DAO
11-12-2008, 12:12 PM
พระโกณฑธานเถระ
ชาติภูมิ
ท่านพระโกณฑธานะ (ท่านธานะผู้ลามก ผู้ชั่วช้า) เกิดในตระกูลพราหมณ์ ในพระนครสาวัตถี ชื่อว่าธานมาณพ เมื่อเจริญวัยแล้ว ได้ศึกษาศิลปวิทยาของพราหมณ์จบไตรเพทฯ
เหตุการณ์หลังอุปสมบท
ภายหลังได้บรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา ตั้งแต่วันที่ได้อุปสมบท ปรากฏมีรูปหญิงรูปหนึ่ง เที่ยวติดตาม ไปข้างหลังของท่าน แต่ท่านไม่เห็นรูปนั้น เห็นแต่พวกมหาชนเท่านั้น ครั้นท่านเข้าไปบิณฑบาตในบ้าน พวกมนุษย์ได้ถวายภิกษาแก่ท่านสองส่วนแล้วพูดว่า นี้ส่วนของท่าน นี้ส่วนของหญิงสหายของท่าน ตั้งแต่นั้นมา พวกมนุษย์จึงพากันเรียกท่านว่า โกณฑธานะฯ ส่วนพวกภิกษุผู้ไม่ได้รู้ความจริงเห็นอาการเช่นนั้นเกิดความรังเกียจ กลัวว่าจะเกิดโทษแก่พวกตนด้วย จึงบอกให้อนาถบิณฑิกเศรษฐีขับไล่ออกเสียจากวิหาร อนาถบิณฑิกเศรษฐีก็ไม่ขับไล่ ขึงบอกแก่นางวิสาขามหาอุบาสิกา นางวิสาขาก็ไม่ขับไล่เหมือนกัน พวกภิกษุเหล่านั้นจึงถายพระพรทูลแด่พระเจ้าปเสนทิโกศล ให้พระองค์ขับไล่ออกเสียจากแว่นแคว้น พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จไปสู่พระวิหารด้วยพระองค์เอง ทรงพิสูจน์ได้ความจริงแล้ว ก็เกิดความเลื่อมใส รับสั่งให้เข้าไปบิณฑบาตในพระราชวังและบำรุงด้วยปัจจัยสี่ พวกภิกษุเห็นดังนั้นกลับซ้ำติเตียนว่าเป็นคนชั่วช้า ทั้งพระราชาทั้งพระโกณฑธานะ ท่านพระโกณฑธานะ โกรธกล่าวโต้ตอบเหมือนอย่างนั้นบ้าง ครั้นพระบรมศาสดาทรงทราบตรัสติเตียนแล้วทรงห้ามและทรงแสดงเรื่องรูปหญิงนั้น ให้พวกภิกษุทราบความตามเป็นจริง แล้วได้แสดงธรรมสั่งสอนด้วยคาถาสองพระคาถา ในเวลาจบเทศนา ท่านพระโกณฑธานะตั้งอยู่ในโอวาทที่พระบรมศาสดาตรัสสอน ก็ได้บรรลุพระอรหัตผลเป็นพระอเสขบุคคลในพระพุทธศาสนาฯ
เอตทัคคะ
ภายหลังพระบรมศาสดาทรงยกย่องท่านว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้จับสลากเป็นปฐม เมื่อท่านพระโกณฑธานะดำรงชนมายุสังขารอยู่โดยสมควรแก่กาลแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพานฯ
ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.geocities.com/piyainta/ab55.htm
ชาติภูมิ
ท่านพระโกณฑธานะ (ท่านธานะผู้ลามก ผู้ชั่วช้า) เกิดในตระกูลพราหมณ์ ในพระนครสาวัตถี ชื่อว่าธานมาณพ เมื่อเจริญวัยแล้ว ได้ศึกษาศิลปวิทยาของพราหมณ์จบไตรเพทฯ
เหตุการณ์หลังอุปสมบท
ภายหลังได้บรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา ตั้งแต่วันที่ได้อุปสมบท ปรากฏมีรูปหญิงรูปหนึ่ง เที่ยวติดตาม ไปข้างหลังของท่าน แต่ท่านไม่เห็นรูปนั้น เห็นแต่พวกมหาชนเท่านั้น ครั้นท่านเข้าไปบิณฑบาตในบ้าน พวกมนุษย์ได้ถวายภิกษาแก่ท่านสองส่วนแล้วพูดว่า นี้ส่วนของท่าน นี้ส่วนของหญิงสหายของท่าน ตั้งแต่นั้นมา พวกมนุษย์จึงพากันเรียกท่านว่า โกณฑธานะฯ ส่วนพวกภิกษุผู้ไม่ได้รู้ความจริงเห็นอาการเช่นนั้นเกิดความรังเกียจ กลัวว่าจะเกิดโทษแก่พวกตนด้วย จึงบอกให้อนาถบิณฑิกเศรษฐีขับไล่ออกเสียจากวิหาร อนาถบิณฑิกเศรษฐีก็ไม่ขับไล่ ขึงบอกแก่นางวิสาขามหาอุบาสิกา นางวิสาขาก็ไม่ขับไล่เหมือนกัน พวกภิกษุเหล่านั้นจึงถายพระพรทูลแด่พระเจ้าปเสนทิโกศล ให้พระองค์ขับไล่ออกเสียจากแว่นแคว้น พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จไปสู่พระวิหารด้วยพระองค์เอง ทรงพิสูจน์ได้ความจริงแล้ว ก็เกิดความเลื่อมใส รับสั่งให้เข้าไปบิณฑบาตในพระราชวังและบำรุงด้วยปัจจัยสี่ พวกภิกษุเห็นดังนั้นกลับซ้ำติเตียนว่าเป็นคนชั่วช้า ทั้งพระราชาทั้งพระโกณฑธานะ ท่านพระโกณฑธานะ โกรธกล่าวโต้ตอบเหมือนอย่างนั้นบ้าง ครั้นพระบรมศาสดาทรงทราบตรัสติเตียนแล้วทรงห้ามและทรงแสดงเรื่องรูปหญิงนั้น ให้พวกภิกษุทราบความตามเป็นจริง แล้วได้แสดงธรรมสั่งสอนด้วยคาถาสองพระคาถา ในเวลาจบเทศนา ท่านพระโกณฑธานะตั้งอยู่ในโอวาทที่พระบรมศาสดาตรัสสอน ก็ได้บรรลุพระอรหัตผลเป็นพระอเสขบุคคลในพระพุทธศาสนาฯ
เอตทัคคะ
ภายหลังพระบรมศาสดาทรงยกย่องท่านว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้จับสลากเป็นปฐม เมื่อท่านพระโกณฑธานะดำรงชนมายุสังขารอยู่โดยสมควรแก่กาลแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพานฯ
ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.geocities.com/piyainta/ab55.htm