะ
ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงได้รับความยกย่องจากพระบรมศาสดาว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทางอรณวิหาร (คือเจริญฌานประกอบด้วยเมตตา) และทักขิไณยบุคคลฯ พระสุภูติเถระนั้น ดำรงเบญจขันธ์อยู่โดยสมควรแก่กาลแล้ว ก็ดับขันธ์ปรินิพพานฯ
ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.geocities.com/piyainta/ab52.htm
ชาติภูมิ
ท่านพระสุภูติ เป็นบุตรของสุมนเศรษฐี ในพระนครสาวัตถี เมื่ออนาถบิณฑิกมหาเศรษฐี ทำการฉลองพระเชตวันมหาวิหาร สุภูติกุฎุมพีได้ไปสู่พระมหาวิหารพร้อมกับท่านมหาเศรษฐี เมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระบรมศาสดาแล้วเกิดศรัทธาเลื่อมใส อยากจะอุปสมบทในพระธรรมวินัย จึงทูลขออุปสมบทในสำนักของสมเด็จพระบรมศาสดา ครั้นได้อุปสมบทเป็นภิกษุสมตามความปรารถนาแล้ว ก็ศึกษาเล่าเรียนพระวินัยปิฎกและพระอภิธรรมปิฎก จนชำนิชำนาญคล่องแคล่วแล้ว เรียนเอาพระกรรมฐานในสำนักของพระบรมศาสดาจารย์ ไปกระทำสมณธรรมเจริญวิปัสสนากรรมฐานอยู่ในป่า ไม่ช้าไม่นานก็ได้บรรลุพระอรหัตผลเป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา ท่านประกอบด้วยคุณสมบัติ ๒ ประการคือ อรณวิหาร ชำนาญด้วยโลกุตรธรรม สำราญอยู่ด้วยหากิเลสมิได้และเป็นทักขิไณยบุคคล ผู้ควรรับซึ่งทักษิณาทานฯ
เอตทัคคะ
ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงได้รับความยกย่องจากพระบรมศาสดาว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทางอรณวิหาร (คือเจริญฌานประกอบด้วยเมตตา) และทักขิไณยบุคคลฯ พระสุภูติเถระนั้น ดำรงเบญจขันธ์อยู่โดยสมควรแก่กาลแล้ว ก็ดับขันธ์ปรินิพพานฯ
ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.geocities.com/piyainta/ab52.htm