ธาตุปฏิกูละปัจจเวกขณปาฐะ

(หันทะ มะยัง ธาตุปฏิกูละปัจจะเวกขะณะปาฐัง ภะณามะ เส.)

ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธาตุมัตตะเมเวตัง,

สิ่งเหล่านี้นี่เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติเท่านั้น,

กำลังเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยอยู่เนืองนิจ;

ยะทิทัง จีวะรัง, ตะทุปะภุญชะโกจะ ปุคคะโล,

สิ่งเหล่านี้คือ จีวร, และบุคคลผู้ใช้สอยจีวรนั้น;

ธาตุมัตตะโก, เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติ;

นิสสัตโต, มิได้เป็นสัตวะ อันยั่งยืน;

นิชชีโว, มิได้เป็นชีวะ อันเป็นบุรุษบุคคล;

สุญโญ,
ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน,

สัพพานิ ปะนะ อิมานิ จีวะรานิ อะชิคุจฉะนียานิ,

ก็จีวรทั้งหมดนี้, ไม่เป็นของน่าเกลียดมาแต่เดิม;

อิมัง ปูติกายัง ปัต์วา, ครั้นมาถูกเข้ากับกายอันเน่าอยู่เป็นนิจนี้แล้ว;

อะติวิยะ ชิคุจฉะนียานิ ชายันติ,

ย่อมกลายเป็นของน่าเกลียดอย่างยิ่งไปด้วยกัน;

ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง
ธาตุมัตตะเมเวตัง,


สิ่งเหล่านี้นี่เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติเท่านั้น,

กำลังเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยอยู่เนืองนิจ;

ยะทิทัง ปิณฑะปาโต ตะทุปะภุญชะโก จะ
ปุคคะโล,


สิ่งเหล่านี้คือ บิณฑบาต, และบุคคลผู้บริโภคบิณฑบาตนั้น;

ธาตุมัตตะโก, เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติ;

นิสสัตโต, มิได้เป็นสัตวะ อันยั่งยืน;

นิชชีโว, มิได้เป็นชีวะ อันเป็นบุรุษบุคคล;

สุญโญ,

ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน,

สัพโพ ปะนายัง ปิณฑะปาโต อะชิคุจฉะนีโย,

ก็บิณฑบาตทั้งหมดนี้, ไม่เป็นของน่าเกลียดมาแต่เดิม;

อิมัง ปูติกายัง ปัต์วา,

ครั้นมาถูกเข้ากับกายอันเน่าอยู่เป็นนิจนี้แล้ว;

อะติวิยะ ชิคุจฉะนีโย ชายะติ,

ย่อมกลายเป็นของน่าเกลียดอย่างยิ่งไปด้วยกัน;

ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง
ธาตุมัตตะเมเวตัง,


สิ่งเหล่านี้นี่เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติเท่านั้น,

กำลังเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยอยู่เนืองนิจ;

ยะทิทัง เสนาสะนัง, ตะทุปะภุญชะโก จะ
ปุคคะโล,


สิ่งเหล่านี้คือ เสนาสนะ, และบุคคลผู้ใช้สอยเสนาสนะนั้น;

ธาตุมัตตะโก, เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติ;

นิสสัตโต, มิได้เป็นสัตวะ อันยั่งยืน;

นิชชีโว, มิได้เป็นชีวะ อันเป็นบุรุษบุคคล;

สุญโญ,

ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน,

สัพพานิ ปะนะ อิมานิ เสนาสะนานิ
อะชิคุจฉะนียานิ,


ก็เสนาสะทั้งหมดนี้ ไม่เป็นของน่าเกลียดมาแต่เดิม;

อิมัง ปูติกายัง ปัต์วา,

ครั้นมาถูกเข้ากับกายอันเน่าอยู่เป็นนิจนี้แล้ว;

อะติวิยะ ชิคุจฉะนียานิ ชายันติ,

ย่อมกลายเป็นของน่าเกลียดอย่างยิ่งไปด้วยกัน;

ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธาตุมัตตะเมเวตัง,

สิ่งเหล่านี้นี่เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติเท่านั้น,

กำลังเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยอยู่เนืองนิจ;

ยะทิทัง คิลานะปัจจะยะเภสัชชะปะริกขาโร,
ตะทุปะภุญชะโก จะ ปุคคะโล,


สิ่งเหล่านี้คือเภสัชบริขารอันเกื้อกูลแก่คนไข้,

และบุคคลผู้บริโภคเภสัชบริขารนั้น;

ธาตุมัตตะโก, เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติ;

นิสสัตโต, มิได้เป็นสัตวะ อันยั่งยืน;

นิชชีโว, มิได้เป็นชีวะ อันเป็นบุรุษบุคคล;

สุญโญ,

ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน,

สัพโพ ปะนายัง
คิลานะปัจจะยะเภสัชชะปะริกขาโร
อะชิคุจฉะนีโย,


ก็คิลานะเภสัชบริขารทั้งหมดนี้, ไม่เป็นของน่าเกลียดมาแต่เดิม;

อิมัง ปูติกายัง ปัต์วา, ครั้นมาถูกเข้ากับกายอันเน่าอยู่เป็นนิจนี้แล้ว;

อะติวิยะ ชิคุจฉะนีโย ชายะติ,

ย่อมกลายเป็นของน่าเกลียดอย่างยิ่งไปด้วยกัน;