หลวงพ่อชา สุภัทโธ

วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี





อมตะธรรมเพื่อการดำเนินชีวิตที่มีความสุข สงบ และร่มเย็นค่ะ





เรากำหนดลมหายใจเข้าออกอย่างเดียว

เราปล่อยลมให้เป็นธรรมชาติ

อย่าไปบังคับลมให้มันยาว อย่าไปบังคับลมให้มันสั้น

ปล่อยสภาพลมให้พอดี แล้วดูลมหายใจเข้าออก

เมื่อปล่อยอารมณ์ได้ เสียงอะไรก็ไม่ได้ยิน

ถ้าจิตเราวุ่นวายกับสิ่งต่างๆ ไม่ยอมรวมเข้ามา

ก็ต้องสูดลมเข้าไปให้มากที่สุด

จนกว่าจะไม่มีที่เก็บ แล้วก็ปล่อยลมออกไปให้มากที่สุด

จนกว่าลมจะหมดในท้องสัก ๓ ครั้ง

. . . ถ้าเรามีสติอย่างนี้ . . .

อย่างวันนี้ เข้าสมาธิสัก ๓๐ นาที หรือ ๑ ชั่วโมง

. . . จิตใจของเรา . . .

จะมีความเยือกเย็นไปตั้งหลายวัน แล้วจิตจะสะอาด

เห็นอะไรจะรับพิจารณาทั้งนั้น นี่เรียกว่าผลเกิดจากสมาธิ

. . . สมาธิมีหน้าที่ทำให้สงบ . . .

เมื่อจิตเราสงบแล้ว จะมีการสังวร สำรวมด้วยปัญญา

เมื่อสำรวมเข้า ละเอียดเข้า มันจะเป็นกำลังช่วยศีลให้บริสุทธิ์ขึ้นมาก

แล้วสมาธิก็จะเกิดขึ้นมาก เมื่อสมาธิเต็มที่ก็จะเกิดปัญญา





นำมาฝากค่ะ หลวงปู่ชา ท่านกล่าวไว้ว่า

" โลกนี้มีความเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยไป จะอยู่ที่โน่นก็เปลี่ยนแปลง อยู่ที่นี่หรือที่ไหนก็เปลี่ยนแปลงเพราะพวกเราทั้งหลายอยู่ได้ด้วย การเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง เราก็อยู่ไม่ได้ หายใจ ออกมาแล้วก็เปลี่ยนเป็นหายใจเข้า แล้วก็หายใจออก ไม่เช่นนั้น ก็อยู่ไม่ได้ ออกไปหมดก็อยู่ไม่ได้ ลมเข้ามาแล้วไม่ออกก็อยู่ไม่ได้ เราทั้งหลายอยู่ในโลกนี้ก็เป็นของโลก มันเป็นของๆ โลก ไม่ควร ทำความน้อยใจ ไม่ควรทำความเสียใจใดๆ เราต้องเป็นผู้มีจิตใจ เข้มแข็ง จะตกไปอยู่ที่ไหนก็สร้างแต่คุณงามความดี
แม้หมดชีวิต ก็อย่าทิ้งคุณงามความดี "

" คนตาดีเมื่อพบดวงไฟก็มองเห็นแสงสว่าง ส่วนคนตาบอดนั้น ถึงจะนั่งเฝ้าดวงไฟก็มองไม่เห็นอะไร "




ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.bloggang.com/viewdiary.ph...up=1&gblog=180