สถานที่ปฏิบัติธรรม เกาะมหามงคล อยู่จังหวัดกาญจนบุรี

โพสต์ต้นฉบับโดยคุณ Butsaya

สวัสดีค่ะ

ก่อนไปปฏิบัติธรรมที่เกาะมหามงคล ควรมีการเตรียตัวเบื้องต้นดังนี้ค่ะ

1. กรุณาเตรียมบัตรประชาชนไปด้วยนะคะ
2. เตรียมเสื้อผ้าสำหรับไปปฏิบัติธรรม ให้เพียงพอกับระยะเวลาที่จะไปพักบำเพ็ญค่ะ
- ขาไปและขากลับต้องใส่ชุดขาว สุภาพไม่รัดรูป คอเสื้อต้องไม่กว้าง กรุณาอย่าใส่แขนกุดนะคะ
-ชุดปฏิบัติธรรมหากไม่มีขอแนะนำให้ไปซื้อหาที่นั่นเลยค่ะ เพราะราคาไม่แพง ตัดเย็บสุภาพเรียบร้อยทุกประการ
- สำหรับรองเท้าขอให้เป็นรองเท้าแตะ สวมใส่สบาย ทำเครื่องหมายไว้ด้วยก็ดี เพราะต้องถอดทุกครั้งที่เข้าศาลา จะได้หาง่ายค่ะ
- ปกติแล้วหน้าหนาวจะหนาวจัดทุกปี กรุณาเตรียมเสื้อกันหนาว และหมวกไหมพรมไปด้วยก็ดีนะคะ
3. เตรียมเครื่องนอนให้พร้อมค่ะ อาทิ หมอน ผ้าห่ม กลด มุ้ง สำหรับเสื่อไม่ต้องนำไปก็ได้เพราะมีบริการให้ค่ะ (ถ้าไม่มี กลด มุ้งก็ไม่เป็นไรค่ะ )
4. สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ มีอุบาสิกาเป็นผู้นำปฏิบัตินะคะ เราจะเรียกท่านว่า อุบาสิกา ไม่เรียกว่าแม่ชีค่ะ
5. ตลอดระยะเวลาปฏิบัติจะต้องรับ ศีล ๘ นะคะ การฝึกอบรมจะสลับการ เดิน จงกรม นั่งสมาธิ ฟังธรรม และบำเพ็ญประโยชน์เพื่อเป็นการฝึกตน เช่น กวาดใบไม้
6. อาหารที่นี่เป็นมังสวิรัติโดยคณะแม่ครัวของที่นี่จัดทำเองค่ะ

เกาะมหามงคลเป็นสถานที่ๆสวยงาม สงบ สัปปายะ และเหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมเป็ฯอย่างยิ่งค่ะ สำหรับน้อมเองก็มีความเคารพ และรักสถานที่นี้มาก เชื่อว่าเจ้าของกระทู้ไปปฏิบัติแล้วจะต้องไม่ผิดหวัง การเดินทางก็สะดวก (มีรถไฟ สาย ธนบุรี- น้ำตก ผ่านค่ะ ขาไปรอบ 7.45 น. ขากลับรอบ 05.30 และ 12.30 น)

หากมีข้อสงสัยกรุณาสอบถามเพิ่มเติมนะคะ ยินดีให้คำแนะนำ สุดท้ายนี้ขออนุโมทนาบุญกับท่านเจ้าของกระทู้ที่จะไปปฏิบัติธรรมด้วยค่ะ

มีรูปฟอร์มชุดที่ใส่สำหรับการอยู่ปฏิบัติที่นี่ด้วยนะคะ

อยากทราบระยะเวลาในการเข้าปฏิบัติธรรม ถ้าจะต้องการเข้าปัฏิบัติธรรมครั้งแรกต้องทำอย่างไรคะ

สวัสดีค่ะ คุณV. Varaporn ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ อิอิ...

อยากทราบระยะเวลาในการเข้าปฏิบัติธรรม ถ้าจะต้องการเข้าปัฏิบัติธรรมครั้งแรกต้องทำอย่างไรคะ

การไปปฏิบัติธรรมที่เกาะมหามงคลนั้น ประสงค์จะปฏิบัติกี่วันก็ได้นะค่ะ แล้วแต่เราระบุวัน
เพราะเราจะแจ้งการเข้าปฏิบัติตอนที่ลงทะเบียนตอนเข้าไปครั้งแรกเลยนะค่ะ
โดยต้องใช้บัตรประชาชนในการกรอกรายละเอียดแจ้งความประสงค์นะค่ะ
ส่วนใหญ่ที่นั่นไปแล้วหากสงสัยไม่เข้าใจอะไร จะมีแม่ๆๆ ที่ประจำท่านจะเป็นผู้แนะนำนะค่ะ
อุ่นใจหายห่วง หายกังวลเลยนะค่ะ

ส่วนอุปกรณ์เครื่องใช้ก็เป็นชุดขาวแต่สไบที่นี่จะไม่เหมือนที่อื่น หากไม่มีแนะนำให้ไปบูชาได้ที่นั่นเลยนะค่ะ
เพราะเขาจะมีสถานที่ให้เราเข้าไปบูชาเป็นเจ้าของนะค่ะ รายละเอียดต่าง ๆ ก็ลองอ่านดูที่ตอบไปข้างต้น ๆ นะค่ะ

ปล. แต่ว่าตอนนี้บุษไม่ได้ไปที่นั่นนานแล้ว ไม่รู้ว่ามีอะไรที่ปรับปรุงเปลี่ยนไปมากแล้วหรือยังนะค่ะ หากคุณ V. Varaporn
ไปกลับมาแล้วอย่าลืมมาเล่าสถานการณ์ปัจจุบันให้ทราบบ้างนะค่ะ ขออนุโมทนาสาธุกับการไปปฏิบัติธรรมที่เกาะมหามงคลด้วยนะค่ะ

ขออนุโมทนา ในกุศลจิตคุณบุษยา ด้วยครับ

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ ธรรมทุกท่านที่ได้เข้ามากระทู้แห่งนี้นะค่ะ
วันนี้บุษมีประวัติมาให้อ่านกันหน่อยนะค่ะ อิอิ.....
เกี่ยวกับสถานปฏิบัติธรรม เกาะมหามงคลค่ะ

ภาพอุบาสิกาบงกช สิทธิผล

อุบาสิกาบงกช สิทธิผล ขณะรับปริญญาศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
สาขาวิชาพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ในปี 2549
จากเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศฯ


อุบาสิกาบงกช สิทธิผล ประธานและผู้ก่อตั้ง

ทางสำนักปฏิบัติธรรมแดนมหามงคล มีการจัดโครงการทางพระพุทธศาสนาหลากหลายโครงการ สำหรับทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน โรงเรียน สถาบันการศึกษา
และพุทธศาสนิกชนทั่วไป เช่น โครงการคุณธรรมนำชีวิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน, กิจกรรมพัฒนาจิตบวชใจ, อบรมยอดบุญเนกขัมมะจิตตภาวนา,
บำเพ็ญสมาธิ เจริญมหาสติ ปฏิบัติธรรม, จัดปลูกลูกชายให้ได้เป็นยอดกตัญญู, กิจกรรมรักชีวิต รักธรรมชาติ ป่าไม้สิ่งแวดล้อม ฯลฯ รวมทั้ง กิจกรรมเกี่ยวเนื่อง
ด้วยวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและวันสำคัญของชาติ เป็นต้น



พระมหาเจดีย์ 7 ชั้น


สถานที่ของสำนักฯ มีความสัปปายะ สงบเงียบ ร่มรื่น งดงาม อากาศเย็น รอบล้อมด้วยต้นไม้ ป่า และภูเขา เหมาะแก่การปฏิบัติภาวนาเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับนักปฏิบัติผู้หญิงเป็นยิ่งนัก มีอาหารมังสวิรัติให้รับประทานตอนมื้อเที่ยงทุกวัน สถานที่พักแยกชายหญิงชัดเจน
เจ้าหน้าที่ทุกคนมีมิตรภาพมาก

