มีหนุ่มเจ้าสำราญผู้หนึ่ง วันๆไม่ยอมทำประโยชน์อะไร ดีแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ

ทั้งๆที่อายุอานามก็สมควรแก่การสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างฐานะ

และมีครอบครัวแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะมีความรับผิดชอบ

ไม่คิดอยากจะรับภาระอะไรใดๆทั้งสิ้น

ด้วยเห็นว่าเป็นหน้าที่ของพ่อแม่อยู่แล้วที่ต้องหาเง ินหาทองไว้ให้ลูก

และกิจการที่บ้านนั้น ทั้งพ่อและแม่ต่างช่วยกันทำมาหากินอย่างขยันแข็ง

จนเงินทองที่มีอยู่ชาตินี้เขาคงใช้ไม่หมดด้วยซ้ำ

วันหนึ่ง ชายหนุ่มผู้นี้และเพื่อนๆอีก 2-3 คน พากันเข้าป่า

หมายจะไปล่าสัตว์ แต่เมื่อเดินเข้าป่าไปได้สักพักใหญ่

เขาก็เกิดพลัดหลงกับเพื่อน

ชายหนุ่มจึงเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จุดหมาย เขาเริ่มหลงทาง

เขาเริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย แต่ก็ต้องหาทางเดินต่อไป

เมื่อพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า บรรยากาศรอบข้างมืดลง ไม่เห็นหนทาง

เขาจึงทิ้งตัวลงนอน ด้วยความหิวโหยและหมดแรง

รุ่งขึ้น..เขายังคงเดินต่อไป เพื่อหาทางออก

จนกระทั่งพระอาทิตย์กำลังจะลับเหลี่ยม เขาอีกครั้ง

แต่ขณะที่เขากำลังจะทิ้งตัวลงอย่างหมดหวัง เขาก็เหลือบไปเห็นแสงไฟจาก

กระท่อมกลางป่าหลังหนึ่ง

เขาจึงรวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่รีบวิ่งไปยังกระท่ อมนั้น

และได้พบสามี-ภรรยาคู่หนึ่ง

ซึ่งเมื่อไต่ถามความเป็นมาของชายหนุ่มแล้ว ทั้งคู่ก็บอก

ให้ชายหนุ่มไปอาบน้ำอาบท่า แล้วจัด แจงหาข้าวปลาอาหารมาให้กิน

คืนนั้นชายหนุ่มจึงหลับไปด้วยความสุข

วันรุ่งขึ้น ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาด้วยความแจ่มใส

และรู้สึกตื้นตันใจในความเมตตากรุณาของสองสามีภรรยาเ ป็นอย่างมาก

เขาจึงกล่าวขึ้นว่า

“ข้าขอขอบคุณท่านทั้งสองที่ได้ช่วยชีวิตข้าในครั้งนี ้
แม้เราไม่เคยรู้จักกัน แต่พวกท่านก็ให้การดูแลข้าอย่างดี

ข้าไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร จึงจะทดแทนน้ำใจของพวกท่าน ได้”

ฝ่ายภรรยาจึงยิ้มให้อย่างอ่อนโยน แล้วตอบว่า

“หนุ่มน้อย ถ้าเจ้าอยากตอบแทนละก็

กลับไปทดแทนบุญคุณพ่อแม่ของเจ้าเถิด พวกเขาเลี้ยงดูอุ้มชูเจ้ามา

ให้ทั้งข้าวปลาอาหารน้ำท่าที่พักพิง จนเติบใหญ่เพียงนี้

บุญคุณนั้นใหญ่หลวงนัก เราสองคนแค่ให้ที่พักพิงเจ้าชั่วข้ามคืนหนึ่ง

เทียบกับพ่อแม่เจ้าไม่ได้หรอก”

ได้ฟังดังนั้น ชายหนุ่มจึงคิดได้ว่า เขาเป็นผู้ที่หลงทางจริงๆ

.........

คนไทยเราได้รับการปลูกฝังและสั่งสอนกันมาตั้งแต่เด็ก ๆแล้วว่า

“ความกตัญญูกตเวที” นั้น

เป็นคุณธรรมสำคัญที่เราควรปฏิบัติต่อพ่อแม่และผู้มีบ ุญคุณแก่เรา แต่

เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยที่มองข้ามพระคุณของพ่อแม่

ผู้ซึ่งอยู่ใกล้ตัวที่สุด

โดยคิดว่าสิ่งที่พ่อแม่ทำนั้นเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ

แต่ในขณะที่ผู้อื่นหยิบยื่นน้ำใจให้เพียงเล็กน้อย เราก็ตื้นตัน

ชื่นชม และประทับใจไม่ลืม อย่างนี้มันยุติธรรมสำหรับผู้ให้กำเนิด

เราแล้วหรือ

จงอย่าปล่อยให้ช่วงเวลาดีๆที่มีโอกาสตอบแทนบุญคุณพ่อ แม่ผ่านเลยไป
โปรดตอบแทนความรักอันยิ่งใหญ่นั้นในทุกๆวันของชีวิตเ รา

...ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป