ขอเชิญมีส่วนร่วม ในการเผยเเพร่พระพุทธศาสนาเเบบหนังสั้นย้อนรอย
[/color]




[center]





วัดป่าเลิงจิตวิเวก ได้ทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนา หลายอย่างตั้งแต่ เข้าสู่ชุมชน โรงเรียน อินเทอร์เน็ต มีศิษย์เขา เขียนบทหนังสั้นมานำเสนให้อาตมาภาพนำเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามาเผยแผ่จึงได้รวบรวม

การเข้ามาของพระพุทธศาสนาในแถบอีสาณ คือศรีโคตรบูรณ์ และเรียบเรียงเรื่องเกือบแล้วเสร็จและเชิญชวนสมาชิกได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำหนังสั้น และยาวยังขาดงบประมาณจำนวนมาก เพื่อจะสร้างเรื่องนี้

และที่สำคัญ อยากให้สมาชิกในเว็บไซด์ได้มีส่วนร่วมแสดงหนังสั้น-ยาวนี้ด้วย เพื่อเป็น การยกระดับในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาขึ้นสู่สายตาชาวโลก และไทย ยังขาดคนทำภาพเคลื่อนไหว และนักแสดงอยู่

หลายฉากโดยเฉพาะกลุ่ม วัย หนุ่ม-สาว อายุพอสมควร เพราะจะไปจ้างก็คงใช้ทุนจำนวนมากจึงได้มานำเสนอผ่านเว็บไซด์ และ รับบริจาคช่วยการเผยแผ่ในครั้งนี้ ใครต้องการจะแสดง รึบริจาคก็ติดต่อ โทรศัพย์ อีเมล์ ที่จะลงช่วงท้าย ....เจริญพร...พระบัณฑิต อัคคะธัมโม


เรื่องย่อ...มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง วิชาที่เรียนพิเศษ คือ วิชาโบราณคดีหลังจากเรียนจบแล้ว คณะครูได้พานักเรียนได้ไปทัสนะศึกษาที่จังหวัดนครพนม แหล่งสักการะบูชา คือพระธาตุพนม และคณะนักเรียนกลุ่มหนึ่งได้หลงกันกับคณะครู และได้ผ่านประตูมิติเวลา ย้อนรอยไป ตรงกลุ่มพระมหากัสปะเถระ พอดี มีอาชีวก ได้ถือดอกไม้มณฑารพ ดอกไม้สวรรค์ พระมหากัสสปจึงถามข่าวพระพุทธเจ้า อาชีวกตอบว่า พระสมณโคดมนั้นนิพพานมาได้เจ็ดวันแล้ว

ชูดอกมณฑารพให้ดูว่า ตนเก็บมาได้จากสถานที่ที่พระพุทธเจ้านิพพาน ดอกมณฑารพ ตามตำนานว่าเป็นดอกไม้สวรรค์ ออกดอกและบานในเวลาคนสำคัญของโลกมีอันเป็นไป ทันใดนั้น ก็บังเกิดอาการสองอย่างขึ้นในหมู่พระสงฆ์ที่เดินทางมาพร้อมกับพระมหากัสสป พระสงฆ์ฝ่ายหนึ่ง
ที่สำเร็จอรหันต์แล้วต่างดุษณีภาพด้วยธรรมสังเวชว่า พระพุทธเจ้านิพพานเสียแล้ว ฝ่ายพระสงฆ์ปุถุชนต่างอดกลั้นความเศร้าโศกเสียใจไว้ไม่ได้
บางองค์ร้องไห้ โฮ... บางองค์ยกมือทั้งสองขึ้นร้องคร่ำครวญ บางองค์ล้มกลิ้งลงกับพื้นดิน มหาปรินิพพานสูตรบันทึกไว้ว่า อาการล้มกลิ้งของภิกษุนั้น

เหมือนคนถูกตัดขาทั้งสองขาดในทันที แต่มีรูปหนึ่งนามว่า สุภัททะ (คนละองค์กับที่บวชเป็นพระสาวกองค์สุดท้ายของพระพุทธเจ้า) เป็นพระที่บวชเมื่อแก่ เข้าไปพูดปลอบโยนพระสงฆ์ทั้งปวงที่กำลังร้องไห้ว่า "คุณ ! คุณ ! จะร้องไห้เสียใจทำไม พระพุทธเจ้านั้นนิพพานเสียได้นั่นดีนักหนา ถ้าพระองค์ยังอยู่ พวกเราทำอะไรตามใจไม่ได้ ล้วนแต่ว่าอาบัติทั้งนั้น ต่อนี้ไปพวกเราจะสบาย พระองค์นิพพานเสียได้นั่นดีแล้ว"
พระมหากัสสปได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวก็อดสังเวชมิได้ว่า พระพุทธเจ้าเพิ่งนิพพานได้เพียง ๗ วัน เสี้ยนหนามพระศาสนาก็บังเกิดขึ้นเสียแล้ว
แล้วท่านก็พาพระสงฆ์รีบออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองกุสินารา เพื่อให้ทันถวายบังคมพระศพพระพุทธเจ้า และกลุ่มนักศึกษา ก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย กล่าว

ถึง การวางเพลิงพระศพพระพุทธองค์ ก็ไม่สำเร็จ พอดีพระมหากัสปะเดินถึงในใกล้พระพุทธองค์ แล้วนมัสการ และตั้งจิตอธิฐานเสร็จ พระเพลิง ก็ ลุกขึ้นโดยมหัศจรรย์ หลังจาก เสร็จงานแล้ว พระมหากัสปะเถระและพระสงฆ์ ก็ได้เดิน มาที่ภูกำพร้า คือพระธาตุพนม ในปัจจุบัน และได้สร้างเจดีย์ คือพระธาตุพนม เพื่อบรรจุอุรังคะธาตุ (กระดูกหน้าอกพระพุทธองค์) จนสำเร็จและสมโภชน์ ขณะงานสำเร็จนั้นกลุ่มนักศึกษา เดินไปพอดีเจอประตูเวลา และได้เดินผ่านประตูนั้น ติดตามเรื่องราวในหนังย้อนรอยเร็วนี้...




ติดต่อรับบริจาคเพื่อสมทบทุนได้ที่ พระบัณฑิต อัคคะธัมโม

วัดป่าเลิง จิตวิเวก บ.โนนภูดิน ต.สามแยก
อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร (35120)

319-0-08001-1
ชื่อบัญชี พระบัณฑิต อัคคะธัมโม

ธนาคารกรุงไทย สาขาอำนาจเจริญ

โทรสอบถาม พระบัณฑิต

086-2631055 - 0801664580