สำหรับการเข้าไปกราบไหว้ สักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ณ พระมหาเจดีย์ 7 ชั้น ที่มีความสูง 80 เมตรนั้น จะต้องเดินขึ้นยอดภูเขา
ด้วยการเดินเท้า 1,000 กว่าขั้นบันได ใช้เวลาเดินขึ้น-ลงประมาณ 3 ชั่วโมง และทุกคนที่จะเข้าไปเยี่ยมชมข้างในสำนักฯ จะต้องใส่ชุดขาว
หากใครไม่ได้เตรียมตัวมา ด้านหน้าจะมีชุดขาวให้เปลี่ยน


ศาลาปฏิบัติธรรมเชิงเขา แดนมหามงคล จ.กาญจนบุรี


ศาลาที่พักเชิงเขา แดนมหามงคล จ.กาญจนบุรี

อุบาสิกาบงกช สิทธิผล

อุบาสิกาบงกช สิทธิผล สละทางโลกตั้งแต่อายุ 29 ปี ปัจจุบันอายุ 53 ปี (เมื่อปี พ.ศ. 2550)
แต่จะเชื่อไหมว่าหน้าตาท่านเหมือนคนอายุ 30 ปลายๆ เท่านั้น

ผลงานและเกียรติคุณดีเด่น

1. ท่านได้สอนวิปัสสนากรรมฐานไม่ให้ยึดวัตถุเป็นตัวตั้ง มีลูกศิษย์ทั้งคนไทยและต่างชาติจำนวนมาก โดยใช้สถานที่ปฏิบัติธรรมแดนมหามงคลเป็นศูนย์กลาง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอุบาสิกาบงกช ได้สร้างผลงานจนเป็นที่รู้จักกันในนานาประเทศ โดยเคยรับเชิญไปแสดงปาฐกถาพิเศษเรื่องเกี่ยวกับสันติภาพโลก ที่ยูเนสโก
กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 2548

2. ได้รับปริญญาศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ในปี 2549 เพราะเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ
กอปรด้วยคุณงามความดี ได้บำเพ็ญคุณูปการแก่การศึกษา พระพุทธศาสนา สังคม และประเทศชาติ เป็นอเนกประการ ควรแก่การยกย่องประกาศเกียรติคุณ ดังนี้

ด้านพุทธศาสนา ได้ตั้งสถาบันเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา ชื่อสถาบันพัฒนาจิตบวชใจนานาชาติเพื่อสันติภาพ ณ แดนมหามงคล บ้านช่องแคบ ตำบลวังกระแจะ
อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี และแดนมหามงคลชัยสันติภาพโลก ณ เมืองสาวัตถี รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย ตั้งโครงการสมทบทุนสร้าง บูรณปฏิสังขรณ์ วัด
สำนักปฏิบัติธรรม มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย รวมทั้ง มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่ง
โลก และพระพุทธศาสนานานาชาติ

ด้านบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ สนับสนุนอุปถัมภ์สถานีอนามัย โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดกาญจนบุรี และอีกหลายแห่งในจังหวัดสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี
สมทบทุนกับโรงพยาบาลต่างๆ เช่น ร.พ.ศิริราช ร.พ.จุฬาลงกรณ์ ร.พ.ศรีธัญญา ร.พ.อำเภอไทรโยค และ ร.พ.พหลพลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรี

งานด้านสังคม มอบสถานที่สถาบันพัฒนาจิตบวชใจนานาชาติ สำหรับฝึกอบรม ประชาชน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ โรงเรียน มหาวิทยาลัย และผู้สนใจทุกชาติ
ทุกภาษา ทุกศาสนา

เกียรติคุณพิเศษ รับรางวัลสตรีดีเด่นในพระพุทธศาสนาแห่งโลก จากองค์การสหประชาชาติ รับไตรปิฏกดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ประเทศอินเดีย รับรางวัล
“ดร. อัมเบดการ์นานาชาติเพื่อสันติภาพ” รับเกียรติคุณสูงสุดในพระพุทธศาสนาฝ่ายสตรี “อัครมหาศิริสุธรรมาสินกิ” สหภาพเมียนมาร์ รับเกียรติคุณมหาอุบาสิกาผู้ทรงเกียรติคุณสูงสุดในพุทธจักรจากประเทศศรีลังกา และรับมหาอิสริยยศเหรียญทองเกียรตินิยมสูงสุดจากประเทศกัมพูชา

3. เนื่องในโอกาสวันวิสาขบูชา ซึ่งปี 2549 เป็นปีที่ครบ 2550 ปีแห่งอายุพระพุทธศาสนา คณะสงฆ์ประเทศศรีลังกา ได้มีมติเป็นเอกฉันท์มอบรางวัล “วิศวะกีรติศรีศาสนภิมณีมโหบาสิกา” The Most Eminent Mahopashika of the Buddhist World หรือรางวัล “มหาอุบาสิกาผู้ทรงเกียรติคุณงามเด่นสูงสุดในพุทธจักร” แก่มหาอุบาสิกา ดร.บงกช สิทธิพล จากประเทศไทย โดยประธานาธิบดี มหินทะ ราชปักษา แห่งศรีลังกา เป็นผู้มอบ

โดยคณะสงฆ์ประเทศศรีลังกาเห็นว่า มหาอุบาสิกา ดร.บงกช ได้ปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด มีความวิริยะอุตสาหะในการอุทิศเสียสละเพื่อพระพุทธศาสนาด้วยศรัทธาอย่างแรงกล้ามาโดยตลอด พร้อมทั้งได้ก่อตั้งสำนักปฏิบัติธรรม “แดนมหามงคล” ที่ จ.กาญจนบุรี ประเทศไทย และ “แดนมหามงคลชัยสันติภาพโลก” ณ เมืองสาวัตถี รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย เพื่อเผยแผ่พุทธธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ทั้งนี้ มหาอุบาสิกา ดร.บงกช ยังได้เดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ลาว พม่า กัมพูชา สิงคโปร์ มาเลเซีย โดยตลอด ซึ่งคุณงามความดีของมหาอุบาสิกา ดร.บงกช เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คนในหลายประเทศ จึงทำให้รัฐบาลและคณะสงฆ์ประเทศศรีลังกา ประกาศเกียรติคุณดังกล่าว





หากใครสนใจต้องการโทรไปติดต่อสอบถาม ก่อนไป
ก็สามารถติดต่อได้ตามที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ได้ตามนี้นะค่ะ
(แต่ไม่ทราบว่าตอนนี้เขาเปลี่ยนเบอร์ไปแล้วยังนะค่ะ)

สำนักปฏิบัติธรรมแดนมหามงคล (เกาะมหามงคล)
สถาบันพัฒนาจิตบวชใจนานาชาติเพื่อสันติภาพ
เลขที่ 149 หมู่ 1 บ้านช่องแคบ ก่อนถึงน้ำตกไทรโยคน้อย
ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี 71150
โทรศัพท์ 08-1862-1757

ขอขอบพระคุณแหล่งที่มาค่ะ :: http://www.trueplookpanya.com/true/e...p?post_id=4881

สวัสดีค่ะ เป็นผู้ที่สนใจยังไม่เคยไปปฏิบัติธรรมที่ไหนเลยค่ะ
พยายามโทรสอบถามไปยังเกาะมหามงคล ติดต่อไม่ได้แล้วค่ะ
สำหรับเบอร์ 081-862-1757 แจ้งว่าไม่สามารถใช้ได้น่ะคะ
ขอสอบถามสำหรับท่านที่ทราบด้วยนะคะ เพราะโทรสอบถามทาง 1133 ก้อไม่มีการแจ้งเบอร์ติดต่อไว้เลยค่ะ
ขอขอบพระคุณมาล่วงหน้าด้วยค่ะ

ขอแชร์ประสบการณ์ที่ไปมาบ้างนะคะ ดิฉันไปที่นี่มา 2 ครั้งแล้ว ไม่ประทับใจเลยสักครั้งคะ
ครั้งแรกไปเมื่อช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งไม่ทราบว่าชุดต้องใส่แบบฟอร์มทำหรับที่นั่นโดยเฉพาะ ส่วนตัวเคยไปปฏิบัติธรรมที่อื่นๆมาแล้ว
ก็เลยนำชุดขาวที่มีอยู่ไป ปรากฏว่าต้องซื้อใหม่หมดคะ ตอนนั้นซื้อเสื้อ 2 ตัว กระโปรง 1 ตัว สไบ 1 ผืน เป็นเงิน 510 บาท
ได้พบเหตุการณ์ที่เจอมากับตาอย่างนึง คือ ขณะต่อแถวตักอาหารเช้านั้น ผู้หญิงท่านนึงก็ตักกับข้าว อาจจะค่อนข้างช้าง แม่อุบาสิกา
ที่เตรียมจะเติมอาหาร คล้ายๆจะบ่น น้ำเสียงหงุดหงิดมากคะ แต่ก็พยายามเข้าใจว่าท่านคงทำกับข้าวเหนื่อย

ครั้งที่สองไปมาเมื่อวันหยุดชดเชยวันแรงงานที่ผ่านมา พาพี่ที่ทำงานไปด้วย เพราะเห็นว่าสถานที่สวยงาม และสงบมาก
ครั้งนี้ค่อนข้าง เศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เจออะไรหลายๆอย่าง และทำให้ความศรัทธาในตัวสถานที่ลดลง
ในช่วงทำวัตรเย็น และนั่งสมาธินั้น ก็มีการเปิดเทปบรรยายโดยอุบาสิกาบงกช มีช่วงนึงที่บรรยายเกี่ยวกับการตระหนี่ที่ไม่อยากเสียเงิน
ซื้อชุด หรือแม้แต่การยืมชุดของเพื่อนก็ไม่รู้จะตระหนี่ไปทำไม แล้วก็ได้ยินเสียงลอดมาจะทางท่านที่นั่งด้านหลังว่า
อ๋อ แบบนี้นี่เอง ถึงไม่มีตู้บริจาค อาศัยขายชุด ขายของแทนนี่เองจะได้ดูไม่น่าเกลียด เท่านั้นแหละคะ ก็บางอ้อเลย

เพราะย้อนไปในเหตุการณ์ของตัวเองเมื่อกลางวัน พี่ที่มาด้วยก็ไม่มีชุดเหมือนกัน และก็กะว่าจะซื้อเปลี่ยนในวันพรุ่งนี้
แม่อุบาสิกาท่านนึงก็ทักว่าเสื้อแบบนี้ใส่ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนนะ ซึ่งในช่วงนั้นก็ติดพันงานบุญที่แม่อุบาสิกาวานในถูพื้นศาลาอยู่
ก็เลยยังไม่ได้ไปเปลี่ยน เมื่อถูศาลาเสร็จก็ถึงเวลารวมตัวมาฟังบรรยายต่อ โดยแม่อุบาสิกาท่านนี้เปิดเทปให้ฟัง
และข้อบรรยายข้อนึง คือ เรื่อง อย่าทำตัวเป็นดอกกระเจียว เนื้อหาคือการแต่งตัวทำตัวที่แตกต่างไปจากคนอื่น ไม่ทำตัวเป็นดอกบัว
โดยพี่เองก็รู้สึกว่าโดยกระทบกระเทียบ ตอนนั้นทุกคนรู้สึกแย่และอยากกลับมากแล้ว ก็บอกกันว่าพรุ่งนี้ขึ้นเขาก่อน ค่อยกลับ

พอตอนเช้าเราตื่นกันตั้งแต่ตี 3 ไปทำวัตรเช้าตามปกติ ทุกคนทยอยกันไปที่ศาลา เรา3คนนั่งตรงริมแถวพอดี หลังจากนั้นก็มีเสียงอุบาสิกาท่านนึง
พูดบอกท่าหณิงสองคนที่มาทีหลังให้เลื่อนขึ้นไปด้านหน้า เนื่องจากที่นั่งถูกเว้นว่างไว้ หลังจากบอกแล้ว ก็บ่นเสียงเบาๆว่า ทำไมต้องให้บ่อยๆด้วย
รู้มั้ยว่าเหนื่อย ตอนนั้นรู้สึกว่าอุบาสิกาท่านนี้ดูไม่สงบเลย หากคิดว่าตนเองเหนื่อยแล้ว ไม่น่าจะนำอารมณ์มาลงที่ผู้อื่นแบบนี้
เราสามคนได้แต่หันมามองหน้ากันและกัน

อีกเหตุการณ์คือเมื่อเราขึ้นเขาเรียบร้อยแล้ว หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ก็นำภาชนะไปล้างเอง ก็มีท่านหญิงท่านนึง
คิดว่าน่าจะมาเป็นครั้งแรก ไม่ทราบว่าส่วนที่ล่างภาชนะแบ่งเป็นของท่านอุบาสกอยู่ด้านหน้า และของอุบาสิกาด้านใน ท่านหญิงผู้นั้น
เดินไปล้างภาชนะในส่วนของอุบาสก เท่านั้นแหละคะ อุบาสิกาผู้ดูแลด้านครัวที่อยู่ตรงนั้น ตำหนิขึ้นมาเสียงดังเลย ...ไม่เห็นหรือเจ้าคะ
นี่เป็นส่วนของอุบาสกนะ ล้างไม่ได้นะ เราเห็นแล้วรู้สึกสงสารจับใจ จริงๆก็มีเล้กๆน้อยๆอีกหลายอย่างในความแปลกของที่นี่คะ

แต่ก็พยายามไม่อยากจะใส่ใจ เพราะคิดว่าเรามาสร้างบารมี แต่คงไม่เหลือแล้วหล่ะคะ ใจขุ่นไปมากเลย พอสายๆดิฉันก็เตรียมเก็บของ
เพือที่จะกลับ ก็เป็นเวลาที่เรียกว่า ทำบารมีสิบทัศ คือ ทำความสะอาดห้องน้ำ กวาดใบไม้ กวาด ถู ศาลา ในขณะที่เราทั้งสามกำลังจะเดินไปศาลา
เพื่อไปทำบารมีกะคนอื่นบ้าง ก็ได้ยินอุบาสิกาพูดใส่ไมค์ ว่าได้เวลาทำความเพียรแล้วนะเจ้าคะ ใครยังไม่มีกองบุญ(ใช้เรียกงานที่ทำ)
ก็มาถามได้ที่นี่นะเจ้าคะ เราจะมานอนอยู่เฉยๆได้อย่างไร (กำลังกระทบกระเทียบคนที่นอนอยู่) แล้วจะเอาบุญที่ไหน มาใช้หล่ะ เรามาที่นี่เพื่อ
สร้างบารมีไม่ใช่หรือ มาแล้วจะมานอน มาเสียเวลาทำไมกัน เท่านั้นหล่ะเราสามคนรีบเดินจ้ำไปศาลาทันใด

ก็มาแฉเอ๊ยยยมาแชร์ให้อ่านกันนะคะ เผื่อเป็นความคิดนึงให้หลายท่านที่คาดหวังกับสถานที่นี้ได้ชั่งใจกัน
ส่วนตัวคิดว่าสำหรับสถานที่แล้วชอบมากคะ สงบและสวยงามมากๆ แต่อุบาสิกาที่อยู่ที่นั่น ยังไม่สงบพอ เหมือนที่พบในสถานที่ปฏิบัติธรรมที่อื่นคะ
ซึ่งในสถานที่มีป้ายบอกว่า ให้ปิดวาจา แต่ตัวอุบาสิกาเอง พูดมากเหลือเกินคะ บางทีมากเกินความจำเป็น ไม่สำรวมคำพูด ไม่กรองคำพูดก่อน
ว่าการพูดแบบนี้คนฟังเขาจะเสียใจมั้ย จะรู้สึกไม่ดีหรือเปล่า กลายเป็นติดกรรมไปทั้งคนพูด และคนที่รับคำพูดมาแล้วรู้สึกไม่ดี

ส่วนเรื่องข้อปฏิบัติ หรือแม้แต่ยูนิฟอร์มเครี่องแต่งกาย คิดว่าเหมาะกับผู้ที่คิดจะไปครั้งแรก ก็เตรียมไปแค่ของใช้คะ
เอากระเป๋าเปล่าไปใสชุดที่ต้องซื้อใหม่ที่นั่นทั้งหมดก็พอ ที่สำคัญคือ คุณบงกช ไม่ใช่แม่ชีนะคะ เรียกแม่ชีบงกช กันเคยชิน
ท่านยังไม่ปลงผมนะคะ เรียกว่าอุบาสิกาบงกช เพื่อความถูกต้องจะดีกว่าคะ

เงียบสงบและบรรยากาศดี

ของดความคิดเห็นนะครับ